บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 492 จะรับผิดชอบ

ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง ไฟป้ายห้องฉุกเฉินค่อยดับลง

เย่ซือเยวี่ยถูกเข็นออกมา อันเฉินรีบเดินไปหาทันที “หมอครับ อาการเธอเป็นยังไงบ้างครับ? ไม่ได้อันตรายใช่ไหมครับ?”

คุณหมอขมวดคิ้ว “ตอนนี้ยังไม่แน่ใจครับ ศีรษะเธอถูกกระแทกอย่างแรง ไม่รู้ว่าจะมีเลือดคลั่งหรือเปล่า ยังคงต้องรอให้คนไข้ฟื้นก่อนค่อยรู้อาการครับ”

“งั้น สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดจะเป็นยังไงครับ?”

พออันเฉินได้ยินคุณหมอพูดแบบนี้ ใจก็ตกลงตาตุ่ม

ตอนนี้ เขาต้องเตรียมใจรับมือกับผลที่เลวร้ายที่สุด

“นี่ก็ไม่แน่ครับ อาจจะไม่เป็นอะไร หรืออาจจะ กดทับเส้นประสาท แล้วส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของเธอในวันข้างหน้า”

อันเฉินได้ยินก็ก้มหน้าลงไป “ครับหมอ”

เขาเดินเข้าไปในห้องพักฟื้นเย่ซือเยวี่ย บนศีรษะมีแต่ผ้าพันแผล สีหน้าซีดขาว หลับตาไว้แน่น เหมือนผู้หญิงที่หมดชีวิตชีวา

วินาทีนั้น กลับคิดถึงท่าทางที่สดใสร่าเริงของผู้หญิงคนนั้น

ทั้งๆที่ตอนนั้นเขาคิดว่าสมองเย่ซือเยวี่ยไม่ปกติ ทั้งเสียงดังวุ่นวาย ยังทำเรื่องเขาเสียอีก แต่พอเห็นท่าทางที่อ่อนแอของเธอ ในใจอันเฉินมีแต่ความรู้สึกผิด

ยืนอยู่ในห้องพักฟื้น ไม่รู้ว่ายืนไปนานแค่ไหน ข้างนอกก็มีเสียงผู้หญิงร้องไห้

พอแม่ของเย่ซือเยวี่ยได้รับข่าว ก็รีบมาโรงพยาบาลทันที

“ลูกสาวฉัน!”

แม่ของเย่ซือเยวี่ยคิดไม่ถึงเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ ยังส่งลูกสาวออกบ้านอารมณ์ดี แต่สิ่งที่รอท่านกลับเป็นข่าวร้ายว่ารถชน

“คุณผู้หญิง ตอนนี้ลูกสาวคุณพ้นขีดอันตรายแล้ว คุณใจเย็นๆก่อนนะครับ”

คุณหมอเคยชินแล้ว เลยจัดการได้อย่างใจเย็น แล้วพาแม่ของเย่วือเยวี่ยไปที่ห้องพักฟื้น

พอท่านเข้ามาแล้วเห็นอันเฉินยืนอยู่ข้างเตียง สติก็กระเจิงทันที

“แกเป็นคนทำให้ลูกฉันเป็นแบบนี้ใช่ไหม ทำไมแกไม่เป็นอะไรเลย?”

ผู้หญิงคนนั้นพุ่งเข้ามาเหมือนคนบ้า จับคอเสื้ออันเฉินไว้ ทั้งร้องไห้ทั้งด่า

อันเฉินเข้าใจความรู้สึกท่าน อีกอย่าง ที่เย่ซือเยวี่ยเกิดเรื่องแบบนี้ เขาก็ควรจะรับผิดชอบอยู่แล้ว

เขาก็เลยยืนอยู่อย่างนั้น ปล่อยให้ท่านระบายอารมณ์ ไม่มีทีท่าที่จะหลบเลย

ท่านเริ่มรู้สึกเหนื่อย ท่านรู้ ถึงจะด่าว่าเขายังไงก็ไม่มีประโยชน์ รู้สึกเสียใจมาก แล้วนั่งลงไปที่พื้น

“ฉันไม่น่าให้เธอออกไปเลย ถ้าฉันห้ามแต่ไม่ใช่เร่งให้เธอออกไป ก็จะไม่มีเรื่องพวกนี้ใช่ไหม……” อันเฉินโดนทุบตีไปหลายครั้ง ไม่เจ็บก็แค่โกหก แต่สถานการณ์แบบนี้ โดนทุบตีแบบนี้ถึงจะทำให้เขารู้สึกดีขึ้น

พอเห็นแม่เย่ซือเยวี่ยเป็นแบบนั้น เขาก็รีบพยุงตัวท่านขึ้น

“คุณน้าใจเย็นๆก่อนนะครับ ตอนนี้เย่ซือเยวี่ยแค่สลบ ถ้าร่างกายคุณน้าทรุดก่อนเธอฟื้น ถึงเวลาเธอหาแม่ไม่เจอจะกังวลมากแค่ไหน?”

พูดปลอบไปทั้งนาน ท่านค่อยสงบสติอารมณ์ได้ ผมจะรับผิดชอบจนกว่าเธอจะดีขึ้นครับ”

อันเฉินพูดทีละคำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“เรามีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอ? จะรับผิดชอบเย่ซือเยวี่ย แล้วแฟนจะว่ายังไง?”

“ผมมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?”

อันเฉินรู้สึกงง

กี่ปีที่ผ่านมา เขาทำงานกับลู่จิ้นยวนตลอด ช่วงเวลาก่อนค่อยมีเวลาว่างไปดูตัว แต่เรื่องกลับเสียเพราะเย่ซือเยวี่ย

เขาจะไปหาแฟนที่ไหนกัน?

แต่พอพูดจบคำนี้ อันเฉินก็รู้สึกว่ามีที่ไหนแปลกๆ

เขาหมายความว่า จะช่วยเหลือสุดความสามารถให้เธอกลับมาเป็นปกติ เรื่องนี่เกี่ยวอะไรกับมีหรือไม่มีแฟน?

แต่ท่านไม่ได้คิดแบบนี้ มองไปที่อันเฉิน ในใจก็เริ่มมีแผน

พ่อหนุ่มคนนี้ ท่านมองแว็บแรกก็รู้สึกดีด้วย ถ้าเขายังโสด ก็ต้องคู่กับลูกสาวตัวเองสิ

แต่ท่านก็ไม่ลืมว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดเพราะคนตรงหน้า ก็เลยไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรมาก

แต่อยากจะทดสอบเขา ถ้าเขาดูแลเย่ซือเยวี่ยได้ ท่านก็จะวางใจแล้วฝากลูกสาวกับเขา

“งั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับเรา ยังไงเราก็ต้องรับผิดชอบ”

อันเฉินพยักหน้า ไม่ได้ปฏิเสธ

……

เวินหนิงไปเยี่ยมไป๋หลินยวี่ที่โรงพยาบาลก่อน แน่ใจแล้วว่าอาการของท่านไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังสามารถรอจนกว่าจะหาไขสันหลังได้

จากนั้นค่อยนึกถึงว่า ลู่จิ้นยวนบอกจะไปตามหาตัวหมอคนนั้น

คิดไปคิดมา เลยโทรไปถามความคืบหน้า

พอลู่จิ้นยวนเห็นเวินหนิงโทรมา เขาก็ลังเลไปครู่หนึ่ง

เขายังไม่รู้ว่าควรพูดเรื่องเย่ซือเยวี่ยกับเวินหนิงยังไง

ตอนนี้ ไป๋หลินยวี่ป่วย แล้วเรื่องของเวินหนิงเองด้วย ถ้ารู้ว่าเย่วือเยวี่ยเกิดอุบัติเหตุ ไม่รู้ว่าเธอจะกังวลใจแค่ไหน

เหม่อไปสักพัก ลู่จิ้นยวนค่อยรู้ว่าสายตัดไปแล้ว

เวินหนิงขมวดคิ้ว หรือว่าตอนนี้ลู่จิ้นยวนกำลังยุ่ง?

ขณะคิด ผู้ชายคนนั้นก็โทรกลับมา

เวินหนิงรับ “ตอนนี้นายกำลังยุ่งอยู่เหรอ? ถ้าไม่สะดวกรับ เดี๋ยวค่อยโทรก็ได้”

“ปะ……เปล่า”

ลู่จิ้นยวนเงียบไปครู่หนึ่ง เวินหนิงรู้สึกถึงความผิดปกติ ปกติผู้ชายคนนี้ไม่พูดติดๆขัดๆแบบนี้ ต้องเกิดเรื่องอะไรแน่นอน

“เกิดอะไรขึ้น? เกิดเรื่องอะไรไม่ดีหรือเปล่า? ถ้ามี นายอย่าปิดบังฉัน ฉันไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้”

พูดจบ เวินหนิงก็เตรียมใจไว้แล้ว

พอได้ยินเวินหนิงพูดแบบนี้ ลู่จิ้นยวนก็ถอนหายใจ “ไม่ใช่อย่างที่เธอคิด คือเย่ซือเยวี่ย……”

“เย่ซือเยวี่ย? เธอเป็นอะไร?”

“วันนี้อันเฉินพาเธอไปหาหมอคนที่พวกเธอเจอเมื่อวาน แต่หมอคนนั้นหนีไป ระหว่างที่พวกเขาขับรถไปตาม ไม่ระวังเลยเกิดอุบัติเหตุรถชน ตอนนี้เย่ซือเยวี่ยอยู่ที่โรงพยาบาล เพิ่งพ้นขีดอันตราย แต่ยังไม่ฟื้น”

เวินหนิงได้ยินข่าวนี้ ก็เริ่มร้อนรนใจ

เย่ซือเยวี่ยเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ ช่วงเวลาที่เธอความจำเสื่อม มีแค่เธอที่อยู่กับตัวเอง

ตอนนี้ เธอกลับเกิดอุบัติเหตุรถชนเพราะตัวเอง

เวินหนิงรู้สึกว่าตัวเองติดค้างเย่ซือเยวี่ยเยอะมาก

“ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน? ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้!”

พอรู้เรื่องนี้ เวินหนิงก็ไม่มีอารมณ์สนใจเรื่องอื่นเลย เธอจะรีบไปหาทันที

“เธอรออยู่ที่นั่น ฉันก็จะไปพอดี เดี๋ยวเราไปพร้อมกัน”

ลู่จิ้นยวนรู้ว่าเธอจะแสดงปฏิกิริยายังไง กลัวว่าเวินหนิงจะเกิดเรื่อง เลยเอ่ยว่าจะไปพร้อมเธอ

เวินหนิงไม่ได้ปฏิเสธ บอกที่อยู่ของตัวเองกับลู่จิ้นยวน แล้วรอเขามา

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset