ปรมาจารย์หญิงยอดนักปรุงยา – ตอนที่ 48 สัตว์พาหนะ

ปรมาจารย์หญิงยอดนักปรุงยา

 

ตอนที่ 48 สัตว์พาหนะ

 

จี้เฟิงเยี่ยนต้องใช้เวลาตลอดทั้งคืนเพื่อดูดซับพลังงานทางจิตวิญญาณทั้งหมดในหินแห่งความฝันก้อนนั้นจนกว่าจะหมด หินแห่งความฝันก้อนนี้นั้นก็เพียงแค่มองแต่ขนาดก็สามารถทําให้คนตกใจจนเป็นลมได้แล้ว แต่หลังจากที่จี้เฟิงเยี่ยนดูดซับพลังวิญญาณจากหินแห่งความฝันเสร็จสิ้นแล้ว ด้วยพลังที่ดูดซับมาได้ แม้มันจะช่วยฟื้นฟูตันเถียนได้เล็กน้อย แต่ความเร็วในการฟื้นตัวก็ช้ามากจนทําให้นางปวดใจจนรู้สึกอยากจะอาเจียนเป็นเลือด

 

จุดตันเถียนของนางนั้นเต็มไปด้วยรอยแตกแยก แกนกลางถูกบดขยี้จนเป็นผุยผง ซึมซับเชื่องช้าเช่นนี้ มีแต่พระเจ้าเท่านั้นแหละที่ตรัสรู้ว่าชาติไหนนางจะรักษาตัวสําเร็จ!

 

จี้เฟิงเยี่ยนนอนบนเตียงนอนด้วยความรู้สึกหดหู่ แม้นางจะไม่ได้นอนทั้งคืน แต่เรี่ยวแรงของนางไม่ได้ลดน้อยลง แม้ว่าในตอนนี้ดวงตาของนางจะเต็มไปด้วยความเศร้าหมองก็ตาม

 

นางคิดถึงแกนกลางที่สมบูรณ์และแข็งแกร่งของนางเสียเหลือเกิน…

 

จี้เฟิงเยี่ยนนอนนิ่งแกร่วอยู่บนเตียงเพื่อไว้อาลัยแด่วิธีรักษาเพื่อฟื้นฟูแกนกลางภายในของของนางที่ดูเหมือนจะเชื่องช้าเยี่ยงเต่าคลานและไม่มีวันที่สิ้นสุด พร้อมนั้นนางก็กําลังคิดหาวิธีที่จะทําให้นางได้รับแร่มากขึ้นโดยเร็วที่สุด เมื่อนึกภาพตนเองที่มีหวังในการกลับไปบนเส้นทางแห่งการบําเพ็ญเพียรอีกครั้ง นางก็ถึงกับตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น

 

ตัดมาที่คลาดใหญ่ของเมืองจี มีข่างลือแพร่สะพัดเกิดขึ้น ในข่าวนั้นเล่าลือว่าเจ้าของร้านพนันหินหยกที่ใหญ่ที่สุดในเมืองจีกลายเป็นคนปัญญาอ่อนในชั่วข้ามคืน จากเดิมที่ทั้งฉลาดและเจ้าเล่ห์ ตอนนี้เขาเป็นแค่คนบ้าใบ้และทําได้เพียง แค่นั่งน้ำลายไหลอยู่บนพื้นอย่างน่าสงสาร แม้ว่าคนงานในร้านจะไปขอความช่วยเหลือจากหมอชื่อดังทั่วเมืองจี แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหาวิธีรักษาออกมาได้ อีกทั้งอาการพูดไม่รู้เรื่องและละเมอเพ้อพบชอบกล่าวว่า “ปีศาจหายตัวได้ มันทําร้ายข้า” เล็ดลอดออกมาทําให้ให้ทั้งเมืองล้วนคิดว่าที่เจ้าของร้านเป็นเช่นนี้เพราะถูกสวรรค์ลงทัณฑ์

 

แต่ท้ายที่สุด เมื่อข่าวเรื่องการเดิมพันหินที่เกิดขึ้นในร้านของเขาระหว่างซูหลิงเฉิงและจี้เฟิงเยี่ยนออกมาจนทุกคนในเมืองล่วงรู้ ความคิดที่ว่าเจ้าของร้านถูกเทพเจ้าลงโทษก็พลันหายไป ในฐานะเจ้าของร้านที่ สร้างความวุ่นวาย” ให้แก่จวนเจ้าเมืองและล่วงเกินนางกํานัลชั้นสูง ต่อให้ไม่ใช่เจ้าของร้านคนนี้ เมื่อเจอปัญหานี้เข้าไปก็อาจจะเป็นไปได้ที่จะ “เป็นบ้า” ในชั่วข้ามคืนเช่นกัน ช่างน่าสงสาร!! เพราะความกลัวจนเกินไปของเจ้าของร้าน เขาจึงซึ่งเป็นบ้าเสียก่อนที่พรรคพวกขององค์หญิงใหญ่และนายน้อยเลยมินจะมาเอาความ

 

แน่นอนว่ายังมีคนบางคนที่บอกว่านี่เป็นการกระทําโดยตั้งใจของเจ้าของร้านเพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ!!

 

แต่เรื่องจริงนั้นไม่มีใครล่วงรู้

 

จี้เฟิงเยี่ยรก็ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน แต่นางไม่ได้กังวลอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ นางเพียงแค่ฟังข่าวนี้แล้วเงียบ ๆ ไปสักพัก

 

หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว หลิงเหอก็รีบมาแจ้งให้นางทราบว่าคนที่ส่งมอบสัตว์รบมาถึงแล้วและนางควรรีบไปเลือก

 

“สัตว์รบ?” จี้เฟิงเยี่ยนกระพริบตาของนาง และกลอกดวงตาไปมาอย่างสับสน คํานี้ทําให้นางนึกถึงสัตว์เลี้ยงน่ารักๆในชาติก่อนขึ้นมาตะหงิดๆ

 

หลิงเหอจึงรับอธิบายว่า “ นั่นเป็นเพราะคุณหนูได้รับ “เกราะสิ้นพิภพ” จากนายท่าน และตามกฎระเบียบอาณาจักรแล้วท่านจะต้องจับดาบแล้วเข้าสู่สนามรบเพื่อต่อสู้กับเผ่าปีศาจ เป็นที่รู้กันว่าปีศาจนั้นโหดร้ายน่ากลัวและทรงพลัง ดังนั้นนักรบจุติทุกคนจะถูกจับคู่กับ “สัตว์รบ” ที่แข็งแกร่งเพื่อร่วมมือและต่อสู้ด้วยกัน พาหนะนั้นอาจมีเจ็บมีตาย ดังนั้นนักรบจุติจึงสามารถเลือกพาหนะได้หลายครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกของคุณหนู “สัตว์รบ คงมีมากมายและหลากหลายพอดู แต่โดยหลักๆแล้วสัตว์รบตัวแรก ท่านควรเลือกตัวที่แข็งแกร่งที่สุด”

 

“ใช่ๆ ข้าน้อยก็คิดเช่นนั้น แต่ก็ควรดูความแข็งแกร่งโดยรวมด้วย เช่น “ซิจู” แม้มันจะเป็นม้า แต่มันก็มีพลังมาก ไม่เพียงแต่จะแข็งแกร่งในด้านการโจมตีเท่านั้น แต่ยังวิ่งได้เร็วมากด้วย” ผู้คุ้มกันที่อยู่ด้านข้างก็เริ่มส่งเสียงเสนอความเห็นที่มีประโยชน์

 

“ ครั้งนั้นข้าเห็นม้าที่นายพลหลงพามาด้วยคือ บิเหมิง [เป็นชื่อของม้าพันธุ์อื่น] ความสูงของมันเกือบจะเท่าภูเขาลูกย่อม ๆ แค่เหยียบย่างเก้าก็ทําให้พื้นสั่นได้”

 

“ ช่างน่าทึ่งจริงๆ! ครั้งนั้นนายพลของเราใช้ “จูชิโชว” [เป็นชื่อของม้าพันธุ์อื่น] ความสามารถในการต่อสู้ของมันก็ดีมากเช่นกัน…” ผู้คุ้มกันคนหนึ่งเอ่ยขึ้น แม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่ทุกคนล้วนทราบดีว่านายพลที่เอ่ยถึงก็คือ บิดาของจี้เฟิงเยี่ยน

 

แต่…แล้วไง?

 

“ข้าจะไม่สนใจในเรื่องพาหนะสัตว์ที่เอาไว้ขี่หรอก” จี้เฟิงเยี่ยนไม่ได้ใส่ใจเรื่องพวกพาหนะอะไรนั่นหรอก ถึงแม้หลิงเหอและคนอื่น ๆ จะพยายามพูดให้นางฟังก็ตาม เจ้าของร่างเดิมมีความทรงจําที่คลุมเครือเกี่ยวกับพาหนะเหล่านั้น แต่สําหรับจี้เฟิงเยี่ยนที่มีเป้าหมายเป็น “เซียนอมตะผู้ยิ่งใหญ่” สัตว์รบ.สัตว์ร้ายอะไรนั่นเป็นแค่เรื่องไร้ความหมาย

 

นั่งอยู่บนหลังของสัตว์..จะดีกว่าเหาะเหินได้ยังไง!

 

มันไม่ได้สง่างามยามโผบิน!

 

มีเซียนผู้ยิ่งใหญ่คนใดพาสัตว์ร้ายตัวใหญ่ยักษ์ออกมาเดินเล่นยามเช้าบ้างไหม? แค่คิดก็พอที่จะทําให้ภาพลักษณ์ของนางเสื่อมเสียไปเสียแล้ว!

 

หลิงเหอและคนอื่น ๆ ไม่เข้าใจความคิดของจี้เฟิงเยี่ยน พวกเขาขอเพียงให้นางรีบไปดูพาหนะด้วยแววตาแห่งการออดอ้อน จี้เฟิงเยี่ยนมองพวกเขาด้วยความเหนื่อยใจ และตัดสินใจจะไปดูเสียหน่อยเผื่อมีสัตว์น่ารักๆจะได้เอามาเล่นแก้เซ็ง

 

ปรมาจารย์หญิงยอดนักปรุงยา

ปรมาจารย์หญิงยอดนักปรุงยา

ปรมาจารย์หญิงยอดนักปรุงยา
Score 5.9
Status: Ongoing Released: N/A Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ปรมาจารย์หญิงยอดนักปรุงยาบทนำ เธอคือผู้บำเพ็ญเพียรที่เเข็งเเกร่งที่สุดในศตวรรษที่ 24 เเต่! เมื่อเธอย้ายเข้าสู่โลกเวทย์มนต์ เธอก็เป็นดั่งปีศาจร้ายที่คลุ้มคลั่ง การกดขี่ข่มเหงจากวงศ์ตระกูล อีกทั้งคู่หมั้นของเธอก็มองเธอเป็นเพียงคนต่ำต้อย คอยเหยียบย่ำทำร้ายน้ำใจ…..ต้องการทำลายเธอใช่มั้ย หึๆ เธอหัวเราะอย่างเยือกเย็น ในไม่ช้าเธอจะสั่งสอนพวกเขาให้รู้ถึงวิธีปฏิบัติตนที่ถูก..ที่ควร เวทมนต์ข้าอัศจรรย์หรือไม่? ยันต์ลูกไฟบรรลัยกันต์สามารถทำให้พวกเจ้ากลายเป็นเถ้าถ่ายในพริบตา? โอสถของข้างั้นรึ เชื่อหรือไม่ ด้วยโอสถเพียงเม็ดเดียวเปลี่ยนสวะขยะไร้ค่าให้กลายเป็นอัจฉริยะสุดเเกร่งได้ เเม้เเต่กองทัพกากๆก็กลายเป็นสปาร์ต้าที่ดุร้ายได้ขอเพียงเเค่หว่านโอสถขนาดเท่าเม็ดถั่วโปรยให้เท่านั้น ด้วยความเทพทรูวงเงินไร้จำกัดนี้ ตัวข้าก็สามารถนั่งกระดิกเท้ามองดู”เกมส์”เเบบชิวๆ ด้วยอำนาจความเทพนี้ ข้าจะเป็นดั่งตัวตนสูงสุด ใครยอมข้าอยู่ ใครขัดขืนข้า…ตาย! ด้วยเหตุผลกลใดก็ไม่รู้ ปรมาจารย์เเสนสวยหันหน้ามา เขา…ก็มองเธออยู่เสมอ ด้วยความหลงใหลเธอเเบบถอนตัวไม่ขึ้น ปรมารย์คนหนึ่ง: “ข้ามองเจ้าตั้งนานขนาดนี้ เจ้าก็ยังไม่รู้ตัวอีกหรือ?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset