บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 409 ประสบการณ์ความเร็ว

รถแต่ละคันเริ่มมาจอดเข้าที่ ช่องว่างตรงกลางแบ่งสองฝั่งเป็นซ้ายขวา มีผู้หญิงที่แต่งตัวเซ็กซี่ ในมือถือแชมเปญไว้แล้วเปิดฝา

เธอยิ้มอย่างเย้ายวนแล้วเดินไปตรงกลาง เงยหน้ากระดกดื่มแล้วใช้มืออีกข้างดึงผ้าลงมาจากไหล่ เอามาโบกในมือ จากนั้นก็โยนขึ้นฟ้า

ผ้าสีแดงลอยลงมา วินาทีที่ถึงพื้น รถทั้งสองฝั่งก็แล่นออกไปอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาทีก็แล่นหายไปแล้ว

มีถนนที่สามารถแล่นออกจากที่นี่ได้ จากนั้นก็อ้อมหนึ่งรอบแล้วเเล่นตรงกลับมาในจุดเริ่มต้น

รถที่เเล่นกลับมาก่อนก็คือผู้ชนะ

ตอนที่อันเฉินแล่นรถออกไป มือทั้งสองข้างจับพวงมาลัยไว้แน่น เท้าก็เหยียบคันเร่งจนมิด วินาทีที่พุ่งออกไป เย่ซือเยวี่ยที่ไม่มีประสบการณ์ไม่ได้เตรียมตัวไว้ ทั้งตัวก็เกือบจะกระเด็นไปข้างหน้า

ถ้าไม่ใช่คาดเข็มขัดนิรภัยไว้ ตอนนี้หน้าผากของเธอก็คงจะชนกับกระจกหน้ารถแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็คงแย่น่ะสิ

เย่ซือเยวี่ยกระเด็นออกไปข้างหน้า แล้วถูกเข็มขัดนิรภัยดึงกลับมานั่งเหมือนเดิม จนหัวของเธอชนกับเบาะนั่ง แล้วรู้สึกตกใจมาก

พออันเฉินเห็นแบบนี้ มุมปากก็ยิ้มขึ้นอย่างมีเลศนัย มือที่จับพวงมาลัยไว้ก็เริ่มหมุน

เป็นเพราะแบบนี้ เย่ซือเยวี่ยที่กำลังตกใจแล้วรู้สึกปวดหัวอยู่ ทั้งตัวก็เซไปเซมา พอเซไปจนมึนหัวหลายครั้ง ความเร็วก็เริ่มลดลง

เธอพยุงร่างกายไว้ หัวใจเต้นแรงมาก กัดฟันแล้วจ้องตะโกนไปทางอันเฉิน “นายเป็นบ้าหรอ”

เพิ่งพูดจบ ขาของอันเฉินก็เหยียบคันเร่งจนมิด แล้วตรงหน้าก็เป็นทางโค้งพอดี

เย่ซือเยวี่ยเบิกตากว้าง “อ๊าก หยุดรถ รีบหยุดรถเดี๋ยวนี้ จะชนแล้ว”

เธอรู้สึกตกใจมาก ขณะที่คิดว่าตัวเองต้องตายแน่ๆ รถก็หักโค้งจนมีเสียงเบรคดังสนั่น ตัวเธอถูกเหวี่ยงจนกระแทกกับประตูรถ

รถก็เเล่นผ่านทางโค้งไปอย่างปลอดภัย

สีหน้าเย่ซือเยวี่ยซีดขาว จับหน้าอกตัวเองไว้ ใจเต้นแรงมากเหมือนเพิ่งรอดมาจากนรก เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ โมโหจนตัวสั่น

เธอดูออกผู้ชายบ้าคนนี้ตั้งใจ เขาต้องตั้งใจแน่ๆ ทั้งๆที่สามารถผ่านไปได้อย่างปลอดภัย แต่กลับต้องทำให้เธอตกใจ เจ็บใจชะมัด

“ไอ้โรคจิต นายรอก่อนนะ รอ……”

ยังพูดไม่จบ รถก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วอีกครั้ง อันเฉินหรี่ตา ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงบ้าคนนี้มาถึงขั้นนี้แล้วยังกล้าด่าเขาอีก

หึ อย่าหาว่าเขาไม่เกรงใจแล้วกัน

ต่อจากนี้ ต้องเป็นฝันร้ายของเย่ซือเยวี่ยแน่นอน

การกระทำที่อันเฉินตั้งใจทำ เลยทำให้ความเร็วของรถแล่นไปจนถึงสูงสุด ถึงขั้นมองวิวรอบข้างๆไม่ชัด แต่เส้นทางตรงหน้ากลับชัดเจน

เป็นเพราะแบบนี้ อันเฉินก็เลยชอบพุ่งไปทางที่มีต้นไม้ ทางที่มีกำแพง ทุกครั้งที่เย่ซือเยวี่ยคิดว่าต้องชนจนเละแน่ๆ ก็หลบได้ทุกครั้ง หวาดเสียวแล้วทำให้ใจเต้นแรงมาก

“อ๊ากกกก อันเฉิน ไอ้บ้า ฉันจะฆ่านาย นายขับรถบ้าอะไรเนี่ย หยุดเดี๋ยวนี้”

“รีบโค้งสิ เร็วจะชนแล้ว อ๊ากกก……”

“ฉันไม่เล่นแล้ว ฉันจะลงรถ ฉันไม่อยากนั่งรถของนาย อ๊ากกกก……”

เสียงกรีดร้องของเย่ซือเยวี่ยดังก้องไประหว่างทาง

นอกจากอันเฉินจะทำให้เธอตกใจแล้ว ก็ยังไม่ลืมชัยชนะของการแข่งรถครั้งนี้ ถึงแม้เงินมูลค่าหนึ่งล้านจะไม่สำคัญกับเขามาก แต่ถ้าชนะได้ ใครอยากจะแพ้ล่ะ

สุดท้าย อันเฉินก็เป็นคนแล่นไปถึงก่อนคนแรก จนคนที่รออยู่กับที่ต้องส่งเสียงฮือฮาอย่างไม่เชื่อ

“รีบดูสินั่น เป็นรถของอันเฉินหรือเปล่า เราชนะแล้วใช่ไหม”

ลู่จิ้นยวนยิ้มแล้วพยักหน้า

ใจโม่โยวที่เกร็งตลอด ก็รู้สึกคลายออก จากนั้นก็รีบวิ่งไปต้อนรับทันที

อันเฉินถอดแว่นดำอย่างสง่าหล่อเหลา แต่เย่ซือเยวี่ยที่อยู่ข้างๆกลับแตกต่างกันสิ้นเชิง ใบหน้าซีดขาว ตัวอ่อนเหมือนกับปลา ดูเหมือนว่าจะยังคงดึงสติกลับมาไม่ได้

พอโม่โยวเห็นแบบนั้นก็รู้สึกตกใจ รีบเปิดประตูและพยุงตัวเธอลงมา “ซือเยวี่ย แกเป็นอะไรหรือเปล่า”

อันเฉินเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “ไว้ใจเถอะครับ เธอนั่งครั้งแรก ก็แค่ไม่ชิน เดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้วครับ”

เสียงของเขาทำให้ดวงตาเย่ซือเยวี่ยขยับ แล้วมองไปที่เขา วินาทีต่อมาสายตาก็ดูโกรธแค้น พยายามกลืนน้ำลาย แล้วขาทั้งสองข้างก็เริ่มสั่น

“นาย นายดี นายดีมาก……”

เขาเลิกคิ้วแล้วยิ้ม “ฉันดีมากก็จริง แต่ดูเธอสิ ดูเหมือนจะไม่ดีเลย”

อันเฉินส่ายหน้า เหมือนคิดอะไรได้ “ใช่สิ นี่เธอเป็นคนที่อยากจะไปเล่นเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน ฉันแค่พาเธอไปเปิดโลก ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก”

เย่ซือเยวี่ยโมโหจนสมองเบลอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที จากนั้นก็ดิ้นหลุดออกจากมือโม่โยวแล้ววิ่งไปข้างกำแพง รีบก้มลงไปอ้วก

ลู่จิ้นยวนมองไปที่อันเฉิน “ระบายอารมณ์แล้ว?”

อันเฉินยิ้ม “รู้สึกดีขึ้นแล้วครับ”

ลู่จิ้นยวนยิ้มอ่อนแล้วส่ายหัว พร้อมพูดล้อเล่น “ฉันรู้สึกเย่ซือเยวี่ยก็ไม่เลวเลย เหมาะกับนายดี”

“บอส ยังไงผมก็ทำงานกับบอสมาตั้งหลายปี บอสทำแบบนี้กับผมดีหรอครับ?” สีหน้าอันเฉินตึงเครียดทันที

ลู่จิ้นยวนยักไหล่ ไม่พูดอะไรอีก

แต่เรื่องความรู้สึก ครั้งแรกอาจจะไม่คุ้นชิน แต่อีกหน่อยใครจะรู้ล่ะ

หลังจากที่เย่ซือเยวี่ยอ้วกเสร็จ ก็รู้สึกสบายตัวไม่น้อย สภาพก็ฟื้นกลับคืนมาเหมือนเดิม

เธอหยิบขวดน้ำมาล้างปาก แล้วรับทิชชูที่โม่โยวยื่นมาให้ พอเช็ดปากเสร็จ สีหน้าก็เข้มงวดแล้วหันมองไปทางอันเฉิน

โม่โยวคิดว่าเธอจะไปหาเรื่องทะเลาะกับอันเฉินอีก ก็เลยรีบดึงตัวเธอไว้แล้วพูดปลอบใจ

อันเฉินมองไปที่เธอแล้วหัวเราะในลำคอ ไม่สนใจความโมโหของเธอเลย

เย่ซือเยวี่ยเอาแต่สูดหายใจเข้าลึกๆ หักห้ามความโมโหในใจไว้ แต่เรื่องนี้ เธอจะไม่จบแบบนี้แน่นอน ไอ้โรคจิต รอก่อนเถอะ

เธอกัดฟันแน่นแล้วปล่อยให้โม่โยวดึงตัวขึ้นไปบนรถ พออันเฉินเห็นว่าเธอไม่ระเบิดอารมณ์ ก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อย

ได้ลงแข่งขัน แล้วชนะ ตามกฎกลุ่มคนแข่งรถก็ต้องเปิดทางให้พวกเขา

ตระกูลโม่

โม่เทียนยวี๋ขาหักแล้วพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาลสองอาทิตย์ รอยบวมแดงบนหน้าก็หายไปไม่น้อย แต่ก็ยังพักอยู่ในโรงพยาบาล แต่ว่าสภาพของเขาก็เริ่มเยือกเย็น

เขาว่ากันว่า อารมณ์ของคนคนหนึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงคนคนหนึ่งได้ ถ้าโม่โยวยืนอยู่ต่อหน้าเขา ก็คงจะไม่รู้จักเขา

ในห้องพักฟื้น โม่เทียนยวี๋ยืนอยู่ข้างเตียง สีหน้ามองไม่ออกเลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่ โม่ฉีจื้อนั่งอยู่ต่อหน้าเขาด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก

“ผ่านไปตั้งหลายวันแล้ว แกยังไม่มีความคืบหน้า ยังทำให้ตัวเองเป็นแบบนี้อีก” คำพูดที่เรียบนิ่งฟังไม่ออกเลยว่าเป็นคำตำหนิ แต่กลับทำให้มีความเยือกเย็นมาโอบล้อมตัวโม่เทียนยวี๋ไว้

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset