บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 21 เธอคือโจร

หลิวลี่ลี่ไม่เชื่อว่าเวินหนิงจะมีชีวิตที่ดีกว่าเธอแล้วก็คิดว่าเวินหนิงจะต้องใช้วิธีอะไรสักอย่างเพื่อได้การ์ดใบนี้มา

จ้าวหย่าหลินฟังจนจบก็รู้สึกหึงหวง “เรื่องไร้สาระ ชายที่ไหน เป็นเรื่องโกหกทั้งเพ หนิงหนิงเขาคบกันกับผู้ชายที่อายุเยอะหน่อยแค่นั้นเอง”

เวินหนิงที่ได้ยินอย่างนั้นก็หันกลับมา “เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ พูดอีกทีซิ?”

สายตาของเวินหนิงเต็มไปด้วยความโกรธอย่างไม่ปิดบัง หลิวลี่ลี่ที่เห็นก็รู้สึกกลัว “แหะแหะ ฉันผิดไปแล้ว”

เวินหนิงมองหลิวลี่ลี่ด้วยหางตา “ไม่ได้โกหกนะคะ น่าจะขโมยค่ะ พวกผู้ชายแก่ๆคงไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้น ยังไงก็เคยเข้าคุก ลักเล็กขโมยน้อยเป็นไม่น่าใช่เรื่องแปลก”

คำพูดนั้น หลิวลี่ลี่คิดว่ามันเข้าท่า เธอคว้าการ์ดขึ้นมาดูอย่าละเอียดถี่ถ้วน “คุณป้าคะ เธอไม่น่าจะมีบัตรที่มีค่าแบบนี้ เธอต้องขโมยบัตรใบนี้มาแน่นอน!”

จ้าวหย่าหลินเข้ามาดู ก็พูดขึ้น “หนิงหนิง เธอจะทำอะไรฉันไม่สนหรอกนะ แต่เรื่องขโมยของฉันก็คงทนดูเฉยๆไม่ได้ แม้ว่าเราจะเป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ต้องตัดสินอย่างชอบธรรมใช่หรือไม่?”

เวินหนิงขมวคิ้ว ทั้งสองกำลังพูดเรื่องอะไรไร้สาระ “ที่คุณบอกว่าฉันขโมยของ ไหนล่ะหลักฐาน ถ้าไม่มีหลักฐานก็อย่ากล่าวหากันลอยๆสิคะ ไม่กลัวถูกจับว่าสร้างข่าวหรือเหรอคะ?”

“ต้องการหลักฐานอะไรอีก บัตรใบนี้ไงคือหลักฐาน ฉันจะแจ้งความ ดูซิเธอจะอธิบายกับตำรวจยังไง!”

เสียงที่ดังของหลิวลี่ลี่ทำให้ผู้คนที่อยู่รอบๆหันมามองอย่าสนใจ

หลิวลี่ลี่มองเวินหนิงอย่างได้รับชัยชนะ “ครั้งนี้เธอเสร็จแน่!”

เวินหนิงไม่ได้แก้ตัวอะไร ในเมื่อไม่ได้ทำอะไรผิดจะกลัวอะไร?

จากนั้นไม่นานตำรวจก็เดินเข้ามา เนื่องจากมีเงินจำนวนมากเลยพาทุกคนไปสอบสวนที่โรงพัก

“คุณคือเวินหนิงใช่ไหมครับ บัตรใบนี้คุณได้มาจากไหน?”

“คนอื่นให้มาค่ะ”

“ใครให้มาเหรอครับ?”

“ฉันไม่รู้ค่ะ…”

เรื่องนี้จะให้เวินหนิงพูดยังไง มันมาจากชายที่คิดจะมีอะไรกับฉันทุกคืนงั้นเหรอ เธอจำไม่ได้แม้กระทั่งชื่อแซ่หรือว่าเขาหน้าตาเป็นยังไงด้วยซ้ำ

ฟังดูเหมือนโกหก แต่ที่เธอพูดเป็นเรื่องจริง

“…” เธอตอบออกไปแบบนั้น ตำรวจก็คิดว่าตัวเองโดนดูถูกเลยพูดออกไปอีกครั้ง “เวินหนิง ฉันจะให้โอกาสคุณอีกรอบ สรุปบัตรใบนี้มาจากไหน!”

จ้าวหย่าหลิงที่อยู่ข้างๆก็พูดเสริม “คุณตำรวจได้ยินแล้วใช่ไหม เธอพูดโกหกไม่ได้ในเมื่อเธอขโมยมันมา คุณไม่รู้หรอก สามปีก่อนก็ฆ่าคนโดยเจตนาเลยติดคุก บ้านเรา…บ้านเราเลยตัดความสัมพันธ์กับเธอ พอเธอออกมาเลยไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน ถ้าบัตรนี้ไม่ได้ขโมยมาแล้วจะมาจากไหนได้!”

“ฉันไม่ได้ขโมยนะ!” เวินหนิงพูดน้ำอีกครั้ง

“ไม่ได้ขโมย? ไม่งั้นบัตรนี้ผู้ชายที่ไหนให้เธอมา! เธอพูดไปสิเธอไปนอนกับใครเขาไปกี่ครั้ง เขาถึงให้เงินเธอมากมายขนาดนี้! คุณตำรวจ เธอไม่ได้เรียกว่าขโมย เรียกว่า ขาย ขาย…เงินไง! คุณต้องจัดการกับเรื่องนี้นะคะ!”

“จ้าวหย่าหลิน! ให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ คุณจะคิดว่าทุกคนเขาจะยึดติดกับคนรวยเหมือนคุณไม่ได้!”

“แก! แกพูดแบบนี้ได้ยังไง แกหมิ่นประมาทต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฉันจะฟ้องแก!”

“พอ! เงียบได้แล้ว!”

ตำรวจหยุดการทะเลาะของทั้งสอง “คุณทั้งสองกลับไปก่อน เวินหนิง เนื่องจากคุณไม่สามารถบอกได้ว่าเอาบัตรนี้มาจากไหน งั้นก็ต้องทำตามกฎหมายอาชญากรรมครอบครองทรัพย์สินผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย คุณลองคิดดูดีๆ คิดได้แล้วอธิบายมา”

ตำรวจสรุปคำสารภาพแล้วใส่กุญแจมือให้เวินหนิงแล้วลุกจากไป

จ้าวหย่าหลินลุกขึ้นยืนเหวี่ยงกระเป๋าหนังจระเข้ไปตรงหน้าเวินหนิง “ขโมยของที่มีราคาขนาดนี้ ก็ไม่รู้จะต้องอยู่ในนี้ไปอีกกี่ปี! หนิงนิง เธอไม่ต้องกังวลหรอกนะ ฉันจะฝากคนที่นี่ให้ ’ดูแล’ เธอให้ดี”

เวินหนิงจำได้ว่า ‘ดูแล’ ที่เธอเคยรับในคุก มันเหมือนกับสงครามเย็น สองมือกอดหัวเข่าแน่นขึ้นและความเจ็บปวดที่เข้าเล่นงานทุกคืน

เธอไม้ได้เข้าไปมี่ส่วนกับตระกูลเวินอีกเลย แต่พวกเขาก็ยังตามราวี พวกเขากำลังจะทำอะไรกันแน่ จะเอาให้ถึงตายเลยหรือยังไง!

เวินหนิงมองไปที่ใบหน้าของจ้าวหย่าหลินด้วยความเกลียดชัง เธอค่อยๆลุกขึ้นยืนหวังว่าจะใช้โซ่กุญแจมือรัดคอจ้าวหย่าหลิน

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset