บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 32 ถือว่าฉันขอร้อง

เหอจื่ออันอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนเขาจะนึกขึ้นได้ จากนั้นก็กระแอม จิบน้ำเพื่อลดความประหม่า

เนื่องจากทั้งสองคุยกันอย่างเก่กังๆ จากนั้นเหอจื่ออันก็ได้รับการติดต่อให้ออกไปข้างนอก เวินหนิงก็ถือโอกาสลุกขึ้นเพื่อจากไป

“ฉันจะไปส่งคุณเอง” เหอจื่ออันหยิบกุญแจรถพร้อมเสนอเพื่อที่จะส่งเธอกลับบ้าน

เวินหนิงส่ายหัว “คุณมีสิ่งที่ต้องทำ ไม่ต้องไปส่งฉันหรอกค่ะ”

นอกจากนี้ เธอไม่ต้องการให้รู้ว่า เธออาศัยอยู่ในบ้านของลู่จิ้นยวนด้วยเพราะมันจะอธิบายค่อนข้างยาก

เหอจื่ออันเห็นเธอเก็บของอย่างรวดเร็วแล้วหันกลับมากล่าวอำลา ผู้หญิงอย่างเวินหนิงที่ไม่ถ่อมตัวหรือเอาแต่ใจนั้นสำหรับเขานั้นหายาก

เขาค่อนข้างอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับเธอ

เวินหนิงรอรถประจำทางที่ป้ายรถเมล์ สักพักรถสปอร์ตคันหรูก็มาหยุดตรงหน้าเธอ “มาเถอะ ฉันไม่รีบ ไม่รู้ว่าเธอต้องรออีกนานแค่ไหน”

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวรถก็มาแล้ว คุณไปทำงานของคุณเถอะค่ะ”

เมื่อเห็นเธอยืน เหอจื่ออันก็ลงจากรถ คว้าข้อมือเวินหนิงบังคับให้เธอขึ้นรถ “ มันผิดหลักการของฉันที่เติบโตมาโดยไม่ไปส่งผู้หญิงกลับบ้านน่ะสิ ไปเถอะ ฉันไปส่งคุณ……”

“ปี๊นนนน”

ระหว่างที่เขากับลังดึงอีกคน ก็มีเสียงบีบแตรรถทำให้เหอจื่ออันหยุด

เหอจื่ออันขมวดคิ้วและมองไปเห็นรถสปอร์ตที่โฉบเฉี่ยวกว่าที่เขาขับในวันนี้มาจอดอยู่ตรงหน้าเขา

Rolls-Royce Phantom Global Limited Edition ในเมืองเจียงคงมีไม่กี่คัน แต่ฉันไม่คิดว่าจะได้พบที่นี่

เวินหนิงก็สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงที่บีบแตรดังมา เธอหันหน้าไปมองคนที่นั่งคนขับ พลันก็ตกใจกลัว

ลู่จิ้นยวน?

เขามาที่นี่ได้ยังไง?

ท่าทางลุกลี้ลุกลนของเวินหนิงตกอยู่ในสายตาของลู่จิ้นยวนและคงมีเพียงไม่กี่คำเท่านั้นที่สามารถอธิบายได้ นั่นคือความรู้สึกผิด

เขาลดหน้าต่างลงด้วยใบหน้านิ่ง “ขอโทษที รถของคุณดูเหมือนจะจอดในที่ที่ไม่ควรอยู่”

เหอจื่ออันขมวดคิ้วเมื่อเห็นลู่จิ้นยวน ดวงตาของเขาฉายแววไม่พอใจเมื่อเห็นพฤติกรรมนี้ที่ไม่ไว้หน้าเขาต่อหน้าผู้หญิง

ลู่จิ้นยวนและเขากำลังพยักหน้าให้ ทั้งสองคนรู้จักและเคยพบกันหลายครั้ง

“ไปเถอะ ฉันจะส่งคุณกลับเอง”

แน่นอนว่าเวินหนิงยิ่งไม่อยากขึ้นรถ ดวงตาของลู่จิ้นยวนหยุดที่เธอ ราวกับมีดที่คอยทิ่งแทง “ไม่ดีกว่าค่ะ คุณรีบไปเถอะค่ะ”

เมื่อเห็นคนทั้งสองยังชักช้า ลู่จิ้นยวนก็พูดอย่างเย็นชา “คุณ คนอื่นไม่เต็มใจแล้วทำไมคุณดื้อดึง?”

ตอนนี้เหอจื่ออันเริ่มชักสีหน้าเล็กน้อย “ตอนนี้ฉันขับรถไปด้านหลัง เวินหนิงรอฉันแปปนะ”

หลังจากพูดจบเหอจื่ออันก็เคลื่อนรถออกไป แต่จากนั้นลู่จิ้นยวนก็เหยียบคันเร่งชนรถอีกคัน

“นี่คุณบ้าไปแล้วเหรอ?” เวินหนิงผงะ แม้ว่าจะไม่มีมีใครเป็นอะไร แต่รถสองคันนี้ก็เป็นรถหรู ชนนิดเดียวคงหมดไปหลายหมื่น

เห็นได้ชัดว่าเหอจื่ออันไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ เขาลงจากรถ ขมวดคิ้วมองไปยังตำแหน่งที่โดนชน ลู่จินหยวนพูดอย่างเย็นชาว่า “ชนแค่เล็กน้อย แต่คนที่คุณเหอไม่ควรเข้าใกล้นี่สิเรื่องใหญ่ ”

เหอจื่ออันที่ได้อย่างนั้นก็ถาม “คุณหมายความว่ายังไง”

เวินหนิงใบหน้าเริ่มซีด เธอไม่ต้องการให้ลู่จิ้นยวนพูดอะไรที่ไม่ดีต่อหน้าเหอจื่ออัน

เธอไม่ต้องการคนที่ยอมรับเธอให้กำลังใจเธอมาเกลียดตัวเองแบบนี้

“คุณ คุณรีบไปเถอะค่ะ!”

เวินหนิงดึงเสื้อเหอจื่ออันให้รับไป ไม่หวังว่าเขารอฟังต่อ

“ความหมายก็คือ … ” ยิ่งเห็นท่าทางและใบหน้าที่เป็นกังวลของเวินหนิง ลู่จิ้นยวนก็รู้สึกหงุดหงิดมากขึ้น

เธอจะกังวลเรื่องอะไร? เพราะกลัวว่าเขาจะบอกความจริง ทำให้ผู้ชายที่หามาเกลียดเธองั้นเหรอ?

หน้าด้านจริงๆ

“บางคนดูเหมือนจะไร้เดียงสา ไม่เป็นอันตราย แต่ก็ไม่รู้ว่าในใจของพวกเขาสกปรกแค่ไหน ฉันแค่อยากจะแนะนำคุณเหอว่าอย่าหลงกลจะดีกว่า”

เสียงของลู่จิ้นยวนเหมือนจะดูราบเรียบ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่สำหรับเวินหนิงมันน่ากลัว

ในเวลานี้ไม่ว่าเหอจื่ออันจะรู้สึกยังไง เต่เขารู้ว่าลู่จิ้นยวนหมายถึงอะไร โดยเฉพาะเมื่อเขาเห็นสีหน้าของเหวินหนิงเขาก็เข้าใจทั้งหมดในคราวเดียว

เมื่อมองไปที่ไหล่ที่สั่นเทาของเวินหนิง เหอจื่ออันก็มีความคิดที่อยากจะปกป้องเธอ “ฉันคิดว่า ถ้าอยากเข้าใจคนๆนึง ก็ต้องเข้าหาด้วยตัวเอง คุณลู่เอาคำพูดนั้นไปบอกคนอื่นเถอะครับ”

ลู่จิ้นยวนมองไปที่เวินหนิงที่ผู้ชายอีกคนกำลังช่วย ดวงตาของเขาหรี่ลง “เป็นงั้นใช่มั้ย?”

เสียงของลู่จิ้นยวนกดต่ำลงอย่างจงใจและเวินหนิง รับรู้ได้ถึงความโกรธของเขา ถ้ายิ่งโกรธชายคนนี้คงไม่ไว้หน้าแน่

เวินหนิงกระซิบกับเหอจื่ออันเบาๆ “คุณเหอคะ คุณไปก่อนเถอะค่ะ…ถือว่าฉันขอร้อง”

เหอจื่ออันไม่ได้ต้องการจากไป แต่เมื่อเขาหันไปเขาก็เห็นแววตาของเวินหนิงที่ทำอะไรไม่ถูก นั่นทำหัวใจของเขาก็อ่อนยวบ “ คุณไม่เป็นไรจริงๆเหรอ?”

เวินหนิงพยักหน้าให้ และในที่สุดเหอจื่ออันก็กลับเข้าไปในรถด้วยความโกรธ

เมื่อลู่จิ้นยวนเห็นเขาจากไป แต่ความโกรธก็ยังไม่จางหายไป

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเวินหนิงมองไปที่เหอจื่ออัน เขาไม่พอใจมากขึ้นและเหยียบคันเร่ง

เวินหนิงเหลือบเห็นเงารถสีฟ้าแล่นผ่านมาด้วยความเร็ว ก็ตกใจและถอยหลังเพื่อหลีกเลี่ยง

เธอเกือบถูกรถชนแล้วนะ!

เวินหนิงรู้สึกว่าขาของเธออ่อนแรง เธอรู้สึกหวาดกลัวที่เห็นรถพุ่งเข้ามา

จะมีใครบ้าได้ขนาดนี้กัน?

เวินหนิงที่นั่งพักที่ป้ายรถเมล์สักพัก ไม่นานเธอก็มีรถบัสที่จะไปถึงบ้านของตระกูลลู่

……

เวินหนิงเหลือบมองไปที่โรงรถ ก็ยังไม่เห็นรถคันนั้น ลู่จิ้นยวนคงจัยังไม่กลับมา

เมื่อเห็นเธอ เซี่ยเหลียนก็ยิ้มอย่างขบขัน “คุณผู้หญิงกลับมาแล้วเหรอคะ คุณผู้ชายดูเหมือนโกรธทุกอย่างที่คุณทำเลยนะคะ”

เวินหนิงเหลือบมองอีกคน เห็นแววตาของเธอ เซี่ยเหลียนคนนี้สุภาพกับเธอมาตลอด ทำไมเธอถึงไม่ยอมปล่อยเธอไป ทำให้เรื่องถึงทำเรื่องให้มันยุ่งยากด้วย?

“หึ วันหนึ่งคุณผู้ชายคงได้ธาตุแท้ของคุณแล้วไล่คุณออกไป” เมื่อเห็นว่าเวินหนิงโต้เถียง เซี่ยเหลียนก็พูดต่อ

“เธอคิดว่า ถ้าฉันออกไป เธอจะสามารถขึ้นมาแทนที่ฉันได้เหรอ” เวินหนิงมองการกระทำ และเหมือนจะสังเกตเห็นบางอย่าง

เป็นไปได้ไหม ว่าที่เธอเป็นแบบนี้เพราะรู้สึกดีกับลู่จิ้นยวน?

“คุณ! คุณกำลังพูดถึงอะไร”

เมื่อเห็นเซี่ยเหลียนโมโห เวินหนิงก็ยืนยันได้ทันที

ไม่ว่ายังไง เวินหนิงก็คิดว่า ลู่จิ้นยวนคงไม่แต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่คู่ควรหรอก

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset