บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 167 เหนื่อยล้าใจอย่างมาก

หลังจากที่ลู่จิ้นยวนพูดจบ ก็กระแทกประตูเดินออกไปจากที่นี่

ได้ยินเสียงประตูที่หนักหน่วง ร่างกายของเวินหนิงถึงกับสั่นสะท้าน เธอคิดยังไงก็คิดไม่ออก ว่าทำไมเธอรวบรวมความกล้าทั้งหมดแล้วพูดความจริงออกมา ผลที่ได้รับทำไมถึงเป็นเช่นนั้น …

เธอได้โทรไปหาหลิวเมิ่งเซวี่ยอีกครั้ง แต่หลิวเมิ่งเซวี่ยไม่รับโทรศัพท์เธอเลย ราวกับว่ากลัวเธอจะหาโอกาสหลอกเขาพูดอะไรออกมา สุดท้ายถึงกับปิดเครื่องไป

เวินหนิงทำอะไรไม่ถูก จึงได้โทรไปที่โรงแรมหมิ่งเซิ่ง คำตอบที่ได้คือบุคคลภายนอกไม่สามารถดูได้ และนอกจากนี้ วิดีโอกล้องวงจรปิดจะถูกล้างทุกๆสามเดือน ต่อให้เวินหนิงจะมีความสามารถขนาดไหน ก็ไม่อาจนำวิดีโอที่มากมายขนาดนั้นไปกู้ข้อมูลเดิมคืนกลับมาได้ และข้อมูลไม่อาจสมบูรณ์ได้โดยเฉพาะในส่วนที่เธออยากได้แล้วล่ะก็ มันเป็นอะไรที่ยากยิ่งกว่าหาเข็มในใต้สมุทรจริงๆ

หลังจากที่ได้โทรศัพย์พวกนี้จบ เวินหนิงรู้สึกว่าร่างกายหมดเรี่ยวแรงอย่างกับโดนดูดจนว่างเปล่า ที่แท้ มีเรื่องบางเรื่องไม่ใช่ว่าเธออยากพิสูจน์ก็สามารถไปพิสูจน์ได้

ในเวลานี้ เวินหนิงรู้สึกว่าลูกในท้องเตะเธอเบาๆ ตอนนี้ลูกในท้องมีอายุครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว เธอจะยอมรับได้อย่างไร ถ้าให้เธอต้องแยกกันจากลูก

นี่มันจะไม่มีหนทางอื่นเลยเหรอ …

เวินหนิงมองขึ้นไปที่เพดานด้วยความสับสน และรู้สึกเหนื่อยล้าใจอย่างมาก

จนไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงจริงๆ

เมื่อลู่จิ้นยวนออกมาจากบ้านของเวินหนิง ในใจเต็มไปด้วยความโมโห เมื่อนึกถึงเด็กในท้องของเธอ แค่รู้สึกว่าความสนิทสนมในช่วงเวลาที่ผ่านมา มันเหมือนกับภาพสะท้อนในกระจกที่เหลือทน

หากเด็กคนนั้นไม่ถูกกำจัดออกไป มันจะเป็นมารในใจเขาตลอดไป

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ชายหนุ่มก็ไม่มีกระจิกกระจายไปบริษัทอีก และที่บ้านตระกูลลู่ก็พึ่งจากผ่านการขัดแย้งเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงไปหาเฉิงหยาง

ไม่รู้ว่าช่วงนี้เขากำลังยุ่งอยู่กับอะไรทำอะไรอยู่ ไม่ได้ติดต่อกับเขามานานพอสมควร

ขณะที่เฉิงหยางรับสายโทรศัพย์ของลู่จิ้นยวนนั้น เขากำลังนั่งฟังเพลงอยู่ในบาร์ นักร้องสาวสวยบนเวทีกำลังแอบส่งสายตามาทางเขา ชายหนุ่มกำลังจะได้เจอความโรแมนติกที่เขาไม่ได้คาดการณ์เอาไว้ แต่กับโดนเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์รบกวนซะงั้น

แต่เมื่อเห็นว่าเป็นลู่จิ้นยวน เขาก็ยังรับสายขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ขุ่นเคือง ” นี่ปกตินายไม่โทรมาก็ยังพออนุโลม พอโทรมาก็มาทำลายเรื่องดีๆความสุขเล็กๆน้อยๆของฉัน นี่นายโทรมา มีธุระอะไรหรือเปล่า”

น้ำเสียงเย่อหยิ่งของเฉิงหยางพูดขึ้น ทำให้ความเบื่อหน่ายของลู่จิ้นยวนลดลงเล็กน้อย “ นายอยู่ที่ร้านบาร์เหรอ”

เฉิงหยางได้แจ้งสถานที่ให้เขาไป นี่เป็นบาร์เล็กๆที่ดนตรีไพเราะและมีชื่อเสียงของเมืองเจียงเฉิง ที่นี้ค่อนข้างเงียบสงบ เหมาะสำหรับออกมานั่งพักผ่อนผ่อนคลายประมาณนั้น

“ฉันไปหานาย”

ลู่จิ้นยวนเหลียบมองที่อยู่อยู่ครู่หนึ่ง แล้วทำการกลับรถแล้วขับรถตรงไป

ตอนนี้เขาไม่อยากคิดมากกับเรื่องที่ทำให้อารมณ์เสียอีกต่อไป บางทีการดื่มจนเมา ก็เป็นทางเลือกที่ดีและเร็วที่สุดในการแก้ไขปัญหาอยู่เหมือนกัน

เฉิงหยางตกผงะ นิสัยของลู่จิ้นยวนไม่ได้เป็นคนที่กลางวันแสกๆจะออกมาหาความสนุกแบบนี้ เขาจะมาจะต้องมีเรื่องอะไรทำให้เขาไม่สบายใจแน่ๆ

คิดไปคิดมา เฉิงหยางก็ได้ปฏิเสธคำเชิญของนักร้องสาวลูกทุ่งอย่างไม่เต็มใจ แล้วนั่งรออยู่ตรงนั้น

หลังจากนั้นไม่นานลู่จิ้นยวนก็มาถึง ทันทีที่ชายหนุ่มปรากฏตัว ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมาย เพราะอย่างหนุ่มหล่อที่มีขายาวและหน้าตาที่หล่อเหลาไม่ด้อยไปกว่าดาราแบบนี้ เป็นสิ่งที่หาได้ยากที่นี่

แต่ว่า ลู่จิ้นยวนไม่มีกระจิกกระจาย หลังจากที่ปฏิเสธผู้หญิงสองสามคนที่เข้ามาคุยด้วยอย่างไม่แยแส แล้วไปนั่งข้างๆเฉิงหยาง เหลือบตามองค็อกเทลที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วเม้งปาก “ นี่นายดื่มอันนี้เหรอ ”

“ แล้วนายอยากดื่มอะไรอีกล่ะ”

เฉิงหยางเหลือบตามองเขา ลู่จิ้นยวนเคาะบนโต๊ะแล้วสั่งเหล้าที่แอลกอฮอล์ค่อนข้างสูงมาสองสามขวด ” ลองดูไหม”

เฉิงหยางเห็นแล้วตกตะลึงไปชั่วขณะ นี่เป็นเหล้าจำพวกที่แอลกอฮอล์สูงมาก ถ้าดื่มหมดนี้ ต่อให้เป็นเขาก็ต้องหมดสติอย่างแน่นอน

นี่ลู่จิ้นยวนเป็นอะไรกันแน่ หรือว่าจะเป็นเพราะความรักมีปัญหาอีกแล้วเหรอ

“นายอย่าเพิ่งรีบดื่ม บอกฉันหน่อยว่านายมีเรื่องอะไรกันแน่ ฉันรู้สึกกลัวมากกับสภาพของนายตอนนี้ ครั้งล่าสุดที่นายเกิดเรื่อง ฉันก็ถูกนายท่านของบ้านนายตักเตือนอย่างดุเดือดไปครั้งหนึ่งแล้ว”

เมื่อนึกถึงครั้งล่าสุดที่ลู่จิ้นยวนเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย สุดท้ายตัวเองถูกนายท่านลากไปคุย ยังถูกตาเฒ่าของบ้านตัวเองสั่งสอนอบรมอีก ประสบการณ์ที่น่าเจ็บปวดนี้ เฉิงหยางจึงปฏิเสธที่จะดื่มกับเขาอย่างโง่ๆ

“ไม่มีอะไร.”

ลู่จิ้นยวนไม่ได้พูดออกมา ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากพูด แต่เรื่องแบบนี้ พูดออกมาก็เป็นเรื่องที่น่าอาย

ผู้หญิงที่เขาชอบ กำลังตั้งท้องลูกของชายที่เขาไม่รู้จัก เขาไม่เพียงแต่ต้องรอให้เด็กเกิดมาเท่านั้น เวินหนิงยังไม่ยอมส่งเด็กให้คนอื่นไป

นี่มันเป็นเรื่องอะไรกันแน่

ลู่จิ้นยวนเป็นคนที่น่าภูมิใจมาโดยตลอด เรื่องแบบนี้ไม่เพียงแต่เขาจะยอมรับไม่ได้ ต่อให้เกิดขึ้นกับผู้ชายคนไหนก็ตาม ก็คงเป็นปมในใจที่ไม่มีวันปล่อยวางได้

“ มัน … เกี่ยวข้องกับคนที่ชื่อเวินหนิงใช่ไหม”

เฉิงหยางลองถามอย่างไม่แน่ใจ แต่ว่า แค่เอยถึงคำว่าเวินหนิง สีหน้าของลู่จิ้นยวนก็เปลี่ยนไป จากเดิมใบหน้าที่ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ หลังจากที่ได้ยินสีหน้าก็เย็นชาขึ้นเล็กน้อย

เฉิงหยางได้แต่จับจมูก ดูไปดูมาเป็นเรื่องของความรักจริงๆด้วย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฝ่ายผู้หญิงคนนั้นเป็นคนยังไง ถึงได้ทำให้ลู่จิ้นยวนที่เป็นเหมือนท่อไม้อารมณ์เสียได้ครั้งแล้วครั้งเล่า

เป็นไปได้ไหมว่านี่คือความรู้สึกของความรัก

“ นี่นายกลายเป็นคนจู้จี้จุกจิกไปตั้งแต่เมื่อไหร่” เมื่อลู่จิ้นยวนเห็นว่าเฉิงหยางเอาแต่พูดอยู่อย่างนั้น ก็พูดอย่างเย็นชาและไม่ไว้หน้า

เมื่อเห็นว่าเขาดูเหมือนไม่อยากจะพูด เฉิงหยางจะเอาแต่ถามอยู่อย่างนั้นก็ไม่ใช่ เขาจึงคิดอยู่พักหนึ่ง “เฮ้ย นายอย่าดื่มแล้ว ฉันพึ่งนึกขึ้นมาได้ ตอนนี้มู่เยียนหรานอยู่ในโรงพยาบาล สถานการณ์ดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนัก ใช่แล้ว ซินอวี๋กำลังตามหานายอยู่ ว่าให้นายไปเยี่ยมมู่เยียนหรานเธอหน่อย ”

เฉิงหยางกังวลว่าลู่จิ้นยวนจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ ปล่อยให้ตัวเองดื่มจนเมา ก็นึกถึงเรื่องที่ไป๋ซินอวี๋ไหว้วานเขา

“เธอเป็นอะไรเหรอ”

ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้ว ราวกับว่าเขาคาดคิดไม่ถึงว่าเรื่องมันจะร้ายแรงขนาดนี้ ครั้งที่แล้ว ไม่ใช่ว่ามู่เยียนหรานมีแนวโน้มเป็นโรคซึมเศร้า เป็นไปได้ไหมว่าแค่เวลาสั้นๆเพียงไม่กี่วันอาการของเเธอก็หนักขึ้น

“บอกว่าเป็นปัญหาทางจิตใจเล็กน้อยไม่ร้ายแรง แต่ว่าเขาหาตัวนายไม่เจอ ก็เลยฝากให้ฉันช่วยบอกนายหน่อย”

หลังจากพูดจบ เฉิงหยางตบไหล่ของลู่จิ้นยวนเบาๆ ” เอาจริง ๆ นายกับซินอวี๋เป็นเพื่อนรักที่รู้จักกันมาหลายปี ทำไมถึงทะเลาะกันจนมองหน้ากันไม่ติดแบบนี้ ยังต้องให้ฉันเป็นคนกลาง ไม่ใช่นักเรียนประถมแล้วนะ มีเรื่องอะไรไม่สามารถพูดกันต่อหน้าเหรอ ”

ลู่จิ้นยวนเงียบไปครู่หนึ่ง อันที่จริง หลังจากที่ต่อยกับไป๋ซินอวี๋ในวันนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองก็เข้าสู่จุดเยือกแข็ง ดูเหมือนว่าไป๋ซินอวี๋เคยติดต่อเขาอยู่ แต่โดนเขาเลี่ยงไปทั้งโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ

ถ้าไม่รู้อย่างชัดเจน ก็คิดว่าเพื่อมู่เยียนหราน

“เรื่องนี้ เรื่องมันยาว ในเมื่อนายออกหน้าแทนแบบนี้แล้ว งั้นก็ไปเยี่ยมเธอหน่อย ”

ไม่ว่าจะยังไง ลู่จิ้นยวนก็ยังคงให้ความสำคัญกับเพื่อนรักที่เหมือนพี่น้องกันอยู่ และที่สำคัญมู่เยียนหรานก็เป็นเหมือนเพื่อนของเขาเช่นกัน หากมีอะไรเกิดขึ้น เขาจะนั่งอยู่เฉยๆได้ไง

บางที เขาไปยังสามารถไปช่วยอะไรได้บ้าง อย่างเช่นช่วยหาหมออะไรประมาณนี้ จะได้ไม่มีความรู้สึกผิดตามหลัง

“อย่างงี้ก็จบ มีเรื่องอะไรก็พูดกันให้ชัดเจน ฉันจะเป็นคนช่วยไกล่เกลี่ยให้เอง”

เฉิงหยางเห็นว่าลู่จิ้นยวนปัดเป่าความคิดที่จะเมาแล้ว ” จะให้ฉันขับรถพานายไปไหม”

ลู่จิ้นยวนพยักหน้า ตกลง

ทั้งสองจึงตรงไปยังโรงพยาบาลที่ไป๋ซินอวี๋อยู่

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset