บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 432 จัดการและสะสาง

เขาขอสาบาน ว่าทุกคนที่มีส่วนร่วมในการทำร้ายเวินหนิงในครั้งนี้ เขาจะไม่มีทางปล่อยไปสักคน คนพวกนี้ ต้องได้รับโทษในสิ่งที่ได้ทำกับเวินหนิงไว้ อย่างสาสม

ในคอนโด

ลู่จิ้นยวนวางเวินหนิงลงบนเตียงอย่างเบามือ มองไปที่หมอที่ยืนอยู่ข้างๆ “เร็วเข้า ตรวจดูให้หน่อยว่าเธอเป็นยังไงบ้าง”

คุณหมอเดินไปตรงหน้าอย่างระมัดระวัง มองไปที่สีหน้าของเวินหนิง ตรวจดูชีพจรของเธอ ยกมือขึ้น เปิดตาของเธอออกเบาๆ

วินาทีนั้น ภายใต้ดวงตาของเวินหนิงทำให้การหายใจของลู่จิ้นยวนนั้นติดขัดขึ้นมา

เห็นแค่ดวงตาที่สดใสนั้นตอนนี้เต็มไปด้วยเส้นเลือด ไม่ใช่แค่ตาขาว รวมทั้งบนและล่างก็มี ดูราวกับเป็นดวงตาที่เป็นเลือด น่ากลัวยิ่งนัก

เพราะรู้ว่าเวินหนิงเคยโดนอะไรมาบ้าง ทำให้ลู่จิ้นยวนได้ทำใจมาบ้างแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้เขาก็ไม่สามารถที่จะเก็บกลั้นความโกรธที่อยู่ในใจได้

เขากำมือแน่น“ตรวจแก้วหูด้วย”

คุณหมอพยักหน้า หูได้รับความบาดเจ็บไม่น้อย เมื่อสักครู่ที่เขาได้ตรวจชีพจรก็รู้แล้ว

ผ่านไปสักพัก คุณหมอได้เก็บมือ สีหน้าเคร่งเครียดมาก

“คุณชายครับ ดวงตาของผู้หญิงคนนี้ถูกแสงสว่างส่องเป็นเวลานาน ทำให้เกิดเส้นเลือดมากมายที่ดวงตาขึ้น แต่ดีที่ไม่ได้รับการส่องนานเกินไป ไม่ถึงขั้นอันตรายอะไร”

“แก้วหูก็ได้รับการบาดเจ็บในขั้นที่เท่ากัน เสียงที่ดังรบกวนเกินไปทำให้มีผลต่อระบบประสาทเหมือนกัน”

“ดวงตาต้องใช้ยาทาที่ตาไว้ แก้วหูกับระบบประสาทนั้นต้องใช้ยาภายใน ในการรักษา โดยรวมแล้วไม่ได้อันตรายอะไร ทายาและทานตามที่บอก ก็จะดีขึ้นเอง”

“ปัญหาอย่างหนึ่งก็คือ หลังจากที่ผู้หญิงคนนี้ฟื้นแล้ว จะทีอาการมองไม่เห็นและหูดับ แต่ไม่ต้องกังวล อาการพวกนี้เป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น”

“รักษาดีๆ ใช้เวลาสองอาทิตย์ก็จะสามารถดีขึ้นได้แล้ว”

แม้ลู่จิ้นยวนโล่งอกไปบ้าง แต่อารมณ์ของเขาก็ยังไม่ดีขึ้นอยู่ดี แล้วเขาก็ไปส่งคุณหมอกลับไป

เขายืนอยู่ข้างเตียง ยืนมองเวินหนิงนิ่งๆ ยืนมองอย่างนั้นเป็นเวลานานพักนึง

ลู่จิ้นยวนอุ้มเวินหนิงไปที่ห้องอาบน้ำ รีบล้างทำความสะอาดให้เธอด้วยความอ่อนโยน เปลี่ยนชุดที่สะอาดให้ แล้ววางเธอลงบนเตียงอีกครั้ง

คุณหมอบอกว่าทางที่ดีตาของเวินหนิง ดีที่สุดอย่าได้รับแสงอะไร สว่างนิดเดียวก็ไม่ได้

เพราะฉะนั้น เขาเอายาที่อยู่ข้างๆมา บีบยาใสๆออกมาทางทั่วผ้าพันแผล วางลงบนตาของเวินหนิงเบาๆ

หลังจากที่ทำทุกอย่างหมดแล้วก็นั่งลงข้างๆเวินหนิง ไม่ห่างแม้แต่ก้าวเดียว

จนกระทั่งท้องฟ้าข้างนอกค่อยๆมืดลง เวินหนิงถึงจะฟื้นขึ้นมา

“เวินหนิง ตื่นแล้วหรอ?”ลู่จิ้นยวนลุกขึ้นนั่งทันที

เธอไม่พูด ลืมตาโดยสัญชาตญาณ แต่กลับรู้สึกเจ็บขึ้นมาในทันที เธอยกมือขึ้นจับ แต่กลับจับโดนแค่ผ้าที่พันเอาไว้

ลู่จิ้นยวนจับมือเธอลง พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า“ตาของเธอได้รับบาดเจ็บ ต้องพักผ่อน ต้องรักษาตัวอย่างสงบ ตอนนี้ฉันทายาให้แล้ว ช่วงนี้เธอจะลืมตาไม่ได้”

เสียดายที่เวินหนิงรู้สึกได้แค่ว่ามีคนพูดอยู่ข้างๆ แต่กลับไม่ได้ยินว่าอีกฝ่ายพูดอะไร

เธออ้าปากพูด คอของเธอแห้งผาก ทำให้เธอไอออกมา วินานทีต่อมาเธอโดนพยุงขึ้นอย่างอ่อนโยนและอิงเข้ากับอกแกร่งที่แสนอบอุ่น น้ำแก้วนึงได้ส่งมายังริมฝีปากของเธอ

ถ้าไม่ใช่เพราะกลิ่นที่แสนคุ้นเคยนั่นทำให้เธอรู้ว่าเป็นลู่จิ้นยวน เธอที่ตอนนี้ทั้งมองไม่เห็นและไม่ได้ยินนั้นต้องรู้สึกไม่ปลอดภัยแน่

หลังจากที่ดื่มน้ำไปแล้ว คอของเธอก็ได้รับความชุ่มชื้น ดีขึ้นไม่น้อย

“เมื่อกี้ นายพูดว่าไงนะ?ฉันไม่ได้ยิน……”

ลู่จิ้นยวนชะงัก ตอนนี้เขาถึงจะรู้ว่าเวินหนิงไม่ใช่แค่ตาได้รับบาดเจ็บ หูของเธอก็เหมือนกัน คุณหมอได้บอกกับเขาว่าจะมีอาการหูดับ

ใจของเขาเจ็บแปลบขึ้นมา เม้มปากแน่น สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกอดเวินหนิงไว้เบาๆ กอดเธอไว้ จับมือของเธอแบออก แล้วเขียนลงบนมือของเธอ ช้าๆ ทีละคำๆ เป็นคำพูดออกมา

เวินหนิงนิ่งไป

เธอจำได้แล้ว เธอโดนขังไว้ในห้องสอบสวน ดูตอนนี้คงเป็นลู่จิ้นยวนที่พาเธอออกมาจากห้องนั้น กับตาและหูของเธอ ในสถานการณ์แบบนั้นได้รับบาดเจ็บก็แปลก

แต่ว่า……

“หูกับตาของฉัน……”

เธอไม่แน่ใจว่าอาการของเธอสาหัสหรือเปล่า สิ่งที่เธอกลัวที่สุดคืออาการของเธอจะหนักเกินไป ถึงขั้นไม่มีวันหาย ตากับหู ไม่ว่าจะเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งมีปัญหา มันมีผลถึงชีวิตอยู่เหมือนกัน

เวินหนิงยังพูดไม่จบ ลู่จิ้นยวนก็เข้าใจความหมายที่เธอจะสื่อทันที รีบเขียนลงบนฝ่ามือของเธอ“วางใจได้ คุณหมอมาดูให้แล้ว ไม่มีอะไรมาก แค่กินยาแล้วก็ทายาตามที่หมอบอก รักษาสิบกว่าวันก็หาย”

เงินหนิงสบายใจขึ้นมาในทันที

“ช่วงนี้ฉันจะอยู่บ้านดูแลเธอเอง”

เวินหนิงเม้มปาก ไม่รู้จะพูดอะไร แต่อาการของเธอในตอนนี้ ถ้าดีก็ใช้เวลาแค่สิบกว่าวัน ช่วงเวลานานขนาดนี้……

เธอลังเลไปสักพัก มือของเธอถูกยกขึ้นวางไว้ที่ตรงตำแหน่งหัวใจของลู่จิ้นยวน

เขาเขียนลงบนมือของเธอว่า“เธอเกิดเรื่อง หัวใจของฉันเจ็บปวดตลอดเวลา เพราะฉะนั้นแล้ว อย่าได้ปฏิเสธเลย นะครับ”

เวินหนิงเงียบตอบ แต่ก็พูดปฏิเสธไม่ออก เดิมเธอก็ไม่ได้รังเกลียดการเข้าใกล้ของลู่จิ้นยวนอยู่แล้ว แต่เป็นห่วงงานของเขา

เรื่องที่น่าดีใจคือหลังจากที่ลู่จิ้นยวนได้อยู่ดูแลเวินหนิงที่บ้านเป็นเวลาสามวัน อาการหูดับของเวินหนิงได้ดีขึ้นตอนนี้กลับมาเป็นปกติแล้ว

แต่แก้วหูยังไม่หายดี ได้ยินเสียงคนพูดคุยกัน แต่ไม่สามารถได้ยินเสียงที่ดังจนเกินไป

หลังจากที่หูของเธอสามารถได้ยินเสียงภายนอกแล้ว ความไม่สบายใจที่อยู่ในใจของเธอก็หายไปเกินครึ่ง ในใจก็โล่งขึ้นมา เริ่มที่จะไล่คนแล้ว

บริษัทตระกูลลู่ยุ่งขนาดนี้ ลู่จิ้นยวนกลับอยู่แต่บ้าน ยังไงก็ไม่สะดวกอยู่ดี ในเมื่อเธอสามารถได้ยินแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องมีคนอยู่ด้วยตลอดเวลาแล้ว

ลู่จิ้นยวนไม่รู้จะทำยังไง แต่เขารับลูกชายมาอยู่ด้วย มีอันหรานอยู่ เวินหนิงก็จะอารมณ์ดีขึ้น

อันหรานมาถึง ก็แสดงว่าบอดี้การ์ดที่อยู่กับเขาทั้งห้าคนก็ตามมาด้วย ทางด้านความปลอดภัยเขาก็โล่งใจขึ้นแล้ว แล้วเขาก็ย้ายคนใช้ที่อยู่บ้านหลังเก่าของคุณตามาคนนึง

ลู่จิ้นยวนมีแผนของตัวเองอยู่แล้ว เขาตัดสินใจว่าระหว่างที่เวินหนิงรักษาตัวอยู่ก็จัดการเรื่องที่บริษัทให้เรียบร้อย เรื่องบางเรื่องต้องสะสาง หนี้บางอย่าง ก็ควรที่จะจัดการได้แล้ว

ที่เวินหนิงเกิดเรื่องที่บริษัทในครั้งนี้ กับเรื่องการขโมยที่เกิดขึ้นก็จัดการไม่ยากแล้ว คนของลู่จิ้นยวนลงมือก็สามารถที่จะจับตัวคนทำได้เลย

ลู่จิ้นยวนมองรายชื่อของคนที่มีความเกี่ยวข้อง สุดท้ายหยุดอยู่ที่ชื่อๆหนึ่ง ลู่จิ้นยวนหลับตาลง แล้วลืมตาขึ้นอีกครั้ง ในสายตานั้นเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก

“ออกคำสั่งลงไป…..”

ในเวลาอันสั้นนั้น ทั้งบริษัทตระกูลลู่ หัวข่าวของหน้าเพจของบริษัทได้มีข้อความหนึ่งขึ้นมา ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนไม่น้อย

ข่าวนี้ ตราที่ปั้มเป็นของลู่จิ้นยวนเอง ทำให้มีความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก

บนนั้นได้เขียนชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องของการลักขโมยที่เกิดขึ้นในแผนกออกแบบบีของบริษัทตระกูลลู่ เรื่องที่ขโมยแบบร่างนั้น ทางบริษัทได้ตรวจสอบแล้ว ไม่ได้เป็นเรื่องจริง

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset