บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 97 ไม่ใช่ว่าเธอก็ชอบเขาเหรอ

“ไม่รู้มาก่อนว่าเธอยังนวดเป็น?”

ลู่จิ้นยวนคิดว่าคนที่นวนคือเวินหนิง เธอคงคิดจะทำดีถ่ายโทษเรื่องที่เพิ่งเถียงกับเขาไป น้ำเสียงเขาจึงฟังดูอ่อนโยนลงเล็กน้อย

หลิวเมิ่งเซวี่ยรู้สึกได้ใจ “ท่านประธานลู่ เมื่อก่อนฉันเคยเรียนมาบ้างค่ะ ถ้าคุณชอบ จะให้ฉันขึ้นมานวดให้ทุกวันก็ได้นะคะ”

ลู่จิ้นยวนลืมตาขึ้นมาทันที น้ำเสียงนี้ ไม่ใช่คนที่เขาคิดไว้

ใบหน้าที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่เวินหนิง แต่เป็น…….ผู้หญิงคนนั้นที่ชื่อหลิวเมิ่งเซวี่ย?

ลู่จิ้นยวนมองผ่านหน้าต่าง เห็นหลังไวๆของเวินหนิงที่เพิ่งเดินจากไป ชั่วขณะหนึ่งในใจเขาเกิดกังวลขึ้นมา

“ใครให้เธอขึ้นมาบนนี้? ออกไป”

ลู่จิ้นยวนรู้สึกโกรธเหมือนตัวเองโดนหลอก เขาผลักหญิงสาวที่อยู่ด้านหลังออก จนหลิวเมิ่งเซวี่ยล้มไปกองอยู่กับพื้น ก้นกระแทรกเจ็บจนลุกขึ้นยืนไม่ไหว สีหน้าขาวซีดสลับแดง ดูแล้วช่างสมเพช

“ท่าน….ท่านประธาน ฉันไม่ได้ตั้งใจค่ะ ฉันนำเอกสารเข้ามาให้ แต่เห็นคุณเหมือนไม่ค่อยสบาย เลย……”

หลิวเมิ่งเซวี่ยตกใจกับอารมณ์กราดเกรี้ยวของลู่จิ้นยวนมาก เธอคิดว่าผู้ชายทุกคนก็ต้องชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนเอาอกเอาใจเก่ง แต่ไม่คิดว่าเขาจะเป็นแบบนี้

“ใครใช้ให้มายุ่ง?” ลู่จิ้นยวนเกลียดพวกที่อาศัยงานที่ทำมายั่วยวนหัวหน้าที่สุด “งานก็คืองาน อย่าคิดว่าฉันให้เธอเข้ามาในบริษัทตระกูลลู่แล้วจะมีสิทธิพิเศษกว่าคนอื่น ต่อไปถ้าฉันเห็นเธอยังทำเรื่องอะไรแบบนี้อีก ก็เตรียมตัวออกไปจากบริษัทฯได้เลย”

หลิวเมิ่งเซวี่ยโดนเขาด่าจนงงไปหมด ลู่จิ้นยวนพูดอย่างไม่ไว้หน้าเธอแม้แต่น้อย จนเธอไม่เหลือศักดิ์ศรีอะไรเลย

“ยังไม่ออกไปอีก? ต่อไปห้ามขึ้นมาบนนี้อีก ถ้าฉันเห็นเธอที่นี่อีกครั้ง ก็ไสหัวออกไปจากที่ได้เลย”

ยิ่งมองเธอลู่จิ้นยวนก็ยิ่งรู้สึกรำคานใจ ก่อนจะไล่เธอออกไปอย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย

หลิวเมิ่งเซวี่ยเองก็ไม่กล้าจะอยู่ต่อ เธอเพิ่งจะเห็นเขาโมโหครั้งแรก จะไปมีอารมณ์สานสัมพันธ์อะไรต่อได้อีก เธอรีบคลานพื้นออกไปทันที

ลู่จิ้นยวนเดินออกไป จึงเห็นว่าเวินหนิงไม่อยู่บนนี้แล้ว ไม่รู้ว่าเธอไปไหน

เวินหนิงไม่อยากไปขัดจังหวะของคนอื่น เธอจึงขึ้นมานั่งอยู่บนระเบียง แดดอุ่นๆส่องลงบนตัวเธอ ทำให้รู้สึกอุ่นสบายไม่น้อย

พอนึกถึงภาพของลู่จิ้นยวนที่ดูมีความสุขไม่น้อย เวินหนิงก็ทำเสียงขึ้นจมูกเล็กน้อย ผู้ชายนะ……เป็นอะไรที่ไว้ใจไม่ได้ที่สุด

แม้แต่คนอย่างลู่จิ้นยวน ก็ยังทนต่อความยั่วยวนอันหอมหวานไม่ได้

แต่แค่ว่าทำไมในใจเธอถึงรู้สึกรุ่มร้อนได้นะ เธอสะบัดหัวก่อนจะหัวเราะเยาะ อย่าพูดว่าหย่ากันแล้วเลย ต่อให้ยังไม่หย่ากัน เธอก็ไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งเรื่องของเขา

เธออย่าสำคัญตัวผิดไปเลยดีกว่า

เวินหนิงอยู่บนระเบียงพักหนึ่ง รู้สึกหนาวเลยตัดสินใจลงไป แต่เพื่อไม่ให้เห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็น เธอจึงเดิมห้องทำงานชั้นบนไปอีกทาง

ไม่คิดว่าเพิ่งลงมาก็เจอเข้ากับลู่จิ้นยวน

“เธอไปไหนมา?”

ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเข้มขรึม เมื่อกี้เขาไล่หลิวเมิ่งเซวี่ยไปแล้ว ก็เรียกหาเวินหนิง แต่หาเธอไปทั้วก็ไม่เจอ

เวินหนิงเห็นสีหน้าไม่พอใจของชายหนุ่มแล้ว คิดในใจหรือว่าลู่จิ้นยวนจะกลัวเธอเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นแล้ว เอาออกไปพูด?

“สบายใจเถอะ ฉันเก็บความลับเป็น ไม่พูดไปเรื่อยแน่นอน”

เวินหนิงรีบรับปากเขา เธอเองก็ไม่มีอารมณ์จะไปยุ่งเรื่องของเขาทั้งสองด้วย

เพียงแต่ว่า สิ่งที่เธอพูด ลู่จิ้นยวนฟังยังไงก็รู้สึกขัดหู

สิ่งที่เวินหนิงพูด ลู่จิ้นยวนก็ไม่เห็นว่าผิดตรงไหน แต่ความรู้สึกชัดเจนแบบนี้ทำให้เขานึกโมโหตัวเองขึ้นมา

“เมื่อกี้ฉัน……”

ยังไม่ทันที่ลู่จิ้นยวนจะพูดจบ เวินหนิงก็ขัดขึ้น

“เมื่อกี้ฉันไม่เห็นอะไรเลย”

สิ่งที่ไม่ควรเห็น ต่อให้เห็นเธอก็จะทำเป็นมองไม่เห็นอยู่ดี

“เวินหนิง…….” ลู่จิ้นยวนกัดฟันแน่น

เดิมทีเขากจะอยากอธิบาย ซึ่งด้วยนิสัยเขาแล้วปกติก็ไม่สนใจที่จะอธิบายให้ใครฟังอยู่แล้ว แต่พอเวินหนิงพูดแบบนี้ ทำให้เขารู้สึกเหมือนโดนน้ำเย็นจัดราดใส่หน้าจนชาไปหมด

เธอแสดงออกชัดเจนว่าไม่แคร์ ในเมื่อเธอไม่สนใจ แล้วเขาจะพูดทำไม?

หลงคิดไปเอง ไม่ใช่สไตล์ของเขา

“งั้นก็จำสิ่งที่รับปากไว้ให้ดี ฉันไม่อยากได้ยินคำนินทาที่ไม่น่าฟังในบริษัทฯ”

เขาพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินผ่านเธอไป

พอเขาเดินจากไป เวินหนิงที่อารมณ์ตึงเครียดอยู่ก็ผ่อนคลายลง ฟังลู่จิ้นยวนพูดแบบนั้นแล้ว พวกเขาน่าจะมีทำอะไรกันไปบ้างไม่มากก็น้อย ลู่จิ้นยวนถึงได้ดูรนรานแบบนี้

ในใจเธอก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา เธอสะบัดหัวเล็กน้อย ต้องเป็นเพราะกำลังตั้งครรภ์แน่เลย ถึงได้คิดมากแบบนี้ เธอจะมานั่งเสียใจกับเรื่องพวกนี้เขาลู่จิ้นยวนได้ไง

…………

หลายวันต่อจากนั้น ลู่จิ้นยวนก็ไม่ได้เข้าบริษัทฯเลย อาจไปดูงาน หรืออาจกำลังออกเดท

เวินหนิงเองก็ขี้เกียจไปสนใจว่าเขาไปทำอะไร เขาไม่อยู่แบบนี้ เธอจะได้ผ่อนคลายมากหน่อย

ไม่นาน ช่วงเช้าก็ผ่านไป เวินหนิงลุกขึ้น ไปกินข้าวที่โรงอาหาร ในขณะที่กำลังกินข้าวอยู่ ก็มีคนมานั่งลงฝั่งตรงข้าม

เพราะมีอาการแพ้ท้อง เวินหนิงจึงมักเลือกที่นั่งในมุมที่ไม่มีคน เพื่อเวลาแพ้ท้องจะได้ไม่ทำให้คนอื่นทานอะไรไม่ลงไปด้วย

ดังนั้น พอมีคนมานั่งด้วย เธอจึงรู้สึกแปลกใจ เงยหน้าขึ้นมาถึงเห็นว่าเป็นหลิวเมิ่งเซวี่ย

เห็นเธอแล้ว ในใจเวินหนิงก็รู้สึกแปลกๆ คนรักใหม่ของลู่จิ้นยวนมาหาเธอ แบบนี้ทำให้เธอรู้สึกเหมือนโดนคนรักของเขาเข้ามาหาเรื่อง

เวินหนิงมองเธออยู่สักครู่ รูปร่างหน้าตาของหลิวเมิ่งเซวี่ยไม่ได้สวยสะดุดตามากนัก แต่ก็ไม่ขี้เหร่อะไร ตอนนี้เธอสวมใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม ใช้เครื่องสำอางยี่ห้อดัง ดูแล้วอาจไม่ใช่สาวสวยเซ็กซี่ แต่ก็ถือว่าเป็นสาวสวยคนหนึ่ง

“เวินหนิง เธอทำงานอยู่ชั้นบนลำบากมากมั้ย”

หลิวเมิ่งเซวี่ยมาไม่ใช่เพื่อถามสารทุกข์สุขดิบของเวินหนิงแน่นอน แต่เพียงเพราะว่าครั้งที่แล้วเธอไม่ทันระวัง ทำให้ลู่จิ้นยวนรู้สึกรำคานเธอไม่น้อย เธอจึงไม่กล้าจะทำอะไรช่วงนี้

แต่ได้ยินมาว่าเวินหนิงถึงจะทำงานทั่วไป แต่ก็สามารถเข้าออกชั้นบนได้อย่างอิสระ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะวางแผนบางอย่าง

“ก็ดีอยู่นะ ทำไมเหรอ?” เวินหนิงค่อยๆกินข้าวด้วยใจเหม่อลอย

“ที่จริงแล้ว……ฉันแอบชอบท่านประธานลู่มานานแล้ว ที่ฉันมาทำงานที่บริษัทตระกูลลู่ก็เพราะเขา ดังนั้นฉันจึงอยากให้เธอช่วยฉันหน่อย ช่วยทำให้ความฝันของฉันเป็นจริงทีได้มั้ย?”

ขณะที่กำลังพูดอยู่หลิวเมิ่งเซวี่ยก็เอื้อมมือไปกุมมือของเวินหนิงไว้อย่างสนิทสนม “ถึงแม้ว่า ก่อนหน้านี้เราจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ฉันก็ยังช่วยเธอเลย ถูกมั้ย?”

จู่ๆเวินหนิงก็รู้สึกรสชาติอาหารในปากฝืดคอขึ้นมาทันที สิ่งที่หลิวเมิ่งเซวี่ยพูด ทำให้เธอรู้สึกจุกอยู่บนคอหอย

“เรื่องแบบนี้ฉันคงช่วยอะไรเธอไม่ได้หรอก อีกอย่างเรื่องที่เราเคยทำด้วยกันมันก็คือธุรกิจ ของมาเงินไป อย่าพูดเหมือนเป็นบุญคุณต่อกันเลย

เวินหนิงปฏิเสธเธออย่างชัดเจน พอเธอเห็นว่าเวินหนิงไม่เห็นด้วย สีหน้าหลิวเมิ่งเซวี่ยก็เปลี่ยนไปทันที “เวินหนิง ที่เธอไม่อยากช่วยฉัน ไม่ใช่ว่าเธอเองก็ชอบประธานลู่เหรอ?”

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset