บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 270 ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด

ลู่จิ้นยวนก็เลยทำอย่างนั้น อาศัยอยู่ในบ้านของไป๋หลินยวี่

ไป๋หลินยวี่พูดจาเย็นชาใส่เขาจำนวนไม่น้อย เวลาพูดจาหยาบได้แค่ไหนก็เอาแบบนั้น แต่ว่า เขาก็ไม่ได้ใส่ใจฟัง

เทียบกับตอนอยู่ตระกูลลู่ที่ยุ่งจนปลีกตัวไม่ได้ ตอนนี้ลู่จิ้นยวนใจเย็นลงแล้ว

ตกลงแล้วนานขนาดนี้แต่ไม่ยอมให้เขาดูศพของเวินหนิง ยิ่งทำให้เขานั้นยิ่งสงสัย ตกลงแล้วเธอตายไปแล้วจริงๆใช่ไหม

ถึงแม้ ข้ออ้างของไป๋หลินยวี่จะฟังขึ้น ไม่ต้องการให้ผู้ชายที่เอาชีวิตของลูกสาวตัวเองไปไปรบกวนเวินหนิง แต่ยังไงก็ตาม เขาก็ยังรอด้วยความหวังเล็กน้อยนั่น

ถ้าเกิดว่าเวินหนิงยังมีชีวิตอยู่ ถ้าคงไม่มีทางที่จะไม่อยากติดต่อแม่ของเธอ เธอเป็นห่วงครอบครัวขนาดนั้น จะทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไง

……

อารมณ์ของไป๋หลินยวี่ เริ่มรำคาญและหมดความอดทนมากขึ้นเรื่อยๆ

เพราะว่าการมาของลู่จิ้นยวน ทำให้เธอไม่กล้าจะติดต่อเวินหนิง ขนาดที่ว่า ไม่แม้แต่จะกล้าส่งข้อความหา

เพราะว่ามีความเป็นไปได้มากว่าตระกูลลู่อาจจะกำลังควบคุมการติดต่อสื่อวานของเธอ เธอไม่สามารถเอาลูกสาวของตัวเองมาเสี่ยงได้

ตอนนี้ เธอไม่รู้ความเป็นไปของเวินหนิงเลย เธอเป็นถึงแม่ อยากจะไปดูแลลูกสาด้วยตัวเองมากๆ แต่ก็ทำไม่ได้

ความโกรธแค้นทั้งหมด ดังนั้นเลยโดนเธอคิดบัญชีไว้กับลู่จิ้นยวนหมดแล้ว

“ท่านประธานลู่ คุณอยู่ที่นี่ทุกวัน มองฉันที่เป็นคนพิการ ไม่คิดว่าน่าเบื่อบ้างเหรอคะ? ที่บ้านคุณยังมีคู่หมั้นที่สวยราวกับนางฟ้ารอคุณอยู่นะคะ คุณออกมานานแบบนี้ เธอไม่โกรธ?”

จากความเกลียดชังต่อตระกูลลู่ ความรู้สึกของไป๋หลินยวี่ที่มีต่อมู่เยีนหรานก็ไม่ใช่ความรู้สึกดีอะไร เธอตั้งหน้าตั้งรอให้ตระกูลลู่ทะเลาะกันเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต อยู่กันอย่างสงบไม่ได้ ถึงจะได้ปลดปล่อยความแค้นของเธอได้

“เธอได้รับสิ่งที่เธอต้องการแล้ว มีอะไรให้โกรธ?”

ลู่จิ้นยวนหัวเราะเยาะ สิ่งที่มู่เยียนหรานต้องการก็คือสถานะนายหญิงน้อยของตระกูลลู่ ต้องการผู้ชายที่คู่ควรกับเธอ ตอนนี้ก็ได้ไปแล้วไม่ใช่หรือ?

ถึงแม้ เขาจะไม่เข้าใจเธอ

ไป๋หลินยวี่โดนคำพูดพวกนี้ของลู่จิ้นยวนสวนกลับจนพูดอะไรไม่ออก ดูแล้ว ตระกูลลู่ก็ไม่ได้ปรองดองกันแบบที่เธอคิด

ก็ไม่รู้เหมือนกัน หลานชายของเธออยู่ที่ตระกูลลู่ จะได้รับการดูแลแบบไหน

ไป๋หลินยวี่อดไม่ได้ที่จะกังวลขึ้นมา ยังไงเสีย เด็กพอคลอดออกมาก็แยกจากแม่แท้ๆเลย บรรยากาศรอบๆ ก็บิดเบี้ยวมากๆ ในครอบครัวชนชั้นสูงพวกนั้นมีเรื่องที่ไม่ดีตั้งมากมาย

“อย่างนั้นคุณไม่สนใจเด็กหน่อยเหรอ?”

กับหลานชาย ไป๋หลินยวี่เองก็คิดถึงมาก ท่าทางเย็นชาของลู่จิ้นยวน ทำให้เธอไม่สบายใจ

“เด็ก……”

ลู่จิ้นยวนดับบุหรี่ในมือ เขายังไม่ได้ไปดูเด็กคนนั้นเลย เด็กคนนั้น ตั้งแต่ต้นเขาก็ไม่เคยรู้สึกชอบ ตอนนี้ แค่คิดว่าเป็นเพราะการมีอยู่ของเขา ทำให้เวินหนิงต้องเจอกับความลำบากมากขนาดนั้น แถมยังมีความเสี่ยงที่จะต้องเสียชีวิตไปอีก

เขาก็เลยพลอยเกลียดเด็กคนนั้นไปด้วย

บางที ถ้าไม่มีเขาล่ะก็ ก็อาจจะไม่มีเรื่องวุ่นวายแบบในตอนนี้ก็ได้

ลู่จิ้นยวนเข้าใจความโกรธเกลียดแบบนี้ แต่ก่อนที่จะเจอเวินหนิง เขานั้นได้ตัดสินใจ เขานั้นจะไม่ไปเจอเด็กคนนั้น

“แม่นั้นรักลูกของตัวเองมากใช่ไหมครับ?” อยู่ๆลู่จิ้นยวนก็พูดขึ้นมา “เวินหนิงจะต้องคิดถึงเขาใช่ไหม?”

“จะไม่คิดถึงได้ยังไง?”

ประโยคที่อยู่ๆก็ถูกโพล่งออกมา ทำให้ไป๋หลินยวี่ตอบกลับในทันที

ผู้ชายไม่มีทางที่จะเข้าใจความผูกพันธ์ที่ผู้หญิงมีต่อลูกหรอก

เพียงแต่ พอพูดออกมา ไป๋หลินยวี่ก็รู้ตัวว่านี่อาจจะเป็นกับดักของลู่จิ้นยวน

“ต่อให้เธอไม่อยู่แล้ว เธอก็ต้องมองเขาจากบนฟ้า”

พูดจบ ไป๋หลินยวี่ก็หนีไปด้วยความหวาดหวั่น

กับลู่จิ้นยวน เธอนั้นแก่กว่าตั้งยี่สิบกว่าปี แต่ว่าพอเถียงกัน กลับไม่ได้รับการออมมือเลยแม้แต่น้อย

เมื่อกี้อีกนิดก็เกือบจะแสดงพิรุธออกไปแล้ว โดนเขาจับอะไรได้

เห็นว่าไป๋หลินยวี่ออกไป หัวคิ้วของลู่จิ้นยวนก็ขมวดมุ่น เซ้นส์ของเขาไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง เมื่อกี้เขา มองเห็นความตกใจในดวงตาของเธอ

อย่างนั้น นั่นหมายถึงว่าเขานั้นทายถูกใช่ไหม?

คิดถึงตรงนี้ ลู่จิ้นยวนก็ไม่มีอารมณ์จะนอน มองแสงข้างนอกหน้าต่าง เหม่อลย

“ไม่รีบร้อน เวินหนิง ผมจะค่อยๆใช้เวลากับคุณที่นี่ ต้องมีสักวัน ที่คุณจะต้องปรากฎตัวขึ้น……”

เป็นช่วงที่ดึกมากแล้ว ลู่จิ้นยวนยังคงไม่รู้สึกง่วง เพียงนั่งเหม่อมองวิวภายนอกหน้าต่าง

อยู่ที่นี่ เขาสามารถมองเห็นสี่แยกที่เขาเคยอยู่ได้อย่างชัดเจน อยู่ๆ ในหัวของเขาก็มีภาพของผู้หญิงคนนั้นปรากฏออกมาบนหน้าต่าง

ในตอนนั้น เขามักจะมองเงาของร่างเธอแล้วเหม่อลอย ในตอนนั้นคิดว่าก็ไม่ได้เท่าไหร่ แต่ตอนนี้ กลับยากที่จะได้สัมผัสความสุขและความอบอุ่นนั้น

…….

เวินหนิงอยู่ในอีกประเทศที่ห่างไกล ก็ไม่ได้นับว่าชีวิตดีมากนัก

ข้อความสุดท้ายของไป๋หลินยวี่ เตือนเธอว่าอย่าปรากฎตัวออกมาอีก จะต้องซ่อนตัวให้ดี ห้ามโดนพบเด็ดขาด

นี่ก็หมายถึงว่า ลู่จิ้นยวนได้มาตามหาเธอแล้วจริงๆ

สำหรับเรื่องๆนี้ เวินหนิงพูดไม่ออกว่ามีความรู้สึกแบบไหน

ไม่ได้ซาบซึ้ง มากกว่านั้น คือความโกรธแค้นและตลก

ถ้าหากเป็นห่วงเธอขนาดนี้ อย่างนั้น ก่อนหน้านี้ไปทำอะไรอยู่?

ตอนนี้มาวุ่นวายกับครอบครัวของเธอ ตกลงแล้วหมายความยังไง?

แต่ว่า เรื่องๆนี้ ไม่มีใครบอกเธอ

เวินหนิงสามารถใช้ชีวิตได้เฉพาะในสถานที่ปลอดภัยที่เหอจื่ออันจัดเตรียมไว้ให้ ไม่สามารถติดต่อคนภายนอกได้ หมดหนทางที่จะคุยกับแม่

นานๆเข้า เธอก็พบว่าสภาพจิตใจของเธอแย่ขึ้นเรื่อยๆ

อาการอยากจะอาเจียนหรือคลื่นไส้ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก็เป็นบ่อยขึ้น เหมือนกับว่าอาหารที่เธอเพิ่งจะกินลงไป กระเพาะอาหารก็เหมือนจะมีความรู้สึกว่ารับเอาไว้ไม่ได้ ทำให้เธอต้องอ้วกทั้งหมดนั่นออกมา

เรื่องนี้ เธอไม่อยากจะให้เหอจื่ออันรู้ ตั้งแต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยแสดงออกมา

แต่ว่าจนแล้วจนรอด เหอจื่ออันก็รู้เข้าจนได้ หลังจากที่เวินหนิงคลอดลูก ทั้งๆที่ได้รับการดูแลที่เอาใจใส่ขนาดนั้น แต่กลับยิ่งผอมลงเรื่อยๆ ยิ่งดูอ่อนแอลงเรื่อยๆ

แม่คนอื่นหลังจากคลอดลูกก็มักจะอ้วนขึ้นอีกนิดหน่อย แต่เธอกลับผอมกว่าตอนก่อนจะคลอดเสียอีก ตอนแรกร่างกายก็ผอมบางอยู่แล้ว ตอนนี้ดูเหมือนแค่ลมพัดมา ก็ต้องเป็นห่วงว่าตัวเธอจะปลิวไปด้วยไหม

“เวินหนิง คุณไม่เป็นไรจริงๆเหรอ?”

สองสามวันมานี่เหอจื่ออัน ก็พยายามหาเวลามาอยู่เป็นเพื่อนเวินหนิง แต่ว่า เขาก็กังวลตลอดว่าลู่จิ้นยวนจะทำอะไรบางอย่าง ยังไงก็ต้องขัดขวางตั้งแต่ ก็เลยลำบากทั้งสองทาง

“ฉัน……ฉันไม่ได้เป็นอะไรนี่คะ! ฉันสบายดีค่ะ!” เวินหนิงพยายามแสดงออกมาว่าเธอเข้มแข็ง ไม่อยากให้เหอจื่ออันเป็นห่วง

แต่ว่าในเวลานี้ ความรู้สึกอยากจะอ้วกก็ตีรวนขึ้นมา เธอก็เลยต้องกุมหน้าท้องของตัวเอง

“คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?” หลังจากที่เหอจื่ออันเห็น ก็ทำอะไรไม่ถูก เวินหนิงกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับทนไม่ได้จนต้องวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ

เธอทนไม่ไหวแล้วจริงๆ

เหอจื่ออันเคาะประตู “เวินหนิง! เวินหนิง!”

ไม่มีคนตอบกลับมา หลังจากนั้น เขาก็ได้ยินเสียงของตกดังขึ้น ทันใดนั้นหัวใจของเขาก็ตกลงไปอยู่ตาตุ่ม เปิดประตูเข้าไปทันที

ถึงได้เห็นว่าเวินหนิงนอนสลบอยู่บนพื้น ใบหน้าขาวซีด หลังจากที่เวินหนิงอ้วกอาหารที่อยู่ในกระเพาะออกไปหมดแล้ว ก็เป็นลมไปในห้องน้ำ

เหอจื่ออันรีบตามหมอมาในทันที

“ร่างกายของคนไข้ฟื้นตัวได้ค่อนข้างดี แต่ว่า มีการขาดสารอาหารอย่างรุนแรง ถ้าเกิดเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าอาจจะมีผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ในครั้งถัดไป……”

“อย่างนั้น ตกลงเป็นเพราะเหตุผลอะไรครับ?”

“สรุปจากอาการต่างๆของเธอ คือภาวะซึมเศร้าหลังคลอดครับ”

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset