บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 420 การสนับสนุนมาแล้ว

บนตู้เสื้อผ้ามีกระดาษโน้ตลายการ์ตูนแปะเอาไว้อยู่ มีลายมือที่เขียนด้วยปากกาได้อย่างมีพลังราวและงดงามกับมังกรโผบินและนกฟีนิกส์กำลังร่ายรำ: อย่าปฏิเสธ เธอเป็นผู้อำนวยการการออกแบบ ไปที่ไหนก็ถือได้ว่าเป็นหน้าเป็นตาของลู่กรุ๊ป ดังนั้น สิ่งเหล่านี้จึงเป็นของจำเป็น

ป.ล. กระดาษโน้ตลูกชายเป็นคนเลือก น่ารักไหม

เวินหนิง “……….”

เธอนิ่งขรึมไปสักครู่ เอาเสื้อผ้าของตัวเองออกมาอย่างเงียบๆ แล้วแขวนขึ้นไปบนพื้นที่ว่างเล็กๆ ที่เหลืออยู่

ลู่จิ้นยวนคาดหวังที่จะส่งชุดสไตล์ตะวันตกหรือชุดราตรีของฤดูกาลใหม่ให้เยอะเสียมากยิ่งกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่เขารู้ดีว่า เวินหนิงจะต้องปฏิเสธไม่รับของ ตอนนี้เขาไม่มีทางกล้าที่จะใช้วิธีชั่วร้ายน่าละอายแบบเมื่อก่อนเพื่อบีบบังคับเธอได้

จึงทำได้เพียงงัดเอากลยุทธ์ตีตลบหลังข้าศึกออกมาใช้ โดยดำเนินการจัดการอยู่ที่อีกด้านหนึ่ง ดูท่าแล้วตอนนี้ ผลลัพท์จะออกมาไม่เลวนัก

หลังจากที่เวินหนิงจัดการเก็บข้าวของในกระเป๋าเดินทางไม่กี่ใบของตนเสร็จ ก็นอนทอดกายอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ สายตาจับจ้องไปที่ฝ้าเพดาน ไม่อาจทราบได้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

วันรุ่งขึ้น

เธอสวมใส่ชุดทางการสีชมพูอ่อน ไปรายงานตัวที่สำนักงานใหญ่ลู่กรุ๊ป

ลู่จิ้นยวนอธิบายให้เธอทราบว่า การแบ่งแผนกของเมืองตี้ตูและเมืองเจียงเฉิงนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง ที่เมืองตี้ตูนั้น การเลื่อนขั้นและการเข้ารับทุกตำแหน่งหน้าที่การงาน ล้วนแต่จะต้องผ่านการทดสอบและตรวจสอบอย่างละเอียดในทุกๆ ด้าน ผู้ที่รอดผ่านการแข่งขันอันดุเดือดนี้และกลายเป็นผู้ที่เลิศเลอเหนือผู้อื่นจึงจะเป็นผู้ชนะที่ได้รับการยอมรับ

พลทหารร่มชูชีพที่ได้รับการโยกตำแหน่งเช่นเธอนั้น กลับได้ร่อนถลาลงมารับตำแหน่งเป็นถึงผู้อำนวยการด้านการออกแบบโดยตรงเลยทันที สถานการณ์แบบนี้ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้น แต่ว่ามีน้อยมาก อีกทั้งยังคงเป็นตำแหน่งผู้อำนวยการออกแบบของทีมB อีกด้วย

แต่ว่าแผนกออกแบบB กับแผนกย่อยของฝ่ายออกแบบB นั้นถือได้ว่าเป็นคนละระดับกันอย่างชัดเจน หวังว่าเวินหนิงจะเตรียมใจเอาไว้แล้วเป็นอย่างดี ถ้าหากว่าสามารถรับมือได้ ก็จะได้ไปทักทายเขา

ลู่จิ้นยวนอธิบายอย่างชัดเจน เพียงแต่ไม่ได้บอกเธอไปเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น ตำแหน่งอันสมเกียรติที่เธอได้รับนั้น จะต้องเจอกับความยากลำบากมากหน่อย ล้วนแล้วแต่มีความทรหดและความยากต่างๆ นานารออยู่

ในเมื่อต้องการที่จะเป็นผู้อำนวยการออกแบบแผนกB ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่ง หากไม่งัดเอาความสามารถที่แท้จริงออกมาก็คงจะลำบากมากเลยทีเดียว

แต่การที่จะพิสูจน์ถึงความสามารถที่ทรงคุณค่าได้นั้น ก็จำเป็นที่จะต้องใช้เวลาและโอกาส ดังนั้นแรกเริ่มก็ต้องผ่านสถานการณ์ปกติที่จะต้องได้รับสายตาอิจฉาริษยาหรือการต่อต้านถึงขนาดอาจเป็นที่รังเกียจได้

การเผชิญหน้ากับสถานการณ์ดังกล่าว สิ่งที่เป็นพื้นฐานที่สุดก็จะต้องได้รับการยอมรับและความชอบจากผู้คนมาก่อน

ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว หากต้องการสภาพแวดล้อมการทำงานที่ราบรื่นและมั่นคงก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มี ถ้าแบบนั้นก็ต้องค่อยๆ ปีนป่ายจากตำแหน่งผู้ช่วยขึ้นไป ซึ่งสำหรับเวินหนิงแล้ว นี่อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเธอ

เวินหนิงเองก็รู้สึกแบบนี้เช่นกัน

นิสัยของเธอนั้นสุภาพอ่อนโยน แต่ในด้านความฉลาดหลักแหลมก็ไม่มีปัญหาเลย จึงเข้าใจความหมายที่ลู่จิ้นยวนต้องการจะสื่อ และยังคาดการณ์ถึงสถานการณ์พวกนี้ได้หมด จึงได้มีการเตียมตัวเตรียมใจไว้แต่แรกแล้ว

ได้รับความสะดวกสบายเล็กน้อย ก็จะต้องจ่ายค่าตอบแทนไปบ้างเล็กน้อย แนวคิดนี้ เธอเข้าใจได้ถึงแก่นแท้เลยทีเดียว และไม่ได้รู้สึกว่าจะมีอะไรมากนัก

แน่นอนว่า ถ้าหากว่าลู่จิ้นยวนยื่นมือเข้ามาจริงๆ ล่ะก็ เวินหนิงก็จะได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการด้านการออกแบบชนิดที่มั่นคงได้อย่างสบายใจ แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เวินหนิงต้องการ

ตัวของลู่จิ้นยวนเองก็คาดหวังว่าเวินหนิงจะได้รับการฝึกฝนสักเล็กน้อย เพราะสำหรับลักษณะนิสัยของเวินหนิงแล้ว แม้ว่าเขาจะชอบใจอยู่ แต่บางทีก็กลับมีข้อผิดพลาดใหญ่หลวงอยู่

พนักงานดูแลบริหารองค์กรคนหนึ่ง หากมีนิสัยสุภาพนอบน้อม ก็จะเป็นคนประเภทที่ดำเนินการไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยว่าจะต้องมาอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมแบบนี้ของสำนักงานใหญ่ลู่กรุ๊ป

แผนกออกแบบB

“ได้ยินหรือยัง แผนกของพวกเราเหมือนจะมีโยกเอาผู้อำนวยการออกแบบคนใหม่มา เหมือนว่าจะชื่อเวินหนิง พวกเธอเคยได้ยินมาบ้างไหม”

“ไม่รู้จักเลย อาจจะเป็นคนที่กลับมาจากไปเรียนต่อต่างประเทศก็ได้ แล้วเป็นตำแหน่งผู้อำนวยการออกแบบด้วย โคตรน่าอิจฉาเลย”

“กลับมาจากเรียนต่อต่างประเทศอะไรกันล่ะ ฉันไปแอบได้ยินข่าวมาว่า ผู้อำนวยการออกแบบคนใหม่คนนี้ ไม่เคยแม้แต่จะเรียนด้านการออกแบบเลยเสียด้วยซ้ำ”

“ไม่น่าเป็นไปได้นะ?”

“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ได้ยินมาว่าย้ายมาจากแผนกย่อยที่เมืองเจียงเฉิง สถานที่แบบนั้นจะมาเทียบกับพวกเราที่เมืองตี้ตูได้อย่างไรกัน ไม่รู้เลยว่าคนที่มาใหม่คนนี้จะมีความสามารถอะไรอยู่บ้าง”

“ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม ทันทีที่ผู้อำนวยการออกแบบคนใหม่ได้ตำแหน่ง คนที่จะต้องปวดหัวอยู่แล้วก็ต้องเป็นคนในออฟฟิศคนนั้นไง เป็นรองผู้อำนวยการมาตั้งหลายปี เฝ้าฝันจะได้เลื่อนขั้นมาตั้งนานนมแล้ว ทันทีที่ผู้อำนวยการคนก่อนหน้าไปปุ๊บ เธอก็ย้ายเข้ามาทันทีเลย”

“ตอนนี้ก็คงไม่ชอบใจ เพราะเพียงพวกเบื้องบนออกคำสั่งลงมา ที่เฝ้าฝันมาก็ว่างเปล่าแล้ว”

“มันก็ไม่แน่ไปหรอก ฉันว่านะ เกมนี้ยังต้องรอดูต่อไป”

เวินหนิงยืนอยู่ที่ด้านนอกประตู ได้ยินที่ข้างในถกเถียงกันเต็มชัดสองรูหู สีหน้าบนใบหน้าเธอไม่มีเปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย กลับกลายเป็นว่าได้รับข้อมูลสำคัญมาข้อมูลหนึ่ง

“รองผู้อำนวยการของแผนกออกแบบB อย่างงั้นเหรอ” เธอคิดออกมาดังว่า

ลู่จิ้นยวนเคยบอกเอาไว้ว่า ที่ไม่เหมือนกับแผนกย่อยก็คือ แผนกออกแบบทั้งสี่ฝ่าย ทุกฝ่ายไม่เพียงแต่จะมีผู้อำนวยการออกแบบหนึ่งคน แต่ยังมีรองผู้อำนวยการอยู่ด้วย

ดูท่าแล้ว การที่เธอจะสามารถยืนในแผนกออกแบบB นี้ได้อย่างมั่นคงนั้น รองผู้อำนวยการคนนี้ เป็นคนที่เธอจะต้องไปรับมือด้วยมากที่สุด

เวินหนิงครุ่นคิด ย่างก้าวอันสุขุมของเธอสาวเท้าเดินเข้าไปข้างใน ลู่จิ้นยวนอาจจะกังวลวันแรกในทำงานของเธอว่าจะไม่ราบรื่นอะไรแบบนั้น แต่ว่าเขานั้นคิดมากเกินไปแล้วจริงๆ

ถ้าหากว่าเธอไม่ได้ความทรงจำคืนมา ก็อาจจะเป็นดังที่ลู่จิ้นยวนคิดก็เป็นได้ ว่าจะตื่นเต้นเป็นกังวล

แต่ว่าวันนี้ไม่เหมือนเช่นนั้นอีกแล้ว เวินหนิงเผชิญความวอดวายมามากมาย เข้าสถานีตำรวจ มีการให้ไปคุยปรับเปลี่ยนความคิดเห็น ถูกจับตัวไปเกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ พวกนี้ไม่ใช่ประสบการณ์ธรรมดาทั่วไป สามารถบอกได้เลยว่าเธอเป็นคนที่ผ่านลมมรสุมมาจนเจนจัดแล้ว เรื่องในออฟฟิศพวกนี้ไม่สามารถส่งผลกระทบต่อจิตใจของเธอได้เลยจริงๆ

ในความเป็นจริงแล้ว ใจของเธอสงบนิ่งโดยไม่มีความสั่นคลอนเลย จนทำให้ทึ่งในตนเองอยู่เล็กน้อย

การปรากฏตัวของเธอ ทำให้บรรยากาศในออฟฟิศที่คึกคักเป็นอย่างมากเมื่อเสี้ยววินาทีที่แล้ว เปลี่ยนกลายเป็นเงียบเป็นเป่าสาก นิ่งสนิทไร้เสียงในบัดดล

เวินหนิงริมฝีปากยกขึ้นยิ้ม ยิ้มออกมาอย่างใจดี “สวัสดีค่ะทุกคน ฉันคือเวินหนิง เป็นผู้อำนวยการด้านการออกแบบคนใหม่ นับจากวันนี้เป็นต้นไปจะได้ร่วมงานกับทุกท่าน รบกวนช่วยชี้แนะด้วยนะคะ”

ทุกคน “……….”

แผนกที่ใหญ่โต ดีไซน์เนอร์และผู้ช่วยจึงมีทั้งชายและหญิง สำหรับฝ่ายชายแล้ว ผู้หญิงสวยก็ย่อมทำให้ใจผ่อนคลายอยู่แล้ว แม้ว่าจะเป็นพลร่มที่ใช้เส้นสายเข้ามาก็ตาม

แต่ก็ไม่มีทางอื่น จำนวนของดีไซน์เนอร์ชายไม่อาจไปเปรียบเทียบกับดีไซน์เนอร์หญิงได้ ทุกคนต่างมองหน้ากันและกัน ในแววตาต่างพากันส่งสัญญาณ

เสร็จกัน คำพูดที่พวกเธอพูดกันเมื่อสักครู่นี้ถูกคนที่มาใหม่คนนี้ได้ยินไปแล้วหรือเปล่านะ จะทำอย่างไรดี

ได้ยินก็ได้ยินไป มันจะมีไปมีเรื่องอะไรใหญ่โต พวกเราตั้งหลายคนก็พูดออกมาแล้วนี่ เธอโกรธแล้วจะเป็นอย่างไรล่ะ จะไปทำอะไรพวกเราได้

คนที่สามารถเข้าแผนกออกแบบของลู่กรุ๊ปได้นั้น โดยพื้นฐานแล้วต่างก็เป็นบุคลากรที่มีชื่อเสียง มีการศึกษาสูงกันทั้งนั้น อาจจะได้รับรางวัลมามากมาย หรืออาจจะเป็นดีไซน์เนอร์ของแบรนด์เก่าแก่เล็กๆ ที่มีชื่อเสียงอยู่

คนเหล่านี้ ก็มีความเย่อหยิ่งอวดดีอยู่ในสายเลือด ใจที่คอยปลอบประโลมตนเองก็ก่อร่างสร้างความรู้สึกหนึ่งขึ้นมาได้ในเวลาอันรวดเร็ว คนจำนวนหนึ่งก็เริ่มที่จะไม่มีความรู้สึกเกรงกลัวขึ้นมาแล้วเนื่องจากรู้ว่าตนมีแรงสนับสนุนที่ดี

แต่แม้ว่าจะไร้ซึ่งความเกรงกลัว สุดท้ายแล้วก็กล้าได้เพียงแค่ลับหลัง เมื่ออยู่ต่อหน้าแล้วก็ไม่กล้าที่จะทำตัวก้าวร้าวจองหองจนเกินไป ล้วนแล้วแต่เป็นคนฉลาด ก่อนที่จะรู้เรื่องเกี่ยวกับเวินหนิงอย่างแน่ชัด ก็จะไม่ทำเรื่องโง่ๆ ลงไปแน่นอน

ทุกคนต่างก็ทักทายเวินหนิงกันทีละคนๆ หลังจากนั้นก็กลับไปประจำตำแหน่งของตนแล้วจึงเริ่มทำงาน

แต่สถานการณ์เช่นนี้ก็ดำเนินไปได้เพียงไม่กี่วินาที เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นก็ดังมาแต่ไกล เวินหนิงหันไปดู ก็ราวกับเห็นคลื่นลูกใหญ่ ผู้หญิงที่รูปร่างสะโอดสะอง และมีริมฝีปากสีแดงสดราวกับเพลิงเดินเข้ามา

ใบหน้าขาวผ่องแต่งแต้มอย่างสวยสด แต่ก็ดูเฉี่ยวและเต็มไปด้วยความเย็นชา

ทันทีที่เธอมาถึงฝั่งออกแบบ ก็เลิกคิ้วขึ้นแล้วพูดตำหนิออกมาอย่างเย็นเยียบว่า “กำลังทำอะไรกันอยู่ เช้าวันนี้แต่ละคนไม่ได้พกสมองมาหรืออย่างไรกัน รีบไปที่ห้องประชุมได้แล้ว”

บนตู้เสื้อผ้ามีกระดาษโน้ตลายการ์ตูนแปะเอาไว้อยู่ มีลายมือที่เขียนด้วยปากกาได้อย่างมีพลังราวและงดงามกับมังกรโผบินและนกฟีนิกส์กำลังร่ายรำ: อย่าปฏิเสธ เธอเป็นผู้อำนวยการการออกแบบ ไปที่ไหนก็ถือได้ว่าเป็นหน้าเป็นตาของลู่กรุ๊ป ดังนั้น สิ่งเหล่านี้จึงเป็นของจำเป็น

ป.ล. กระดาษโน้ตลูกชายเป็นคนเลือก น่ารักไหม

เวินหนิง “……….”

เธอนิ่งขรึมไปสักครู่ เอาเสื้อผ้าของตัวเองออกมาอย่างเงียบๆ แล้วแขวนขึ้นไปบนพื้นที่ว่างเล็กๆ ที่เหลืออยู่

ลู่จิ้นยวนคาดหวังที่จะส่งชุดสไตล์ตะวันตกหรือชุดราตรีของฤดูกาลใหม่ให้เยอะเสียมากยิ่งกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่เขารู้ดีว่า เวินหนิงจะต้องปฏิเสธไม่รับของ ตอนนี้เขาไม่มีทางกล้าที่จะใช้วิธีชั่วร้ายน่าละอายแบบเมื่อก่อนเพื่อบีบบังคับเธอได้

จึงทำได้เพียงงัดเอากลยุทธ์ตีตลบหลังข้าศึกออกมาใช้ โดยดำเนินการจัดการอยู่ที่อีกด้านหนึ่ง ดูท่าแล้วตอนนี้ ผลลัพท์จะออกมาไม่เลวนัก

หลังจากที่เวินหนิงจัดการเก็บข้าวของในกระเป๋าเดินทางไม่กี่ใบของตนเสร็จ ก็นอนทอดกายอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ สายตาจับจ้องไปที่ฝ้าเพดาน ไม่อาจทราบได้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

วันรุ่งขึ้น

เธอสวมใส่ชุดทางการสีชมพูอ่อน ไปรายงานตัวที่สำนักงานใหญ่ลู่กรุ๊ป

ลู่จิ้นยวนอธิบายให้เธอทราบว่า การแบ่งแผนกของเมืองตี้ตูและเมืองเจียงเฉิงนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง ที่เมืองตี้ตูนั้น การเลื่อนขั้นและการเข้ารับทุกตำแหน่งหน้าที่การงาน ล้วนแต่จะต้องผ่านการทดสอบและตรวจสอบอย่างละเอียดในทุกๆ ด้าน ผู้ที่รอดผ่านการแข่งขันอันดุเดือดนี้และกลายเป็นผู้ที่เลิศเลอเหนือผู้อื่นจึงจะเป็นผู้ชนะที่ได้รับการยอมรับ

พลทหารร่มชูชีพที่ได้รับการโยกตำแหน่งเช่นเธอนั้น กลับได้ร่อนถลาลงมารับตำแหน่งเป็นถึงผู้อำนวยการด้านการออกแบบโดยตรงเลยทันที สถานการณ์แบบนี้ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้น แต่ว่ามีน้อยมาก อีกทั้งยังคงเป็นตำแหน่งผู้อำนวยการออกแบบของทีมB อีกด้วย

แต่ว่าแผนกออกแบบB กับแผนกย่อยของฝ่ายออกแบบB นั้นถือได้ว่าเป็นคนละระดับกันอย่างชัดเจน หวังว่าเวินหนิงจะเตรียมใจเอาไว้แล้วเป็นอย่างดี ถ้าหากว่าสามารถรับมือได้ ก็จะได้ไปทักทายเขา

ลู่จิ้นยวนอธิบายอย่างชัดเจน เพียงแต่ไม่ได้บอกเธอไปเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น ตำแหน่งอันสมเกียรติที่เธอได้รับนั้น จะต้องเจอกับความยากลำบากมากหน่อย ล้วนแล้วแต่มีความทรหดและความยากต่างๆ นานารออยู่

ในเมื่อต้องการที่จะเป็นผู้อำนวยการออกแบบแผนกB ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่ง หากไม่งัดเอาความสามารถที่แท้จริงออกมาก็คงจะลำบากมากเลยทีเดียว

แต่การที่จะพิสูจน์ถึงความสามารถที่ทรงคุณค่าได้นั้น ก็จำเป็นที่จะต้องใช้เวลาและโอกาส ดังนั้นแรกเริ่มก็ต้องผ่านสถานการณ์ปกติที่จะต้องได้รับสายตาอิจฉาริษยาหรือการต่อต้านถึงขนาดอาจเป็นที่รังเกียจได้

การเผชิญหน้ากับสถานการณ์ดังกล่าว สิ่งที่เป็นพื้นฐานที่สุดก็จะต้องได้รับการยอมรับและความชอบจากผู้คนมาก่อน

ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว หากต้องการสภาพแวดล้อมการทำงานที่ราบรื่นและมั่นคงก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มี ถ้าแบบนั้นก็ต้องค่อยๆ ปีนป่ายจากตำแหน่งผู้ช่วยขึ้นไป ซึ่งสำหรับเวินหนิงแล้ว นี่อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเธอ

เวินหนิงเองก็รู้สึกแบบนี้เช่นกัน

นิสัยของเธอนั้นสุภาพอ่อนโยน แต่ในด้านความฉลาดหลักแหลมก็ไม่มีปัญหาเลย จึงเข้าใจความหมายที่ลู่จิ้นยวนต้องการจะสื่อ และยังคาดการณ์ถึงสถานการณ์พวกนี้ได้หมด จึงได้มีการเตียมตัวเตรียมใจไว้แต่แรกแล้ว

ได้รับความสะดวกสบายเล็กน้อย ก็จะต้องจ่ายค่าตอบแทนไปบ้างเล็กน้อย แนวคิดนี้ เธอเข้าใจได้ถึงแก่นแท้เลยทีเดียว และไม่ได้รู้สึกว่าจะมีอะไรมากนัก

แน่นอนว่า ถ้าหากว่าลู่จิ้นยวนยื่นมือเข้ามาจริงๆ ล่ะก็ เวินหนิงก็จะได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการด้านการออกแบบชนิดที่มั่นคงได้อย่างสบายใจ แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เวินหนิงต้องการ

ตัวของลู่จิ้นยวนเองก็คาดหวังว่าเวินหนิงจะได้รับการฝึกฝนสักเล็กน้อย เพราะสำหรับลักษณะนิสัยของเวินหนิงแล้ว แม้ว่าเขาจะชอบใจอยู่ แต่บางทีก็กลับมีข้อผิดพลาดใหญ่หลวงอยู่

พนักงานดูแลบริหารองค์กรคนหนึ่ง หากมีนิสัยสุภาพนอบน้อม ก็จะเป็นคนประเภทที่ดำเนินการไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยว่าจะต้องมาอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมแบบนี้ของสำนักงานใหญ่ลู่กรุ๊ป

แผนกออกแบบB

“ได้ยินหรือยัง แผนกของพวกเราเหมือนจะมีโยกเอาผู้อำนวยการออกแบบคนใหม่มา เหมือนว่าจะชื่อเวินหนิง พวกเธอเคยได้ยินมาบ้างไหม”

“ไม่รู้จักเลย อาจจะเป็นคนที่กลับมาจากไปเรียนต่อต่างประเทศก็ได้ แล้วเป็นตำแหน่งผู้อำนวยการออกแบบด้วย โคตรน่าอิจฉาเลย”

“กลับมาจากเรียนต่อต่างประเทศอะไรกันล่ะ ฉันไปแอบได้ยินข่าวมาว่า ผู้อำนวยการออกแบบคนใหม่คนนี้ ไม่เคยแม้แต่จะเรียนด้านการออกแบบเลยเสียด้วยซ้ำ”

“ไม่น่าเป็นไปได้นะ?”

“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ได้ยินมาว่าย้ายมาจากแผนกย่อยที่เมืองเจียงเฉิง สถานที่แบบนั้นจะมาเทียบกับพวกเราที่เมืองตี้ตูได้อย่างไรกัน ไม่รู้เลยว่าคนที่มาใหม่คนนี้จะมีความสามารถอะไรอยู่บ้าง”

“ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม ทันทีที่ผู้อำนวยการออกแบบคนใหม่ได้ตำแหน่ง คนที่จะต้องปวดหัวอยู่แล้วก็ต้องเป็นคนในออฟฟิศคนนั้นไง เป็นรองผู้อำนวยการมาตั้งหลายปี เฝ้าฝันจะได้เลื่อนขั้นมาตั้งนานนมแล้ว ทันทีที่ผู้อำนวยการคนก่อนหน้าไปปุ๊บ เธอก็ย้ายเข้ามาทันทีเลย”

“ตอนนี้ก็คงไม่ชอบใจ เพราะเพียงพวกเบื้องบนออกคำสั่งลงมา ที่เฝ้าฝันมาก็ว่างเปล่าแล้ว”

“มันก็ไม่แน่ไปหรอก ฉันว่านะ เกมนี้ยังต้องรอดูต่อไป”

เวินหนิงยืนอยู่ที่ด้านนอกประตู ได้ยินที่ข้างในถกเถียงกันเต็มชัดสองรูหู สีหน้าบนใบหน้าเธอไม่มีเปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย กลับกลายเป็นว่าได้รับข้อมูลสำคัญมาข้อมูลหนึ่ง

“รองผู้อำนวยการของแผนกออกแบบB อย่างงั้นเหรอ” เธอคิดออกมาดังว่า

ลู่จิ้นยวนเคยบอกเอาไว้ว่า ที่ไม่เหมือนกับแผนกย่อยก็คือ แผนกออกแบบทั้งสี่ฝ่าย ทุกฝ่ายไม่เพียงแต่จะมีผู้อำนวยการออกแบบหนึ่งคน แต่ยังมีรองผู้อำนวยการอยู่ด้วย

ดูท่าแล้ว การที่เธอจะสามารถยืนในแผนกออกแบบB นี้ได้อย่างมั่นคงนั้น รองผู้อำนวยการคนนี้ เป็นคนที่เธอจะต้องไปรับมือด้วยมากที่สุด

เวินหนิงครุ่นคิด ย่างก้าวอันสุขุมของเธอสาวเท้าเดินเข้าไปข้างใน ลู่จิ้นยวนอาจจะกังวลวันแรกในทำงานของเธอว่าจะไม่ราบรื่นอะไรแบบนั้น แต่ว่าเขานั้นคิดมากเกินไปแล้วจริงๆ

ถ้าหากว่าเธอไม่ได้ความทรงจำคืนมา ก็อาจจะเป็นดังที่ลู่จิ้นยวนคิดก็เป็นได้ ว่าจะตื่นเต้นเป็นกังวล

แต่ว่าวันนี้ไม่เหมือนเช่นนั้นอีกแล้ว เวินหนิงเผชิญความวอดวายมามากมาย เข้าสถานีตำรวจ มีการให้ไปคุยปรับเปลี่ยนความคิดเห็น ถูกจับตัวไปเกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ พวกนี้ไม่ใช่ประสบการณ์ธรรมดาทั่วไป สามารถบอกได้เลยว่าเธอเป็นคนที่ผ่านลมมรสุมมาจนเจนจัดแล้ว เรื่องในออฟฟิศพวกนี้ไม่สามารถส่งผลกระทบต่อจิตใจของเธอได้เลยจริงๆ

ในความเป็นจริงแล้ว ใจของเธอสงบนิ่งโดยไม่มีความสั่นคลอนเลย จนทำให้ทึ่งในตนเองอยู่เล็กน้อย

การปรากฏตัวของเธอ ทำให้บรรยากาศในออฟฟิศที่คึกคักเป็นอย่างมากเมื่อเสี้ยววินาทีที่แล้ว เปลี่ยนกลายเป็นเงียบเป็นเป่าสาก นิ่งสนิทไร้เสียงในบัดดล

เวินหนิงริมฝีปากยกขึ้นยิ้ม ยิ้มออกมาอย่างใจดี “สวัสดีค่ะทุกคน ฉันคือเวินหนิง เป็นผู้อำนวยการด้านการออกแบบคนใหม่ นับจากวันนี้เป็นต้นไปจะได้ร่วมงานกับทุกท่าน รบกวนช่วยชี้แนะด้วยนะคะ”

ทุกคน “……….”

แผนกที่ใหญ่โต ดีไซน์เนอร์และผู้ช่วยจึงมีทั้งชายและหญิง สำหรับฝ่ายชายแล้ว ผู้หญิงสวยก็ย่อมทำให้ใจผ่อนคลายอยู่แล้ว แม้ว่าจะเป็นพลร่มที่ใช้เส้นสายเข้ามาก็ตาม

แต่ก็ไม่มีทางอื่น จำนวนของดีไซน์เนอร์ชายไม่อาจไปเปรียบเทียบกับดีไซน์เนอร์หญิงได้ ทุกคนต่างมองหน้ากันและกัน ในแววตาต่างพากันส่งสัญญาณ

เสร็จกัน คำพูดที่พวกเธอพูดกันเมื่อสักครู่นี้ถูกคนที่มาใหม่คนนี้ได้ยินไปแล้วหรือเปล่านะ จะทำอย่างไรดี

ได้ยินก็ได้ยินไป มันจะมีไปมีเรื่องอะไรใหญ่โต พวกเราตั้งหลายคนก็พูดออกมาแล้วนี่ เธอโกรธแล้วจะเป็นอย่างไรล่ะ จะไปทำอะไรพวกเราได้

คนที่สามารถเข้าแผนกออกแบบของลู่กรุ๊ปได้นั้น โดยพื้นฐานแล้วต่างก็เป็นบุคลากรที่มีชื่อเสียง มีการศึกษาสูงกันทั้งนั้น อาจจะได้รับรางวัลมามากมาย หรืออาจจะเป็นดีไซน์เนอร์ของแบรนด์เก่าแก่เล็กๆ ที่มีชื่อเสียงอยู่

คนเหล่านี้ ก็มีความเย่อหยิ่งอวดดีอยู่ในสายเลือด ใจที่คอยปลอบประโลมตนเองก็ก่อร่างสร้างความรู้สึกหนึ่งขึ้นมาได้ในเวลาอันรวดเร็ว คนจำนวนหนึ่งก็เริ่มที่จะไม่มีความรู้สึกเกรงกลัวขึ้นมาแล้วเนื่องจากรู้ว่าตนมีแรงสนับสนุนที่ดี

แต่แม้ว่าจะไร้ซึ่งความเกรงกลัว สุดท้ายแล้วก็กล้าได้เพียงแค่ลับหลัง เมื่ออยู่ต่อหน้าแล้วก็ไม่กล้าที่จะทำตัวก้าวร้าวจองหองจนเกินไป ล้วนแล้วแต่เป็นคนฉลาด ก่อนที่จะรู้เรื่องเกี่ยวกับเวินหนิงอย่างแน่ชัด ก็จะไม่ทำเรื่องโง่ๆ ลงไปแน่นอน

ทุกคนต่างก็ทักทายเวินหนิงกันทีละคนๆ หลังจากนั้นก็กลับไปประจำตำแหน่งของตนแล้วจึงเริ่มทำงาน

แต่สถานการณ์เช่นนี้ก็ดำเนินไปได้เพียงไม่กี่วินาที เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นก็ดังมาแต่ไกล เวินหนิงหันไปดู ก็ราวกับเห็นคลื่นลูกใหญ่ ผู้หญิงที่รูปร่างสะโอดสะอง และมีริมฝีปากสีแดงสดราวกับเพลิงเดินเข้ามา

ใบหน้าขาวผ่องแต่งแต้มอย่างสวยสด แต่ก็ดูเฉี่ยวและเต็มไปด้วยความเย็นชา

ทันทีที่เธอมาถึงฝั่งออกแบบ ก็เลิกคิ้วขึ้นแล้วพูดตำหนิออกมาอย่างเย็นเยียบว่า “กำลังทำอะไรกันอยู่ เช้าวันนี้แต่ละคนไม่ได้พกสมองมาหรืออย่างไรกัน รีบไปที่ห้องประชุมได้แล้ว”

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset