ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว – ตอนที่ 249

บทที่ 249 ขอคุยด้วยสักหน่อยได้ไหม
ประตูห้องสอบปากคำ ‘ปัง’ เสียงใช้แรงดังขึ้น ตำรวจหนุ่มถือสมุดบันทึกเดินตามฟางฉงเม่าออกมา “การบันทึกปากคำของคนในตระกูลเฟิงใกล้เสร็จแล้ว เฟิงเซิ่งคุณชายรองบอกว่าไม่นานมานี้ลั่วมั่นมีปากเสียงกับลู่จิ่งจู”
“ปากเสียง?” ฟางฉงเม่าหยุดเดินและหันกลับไปถาม “เรื่องอะไร?”
“เพราะหลายปีมานี้ลู่จิ่งจูสั่งให้เธอมีหลานตลอด ก่อนหน้าความสัมพันธ์ของลั่วมั่นกับสามีไม่ค่อยดี และช่วงใกล้มานี้ลั่วมั่นจดจ่ออยู่กับการทำงานมาก ดังนั้นลู่จิ่งจูจึงถอดตำแหน่งเธอออกจากบริษัทH.Y. ด้วยเหตุผลบางอย่าง”
ได้ยินอย่างนี้ คิ้วของฟางฉงเม่าขมวดหนักยิ่งขึ้น โยนหมวดตำรวจไปที่หน้าอกลูกน้องด้านข้าง ขมวดคิ้วจุดบุหรี่ม้วนหนึ่ง สีหน้าเคร่งขรึมมาก
ลูกน้องถามอย่างระมัดระวัง
“อาจารย์ ถ้าห้องพิสูจน์หลักฐานส่งผลการตรวจสอบลายนิ้วมือมา ยืนยันว่าบนปืนกระบอกนั้นเป็นลายนิ้วมือของลั่วมั่น คดีนี้ก็ถือว่าคลี่คลายได้แล้วใช่ไหม?”
ฟางฉงเม่าพ่นควันออกมา หรี่ตาพูดว่า
“ไม่แน่ วัตถุประสงค์ของฆาตกรไม่ถูกต้อง แค่มีปากเสียงกันเล็กน้อย ไม่ควรทำเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ แต่ปืนกระบอกนั้นเป็นหลักฐานที่สำคัญจริงๆ ”
“ก่อนหน้านี้พวกเราก็เคยทำคดีฆาตกรรมเพราะการมีปากเสียงเล็กน้อยไม่ใช่หรือ? ลู่จิ่งจูถอนอำนาจในการทำงานของลั่วมั่น และดูจากประวัติแล้ว ลั่วมั่นจบปริญญาโทจากคณะบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด เธอแต่งงานเข้ามาในตระกูลเฟิงเพราะผลประโยชน์ของครอบครัว ไม่เคยมีส่วนร่วมในกิจการภายในของบริษัทH.Y. แต่หลายเดือนมานี้จู่ๆสามีของเธอก็ให้เธอเข้าร่วม ทำผลงานไม่น้อย เป็นช่วงเวลาที่จะพัฒนาในอาชีพของเธอ แต่กลับโดนลู่จิ่งจูใช้เป็นเหตุผลขัดขวางซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าเอาเรื่องนี้เป็นเหตุผลในการฆาตกรรม ก็ไม่ใช่ไม่ได้”
ฟางฉงเม่าขมวดคิ้วยิ่งขึ้น
“เหตุผลยังไม่ถูก”
ลูกน้องยังไม่ทันได้ถามว่าไม่ถูกตรงไหน เสียงความวุ่นวายเกิดขึ้นในห้องโถงสถานีตำรวจ ฟางฉงเม่าเงยหน้าไปมอง “เกิดอะไรขึ้น?”
ลูกน้องวิ่งไปดูอย่างกระตือรือร้น ไม่นานก็รีบวิ่งกลับมา พูดอย่างหายใจไม่ทันว่า “อาจารย์ เป็น…นายน้อยของตระกูลเฟิง สามีของลั่วมั่นมาแล้ว บอกว่าจะพาเธอไป แม้แต่หัวหน้าของพวกเราก็ตื่นตกใจ”
สีหน้าฟางฉงเม่าค่อยเปลี่ยน
ตำแหน่งของตระกูลเฟิงในเมืองเจียงชัดเจนโดยไม่ต้องอธิบาย คุณชายใหญ่ของตระกูลเฟิงต้องการจะพาคนไป ถ้าไม่มีหลักฐานพยานที่แน่ชัดว่ามีการทำผิดทางอาญาจริง เขาเกรงว่าจะขวางยังไงก็ขวางไม่ได้
ไม่นาน ผู้อำนวยการพาเฟิงเฉินเดินมา มองมาที่ฟางฉงเม่า
“คุณฟาง ท่านนี้คือประธานน้อยเฟิงเฉินของบริษัทH.Y. มารับภรรยาของเขา ลงบันทึกเสร็จแล้วรีบปล่อย นางหญิงเฟิงกลับไป ตั้งใจทำงานแต่ก็ไม่ควรใช้เวลาของนางหญิงเฟิงมากเกินไปใช่ไหม ไม่งั้น คุณเฟิงจะคิดว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ต้องรีบมารับด้วยตัวเอง”
คำพูดผู้อำนวยการบอกอย่างชัดเจนให้ปล่อยลั่วมั่น คนที่อยู่ในเหตุการณ์แทบทุกคนรู้ จากหลักฐานในตอนนี้ ลั่วมั่นไม่ใช่แค่พยานในเหตุการณ์คนแรกเท่านั้น แต่น่าสงสัยมาก
ฟางฉงเม่ามองสำรวจเขา คนที่มีความสามารถแต่แววตากลับเย็นชา ความคิดที่เก็บไว้ลึกจนไม่สามารถอ่านได้ เขาใสั่น “คุณเฟิง ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม?”
“คุณฟาง ” ผู้อำนวยการร้อนใจ ส่งสายมาบอกว่าอย่าหาเรื่องอีกเลย
ฟางฉงเม่าทำเหมือนไม่เห็นอะไร ยังคงจ้องเฟิงเฉิน
ถ้าเขาไม่เห็นด้วยกับการขอคุยด้วยหน่อย งั้นก็คงเป็นธรรมชาติของมนุษย์ ในเมื่อผู้อำนวยการเอ่ยปากแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องจัดการอะไร แค่พาคนไปเลยก็จบ แต่ถ้าเขาเห็นด้วย นั้นแสดงว่าเขาต้องรู้อะไรที่เกี่ยวข้องคดียิงปืนมากกว่านี้
ไม่นาน ชายตรงหน้าพยักหน้า ดวงตาลึกล้ำ “ได้

ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว

ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว

เธอเป็นสะใภ้ตระกูลใหญ่มา3ปี สามีเธอหยอกล้อกับหญิงอื่น เธอก็ไม่สนใจแถมยังต้มซุปบำรุงไตส่งให้สามีทุกวันวันหนึ่ง ผู้หญิงที่สามีรักที่สุดมายืนอยู่ตรงหน้าเธอ แล้วบอกว่า"ฉันตั้งครรภ์แล้ว"นี่เป็นครั้งแรก ที่ลั่วมั่นได้ใช้อุบาย บังคับผู้หญิงคนนั้นทำแท้งเฟิงเฉินบีบคอของเธอ "ลั่วมั่น ที่เธออดทน3ปีมานี้ เสแสร้งต่อไปไม่ไหวแล้วใช่ไหม"เธอยิ้มจนน้ำตาไหล "excuse me ฉันก็ตั้งครรภ์แล้ว ส่วนทายาทของตระกูลเฟิง ต้องเป็นลูกชายของฉัน!"

Options

not work with dark mode
Reset