บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 396 อุบายเจ็บกาย

“ คุณผู้หญิงเย่คนนี้ ก่อนหน้านั้นถูกบริษัทส่งไปดูงานที่ต่างประเทศช่วงหนึ่ง สองสามวันก่อนเพิ่งกลับมาครับ ”

ในที่สุดก็ได้ยินข่าวดีเรื่องหนึ่ง อารมณ์หงุดหงิดของโม่เทียนยวี๋ค่อยคลายลงมาหน่อย “งั้น ยังต้องรออะไรอีก ทำตามแผนที่วางไว้”

“ครับ คุณชาย.”

โรงพยาบาลเจียงเฉิง

โม่เทียนยวี๋นอนอยู่ที่ห้องผู้ป่วยวีไอพี โดยมีพ่อบ้านยืนอยู่ข้างๆ ในมือของพ่อบ้านนั้นถือโทรศัพท์มือถือของผู้หญิงคนหนึ่งไว้ โทรศัพท์มือถือเครื่องนี้ กว่าจะให้คนไปขโมยมันมาจากเย่ซือเยวี่ยโดยที่ไม่ให้เธอรู้ตัว

เขาตั้งใจว่าจะใช้อุบายเจ็บกาย แน่นอนว่า อย่างแรกต้องให้โม่โยวปรากฏตัวก่อน

ไม่ใช่ว่าโม่เทียนยวี๋จะไม่เคยลองใช้เบอร์โทรศัพท์มือถืออื่นโทรหาโม่โยวมาก่อน แต่เขาไม่สามารถติดต่อได้เลย ทำให้เขาสงสัยว่าลับหลังเขาผู้หญิงคนนี้จะต้องเปลี่ยนเบอร์ไปแล้วแน่ๆ

ไม่มีทางอื่นแล้วจริงๆ ถึงได้ออกอุบายนี้

หลังจากที่ได้โทรศัพท์มือถือของเย่ซือเยวี่ยมาดูแล้ว ถึงได้รู้ว่าเธอยังไม่ได้เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์

ฝั่งของโม่โยวนั้นรับสายอย่างรวดเร็ว ยังมีเสียงหัวเราะดังออกมา ” ซือเยวี่ย มีอะไรรึเปล่า”

โม่เทียนยวี๋ที่พิงอยู่บนเตียงผู้ป่วยนั้น สีหน้าคับแค้นใจ หายใจหนักหน่วง ไอ้หญิงบ้า ที่แท้มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่ไม่สามารถติดต่อเธอได้

พ่อบ้านรับโทรศัพท์ และเริ่มแสดงตามแผนที่ได้จัดเตรียมไว้ล่วงหน้า น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล

” คุณโม่ครับ เป็นลุงฉินเองครับ”

โม่โยวที่อยู่บ้านรู้สึกประหลาดใจมาก เธอเหลือบตามองที่เบอร์โทรผู้โทรอีกครั้ง ขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ” ลุงฉิน ทำไมถึงเป็นคุณลุงคะ นี่ไม่ใช่โทรศัพย์ของซือเยวี่ยหรอกเหรอ ”

พ่อบ้านฉินข้ามคำถามข้อนี้ไปเลย ยิงตรงเข้าเรื่องเลย ” คุณโม่ครับ คุณชายอยู่ที่โรงพยาบาลครับ จะตายแล้วครับ คุณมีเวลารีบมาดูใจคุณชายหน่อยนะครับ ”

โม่โยวยิ่งประหลาดใจกันไปใหญ่ ” เดี๋ยวก่อนนะคะลุงฉิน คุณชายยวี๋เป็นอะไรนะคะ ”

” นี่ไม่ใช่คำสองคำก็สามารถพูดชัดเจนได้ครับ อย่างไรก็ตามคุณชายเกิดเรื่องแล้วครับ ถูกคนทำร้ายจนอาการสาหัสเลยครับ พักอยู่ที่ห้องผู้ป่วยหนักมานานหลายวันอาการพึ่งจะคงที่ครับ”

” คุณโม่ครับ ไม่ว่าระหว่างคุณกับคุณชายจะมีเรื่องอะไรขัดแย้งกัน แต่ว่าในใจของคุณชายยังเป็นห่วงคุณตลอด ถือว่าลุงฉินขอร้องนะครับ มาเยี่ยมคุณชายฉินหน่อยนะครับ ”

โม่โยว “… ”

หลังจากที่เธอวางสายโทรศัพท์ หัวใจเธอสับสนไปหมด จู่ๆเธอก็รู้สึกงุนงง ถ้าไม่ใช่เพราะสายโทรศัพย์นี้ เธอดูเหมือน … ไม่ได้คิดถึงโม่เทียนยวี๋มานานแล้ว ราวกับว่าไม่มีคนคนนี้อยู่บนโลก

เมื่อคิดแบบนี้ โม่โยวอดรู้สึกผิดเล็กน้อยไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ในช่วงห้าปีที่ตัวเองสูญเสียความทรงจำ โม่เทียนยวี๋ได้ให้ความช่วยเหลือและดูแลเธอไม่น้อยเลย สามารถพูดได้ว่า ถ้าไม่มีโม่เทียนยวี๋ ตอนนี้ตัวเองจะเป็นยังไงก็ไม่รู้

ตอนนี้มาลองคิดดูแล้ว หลังจากที่โม่เทียนยวี๋ขอเธอแต่งงาน ดูเหมือนว่าเขาก็ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เป็นเพราะได้รับบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเหรอ

ไม่ว่า ระหว่างตัวเองกับโม่เทียนยวี๋นั้นจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันหรือไม่ โม่เทียนยวี๋ได้รับบาดเจ็บ เธอก็ควรไปเยี่ยมเขาหน่อย ดูสิว่าเขามีอะไรที่ต้องการให้เธอช่วยเหลือหรือเปล่า

วันถัดไป.

วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์พอดี และไม่จำเป็นต้องลางาน โม่โยวมีเรื่องไม่สบายใจ เลยตื่นขึ้นมาแต่เช้าซื้ออาหารเสริมแล้วตรงไปที่โรงพยาบาลทันที

เป็นผลให้ลู่อันหรานที่หยุดเรียนเหมือนกัน เสียเวลาเปล่า

ลู่อันหรานเห็นประตูที่ปิดอยู่ งงเลย กำลังจะเซอร์ไพรส์ให้แม่ซะหน่อย ขมวดคิ้วเล็กของเขาขึ้นมา

บอดี้การ์ดลุ่อีเห็นแบบนี้ พูดอย่างคลุมเครือ ” ต้องการตรวจเช็คการเดินทางของคุณโม่ไหมครับ”

ลู่อันหรานกระพริบตาแล้วพยักหน้าทันที ” ต้องการ รีบตรวจเลย”

ลู่อีพยักหน้า หันหลังลงไปชั้นล่าง

เขาไม่จำเป็นต้องตรวจเช็คเลย ก็แค่ติดต่อกับเพื่อนร่วมงานของโม่โยวสองสามคนก็รู้แล้ว

แน่นอนว่า ข้างกายของโม่โยวนั้นมีบอดี้การ์ดอยู่ ไม่เพียงแต่โม่โยวไม่รู้ แม้แต่ลู่อันหรานก็ไม่รู้ ดังนั้นการตรวจเช็คนี้ จำเป็นต้องหลบๆหน่อย

ลู่อีกลับมาเร็วมาก สีหน้ายุ่งเหยิงเล็กน้อย

“อยู่ที่ไหน” ลู่อันหรานถาม

” อยู่ที่โรงพยาบาลเจียงเฉิงครับ ”

“ อะไรนะ โรงพยาบาล แม่ไม่สบายหรือเปล่า ” จู่ๆลู่อันหรานก็เป็นห่วงขึ้นมาอย่างร้อนรนใจ

ลู่อีกระตุกมุมปาก ” คุณชายน้อยไม่ต้องเป็นห่วงครับ ดูเหมือนว่าคุณโม่จะไปเยี่ยมผู้ป่วยครับ ”

ลู่อันหรานถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วพูดอย่างเป็นกันเองว่า “โอ้ เยี่ยมใคร”

“ โม่เทียนยวี๋”

ลู่อันหราน “… ”

ลู่อันหรานคาดคิดไม่ถึงมาก่อนว่า สิ่งที่ตัวเองได้ยินนั้นจะป็นชื่อนี้ ใบหน้าที่ขาวเนียนและอ่อนโยนแข่งทื่อขึ้นมาทันที จากนั้นค่อยๆบิดเบี้ยวขึ้นมา

โม่เทียนยวี๋

ในสมองเล็ก ๆ ของเขา ใบหน้าของบุคคลนั้นก็ปรากฏขึ้น ยังมีรอยยิ้มเยาะเย้ยและคิ้วที่โด่ง ให้ตายสิ ทำไมคนคนนี้ยังกล้ามาวุ่นวายแถวนี้ ตัวเองเกือบจะลืมคนคนนี้ไปแล้ว แล้วทำไมตอนนี้ยังออกมาหลอกหลอนคนแบบนี้

ลู่อีเห็นการแสดงออกของนายน้อยของตัวเอง ก็รู้ได้อย่างชัดเจน เมื่อคิดถึงตอนที่เขาติดต่อไปหาเพื่อนร่วมงานของโม่โยว น้ำเสียงของคนฝั่งโน้นพูดอย่างตื่นตระหนก

คิดๆดูแล้วก็ใช่ เจ้านายนั้นพยายามหาร้อยพันวิธีเพื่อกีดขวางคนตระกูลโม่คนนี้ แต่คิดไม่ถึงว่าพวกเขาก็เจอหน้ากันจนได้ ยังเป็นที่โรงพยาบาลอีก

เขายังสามารถจินตนาการได้เลยว่า หลังจากที่เจ้านายรู้เรื่องนี้ สีหน้าจะน่าเกลียดเพียงใด ความเยื่อกเย็นในตัวของเจ้านายนั้นน่ากล้วแค่ไหน ใจนั้นรู้สึกเป็นห่วงคนพวกนั้นขึ้นมาทันที

“หืม ไปกันเถอะ ไม่ว่าจะยังไงในฐานะคนเคยรู้จัก ในเมื่อเขาเข้าโรงพยาบาล พวกเราก็ไปเยี่ยมเขาหน่อย “ลู่อันหรานพูดด้วยใบหน้าที่เย็นชา

ลู่จิ้นยวนก็ได้รับข่าวทันที ในขณะนี้เขากำลังประชุมทางวิดีโอคอลอยู่ ฟังการรายงานจากผู้จัดการแผนกต่างๆที่สำนักงานใหญ่

เมื่อเห็นข้อความนี้ ใบหน้านั้นมืดลงทันทีแทบจะสามารถบีบออกมาเป็นหยดน้ำหมึกได้แล้ว จนทำให้ผู้จัดการฝ่ายขายที่กำลังพูดอยู่ในวิดีโอคอลกลัวแทบจะกัดโดนลิ้นตัวเอง เหงื่อเย็นๆก็ไหลออกมาทันที

ผู้จัดการฝ่ายขายยังคงไตร่ตรองอยู่ในใจว่า ท่านประธานเป็นอะไร

หรือว่าไม่พอใจกับยอดขายในช่วงครึ่งปีแรก แต่ทั้งๆที่ยอดขายเพิ่มขึ้นถึงศูนย์จุดห้า ก่อนประชุมนั้นเขายังค่อนข้างที่จะภูมิใจอยู่ แต่คิดไม่ถึง ขนาดศูนย์จุดห้าท่านประธานก็ยังรู้สึกไม่พอใจ

ผู้จัดการฝ่ายขายอดไม่ได้ที่จะน้ำตาหลั่ง

“ช่วยสรุปเนื้อหาที่ประชุมวันนี้เป็นอีเมลแล้วส่งให้ฉัน” หลังจากที่ลู่จิ้นยวนพูดท้ายไปอย่างนั้น ก็ทำการตัดสายวิดีโอคอลทันที

อันเฉินที่อยู่ด้านข้างก็ประหลาดใจเช่นกัน” โม่เทียนยวี๋เข้าโรงพยาบาลเหรอ แต่เขาติดต่อกับคุณโม่ได้อย่างไร ประธานลู่ ต้องการให้ผมตรวจสอบดูไหมครับ ”

ต้องตรวจสอบอยู่แล้ว

ลู่จิ้นยวนพยักหน้า ” เรียกดูกล้องวงจรปิดที่อยู่ในห้องผู้ป่วยของเขาออกมาหน่อย “คำพูดประโยคนี้ พูดออกมาง่ายเหมือนกับดื่มน้ำกินข้าวอย่างงััน แน่นอนว่าสำหรับเขามันง่ายมาก

หลังจากที่อันเฉินได้สื่อสารกับใต้บังคับบัญชาขอเขาไม่กี่คำ ก็ได้ยื่นแท็บเล็ตออกไปให้ ” นายน้อยก็ทราบรู้แล้วครับ กำลังเดินทางไปโรงพยาบาลครับ ”

ลู่จิ้นยวนเลิกคิ้ว ความรู้สึกอึดอัดคลายลงเล็กน้อย ลูกชายของบ้านตัวเองก็ไปแล้ว แบบนี้ก็ต้องมีเรื่องสนุกๆแน่นอน

ภายในห้องผู้ป่วยโรงพยาบาล.

โม่โยวถือของเยี่ยมขึ้นไป ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็ต้องตกใจกับใบหน้าของโม่เทียนยวี๋มาก

“โม่โยว คุณมาแล้วเหรอ ”

โม่เทียนยวี๋มองไปที่เธอ แล้วทำเป็นไอออกมาสองสามทีอย่างไม่มีแรง แล้วทักทายเธออย่างอ่อนแรง ลุงฉินที่อยู่ข้างๆได้เข้ามารับของในมือเธอ แล้วยังได้เลื่อนเก้าอี้ให้เธอนี่ง

ใบหน้าของโม่เทียนยวี๋นั้น ทำให้คนที่เห็นรู้สึกว่าอาการหนักไม่เปล่าจริงๆ

“ คุณผู้หญิงเย่คนนี้ ก่อนหน้านั้นถูกบริษัทส่งไปดูงานที่ต่างประเทศช่วงหนึ่ง สองสามวันก่อนเพิ่งกลับมาครับ ”

ในที่สุดก็ได้ยินข่าวดีเรื่องหนึ่ง อารมณ์หงุดหงิดของโม่เทียนยวี๋ค่อยคลายลงมาหน่อย “งั้น ยังต้องรออะไรอีก ทำตามแผนที่วางไว้”

“ครับ คุณชาย.”

โรงพยาบาลเจียงเฉิง

โม่เทียนยวี๋นอนอยู่ที่ห้องผู้ป่วยวีไอพี โดยมีพ่อบ้านยืนอยู่ข้างๆ ในมือของพ่อบ้านนั้นถือโทรศัพท์มือถือของผู้หญิงคนหนึ่งไว้ โทรศัพท์มือถือเครื่องนี้ กว่าจะให้คนไปขโมยมันมาจากเย่ซือเยวี่ยโดยที่ไม่ให้เธอรู้ตัว

เขาตั้งใจว่าจะใช้อุบายเจ็บกาย แน่นอนว่า อย่างแรกต้องให้โม่โยวปรากฏตัวก่อน

ไม่ใช่ว่าโม่เทียนยวี๋จะไม่เคยลองใช้เบอร์โทรศัพท์มือถืออื่นโทรหาโม่โยวมาก่อน แต่เขาไม่สามารถติดต่อได้เลย ทำให้เขาสงสัยว่าลับหลังเขาผู้หญิงคนนี้จะต้องเปลี่ยนเบอร์ไปแล้วแน่ๆ

ไม่มีทางอื่นแล้วจริงๆ ถึงได้ออกอุบายนี้

หลังจากที่ได้โทรศัพท์มือถือของเย่ซือเยวี่ยมาดูแล้ว ถึงได้รู้ว่าเธอยังไม่ได้เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์

ฝั่งของโม่โยวนั้นรับสายอย่างรวดเร็ว ยังมีเสียงหัวเราะดังออกมา ” ซือเยวี่ย มีอะไรรึเปล่า”

โม่เทียนยวี๋ที่พิงอยู่บนเตียงผู้ป่วยนั้น สีหน้าคับแค้นใจ หายใจหนักหน่วง ไอ้หญิงบ้า ที่แท้มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่ไม่สามารถติดต่อเธอได้

พ่อบ้านรับโทรศัพท์ และเริ่มแสดงตามแผนที่ได้จัดเตรียมไว้ล่วงหน้า น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล

” คุณโม่ครับ เป็นลุงฉินเองครับ”

โม่โยวที่อยู่บ้านรู้สึกประหลาดใจมาก เธอเหลือบตามองที่เบอร์โทรผู้โทรอีกครั้ง ขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ” ลุงฉิน ทำไมถึงเป็นคุณลุงคะ นี่ไม่ใช่โทรศัพย์ของซือเยวี่ยหรอกเหรอ ”

พ่อบ้านฉินข้ามคำถามข้อนี้ไปเลย ยิงตรงเข้าเรื่องเลย ” คุณโม่ครับ คุณชายอยู่ที่โรงพยาบาลครับ จะตายแล้วครับ คุณมีเวลารีบมาดูใจคุณชายหน่อยนะครับ ”

โม่โยวยิ่งประหลาดใจกันไปใหญ่ ” เดี๋ยวก่อนนะคะลุงฉิน คุณชายยวี๋เป็นอะไรนะคะ ”

” นี่ไม่ใช่คำสองคำก็สามารถพูดชัดเจนได้ครับ อย่างไรก็ตามคุณชายเกิดเรื่องแล้วครับ ถูกคนทำร้ายจนอาการสาหัสเลยครับ พักอยู่ที่ห้องผู้ป่วยหนักมานานหลายวันอาการพึ่งจะคงที่ครับ”

” คุณโม่ครับ ไม่ว่าระหว่างคุณกับคุณชายจะมีเรื่องอะไรขัดแย้งกัน แต่ว่าในใจของคุณชายยังเป็นห่วงคุณตลอด ถือว่าลุงฉินขอร้องนะครับ มาเยี่ยมคุณชายฉินหน่อยนะครับ ”

โม่โยว “… ”

หลังจากที่เธอวางสายโทรศัพท์ หัวใจเธอสับสนไปหมด จู่ๆเธอก็รู้สึกงุนงง ถ้าไม่ใช่เพราะสายโทรศัพย์นี้ เธอดูเหมือน … ไม่ได้คิดถึงโม่เทียนยวี๋มานานแล้ว ราวกับว่าไม่มีคนคนนี้อยู่บนโลก

เมื่อคิดแบบนี้ โม่โยวอดรู้สึกผิดเล็กน้อยไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ในช่วงห้าปีที่ตัวเองสูญเสียความทรงจำ โม่เทียนยวี๋ได้ให้ความช่วยเหลือและดูแลเธอไม่น้อยเลย สามารถพูดได้ว่า ถ้าไม่มีโม่เทียนยวี๋ ตอนนี้ตัวเองจะเป็นยังไงก็ไม่รู้

ตอนนี้มาลองคิดดูแล้ว หลังจากที่โม่เทียนยวี๋ขอเธอแต่งงาน ดูเหมือนว่าเขาก็ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เป็นเพราะได้รับบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเหรอ

ไม่ว่า ระหว่างตัวเองกับโม่เทียนยวี๋นั้นจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันหรือไม่ โม่เทียนยวี๋ได้รับบาดเจ็บ เธอก็ควรไปเยี่ยมเขาหน่อย ดูสิว่าเขามีอะไรที่ต้องการให้เธอช่วยเหลือหรือเปล่า

วันถัดไป.

วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์พอดี และไม่จำเป็นต้องลางาน โม่โยวมีเรื่องไม่สบายใจ เลยตื่นขึ้นมาแต่เช้าซื้ออาหารเสริมแล้วตรงไปที่โรงพยาบาลทันที

เป็นผลให้ลู่อันหรานที่หยุดเรียนเหมือนกัน เสียเวลาเปล่า

ลู่อันหรานเห็นประตูที่ปิดอยู่ งงเลย กำลังจะเซอร์ไพรส์ให้แม่ซะหน่อย ขมวดคิ้วเล็กของเขาขึ้นมา

บอดี้การ์ดลุ่อีเห็นแบบนี้ พูดอย่างคลุมเครือ ” ต้องการตรวจเช็คการเดินทางของคุณโม่ไหมครับ”

ลู่อันหรานกระพริบตาแล้วพยักหน้าทันที ” ต้องการ รีบตรวจเลย”

ลู่อีพยักหน้า หันหลังลงไปชั้นล่าง

เขาไม่จำเป็นต้องตรวจเช็คเลย ก็แค่ติดต่อกับเพื่อนร่วมงานของโม่โยวสองสามคนก็รู้แล้ว

แน่นอนว่า ข้างกายของโม่โยวนั้นมีบอดี้การ์ดอยู่ ไม่เพียงแต่โม่โยวไม่รู้ แม้แต่ลู่อันหรานก็ไม่รู้ ดังนั้นการตรวจเช็คนี้ จำเป็นต้องหลบๆหน่อย

ลู่อีกลับมาเร็วมาก สีหน้ายุ่งเหยิงเล็กน้อย

“อยู่ที่ไหน” ลู่อันหรานถาม

” อยู่ที่โรงพยาบาลเจียงเฉิงครับ ”

“ อะไรนะ โรงพยาบาล แม่ไม่สบายหรือเปล่า ” จู่ๆลู่อันหรานก็เป็นห่วงขึ้นมาอย่างร้อนรนใจ

ลู่อีกระตุกมุมปาก ” คุณชายน้อยไม่ต้องเป็นห่วงครับ ดูเหมือนว่าคุณโม่จะไปเยี่ยมผู้ป่วยครับ ”

ลู่อันหรานถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วพูดอย่างเป็นกันเองว่า “โอ้ เยี่ยมใคร”

“ โม่เทียนยวี๋”

ลู่อันหราน “… ”

ลู่อันหรานคาดคิดไม่ถึงมาก่อนว่า สิ่งที่ตัวเองได้ยินนั้นจะป็นชื่อนี้ ใบหน้าที่ขาวเนียนและอ่อนโยนแข่งทื่อขึ้นมาทันที จากนั้นค่อยๆบิดเบี้ยวขึ้นมา

โม่เทียนยวี๋

ในสมองเล็ก ๆ ของเขา ใบหน้าของบุคคลนั้นก็ปรากฏขึ้น ยังมีรอยยิ้มเยาะเย้ยและคิ้วที่โด่ง ให้ตายสิ ทำไมคนคนนี้ยังกล้ามาวุ่นวายแถวนี้ ตัวเองเกือบจะลืมคนคนนี้ไปแล้ว แล้วทำไมตอนนี้ยังออกมาหลอกหลอนคนแบบนี้

ลู่อีเห็นการแสดงออกของนายน้อยของตัวเอง ก็รู้ได้อย่างชัดเจน เมื่อคิดถึงตอนที่เขาติดต่อไปหาเพื่อนร่วมงานของโม่โยว น้ำเสียงของคนฝั่งโน้นพูดอย่างตื่นตระหนก

คิดๆดูแล้วก็ใช่ เจ้านายนั้นพยายามหาร้อยพันวิธีเพื่อกีดขวางคนตระกูลโม่คนนี้ แต่คิดไม่ถึงว่าพวกเขาก็เจอหน้ากันจนได้ ยังเป็นที่โรงพยาบาลอีก

เขายังสามารถจินตนาการได้เลยว่า หลังจากที่เจ้านายรู้เรื่องนี้ สีหน้าจะน่าเกลียดเพียงใด ความเยื่อกเย็นในตัวของเจ้านายนั้นน่ากล้วแค่ไหน ใจนั้นรู้สึกเป็นห่วงคนพวกนั้นขึ้นมาทันที

“หืม ไปกันเถอะ ไม่ว่าจะยังไงในฐานะคนเคยรู้จัก ในเมื่อเขาเข้าโรงพยาบาล พวกเราก็ไปเยี่ยมเขาหน่อย “ลู่อันหรานพูดด้วยใบหน้าที่เย็นชา

ลู่จิ้นยวนก็ได้รับข่าวทันที ในขณะนี้เขากำลังประชุมทางวิดีโอคอลอยู่ ฟังการรายงานจากผู้จัดการแผนกต่างๆที่สำนักงานใหญ่

เมื่อเห็นข้อความนี้ ใบหน้านั้นมืดลงทันทีแทบจะสามารถบีบออกมาเป็นหยดน้ำหมึกได้แล้ว จนทำให้ผู้จัดการฝ่ายขายที่กำลังพูดอยู่ในวิดีโอคอลกลัวแทบจะกัดโดนลิ้นตัวเอง เหงื่อเย็นๆก็ไหลออกมาทันที

ผู้จัดการฝ่ายขายยังคงไตร่ตรองอยู่ในใจว่า ท่านประธานเป็นอะไร

หรือว่าไม่พอใจกับยอดขายในช่วงครึ่งปีแรก แต่ทั้งๆที่ยอดขายเพิ่มขึ้นถึงศูนย์จุดห้า ก่อนประชุมนั้นเขายังค่อนข้างที่จะภูมิใจอยู่ แต่คิดไม่ถึง ขนาดศูนย์จุดห้าท่านประธานก็ยังรู้สึกไม่พอใจ

ผู้จัดการฝ่ายขายอดไม่ได้ที่จะน้ำตาหลั่ง

“ช่วยสรุปเนื้อหาที่ประชุมวันนี้เป็นอีเมลแล้วส่งให้ฉัน” หลังจากที่ลู่จิ้นยวนพูดท้ายไปอย่างนั้น ก็ทำการตัดสายวิดีโอคอลทันที

อันเฉินที่อยู่ด้านข้างก็ประหลาดใจเช่นกัน” โม่เทียนยวี๋เข้าโรงพยาบาลเหรอ แต่เขาติดต่อกับคุณโม่ได้อย่างไร ประธานลู่ ต้องการให้ผมตรวจสอบดูไหมครับ ”

ต้องตรวจสอบอยู่แล้ว

ลู่จิ้นยวนพยักหน้า ” เรียกดูกล้องวงจรปิดที่อยู่ในห้องผู้ป่วยของเขาออกมาหน่อย “คำพูดประโยคนี้ พูดออกมาง่ายเหมือนกับดื่มน้ำกินข้าวอย่างงััน แน่นอนว่าสำหรับเขามันง่ายมาก

หลังจากที่อันเฉินได้สื่อสารกับใต้บังคับบัญชาขอเขาไม่กี่คำ ก็ได้ยื่นแท็บเล็ตออกไปให้ ” นายน้อยก็ทราบรู้แล้วครับ กำลังเดินทางไปโรงพยาบาลครับ ”

ลู่จิ้นยวนเลิกคิ้ว ความรู้สึกอึดอัดคลายลงเล็กน้อย ลูกชายของบ้านตัวเองก็ไปแล้ว แบบนี้ก็ต้องมีเรื่องสนุกๆแน่นอน

ภายในห้องผู้ป่วยโรงพยาบาล.

โม่โยวถือของเยี่ยมขึ้นไป ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็ต้องตกใจกับใบหน้าของโม่เทียนยวี๋มาก

“โม่โยว คุณมาแล้วเหรอ ”

โม่เทียนยวี๋มองไปที่เธอ แล้วทำเป็นไอออกมาสองสามทีอย่างไม่มีแรง แล้วทักทายเธออย่างอ่อนแรง ลุงฉินที่อยู่ข้างๆได้เข้ามารับของในมือเธอ แล้วยังได้เลื่อนเก้าอี้ให้เธอนี่ง

ใบหน้าของโม่เทียนยวี๋นั้น ทำให้คนที่เห็นรู้สึกว่าอาการหนักไม่เปล่าจริงๆ

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset