บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 56 ยั่วยวนน้องเขย

ลู่จิ้นยวนอยู่ข้างนอกนานมาก นานจนเวินหนิงสงสัยว่าเขากำลังพูดอะไรอยู่ ก็เลยแอบเดินใกล้เข้าไป

เสียงพูดของลู่จิ้นยวนลอยเข้าหู “ผมรู้แล้ว ผมจะไปแน่นอน ยินดีด้วยที่จบ”

เสียงของผู้ชาย เป็นเสียงที่อ่อนโยนที่เวินหนิงไม่เคยได้ยินมาก่อน แล้วยังแฝงด้วยความใส่ใจด้วย

เขากำลังคุยโทรศัพท์กับใคร ถึงได้มีท่าทางที่อ่อนโยนขนาดนั้น?

เวินหนิงฟังไปด้วยจนเหม่อ ในความทรงจำของเธอลู่จิ้นยวนเป็นคนที่เยือกเย็นสูงส่งตลอด เขาเพอร์เฟ็คมาก เหมือนกับเทพบุตรที่เข้าใกล้ยาก ให้ความรู้สึกห่างเหินกับผู้คนมาก

แต่ยังไง เขาก็เคยอ่อนโยนกับคนคนหนึ่ง ดูเหมือนว่า ไม่ใช่เขาที่เยือกเย็น แต่เขาแค่อ่อนโยนกับใครบางคน

คนกลุ่มนั้น ไม่รวมถึงเธอ เวินหนิงคิดไปด้วย ในใจก็รู้สึกมีความอิจฉา

เวลานี้ ลู่จิ้นยวนก็คุยโทรศัพท์เสร็จแล้ว พอหันมาก็เห็นท่าทางเวินหนิงกำลังคิดอะไรบางอย่าง จนตัวก็เซไป เลยอดไม่ได้ที่จะทัก “เธอกำลังทำอะไร?”

เวินหนิงค่อยดึงสติกลับมา แล้วแกล้งว่ากำลังตามหาของ ถ้าลู่จิ้นยวนรู้ว่าเธอแอบฟัง เขาพูดคงโมโหแน่นอน “เปล่า ฉันกำลังหาของ……”

ลู่จิ้นยวนเห็นท่าทางร้อนรนของเธอ “อะไรของ?”

“ไม่สำคัญหรอก” เวินหนิงส่ายหน้า “เรารีบกลับบ้านเถอะ”

ลู่จิ้นยวนพยักหน้า แล้วไม่ได้เอ่ยถามอีก เวินหนิงเอียงหัวออกไปมองวิวนอกหน้าต่างรถ จากนั้นก็หลับตาลง

……

เมื่อกลับถึงตระกูลลู่ ก็ถึงเวลาอาหารเย็น ลู่จิ้นยวนก็ไปรายงานเรื่องที่จะไปต่างประเทศกับเถ้าแก่

เถ้าแก่ก็ไม่ห้ามอยู่แล้ว เลยพยักหน้าตกลง “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าแกไปทำอะไร ทำไม อดใจไม่ไหวแล้ว?”

ตอนนี้เยียนหรานเป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียงเล็กน้อยที่ต่างประเทศ ข่าวของเธอ เถ้าแก่ก็มองเห็นผ่านอยู่บ้าง

มือของเวินหนิงที่จับตะเกียบก็หยุดลง แล้วสายตาก็หม่นหมอง เธอฟังออกว่าคำพูดของเถ้าแก่กำลังล้อเล่น แต่คำพูดที่ท่านล้อเล่น เป็นสิ่งที่เธอไม่มีทางรู้เด็ดขาด

ลู่จิ้นยวนคงจะไปหาคนที่คุยโทรศัพท์ด้วยวันนี้ คนที่สามารถทำให้เขามีท่าทางอ่อนโยนขนาดนี้ ก็คงจะเป็นผู้หญิงที่น่าดึงดูดมาก

ลู่จิ้นยวนมองไปที่เวินหนิง แต่เธอก็เก็บความรู้สึกเศร้าหมองเมื่อกี้ แล้วแสร้งทำเป็นไม่สนใจอะไร

“เธอไม่มีอะไรจะพูด?” มองเห็นสีหน้าเวินหนิงไร้ความรู้สึก ลู่จิ้นยวนก็เอ่ย

“ไม่มีอยู่แล้ว ถ้ามี……ก็ขอให้นายเดินทางปลอดภัย” เวินหนิงเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง พูดจบก็ลุกขึ้น “หนูทานเสร็จแล้ว กลับห้องไปพักผ่อนก่อนนะคะ”

รอเธอไปแล้ว เถ้าแก่ค่อยพยักหน้า “ดูท่าทางเธอ ก็ถือว่าเจียมตัวอยู่ รอแกคิดดีแล้วว่าจะอยู่กับใคร ถ้าจะหย่ากับเวินหนิงก็คงไม่มีปัญหาอะไร แบบนี้ ดีที่สุด”

จะไม่มีอะไรปัญหาอะไรตามมาเหรอ……

ลู่จิ้นยวนมองที่นั่งที่ว่างเปล่าที่เวินหนิงเพิ่งนั่งเมื่อกี้ ไม่รู้ทำไม ท่าทางที่เจียมตัวของเธอแบบนี้ แต่กลับไม่ทำให้เขารู้สึกอารมณ์ดีเลย

วันต่อมา ลู่จิ้นยวนก็ตื่นแต่เช้า เป็นเพราะเป็นวันหยุด เวินหนิงก็เลยยังนอนอยู่ มองไปที่สีหน้าที่กำลังหลับอยู่ของเธอ ผู้ชายก็รู้สึกไม่สบอารมณ์

รู้ว่าเขาจะไป ยังนอนหลับเหมือนหมูขนาดนี้ ผู้หญิงคนนี้ไม่มีความรู้สึกหรอ?

คิดไปด้วย ผู้ชายคนนั้นก็เดินผ่านตัวผู้หญิงที่นอนอยู่บนพื้น แล้วแกล้งทำเป็นไม่ระวังแล้วเตะเท้าของเวินหนิง

“มีอะไรหรอ?” เวินหนิงค่อยสะดุ้งตื่นอย่างมึนมัว ทีแรกก็ไม่ได้หลับสนิทอยู่แล้ว พอโดนแตะก็ลุกขึ้นนั่ง คิดว่าเกิดอะไรขึ้นสะอีก

“ผมจะไปแล้ว” ลู่จิ้นยวนมองไปที่เธอ

“อื้อ” เวินหนิงบิดขี้เกียจแล้วเอ่ยตอบอย่างเรียบนิ่ง

อื้อ หมายความว่ายังไง? ท่าทางที่เรียบนิ่งของเวินหนิง ทำให้ลู่จิ้นยวนรู้สึกไม่สบอารมณ์มากกว่าเดิม “เธอไม่มีอะไรจะพูดหรอ?”

เวินหนิงรู้สึกตลกแล้วมองไปที่เขา

เธอไม่ใช่คนโง่ ตั้งแต่กลับมาจากเมื่อวานก็คิดได้แล้ว ลู่จิ้นยวนคงมีเป้าหมายอะไรบางอย่างที่ต้องไปตามล่า ก็เลยเอาให้คนมาสะกิดเธอ เตือนเธอว่าห้ามคิดอะไรเกินเลยเด็ดขาด

งั้นเธอควรจะแสดงปฏิกิริยาอะไร? ร้องให้ฟูมฟายขอให้เขาไม่หย่ากับเธอ หรือว่าแสดงปฏิกิริยาที่เจ็บปวดใจมาก?

ถึงแม้จะทำแบบนี้ ลู่จิ้นยวนก็คงไม่อยู่กับคนอย่างเธอ งั้นเธอก็ควรจะรักษาภาพลักษณ์แล้วก็ศักดิ์ศรีของตัวเอง แบบนี้ ตระกูลลู่อาจจะเห็นความดีของเธอ แล้วอีกหน่อยก็จะไม่ทำให้เธอลำบาก

“ไม่มีอะไรต้องพูด ขอให้นายเที่ยวอย่างสนุก”

พูดจบ เวินหนิงก็รู้สึกไร้ความหมาย จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ

ลู่จิ้นยวนมองเห็นเรือนร่างที่หายไปต่อหน้า คิวก็คิ้วขมวดเล็กน้อย

……

เมื่อเวินหนิงเดินออกมาจากห้องน้ำ ลู่จิ้นยวนก็ไปแล้ว มองเห็นห้องที่ว่างอีกครั้ง บนใบหน้าเธอก็มีรอยยิ้มที่เอื้อมระอา

อาจจะ เพราะว่าเธอคงอยู่ที่นี่ไปได้อีกไม่นานมั้ง?

จะไปหาบ้านข้างนอกสำรองไว้ดีไหม?

คิดไปคิดมา เวินหนิงก็คิดว่าจำเป็น จากนั้นก็แต่งตัวออกจากบ้าน จะไปดูว่ามีที่ไหนที่เหมาะสมหรือเปล่า

แต่ว่า เธอเพิ่งลงมาจากรถเมล์แล้วเดินไปไม่กี่ก้าว โทรศัพท์ก็ดัง เป็นเบอร์แปลกที่โทรมา

เมื่อเวินหนิงรับโทรศัพท์ ก็มีเสียงด่าทอดังออกมา “แกเป็นมือที่สามที่ทำลายความรักของหลานหลานเราใช่ไหม ทำไมแกสำส่อนขนาดนี้ อยู่ดีๆก็ไปยั่วแฟนของคนอื่น?”

เวินหนิงรีบวางสายโทรศัพท์ แล้วรู้สึกงงมาก นี่มันอะไร วิธีการใหม่ของเวินหลาน? ทำไมเธอถึงน่าเบื่อขนาดนี้ คิดว่าจะทำอะไรเธอได้หรอ?

แต่ไม่นาน เวินหนิงก็คิดแบบนี้ไม่ได้อีก หลังจากโทรศัพท์สายนั้นแล้ว โทรศัพท์ของเธอก็มีเบอร์แปลกโทรเข้ามาไม่หยุด เธอไม่รับ โทรศัพท์ก็มีสายโทรเข้ามาติดๆกันแล้วก็มีข้อความที่เต็มไปด้วยคำด่าส่งมาหาเธอด้วย

เป็นเพราะโทรศัพท์พวกนี้มารวดเดียวแล้วเยอะมาก จนทำให้โทรศัพท์เวินหนิงค้างไป ผ่านไปไม่นานแบตก็หายไปกว่าครึ่ง

เวินหนิงค่อยรู้ว่าเรื่องอาจจะไม่ได้ง่ายเหมือนที่เธอคิดไว้ จากนั้นเธอก็ถอดซิมแล้วเชื่อมต่อ Wi-Fi ค่อยเปิดโทรศัพท์แล้วรีบเสิร์ชหาเบอร์มือถือของเธอ หรือว่าอาจจะมีใครที่เผยแพร่เบอร์ของเธอออกไป เลยทำให้เกิดเรื่องแบบนี้

จากนั้น หาก็มีหน้าเว็บไซต์หนึ่งเด้งออกมา

เวินหนิงมองเห็นพาดหัวเว็บเขียนไว้ว่า “แฉพี่สาวอิจฉาน้องสาวตั้งแต่เด็ก เพื่อที่จะแก้แค้นน้องสาวแล้วไปยั่วยวนแฟนน้องสาว”

ไม่ต้องพูดก็รู้ ตัวละครหลักของหน้าเว็บข่าวนี้ก็คือเธอ

เวินหนิงพยายามหักห้ามความโมโหในใจไว้ก็ดูต่อไม่ไหว

คนที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาก็แต่งเรื่องว่า พี่สาวจิตใจอำมหิตเอาแต่ทำลายน้องสาวที่จิตใจดีอ่อนโยนยังไงบ้าง

น้องสาวที่พูดถึงในนั้นทำให้คนอื่นรู้สึกน่าสงสารมาก แต่พี่สาวกลับเป็นนางมารร้ายของเรื่องที่ทำเรื่องเลวทุกอย่าง

ถ้าเวินหนิงไม่รู้ว่าคนคนนี้กำลังเขียนถึงตัวเอง ก็คงจะรู้สึกอารมณ์ร้อนด้วย

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset