บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 211 จับมือคนที่รักให้แน่น

เวินหนิงเห็นว่าไป๋หลินยวี่มีความวิตกกังวลอยู่มาก กลัวว่าเธอจะเครียดจนล้มป่วย จึงรีบพูดปลอบเธอ

“ไม่ค่ะแม่ ตอนนี้เราอยู่ต่างประเทศ ส่วนเขาอยู่บริษัทฯในประเทศ มาไม่ได้ง่ายๆหรอกค่ะ”

ไป๋หลินยวี่เพิ่งเอะใจ “ทำไมาแม่ถึงมาอยู่ต่างประเทศล่ะ?”

เธอไม่คิดว่าคนอย่างเวินฉีโม่จะใจดีถึงขนาดพาเธอมารักษาตัวยันต่างประเทศได้

เวินหนิงไม่อยากพูดถึงมันนัก เพราะถึงยังไงแม่ก็จริงใจกับเวินฉีโม่จริงๆ ถ้าบอกให้เธอรู้เรื่องเลวร้ายที่เขาทำทั้งหมด กลัวว่าเธอจะรับไม่ได้

“แม่คิดยังไงกับบ้านตระกูลเวินคะ?”

ตอนนี้บ้านตระกูลเวินอยู่ในกำมือของลู่จิ้นยวนแล้ว ซึ่งก็ใกล้จะล่มสลายในไม่ช้า เวินหลานเองก็โดยขุดขุ้ยข่าวฉาวไม่หยุด หุ้นของบ้านตระกูลเวินก็ร่วงระนาว ตระกูลที่เคยมั่งคั่งรุ่งเรืองกำลังจะล่มสลายลง

ตระกูลเวินก็ถือว่าเป็นหัวใจของไป๋หลินยวี่ เวินหนิงกังวลว่าแม่จะยังทำใจไม่ได้

“จะคิดอะไรได้อีก? ตั้งแต่พวกเขาทำให้ลูกต้องเข้าคุก แม่ก็เกลียดจนอยากให้พวกเขาตายให้หมด!”

นัยน์ตาของไป๋หลินยวี่มีแววเกลียดชังฉายขึ้น คนอย่างเธอรักแรงเกลียดแรง สมัยก่อนเพราะรักเธอจึงยอมลำบากกับเวินฉีโม่ ช่วยทำทุกอย่างตั้งแต่เขายังไม่มีอะไร

แต่สิ่งที่พวกเขาทำกับเวินหนิง มันให้อภัยไม่ได้ ไม่ว่าใครก็ตาม จะมาทำร้ายลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของเธอแบบนี้ไม่ได้

พอได้ยินแม่พูดแบบนั้น เวินหนิงจึงตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่างของบ้านตระกูลเวินให้แม่ฟัง

ไป๋หลินยวี่ฟังไป ก็ขมวดคิ้วไปอย่างตึงเครียด

สมัยก่อนตอนที่เธอร่วมบุกเบิกกับบ้านตระกูลเวิน ถึงแม้ว่าบ้านตระกูลเวินจะไม่ใช่ตระกูลที่มั่งคั้งระดับมหาเศรษฐี แต่ก็ถือว่ามีพื้นฐานดีอยู่ไม่น้อย เธอสงสัยว่าลูกสาวเธอสามารถทำลายตระกูลที่ใหญ่อย่างตระกูลเวินได้ยังไง?”

“หนิงหนิง บอกแม่มาตามตรง พ่อของเด็กคือใครกัน?”

ไป๋หลินยวี่เกิดความกังวลใจขึ้นมาทันที เธอกลัวว่าเวินหนิงจะยอมทำทุกอย่างเพื่อแก้แค้น ถ้าเป็นแบบนั้นจริงคนเป็นแม่อย่างเธอคงไม่มีหน้ามีชีวิตอยู่ต่อไปอีก

“แม่…….”

เวินหนิงไม่รู้ว่าควรจะบอกสถานะที่แท้จริงของลู่จิ้นยวนให้แม่รู้ดีมั้ย

“หนิงหนิง ลูกไม่ได้ยอมทำทุกอย่างเพื่อแก้แค้นใช่มั้ย บอกแม่ซิลูก”

แค่คิดว่าลูกสาวที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจจะยอมแลกแม้แต่ชื่อเสียงตัวเองเพื่อแก้แค้น ไป๋หลินยวี่ก็ตกใจกลัวจนหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันที และเริ่มหายใจเข้าออก็อย่างติดขัด จนคนมองยังรู้สึกอึดอัดไปด้วย

“ไม่ค่ะ แม่ไม่ต้องกังวลใจนะคะ” เวินหนิงตกใจจนรีบพูดปลอบเธอ ก่อนจะรีบเล่าเรื่องของลู่จิ้นยวนให้เธอฟัง

ไป๋หลินยวี่ได้ยินว่าเป็นลู่จิ้นยวน ก็ตกใจเล็กน้อย เธอย่อมรู้จักคนคนนี้อยู่แล้ว ถึงแม้ว่าก่อนที่เธอสลบไสลไป ลู่จิ้นยวนในตอนนั้นยังไม่มีอำนาจมากแบบนี้ก็ตาม

ลูกคนเดียวของบ้านตระกูลลู่ และยังเป็นทายาทเพียงคนเดียวอีก คนในเมืองเจียงเฉินมีใครบ้างจะไม่รู้จักเขา?

แค่ไม่คิดว่าลูกสาวเธอจะมาอยู่กับผู้ชายคนนี้ได้

“หนิงหนิง บอกแม่ซิว่าเขามีความสัมพันธ์กับลูกแบบไหนกัน?”

ไป๋หลินยวี่รู้ว่า หากถึงแม้บ้านตระกูลเวินยังอยู่ก็ไม่มีทางที่บ้านตระกูลลู่จะมาสนใจลูกสาวตระกูลเล็กๆแบบนี้ได้ เธอจึงกังวลว่าเวินหนิงจะเป็นแค่บ้านเล็กบ้านน้อยของลู่จิ้นยวน

จะยังไงก็ตาม เธอจะก็ไม่ยอมให้ลูกสาวต้องอยู่ในสภาพแบบนั้นเด็ดขาด

เวินหนิงหยุดคิดนิดหนึ่ง ก่อนจะเล่าทุกอย่างออกไป แม่เป็นคนที่เธอไว้ใจมากที่สุด และท่านยังเป็นคนที่มีประสบการณ์ชีวิตมากกว่า เธอเชื่อว่าท่านจะเข้าใจ

ไป๋หลินยวี่ฟังจบ ก็ยื่นมือไปกุมมือเวินหนิงไว้

ถึงแม้ว่าเวินหนิงจะพยายามไม่เล่าเรื่องที่เธอถูกบ้านตระกูลกระทำให้แม่ฟัง เพราะไม่อยากให้ท่านเสียใจ แต่ท่านก็พอรู้ว่าลูกสาวต้องผ่านอะไรมาบ้าง ถ้าไม่มีลู่จิ้นยวน เธอสองแม่ลูกก็คงไม่มีโอกาสได้มาเจอหน้ากันอีกครั้งแบบนี้

ในใจรู้สึกซาบซึ้งไม่น้อย ที่คนเย็นชาอย่างลู่จิ้นยวนจะทำเพื่อลูกสาวเธอได้มากมายแบบนี้

“แต่หนู………คงไม่เหมาะสมกับเขา” เวินหนิงพูดความในใจ

เทียบกับลู่จิ้นยวนแล้วเธอรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองเท่าไหร่ มันเป็นเพราะฐานะทางสังคมของทั้งสองแตกต่างกันมาก

“หนิงหนิง ลูกดีที่สุดแล้ว ถึงแม้ว่าตระกูลลู่จะยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็ไม่ใช่การเลือกพระสนมให้พระราชา อย่าได้ดูถูกตัวเองเด็ดขาด!”

ไป๋หลินยวี่ชอบลู่จิ้นยวนอยู่ไม่น้อย ในใจเริ่มคิดวางแผน

“รอให้แม่หายป่วยเมื่อไหร่ แม่จะไปยื่นเรื่องฟ้องร้องบ้านตระกูลเวินเอาของที่ควรจะเป็นของเรากลับมา หลังจากนั้นแม่จะสู้ไปกับลูก ถึงจะไม่สามารถเทียบเท่าบ้านตระกูลลู่ได้ แต่ก็จะไม่ให้ใครมาดูถูกลูกได้”

ไป๋หลินยวี่ที่เป็นผู้หญิงแกร่งอยู่แล้ว ไม่มีความกลัวแสดงให้เห็นแม้แต่น้อย เพื่อลูกสาวแล้ว เธอยอมทำทุกอย่างได้อย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย

เวินหนิงนิ่งอึ้งไปก่อนจะรู้สึกละอายในใจ แม้แต่แม่ที่นอนป่วยอยู่บนเตียงมาเป็นเวลานาน เพิ่งฟื้นขึ้นมาแท้ๆยังมีความกล้าหาญขนาดนี้ เธอซะอีกที่ไม่มีแม้แต่ความกล้าจะลองทำดู

มันไม่ควรเป็นแบบนี้เลย

“หนิงหนิง แม่อยากรู้ว่าลูกชอบเขาถึงขนาดอยากใช้ชีวิตกับเขาไปทั้งชีวิตเลยมั้ย?”

คำถามของไป๋หลินยวี่ทำให้เวินหนิงนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ในหัวมีแต่ภาพใบหน้าของลู่จิ้นยวนลอยมา รอยยิ้มของเขา ความเย็นชาของเขา ทุกการกระทำของเขามันประทับอยู่ในความทรงจำของเธอ จนไม่อาจลืมเลือนได้

ทันใดนั้นเธอจึงรู้ว่า เธอรักผู้ชายคนนี้มากถึงขนาดอยากใช้ชีวิตกับเขาไปทั้งชีวิตเลย

“หนู อยากใช้ชีวิตกับเขาไปทั้งชีวิตค่ะ”

ขณะที่เวินหนิงกำลังพูดไป๋หลินยวี่ก็ยื่นมือไปกุมมือเธอไว้ “งั้นก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีก แม่จะอยู่เคียงข้างลูก จับมือคนที่ลูกรักให้แน่นนะ”

เวินหนิงพยักหน้ารับอย่างจริงจัง

คำพูดของไป๋หลินยวี่ ทำให้ปมในใจเธอคลายลง และมั่นใจมากขึ้น

“ว่าแต่ เขาจะมาเยี่ยมมั้ย แม่เองก็อยากรู้เรื่องระหว่างลูกกับเขา แล้วก็จะได้ช่วยดูเขาให้ด้วย”

เวินหนิงนึกอยู่ครู่หนึ่ง “เดี๋ยวหนูลองโทรฯหาเขาดูค่ะ”

พูดเสร็จก็เดินออกไปโทรฯหาลู่จิ้นยวน แต่แปลกที่เขาไม่รับสายเลย

เวินหนิงรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเล็กน้อย แต่คิดว่าเขาน่าจะกำลังยุ่งหรืออาจประชุมอยู่ ดังนั้นจึงบอกตัวเองว่าอย่าคิดมาก ก่อนจะส่งข้อความทิ้งไว้ให้เขา “จิ้นยวน คุณแม่ฟื้นแล้ว ท่านอยากเจอคุณค่ะ”

ลู่จิ้นยวนทำอะไรเพื่อเธอมากมาย สิ่งเดียวที่เธอทำเพื่อเขาได้คือเชื่อมั่นในตัวเขา แล้ว…..ยืนหยัดต่อไป

นัยน์ตาเวินหนิงฉายแววเข้มแข็งขึ้น ครั้งนี้เธอจะพยายามคว้าความสุขเอาไว้ให้ได้ จะไม่ยอมให้มันบินหายไปเด็ดขาด

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset