บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 237 อย่ามารบกวนฉันอีก

“เถ้าแก่ลู่”

หลินซือเฉินกดรับโทรศัพท์ แล้วเช็ดคราบเลือดบนนิ้วมือตัวเอง สีหน้าก็ไม่ได้ดูอ่อนโยนเหมือนอยู่ต่อหน้าคนอื่น ดวงสายตาทั้งสองข้างเยือกเย็นมาก จนทำให้คนมองต้องขนลุก

“เรื่องนั้น จบหรือยัง?”

“ตามหลัก ก็ควรจะจบแล้วครับ แต่ว่า ผมยังมีข่าวอะไรบางอย่างต้องบอกกับคุณ”

หลินซือเฉินโยนทิชชู่ในมือทิ้ง ความจริงเรื่องของตระกูลลู่ ไม่ควรค่าพอที่คนอย่างเขาต้องลงมือเอง แต่ว่า ก็ถือว่าเขาได้เห็นอะไรที่แปลกตา

“ข่าวอะไร?”

เถ้าแก่ลู่ขมวดคิ้ว คำพูดหลังจากนี้ของหลินซือเฉินทำให้ท่านตกใจมาก

“ผลตรวจดีเอ็นเอของลูกเวินหนิงออกมาแล้วครับ เด็กในท้องเธอ เป็นทายาทตระกูลลู่ เพราะฉะนั้น คุณจะจัดการยังไงหรอครับ?”

“เด็ก……เป็นของตระกูลลู่?”

เถ้าแก่ลู่ไม่อยากจะเชื่อ ท่านไม่เคยนึกถึงความเป็นไปได้นี้เลย เด็กคนนั้น ควรจะเป็นเด็กไม่มีหัวนอนไปเท้าที่เวินหนิงเอามาเกาะลู่จิ้นยวนไม่ใช่หรอ?

ความจริงที่วุ่นวายนี้ ทำให้ท่านเงียบไป จากนั้น หลินซือเฉินจึงเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “ถ้าคุณไม่อยากให้มีปัญหาอะไรตามมาอีก ผมก็สามารถช่วยคุณ……จัดการได้”

สำหรับหลินซือเฉิน จัดการเด็กที่ยังไม่ลืมตาดูโลกง่ายสำหรับเขามาก

เถ้าแก่ลู่จับโทรศัพท์ในมือไว้แน่น “ฉันขอคิดก่อน ถ้ายังไม่ได้ข่าวจากฉัน แกอย่าเพิ่งลงมือ”

พูดจบ ท่านก็ตัดสายทันที

ลู่จิ้นยวนมีลูกแล้ว เป็นทายาทของตระกูลลู่ ข่าวนี้ ท่านไม่รู้ว่าควรจะตกใจหรือว่าดีใจดี

ถ้าเวินหนิงไม่ใช่คนท้องเด็กคนนี้ ท่านอาจจะรับตัวกลับมาอย่างมีความสุข แล้วรออุ้มเหลน แต่ว่า เป็นลูกของเวินหนิง แล้วยังเป็นช่วงเวลาที่ลู่จิ้นยวนยอมตกลงหมั้นกับมู่เยียนหรานแล้วด้วย

เวลานี้ ถึงแม้เถ้าแก่ที่เป็นคนผ่านอะไรมาเยอะ แต่วินาทีนี้ ก็รู้สึกสับสนเหมือนกัน

เด็กคนนี้ จะจัดการยังไงดี……

เถ้าแก่คิดไปสักครู่ แล้วเรียกเย่หวานจิ้งมาหา

“ลูกของเวินหนิง เป็นของจิ้นยวน”

เพราะยังไง เย่หวานจิ้งก็เป็นแม่ของลู่จิ้นยวน แล้วเป็นคุณย่าของเด็กคนนั้นด้วย เธอก็มีสิทธิ์ที่จะรับรู้

“อะไรนะคะ? เป็นไปไม่ได้ ทำไม……ผู้หญิงคนนั้นท้องลูกของจิ้นยวนได้ยังไง?”

ปฏิกิริยาแรกของเย่หวานจิ้งก็คือไม่เชื่อ ลูกชายของท่าน ท่านรู้ดี กับผู้หญิงที่เขาไม่เคยไว้ในสายตา ไม่มีทางไปแตะต้องแน่นอน

เพราะฉะนั้น ท่านก็เลยมั่นใจมาตลอดว่าเด็กในท้องเวินหนิงไม่ใช่ของตระกูลลู่

“ผลตรวจดีเอ็นเอจะผิดพลาดได้ยังไง?” เถ้าแก่ลู่ส่ายหน้า “ตอนนี้เธอจะหลบหนีความจริงก็ไม่มีประโยชน์ รีบคิดดีกว่าว่าจะจัดการเรื่องนี้ยังไง”

ทันใดนั้น เถ้าแก่ก็นึกขึ้นได้ว่าตอนนั้นมีคนพูดว่าทั้งสองคนเกิดมาคู่กัน หรือว่านี่จะเป็นเรื่องจริง?

“ไม่ เรื่องนี้……” เย่หวานจิ้งเห็นว่าเถ้าแก่ส่ายหน้า ก็ส่ายหน้าตามไปด้วย

ถึงแม้อยากจะอุ้มหลานมาโดยตลอด แต่หลานที่ท่านอยากได้ ก็ต้องมาจากตระกูลที่มีชื่อเสียง ฐานะของเด็กก็จะสูงส่งตามไปด้วย แต่ไม่ใช่มาจากผู้หญิงที่เคยเข้าคุก ที่บ้านล้มละลาย แล้วมีแต่ข่าวเสียเๆหายๆแบบนี้!

ถึงแม้เวินหนิงจะท้อง ท่านก็ไม่ยอมรับเด็ดขาด

“ทำแท้งไม่ได้เหรอคะ? หรือว่าชักนำให้คลอดก็คงจะได้นะคะ”

“หวานจิ้ง เด็กคนนั้นใกล้ถึงกำหนดคลอดแล้ว ถ้าเธอไปชักนำคลอด ก็เท่ากับว่าฆ่าลูกของจิ้นยวน!”

เย่หวานจิ้งถูกเถ้าแก่เอ่ยเตือนแล้วค่อยสงบสติอารมณ์ลงได้ แต่ว่ายิ่งพยายามสงบสติอารมณ์ ท่านก็ยิ่งหงุดหงิดไปกว่าเดิม

ผู้หญิงคนนี้ ไม่ตรวจดีเอ็นเอตั้งแต่แรก แต่กลับมาตรวจตอนที่จิ้นยวนกับเยียนหรานกำลังจะหมั้นกัน นี่คิดจะทำอะไรกันแน่?

ผู้หญิงคนนี้อยากจะใช้โอกาสนี้แล้วแต่งเข้าตระกูลลู่?

“พ่อคะ หนูมีวิธี……”

สีหน้าของเย่หวานจิ้งนิ่งไป แล้วพูดข้างหูเถ้าแก่ สายตาก็มุ่งมั่นแล้วเยือกเย็นมาก

ท่านไม่มีทางให้ผู้หญิงคนนี้มาเป็นตัวถ่วงของลู่จิ้นยวนแน่นอน

……

ลู่จิ้นยวนเฝ้าอยู่ที่โรงพยาบาลตลอด ตอนนี้เวินหนิงยังสลบอยู่ เขาก็ไม่มีอารมณ์ทำงาน อยากจะรออยู่ที่นี่แล้วรอเธอฟื้นค่อยวางใจ

แต่ว่า กี่วันนี้งานก็เยอะมาก ก็จำเป็นต้องทำตั้งแต่เช้าจนถึงดึก ด้วยความไม่รู้ตัว เขาก็เริ่มรู้สึกเหนื่อย แล้วหลับไปข้างเตียงของเวินหนิง

ตอนที่เวินหนิงฟื้นมา ฟ้าก็มืดแล้ว เธอลืมตาขึ้น ไฟในห้องก็ไม่ได้เปิดเพราะไม่อยากรบกวนเธอพักผ่อน ก็เลยมองเห็นอะไรไม่ชัด

เธอยกมือขึ้น ค่อยรู้ว่ามีคนนอนอยู่ข้างเตียง ยื่นมือไปแตะหน้าของคนคนนั้น ลู่จิ้นยวนค่อยสะดุ้งตื่น “เธอฟื้นแล้ว?”

ผู้ชายสะดุ้งตื่น ความเหนื่อยล้าเมื่อกี้หายไปทันที

เมื่อได้ยินเสียงของลู่จิ้นยวน ในใจเวินหนิงก็รู้สึกว้าวุ่นมาก ตอนนี้เขายังมากำลังทำอะไรที่นี่อีก?

กลัวว่าตัวเองจะเป็นอะไรไป แล้วลามไปถึงเขา ทำให้ชื่อเสียงเขาเสื่อมเสีย?

เวินหนิงคิดไปด้วย ในใจก็รู้สึกเสียใจมากไปกว่าเดิม เธอพยายามหักห้ามน้ำเสียง ไม่ให้ลู่จิ้นยวนฟังออกว่าในใจเธอกำลังว้าวุ่น “นายมาทำอะไรที่นี่?”

ลู่จิ้นยวนรู้สึกถึงความเย็นชาของเธอ แต่ก็ไม่อยากจะทะเลาะกับเธอ “เดี๋ยวฉันไปเรียกหมอมา”

“ไม่ต้อง ฉันเรียกเองได้ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ก็ขอให้คุณชายลู่กลับไปเถอะค่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวจะทำให้คนอื่นเข้าใจอะไรผิดจะไม่ดี”

เวินหนิงเอ่ยอย่างเย็นชา เธอรู้สึกโชคดีเพราะในห้องมืดมาก ลู่จิ้นยวนก็เลยไม่เห็นสีหน้าของเธอ ทำให้เธอยังสามารถรักษาศักดิ์ศรีไว้ได้

“เธอไม่อยากเห็นฉันขนาดนี้เลยหรอ?” ลู่จิ้นยวนเฝ้าอยู่ที่นี่ทั้งวัน เพิ่งฟื้นก็ทำท่าทางเย็นชาใส่เขาขนาดนี้ แล้วน้ำเสียงก็แฝงไปด้วยความหงุดหงิดด้วย

“ใช่ ฉันไม่อยากเห็นนาย พอเห็นหน้านาย ฉันกลัวว่าฉันจะอ้วก”

เวินหนิงกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ แล้วรู้สึกเจ็บ แต่เธอกลับเหมือนไร้ความรู้สึกอย่างนั้น

เขาจะหมั้นกับมู่เยียนหรานแล้ว แต่ก็ยังโกหกตัวเอง ยังแสดงท่าทางที่เป็นห่วงเธอแบบนี้ ให้ใครดูกันแน่?

หรือว่า เธอก็เหมือนกับผู้หญิงในโรงแรมวันนั้น ก็เป็นสัตว์เลี้ยงที่เขาเลี้ยงอยู่ข้างนอก อารมณ์ดีก็มาเล่นด้วย แต่ถ้าอารมณ์ไม่ดี ก็ทิ้งไปอย่างนั้น

เธอไม่อยาก……เธอไม่มีทางทำให้ตัวเองเป็นมือที่สามที่ถูกคนอื่นชี้หน้าด่า ยิ่งไม่มีทางให้ลูกตัวเองเป็นลูกนอกสมรสที่จะเปิดเผยตัวตนไม่ได้ด้วย……

“เธอพูดอีกรอบหนึ่งสิ?” เมื่อได้ยินคำพูดของเวินหนิง ลู่จิ้นยวนก็รู้สึกว่าความเป็นห่วงของตัวเองเมื่อกี้เขาเหมือนเป็นตัวตลก

เธอรู้สึกขยะแขยงตัวเอง แล้วใครล่ะถึงจะเป็นคนที่เธอไม่รู้สึกขยะแขยง?

ไป๋อี้อันหรือว่าเห่อจื่ออัน? หรือว่าพ่อของเด็กในท้องเธอ?

“คุณชายลู่คะ อีกหน่อยอย่ามารบกวนฉันอีก พ่อของลูกฉันจะอารมณ์เสียได้!”

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset