บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 291 เคราะห์ร้าย

เขาเป็นคนทำร้ายเวินหนิง?

เห่อจื่ออันไม่อยากไปคิดเรื่องนั้น แต่ว่า หัวเขาก็มีภาพเหตุการณ์ลอยเข้ามาไม่หยุด

ถ้าไม่ใช่เขาที่จะพาเวินหนิงไป ถ้าไม่ใช่เขาโทรศัพท์ตอนนั้น เธอก็อาจจะไม่เกิดเรื่อง……

เห่อจื่ออันนั่งลงกับพื้น มีแต่ความรู้สึกผิดครอบงำเขาไว้

ผ่านไปสักพัก ลู่จิ้นยวนก็สงบสติอารมณ์ได้ “ปล่อยมือ”

คนพวกนั้นค่อยยอมปล่อยมือ ลู่จิ้นยวนรีบเรียกทีมช่วยเหลือมา ตอนนี้เวลาสำคัญที่สุด เขารอไม่ได้แล้ว เวินหนิงยิ่งเสียเวลาไม่ได้อีก

จากนั้น ทีมช่วยเหลือจากต่างประเทศก็มาถึง แล้วเริ่มลงน้ำไปทีละคน

ฝนตกอีกครั้ง แต่ลู่จิ้นยวนก็ยังยืนอยู่ข้างริมแม่น้ำ รอข่าวจากทีมช่วยเหลือ

เห่อจื่ออันมองเห็นสีหน้าที่ตึงเครียดของเขา ในใจก็รู้สึกวุ่นวายไปกว่าเดิม

คำพูดที่ผู้ชายคนนี้เคยพูดไว้ ตอนนี้กลับเสียดสีเขามาก เขาบอกว่าเขาจะไม่มีวันทำร้ายเวินหนิงเด็ดขาด แต่ตอนนี้ คนที่ทำให้เธอตกอยู่ในอันตรายก็เป็นเขา

ถ้าเกิดอะไรกับเวินหนิง เขาจะตายสักร้อยครั้งก็ชดใช้ไม่ได้

เห่อจื่ออันเดินไปทีละก้าว เข้าไปหาลู่จิ้นยวน “ถ้าเธอตายจริงๆ จะทำยังไง?”

“ฉันเชื่อว่าเธอจะตาย เธอไม่มีทางตายแน่นอน”

ลู่จิ้นยวนไม่ได้กางร่ม หยดฝนก็ไหลลงมาจากเส้นผมของเขา แล้วไหลลงมาทั่วร่างกาย

เห่อจื่ออันไม่ได้พูดอะไรอีก ทั้งสองก็ยืนตากฝนแล้วรอข่าวอยู่อย่างนั้น

ผ่านไปนานมาก จนฟ้าเริ่มมืด ทุกอย่างก็เริ่มพร่ามัว ทีมช่วยเหลือก็ขึ้นมาบนฝั่ง “หาเจอแค่โครงกระดูก อาจจะ……”

“ไปหาอีก”

ลู่จิ้นยวนพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก มองไปที่เศษรถยนต์ที่ถูกชนจนเละ มองอยู่อย่างนั้นไม่กระพริบตาเลย

เหตุการณ์ความเป็นความตาย กี่วันนี้เขารู้ซึ้งแล้ว ทีแรกยังคิดว่าเวินหนิงยังมีชีวิตอยู่ ยังคิดว่าอีกหน่อยจะเริ่มต้นกับเธอยังไงดี จากนั้นก็เป็นอุบัติเหตุรถชนที่รุนแรง ตอนนี้ยังหาตัวเธอไม่เจอเลย

นี่เป็นเรื่องตลกที่สวรรค์กำลังเล่นกับพวกเขาหรอ?

ลู่จิ้นยวนไม่เชื่อโชคชะตา เพราะฉะนั้นเขายังคงหาต่อไป

“แต่ว่า ตอนนี้ฟ้ามืดแล้ว ถึงยังหาต่อ……”

“ผมพูดแล้วไง หาต่อ”

ลู่จิ้นยวนเอ่ยพูดเยือกเย็น เหมือนทุ่มทุกอย่างให้กับความเป็นไปได้นี้ แล้วแฝงไปด้วยความบ้าระห่ำด้วย

ทีมช่วยเหลือมาที่นี่ ก็ถือว่าได้เงินก้อนอยู่ก่อนแล้ว พอเห็นว่าลู่จิ้นยวนยืนยันแบบนี้ พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องลงไปงมหาต่อ

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จนถึงกลางดึก

ร่างกายของลู่จิ้นยวนถูกน้ำฝนสาดจนอุณหภูมิในร่างกายหายไปแล้ว ทุกอย่างตรงหน้าก็เริ่มพร่ามัว

แต่ผู้ชายคนนี้เหมือนไม่คิดที่จะหลบฝนเลย ยืนอยู่อย่างนั้นเหมือนรูปปั้นที่ติดอยู่กับพื้น

เขากำลังจับตาดูคนพวกนี้ แล้วกำลังลงโทษตัวเองด้วย

เขาอดคิดไม่ได้ว่า เป็นเพราะเขาบีบบังคับเกินไป ถ้าเขาไม่ใจร้อนขนาดนั้น แล้วบังคับให้เวินหนิงกลับมาอยู่ข้างกายเขา เธอก็ไม่จำเป็นต้องหนี ก็จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ด้วย

ความคิดต่างๆตีกันในหัว จนลู่จิ้นยวนทำให้รู้สึกปวดหัว สุดท้ายร่างกายของเขาก็เริ่มเซ ดูเหมือนว่าจะทนรับกับความทุกข์ทรมานแบบนี้ไม่ได้ จากนั้นล้มลงไป

ยังโชคดีที่มีคนยืนอยู่ข้างๆเห็นว่าเขาจะล้ม ก็รีบพยุงตัวเขาไว้ ผิวกายก็เย็นเฉียบ เพื่อที่จะไม่ให้เกิดปัญหาอะไรตามมา ลู่จิ้นยวนก็ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลทันที

……

ลู่จิ้นยวนตื่นมาในห้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล

เขาลืมตาขึ้น ก็เห็นเพดานสีขาว สีแบบนั้นเหมือนสีบนสวรรค์ ดูสะอาดบริสุทธิ์มาก

มีวินาทีหนึ่ง เขาคิดว่าตัวเองตายไปแล้ว ตายไปพร้อมกับผู้หญิงที่หายตัวไปคนนั้น

“จิ้นยวน ลูกอย่าทำให้แม่ตกใจ”

เย่หวานจิ้งเฝ้าอยู่ข้างเตียง พอเห็นลู่จิ้นยวนลืมตาขึ้น ก็รีบมาหา ตาทั้งสองข้างของท่านร้องไห้ทั้งคืนจนตอนนี้บวมแดงมาก

ท่าทางลู่จิ้นยวนนอนสลบอยู่บนเตียงคนไข้ ทำให้ท่านนึกถึงเมื่อสามปีก่อน ตอนที่เขายังนอนสลบอยู่บนเตียง ครั้งนี้ ทำให้ท่านรู้สึกกลัวมากกว่าตอนนั้น

ตอนที่ลู่จิ้นยวนถูกส่งตัวมาโรงพยาบาล สีหน้าซีดขาวมาก ร่างกายไม่มีอุณหภูมิหลงเหลืออยู่เลย นี่ก็เป็นบทลงโทษที่เขาให้กับตัวเอง

“หาเจอหรือยังครับ?”

ลู่จิ้นยวนลืมตาขึ้นก็เอ่ยพูดอย่างเรียบนิ่ง ดูเหมือนว่ามองไม่เห็นความเสียใจของเย่หวานจิ้งอย่างนั้น

“ยัง ขนาดนั้นแล้ว จะหาเจอได้ยังไง?”

เย่หวานจิ้งไม่ต้องเดาก็รู้ว่าลูกชายตัวเองลืมตาขึ้นมาแล้วกำลังเป็นห่วงใคร

ผู้หญิงคนนั้น ทั้งๆที่เธอตกลงที่จะแกล้งตายแล้ว ทั้งๆที่สัญญาแล้วว่าจะไม่โผล่มาต่อหน้าลูกชายท่านอีก ทำไมถึงกลับคำล่ะ?

“แล้วปลายแม่น้ำล่ะ? มีคนไปเฝ้าหรือยังครับ?”

ลู่จิ้นยวนคิดไปด้วย ก็รีบลุกขึ้น น้ำในแม่น้ำตอนนี้คงถึงเย็นมาก ร่างกายอ่อนแอขนาดนั้น จะทนรับได้ยังไง?

“แกยังจะนึกถึงเธอทำไม? แกเป็นห่วงร่างกายตัวเองหน่อยไม่ได้หรอ? อย่าทำให้ฉันคิดมากเพราะแกไม่ได้หรอ?”

เย่หวานจิ้งรีบกดตัวลู่จิ้นยวนลงบนเตียง ตอนนี้ไข้ของเขายังขึ้นสูง ถ้าจะลงจากเตียง คงไม่อยากได้ร่างกายของตัวเองแล้วสินะ

“คุณแม่ คุณแม่รู้ใช่ไหมครับ?”

ลู่จิ้นยวนรู้สึกหมดแรงแล้วถูกกดอยู่อย่างนั้น เขาไม่ได้ดิ้นรน เขาไม่ได้ทำอะไรอีก แต่กลับทอดมองไปที่เย่หวานจิ้งที่ยืนอยู่ข้างเตียง

ตอนที่เวินหนิงคลอด คนที่รู้ดีที่สุดก็เป็นเย่หวานจิ้ง ท่านก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าความจริงที่ว่าเวินหนิงตายหรือเปล่า

แต่ว่า เพื่อที่เขาจะได้ทำตามในสิ่งที่ท่านหวัง จึงปิดบังแบบนี้มาโดยตลอด

“แม่……”

เย่หวานจิ้งลังเลไป แล้วพูดติดๆขัดๆ “ที่แม่ก็ทำเพื่อลูก”

“เสียดาย ผมรับไว้ไม่ได้”

ลู่จิ้นยวนได้ยินคำพูดของเย่หวานจิ้งก็ไม่รู้สึกแปลกใจเลย แต่สุดท้าย ก็แค่รู้สึกว่าเหนื่อยมาก เป็นความเหนื่อยที่ออกมาจากใจจริง

ไม่ว่าเมื่อไหร่ ไม่ว่าท่านจะทำอะไร คุณแม่ก็จะใช้คำว่าทำเพื่อลูก แล้วไม่ให้เขาตอบโต้ ดูเหมือนว่าถ้าไม่ทำตามในสิ่งที่คาดหวังก็จะเป็นลูกอกตัญญูอย่างนั้น

“แต่แม่……ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องกับเธอ”

เย่หวานจิ้งรู้สึกกลัว ถ้าอารมณ์ของลู่จิ้นยวนเดือดแล้วทะเลาะกับตัวเอง ท่านก็อาจจะไม่กังวลขนาดนี้ แต่ตอนนี้ มองเห็นลูกชายตัวเองนิ่งเงียบมาก ก็ทำให้ท่านรู้สึกกลัว

ดูเหมือนว่ามีอะไรบางอย่าง กำลังค่อยๆคืบคลานออกมาจากความเงียบ

“เวินหนิงพูดถูก สำหรับเธอ ตระกูลลู่เป็นเคราะห์ร้าย ทำให้เธอเข้าคุก ทำให้เธอเกือบตายหลังคอด แล้วยังทำให้เธอเสียลูกตัวเองไปด้วย……”

“ตอนนี้ ยังจะเอาชีวิตของเธอไปอีก ตระกูลลู่ ติดค้างเธอเยอะมาก”

“จิ้นยวน ลูกอย่าทำแบบนี้ ลูกเป็นแบบนี้ แม่เป็นห่วง แม่กลัวด้วย”

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset