ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว – ตอนที่ 19

บทที่ 19 เธอจริงจังจริงๆ
เมื่อประชุมเสร็จ ทุกคนต่างโค้งให้เฟิงเฉินและออกไป ลั่วมั่นยังคงนั่งที่เดิมเหม่อลอยออกไป พูดไปอย่างนั้นเหมือนจะง่าย แต่ที่จริงแล้วแม้แต่ทางไปแผนการขายอยู่ทางไหน เธอยังไม่รู้เลย
“ประธานลั่ว คุณจะไปแผนการขายรึเปล่าค่ะ?”
เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น ลั่วมั่นเงยหน้าขึ้นและมองดู
“ใช่ค่ะ”
“ฉันคือส้งชิงหรู จากฝ่ายขาย ฉันสามารถพาคุณไปที่นั่นได้”
ลั่วมั่นสังเกตเห็นว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเธอมีป้ายห้อยอยู่ที่คอ บนหัวพิมพ์ว่า “รองผู้อำนวยการฝ่ายขาย” ตาของเธอเป็นประกายขึ้นมา
ฝ่ายขายอยู่บนชั้นที่สิบ ห่างจากห้องทำงานประธานเพียงสองชั้นที่เฟิงเฉินอยู่
ส้งชิงหรูยืนอยู่ในห้องทำงานฝ่ายขาย และตบมือตัวเอง
“ขอให้ทุกคนหยุดงานในมือก่อนนะคะ มีเรื่องจะประกาศค่ะ”
สมาชิกในทีมต่างหยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่ และยื่นศีรษะออกมาจากตารางสีน้ำเงินขาว มองไปทางของส้งชิงหรู
“นี่คือคุณลั่วมั่นประธานลั่วผู้อำนวยการฝ่ายขายของเรา หลังจากนี้เราจะทำงานร่วมกัน ทุกคนยินดีต้อนรับประธานลั่วหน่อยค่ะ”
ทุกคนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง มองหน้ากัน ไม่รู้ว่าใครจะเริ่ม ก่อนเสียงปรบมือจะดังขึ้น
ลั่วมั่นโค้งตัวเล็กน้อยและก้มศีรษะลง พูดว่า “ฉันลั่วมั่นค่ะ หลังจากนี้จะได้ทำงานร่วมกับพวกคุณ หวังว่าเราจะทำงานกันอย่างราบรื่นนะคะ”
เสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้ง ในบรรยากาศที่แปลกๆ
ลั่วมั่นรู้อยู่แก่ใจว่าเธอไม่สามารถโน้มน้าวผู้อื่นได้หากเธอไม่มีคะแนน แต่เธอไม่ได้สนใจ แค่มองพนักงานอย่างเป็นมิตร แล้วเดินตามส้งชิงหรูไปที่ห้องทำงานส่วนตัวของผู้อำนวยการ
บนโต๊ะทำงานมีของใช้ส่วนตัวอยู่มากมาย ส้งชิงหรูอธิบายอย่างรวดเร็ว
“พอดีว่าในแผนกขายมีห้องทำงานเพียงห้องเดียว ก่อนหน้านี้รองผู้อำนวยการจึงมาอยู่ที่นี่ก่อน แต่คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฉันจะย้ายของออกไปให้เร็วที่สุด”
“ไม่เป็นไรค่ะ” ลั่วมั่นยิ้ม “เพิ่มอีกโต๊ะหนึ่งก็ได้ เรานั่งตรงข้ามกัน”
ส้งชิงหรูพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นดิฉันออกไปคุยกับแผนกจัดซื้อเกี่ยวกับเรื่องนี้สักครู่นะคะ คุณเชิญนั่งก่อน”
“อืม” ลั่วมั่นวางกระเป๋า “ใช่สิ มีข้อมูลเกี่ยวกับฝ่ายขายที่นี่ไหม? ฉันต้องการดูสักหน่อย”
ส้งชิงหรูชี้ไปที่ชั้นวางหนังสือ และอธิบายอย่างใจเย็น
“ที่อยู่ตรงนั้นใช่ทั้งหมดเลยค่ะ จัดเลขรหัสเรียงตามปี หากคุณต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถค้นหาได้ในฐานข้อมูลของคอมพิวเตอร์ตามเลขรหัสได้เลยค่ะ”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“ยินดีค่ะ”
เมื่อส้งชิงหรูเดินออกจากห้องทำงานไป ในตอนที่ปิดประตู รอยยิ้มที่อยู่บนหน้าของเธอก็หุบลง
เธอทำงานหนักมานานกว่าสองปีเพื่อที่จะได้นั่งตำแหน่งนี้ แต่นั่งได้ไม่ถึงหนึ่งเดือนเท่านั้น ก็ถูกแทนที่อย่างกะทันหันจากภรรยาของท่านประธาน มีสิทธิอะไรกัน?
เมื่อฟ้าเริ่มมืด เฟิงเฉินขึ้นลิฟต์ลงมาชั้นล่าง และหยุดที่แผนกขายบนชั้นที่สิบ มีคนที่ทำงานล่วงเวลาสองสามเดินเข้าและทักทายด้วยความเคารพ ก่อนยืนอยู่ข้างๆ
ดวงตาของเฟิงเฉินมองผ่านประตูลิฟต์ที่เปิดออก และหันไปในทิศทางของห้องทำงานของผู้อำนวยการ เขาเห็นร่างที่คุ้นเคยผ่านช่องว่างของผ้าม่าน คิ้วของเขาขมวดเล็กน้อย และยกข้อมือมองเวลา
หนึ่งทุ่มครึ่ง ควรได้เวลาเลิกงานแล้ว
“ประธานเฟิงต้องการรอประธานลั่วรึเปล่าครับ?”
คนในลิฟต์ถามอย่างระมัดระวัง ในเมื่อความสัมพันธ์สามีภรรยาของเฟิงเฉินและลั่วมั่นนั้นไม่ใช่ความลับ
เฟิงเฉินดึงสายตากลับมา และมองอย่างเย็นชา “คุณคิดว่ายังไงหล่ะ?”
ใบหน้าของคนคนนั้นซีดขาว และรีบกดปุ่มปิดประตูลิฟต์อย่างรวดเร็ว
ประตูลิฟต์ปิดตัวลงอย่างช้าๆ ดวงตาของเฟิงเฉินมองผ่านช่องว่างที่ค่อยๆ ปิดอย่างช้าๆ จนปิดสนิท และในขณะที่ลิฟต์ลง ในใจของเฟิงเฉินก็รู้สึกบีบแน่นอย่างไม่รู้สาเหตุ
เธอจริงจังกับงานนี้จริงๆ เหรอ?

ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว

ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว

เธอเป็นสะใภ้ตระกูลใหญ่มา3ปี สามีเธอหยอกล้อกับหญิงอื่น เธอก็ไม่สนใจแถมยังต้มซุปบำรุงไตส่งให้สามีทุกวันวันหนึ่ง ผู้หญิงที่สามีรักที่สุดมายืนอยู่ตรงหน้าเธอ แล้วบอกว่า"ฉันตั้งครรภ์แล้ว"นี่เป็นครั้งแรก ที่ลั่วมั่นได้ใช้อุบาย บังคับผู้หญิงคนนั้นทำแท้งเฟิงเฉินบีบคอของเธอ "ลั่วมั่น ที่เธออดทน3ปีมานี้ เสแสร้งต่อไปไม่ไหวแล้วใช่ไหม"เธอยิ้มจนน้ำตาไหล "excuse me ฉันก็ตั้งครรภ์แล้ว ส่วนทายาทของตระกูลเฟิง ต้องเป็นลูกชายของฉัน!"

Options

not work with dark mode
Reset