ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว – ตอนที่ 25

บทที่ 25 ลั่วมั่นเป็นชื่อที่คุณเรียก
ดูเหมือนจะไม่ได้คิดมาก เฟิงเฉินโทรศัพท์กลับไป และก็โทรติดอย่างรวดเร็วด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย แฝงไปด้วยความชั่วร้าย
“หายากจริงๆ ! เป็นครั้งแรกที่คุณโทรศัพท์กลับมาหาฉัน”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของเฟิงเฉินอ่อนลงเล็กน้อย แต่ไม่พูดตอบกลับไป
อีกฝ่ายไม่รอให้ตอบกลับ ภายในไม่กี่วินาทีก็มีเสียงยิ้มเยาะ น้ำเสียงชัดเจน
“เอ่อ…คุณไม่ใช่มั่นมั่น”
เมื่อได้ยินเรียกชื่อที่ใกล้ชิดขนาดนี้ เฟิงเฉินหน้าดำคร่ำเครียดขึ้นมาทันที พูดอย่างไม่พอใจ “มั่นมั่นเป็นชื่อที่คุณเรียก?”
เมื่อได้ยินเสียงอารมณ์โกรธ เสียงในโทรศัพท์กลับสงบนิ่ง
“ฟังจากน้ำเสียง คุณกลัวว่าไม่เคยเรียกชื่อนี้มาก่อนใช่ไหม?”
“……..” สีหน้าของเฟิงเฉินดูแย่ลงไปกว่าเดิม
ชายในโทรศัพท์ทำเสียงเย้ยหยัน ก่อนที่จะวางโทรศัพท์ลงทันที ดูเหมือนไม่ยอมคุยเรื่องไร้สาระกับเขามากไปกว่านี้ สบประมาทน่าดู
เฟิงเฉินกำโทรศัพท์มือถือ อารมณ์ภายในสายตาเหมือนเลือดแดงชาดไหลออกมาจากดวงตา
ไม่ใช่เขาไม่เคยเรียกเธอแบบนั้นมาก่อน เพราะเคยเรียกชื่อเธอแบบนี้ ดังนั้นคำเรียกชื่อที่สนิทสนมแบบนี้ พอได้ยินจากปากคนอื่นจึงทำให้รู้สึกน่าอาย
เสียงน้ำในห้องน้ำหยุดลงกะทันหัน ลั่วมั่นเปิดประตู มือข้างหนึ่งเช็ดผมที่ยังเปียก เมื่อเงยหน้าขึ้น ขาข้างหนึ่งกำลังก้าวออกจากประตูเหยียบพรมบนพื้น ต้องหยุดชะงัก
“คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
เธออยากคิดแต่ไม่คิด จากนั้นก็โพล่งออกมา
กลับมาบ้านด้วยความไม่พอใจจึงแยกย้ายกันไป มาตอนนี้เขากลับมาปรากฎตัวในห้องของเธอ ไม่ใช่รู้ตัวว่าผิดสำนึกได้ก็จะมารับผิดขอโทษขอโพย? มันน่าอึดอัดใจ
เฟิงเฉินถูกรบกวนจิตใจด้วยโทรศัพท์เมื่อสักครู่ เมื่อได้ยินคำพูดของลั่วมั่นเหมือนขับไล่อย่างไม่แยแส ทำให้สีหน้าบูดบึ้ง “ที่นี่คฤหาสน์เฟิง ฉันจะไปไหนยังต้องถามเธอด้วยหรือไง?”
ลั่วมั่นตะลึง เมื่อมีสติ จึงกลับมามีท่าทางใจเย็น แล้วเช็ดผมต่อไป
“แน่นอนไม่ต้อง ถ้าคุณจะนอนที่นี่ฉันก็ห้ามไม่ได้ แต่เตียงของฉันไม่สบายพอเท่าเตียงในห้องของคุณ คนของฉันก็ไม่ได้บริการดีเท่าคนในห้องของคุณ”
“เธอพูดแบบนี้ต้องการบอกอะไรฉันกันแน่?” สายตาเฟิงเฉินปรากฏความโกรธให้เห็น “เตือนฉันว่าอย่าทำให้เธออึดอัดใจเป็นดีที่สุดใช่ไหม?”
ลั่วมั่นยักคิ้ว จากนั้นหันหลังให้เขาเพื่อไปหยิบไดร์เป่าผม “ก็แล้วแต่คุณจะคิด”
เธอไม่ได้มีความคิดนี้ตั้งแต่แรก เพียงแต่ให้เขาโกรธเพราะดอกไม้กับกล่องสร้อยคอทำให้ตัวเองซึ่งหยิ่งทะนงต้องอับอายเพราะไปรักชายอื่น ตอนนี้เห็นเขาก้าวร้าว ก็จะไม่ยอมง้อง่าย ลิ้นกับฟันกระทบกันมาหลายปี ใครก็ไม่ยอมลงให้ใคร เป็นสิ่งที่เคยชินแล้ว
พูดกันตามสามัญสำนึกแล้ว ตอนนี้เขาควรจะออกไป แล้วก็ไม่ต้องกลับมาอีกในสองสามวันนี้
แต่ก็มีเรื่องยกเว้นอยู่เสมอ
ตอนที่ข้อมือถูกจับกุมไว้ ความเจ็บปวดใจทำให้ลั่วมั่นทำอะไรไม่ถูก หลังจากร้องเสียงแหลมออกมา ไดร์เป่าผมในมือตกลงพื้น ทำให้เกิดเสียงดัง
เสียงดัง “ปัง” สายตาบางคนไม่สามารถควบคุมเปลวไฟได้
“เธอถึงกับทนไม่ไหวผลักสามีให้ออกจากห้องนี้ไปเชียวหรือ?” สีหน้าเฟิงเฉินบึ้งตึง มือข้างหนึ่งจับข้อมือของเธอไว้ ถามด้วยน้ำเสียงบีบคั้น
“เธอรู้สึกว่านอนกับฉันแค่ครั้งเดียวก็พอแล้ว? ครั้งนี้เธอจะสามารถตั้งครรภ์ไหม?”
“ปล่อยฉันนะ”
ลั่วมั่นหน้าซีด พยายามต่อสู้ขัดขืนจนถึงที่สุด
เฟิงเฉินไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ขัดขืน จับมือทั้งสองข้างเธอไขว้ไว้ด้านหลังเอว จากนั้นผลักเธอลงบนโต๊ะเครื่องแป้ง
“เพ้งๆ” เสียงขวดแก้วและกระป๋องกระทบกัน จากนั้นเลื่อนไปถึงมุมโต๊ะแล้วตกลงพื้น ขวดแก้วสีต่างๆ แตกกระจุยกระจายตามพื้น
ในสมองของลั่วมั่นความคิดเรื่องคืนก่อนลอยเข้ามา ขณะนั้นจึงรู้สึกหวาดกลัวจนกรีดร้องออกมา “อย่า….”
“ฉันเคยบอกแล้ว เธออยากมีลูกฉันก็จะให้ลูกแก่เธอ”
เฟิงเฉินถอดเสื้อคลุมของเธอออก ลมเย็นพัดหายไป เข่าของเขาแยกต้นขาขาวนวลของเธอออกจากกัน แล้วยกเอวเธอขึ้น จากนั้นเผด็จศึกอย่างหยาบคาย
“อ๋า…

ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว

ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว

เธอเป็นสะใภ้ตระกูลใหญ่มา3ปี สามีเธอหยอกล้อกับหญิงอื่น เธอก็ไม่สนใจแถมยังต้มซุปบำรุงไตส่งให้สามีทุกวันวันหนึ่ง ผู้หญิงที่สามีรักที่สุดมายืนอยู่ตรงหน้าเธอ แล้วบอกว่า"ฉันตั้งครรภ์แล้ว"นี่เป็นครั้งแรก ที่ลั่วมั่นได้ใช้อุบาย บังคับผู้หญิงคนนั้นทำแท้งเฟิงเฉินบีบคอของเธอ "ลั่วมั่น ที่เธออดทน3ปีมานี้ เสแสร้งต่อไปไม่ไหวแล้วใช่ไหม"เธอยิ้มจนน้ำตาไหล "excuse me ฉันก็ตั้งครรภ์แล้ว ส่วนทายาทของตระกูลเฟิง ต้องเป็นลูกชายของฉัน!"

Options

not work with dark mode
Reset