บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 192 ยั่วโมโหเขา

เพราะรู้ว่าเวินหนิงไม่ชอบเห่อจื่ออัน ท่าทางเจนนี่ก็เป็นมิตรไปไม่น้อย ทั้งสองก็พูดคุยกันอีกไม่กี่คำ เธอก็เอ่ยว่าจะกลับไปก่อน

แต่ว่า พอเดินออกจากห้องเวินหนิง เจนนี่ก็เก็บสีหน้ายิ้มแย้ม แล้วคิดอะไรบางอย่าง

หลังจากที่พูดคุยกัน เธอมองออกว่าเวินหนิงไม่ได้โกหก เธอไม่ชอบเห่อจื่ออันจริง แต่ว่า……เห่อจื่ออันรู้สึกจริงจังกับเธอ

ในใจเจนนี่ก็รู้สึกลังเล ทันใดนั้น ก็มีโทรศัพท์โทรมา เป็นผู้ช่วยของเห่อจื่ออัน “เจ๊เจนนี่ ตอนนี้ลู่จิ้นยวนเอาแต่ตามหาเวินหนิง คงจะสื่บมาหาถึงคุณเห่อได้ไม่ยาก”

เจนนี่เป็นคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมากับเห่อจื่ออัน ลูกน้องของเห่อจื่ออันก็นับถือเธอเป็นเจ้านายด้วย เพราะฉะนั้น มีเรื่องอะไรที่ไม่สะดวกคุยกับเห่อจื่ออัน ก็จะพูดคุยกับเธอแทน

ดวงตาเจนี่เบิกกว้าง ลู่จิ้นยวนตามมาได้เร็วมาก

“ฉันรู้แล้ว เรื่องนี้ เดี๋ยวฉันจะจัดการเอง”

จากนั้น เธอก็หันกลับไปมองที่เวินหนิง เห่อจื่ออันทำผิดกับเธอ แต่ว่า เธอจะไม่ยอมให้เขาเอาอนาคตไปเสี่ยงเด็ดขาด

ถึงแม้เห่อจื่ออันจะไม่ยอม งั้นเธอก็จะเป็นคนเลวคนนี้เอง

……

ที่บริษัทตระกูลลู่

ลู่จิ้นยวนอยู่ในห้องทำงาน

ความรู้สึกเยือกเย็นปกคลุมไปทั่วห้อง บนใบหน้าลู่จิ้นยวนก็ไม่ได้มีสีหน้าอะไรมากนัก มีแค่สายตาที่ทางเยือกเย็นกับโมโห

ตอนนี้ เวินหนิงหนีออกไปจากกำมือของเขาหนึ่งวันแล้ว เธอก็ไม่ได้เอาอะไรไปด้วย ก็เหมือนกับงมเข็มในมหาสมุทรด้วยเบาะแสอันน้อยนิด

ผู้ชายคนนั้นอ่านเอกสารในมือ แต่ก็อ่านไม่เข้าหัวสักตัว อันเฉินเลยเดินเข้ามาแล้วเอ่ย “บอสครับ ทางโน้นเริ่มสืบแล้วครับ แต่ว่า ยังต้องใช้เวลาอีกหน่อย”

ลู่จิ้นยวนลุกขึ้นมาทันที รอ เขาทนรอไม่ได้แล้ว ตอนนี้เขาอยากจะตามหาตัวผู้หญิงคนนั้นให้เจอ แล้วสั่งสอนเธอให้เข็ดหลาบ

“ไปสืบต่อ นายไปที่เห่อจื่ออันกับฉัน”

เด็กในท้องเวินหนิงเป็นของเห่อจื่ออัน คิดไปคิดมา ความเป็นไปได้ที่จะอยู่ที่เขาก็เป็นไปได้มากที่สุด ถ้าเขายังไม่รีบหน่อย ทั้งสองคนก็อาจจะโบยบินไปด้วยกัน

“ครับ” อันเฉินเห็นท่าทางโมโหร้ายของลู่จิ้นยวน ก็กลืนน้ำลาย ไม่ได้เห็นบอสเป็นแบบนี้นานแล้ว เห่อจื่ออันอยู่ไม่เป็นสุขแน่!

……

เห่อจื่ออันอยู่ไม่เป็นสุขจริงๆ ถ้าเวินหนิงจะไปจากที่นี่ ก็ต้องจัดการเรื่องเอกสารต่างๆ ถ้าปกติ แค่คำพูดของเขาคำเดียวก็พอแล้ว แต่ว่า ตอนนี้ลู่จิ้นยวนสั่งตรวจเช็คข้อมูลของทุกคนที่จะไปจากที่นี่อย่างละเอียด

ถ้าเป็นแบบนี้ เห่อจื่ออันก็ไม่กล้าทำอะไรวู่วาม เพราะยังไง ที่เมืองเจียงเฉิง เขาก็ยังไม่มีปัญญาไปต่อกรกับลู่จิ้นยวน

ขณะคิดวิธีที่จัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อตัดปัญหา เลขาก็เดินเข้ามาอย่างร้อนรน “ไม่ดีแล้วครับบอส คุณชายตระกูลลู่มาแล้วครับ”

เห่อจื่ออันกำปากกาในมือหักไปทันที เขาเดาได้อยู่แล้วว่าลู่จิ้นยวนต้องมา แต่ไม่คิดว่าจะเร็วอย่างนี้ ควรจะพูดว่า……ความอดทนของเขาไม่ได้มีเยอะเหมือนที่คิดไว้

ยังไง ลู่จิ้นยวนมาหาถึงที่ ก็แสดงว่าต้องมาหาเรื่องตัวเองแน่นอน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กแล้ว

ขณะกำลังคิด ลู่จิ้นยวนก็พุ่งเข้ามา กับการขัดขวางของลูกน้องเห่อจื่ออัน เขาไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ เดินเข้ามาเหมือนไม่เห็นหัวใครเลย

เห่อจื่ออันมองเห็นสีหน้าที่เรียบนิ่งแต่แฝงด้วยความโมโหของลู่จิ้นยวน ก็ยืนขึ้น “ไม่ได้เจอกันนานเลยคุณชายลู่ ทำไมครับ มาหาผมที่นี่ มีเรื่องอะไรหรอครับ?”

ลู่จิ้นยวนเลิกมุมปาก “ไม่คิดเลยว่าคุณเห่อจะแสดงเก่งขนาดนี้ แต่ว่า ผมยุ่งมาก ไม่มีเวลามาเล่นเกมไร้สาระกับคุณ เวินหนิงอยู่ไหน? ส่งตัวเธอออกมาเดี๋ยวนี้”

สีหน้าเห่อจื่ออันย่ำแย่ไปทันที เขาไม่สบอารมณ์กับท่าทางแบบนี้ของลู่จิ้นยวน เหมือนทุกอย่างอยู่ในกำมือของเขา เขาไม่เห็นหัวตัวเองเลยด้วยซ้ำ

“ขอโทษนะครับ ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดอะไร”

เห่อจื่ออันแกล้งโง่ ก็ทำให้ความโมโหในใจลู่จิ้นยวนปะทุออกมา แล้วเดินเข้าใกล้ไป “เห่อจื่ออัน ไม่สิ ควรจะเรียกว่า……ลู่จื่ออัน? แกคิดว่าเปลี่ยนชื่อแล้วก็ไม่มีใครรู้เรื่องของแก? ก็แค่ลูกของผู้หญิงที่ไปทำลายครอบครัวคนอื่น แกมีสิทธิ์อะไร……มาพูดกับฉันแบบนี้?”

คำพูดแต่ละคำของลู่จิ้นยวน เหมือนใบมีดที่เยือกเย็นที่กำลังทิ่มแทง จึงทำให้เห่อจื่ออันโมโหไปด้วย

“แล้วแกล่ะ? ลู่จิ้นยวน มีตระกูลลู่ แกถึงได้อวดเก่งขนาดนี้ ถ้าแกไม่มีตระกูลลู่จะเป็นยังไง? เวินหนิง อยู่ในมือของฉัน เธอเต็มใจที่จะไปกับฉันเอง ถ้าแกยังเป็นผู้ชาย ก็อย่าหาเรื่องผู้หญิงอีก”

“ตระกูลลู่ของพวกแกยังหาเรื่องเธอบนชั้นศาล ทำให้เธอทุกข์ทรมานในคุกยังไม่พออีกหรอ?”

เห่อจื่ออันกำมือแน่น แล้วจ้องตาของลู่จิ้นยวน ทั้งสองคนกำลังตึงเครียด เหมือนระเบิดที่อันตราย

“นั่นเป็นเรื่องของฉัน ฉันถามแก เวินหนิง แกจะยอมส่งตัวมาไหม?”

เมื่อลู่จิ้นยวนได้ยินเรื่องในคุก ก็ขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่มีทีท่าที่จะถอย อยากจะพาตัวเวินหนิงไป ไม่มีทาง

“ฉันไม่มีทางส่งตัวเธอให้แกเด็ดขาด แล้วให้แกมาทำร้ายเธออีก”

เมื่อฟังเห่อจื่ออันพูดจบ แต่ลู่จิ้นยวนกลับยิ้มออกมา “ได้ จำคำพูดของแกไว้”

ในเมื่อเห่อจื่ออันไม่เจียมตัวขนาดนี้ ก็อย่าหาว่าเขาไม่ไว้หน้าแล้วกัน

“ถึงคุณเห่อจะพยายามพัฒนาทุกอย่างให้ดี เพื่อมาลบล้างความสกปรกบนตัวของตัวเอง แต่ว่า อะไรที่เคนเกิดขึ้นก็ต้องมีร่องรอยอยู่แล้ว”

ลู่จิ้นยวนหยิบแฟลชไดร์ฟออกมา โยนไปบนโต๊ะทำงานเห่อจื่ออันอย่างเยือกเย็น “อยากดูหรือเปล่าว่าข้างในนั้นมีอะไร? อาจจะทำให้แก่รื้อฟื้นความจำได้ไม่น้อย”

สีหน้าเห่อจื่ออันเปลี่ยนไป ไม่คิดเลยว่าลู่จิ้นยวนจะทำอะไรได้เร็วขนาดนี้ แค่เวลาไม่ถึงวัน ก็ทำได้ขนาดนี้แล้ว……

“ไว้ใจได้ นี่แค่บางส่วน ในมือฉันไม่ได้มีแค่นี้ ฉันให้เวลาแกคิดยี่สิบสี่ชั่วโมง แล้วส่งตัวเวินหนิงออกมา แล้วฉันจะปล่อยแกไป หรือว่าจะแฉเรื่องที่แกเคยทำไว้ต่อสาธารณะชน แล้วทำให้ความพยายามที่แกสร้างเนื้อสร้างตัวมาล้มละลาย? ฉันรอคอยคำตอบของแกมาก”

พูดจบ ลู่จิ้นยวนก็ปล่อยมือ แล้วหยิบผ้าเช็ดมือออกมาจากกระเป๋า เช็ดทุกนิ้วที่จับคอเสื้อของเห่อจื่ออัน จากนั้น ก็ทิ้งลงกับพื้น

การกระทำตั้งแต่ต้นจนจบอย่างนี้ เขาไม่ได้พูดเลยสักคำ แต่ก็ทำให้เห็นถึงความเหยียดหยาม เหมือนเห่อจื่ออันเป็นของอะไรที่สกปรกอย่างนั้น

เห่อจื่ออันกำมือแน่น ลู่จิ้นยวนใช้การกระทำที่ง่ายดายแบบนี้ ก็ยั่วเขาโมโหได้

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset