ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว – ตอนที่ 28

บทที่ 28 ฉันต้องการจะทำอะไร
“…….”
ตอนที่ประชุมใกล้เสร็จสิ้น ลั่วมั่นอ้างว่ารับโทรศัพท์ จึงออกจากห้องประชุมไป
พอเธอออกไป คนในแผนกขายสินค้าเริ่มซุบซิบนินทา
“เธอฟังเข้าใจเรื่องที่พวกเรากำลังถกเถียงกันเรื่องอะไร? ฉันเห็นเธอใจลอยตลอดเวลา”
“เป็นเพราะความสามารถในการทำงานของผู้อำนวยการซ้ง จึงมอบหมายงานต่างๆ ให้ผู้อำนวยการซ้ง เธอได้ตำแหน่งนี้โดยไม่สมเหตุสมผล จึงทำให้คนดูถูก”
ส้งชิงหรูกระแอม ห้องประชุมจึงได้เงียบสงบ
“พอได้แล้ว พูดให้น้อยทำให้มาก ปกติฉันสอนพวกเธออย่างไร?”
“ผู้อำนวยการซ้ง พวกเราบ่นเสียดายแทนคุณอยู่นะ?”
“ประธานลั่วเป็นภรรยาของท่านประธาน อีกทั้งยังเป็นผู้ถือหุ้น อย่าว่าแต่เป็นผู้อำนวยการแผนกขายเลย ต่อให้เป็นรองประธานบริษัทก็ยังมีสิทธิ์ทำได้ ไม่ต้องให้พวกเรามาวิจารณ์”
คำพูดของส้งชิงหรูไม่มีช่องโหว่ ฟังแล้วป้องกันไม่ให้ผู้คนเอาไปร่ำลือ แต่ในความเป็นจริงมันเป็นคำเตือนเงียบๆ ลั่วมั่นไม่สร้างแรงกดดันใดๆ แก่พวกเขา ซึ่งมาจากความลึกลับของเธอ ดังนั้นคนที่นั่งอยู่ในห้องประชุมจึงได้แต่มองหน้ากันไปมา ความหมั่นไส้ภายในใจที่มีต่อลั่วมั่นจึงเพิ่มมากขึ้น
สำนักผู้อำนวยการ
ส้งชิงหรูผลักประตูเข้าไปพบกับลั่วมั่นที่อยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานด้วยท่าทางไม่มีความสุข
“ประธานลั่ว กาแฟ”
เธอวางแก้วกาแฟไว้ตรงหน้าลั่วมั่นอย่างระมัดระวัง
“ขอบคุณ” ลั่วมั่นมีสติ “ประชุมเสร็จแล้วใช่ไหม?”
“อืม” ส้งชิงหรูจ้องมองสีหน้าของเธอ “ประธานลั่วดูไม่มีความสุขใช่ไหม? การประชุมมีอะไรที่คุณไม่พอใจหรือเปล่า? คุณสามารถปรับเปลี่ยนได้นะ”
“โอ้ ไม่ใช่” ลั่วมั่นส่ายหัว เธอไม่ปกปิดความหงุดหงิดของตัวเอง “เพียงแต่รู้สึกว่าแผนกนี้ไม่มีเรื่องอะไรที่ฉันสามารถทำได้ มันซ้ำซ้อนนิดหน่อย”
ส้งชิงหรู หันกลับมาและกล่าวอย่างลังเล “เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็มีพนักงานและทีมงานคอยทำอยู่ คุณไม่ต้องลงมือทำเอง แต่มีบางเรื่องที่พวกเขาไม่สามารถทำได้ คุณอาจทำได้”
“จริงเหรอ?”
สายตาลั่วมั่นเป็นประกาย “เรื่องอะไร?”
“มีสัญญา อีกฝ่ายเป็นซีอีโอของ บริษัทอู้เหม่ย ซึ่งยังไม่ได้ลงนาม”
“งั้นฉันจัดการเอง”
ลั่วมั่นรีบรับปากทันที
เธอยินดีที่จะเจรจาต่อรองกับคนในเรื่องราคา เงื่อนไข มากกว่าที่จะประสานงานกับพนักงานที่ไม่คุ้นเคยในบริษัท สำหรับเธอแล้วมันไม่ใช่เรื่องยากอะไร
“แต่ซีอีโอคนนั้นไม่มีเหตุผล ประธานลั่วลองคิดพิจารณาก่อนดีกว่า?”
ลั่วมันเป็นคนเด็ดขาดและเรียบง่ายในการทำงาน ความสามารถในการพูดก็มีอยู่ในตัวเองอย่างมั่นคง
“เอาเบอร์โทรศัพท์พร้อมข้อมูลของซีอีโอของ บริษัทอู้เหม่ย ให้ฉัน ส่วนสัญญาทำสำเนามาสองฉบับ ฉันจะติดต่อเขาเอง”
“งั้นก็ได้ ฉันจะไปเตรียมให้คุณ”
ส้งชิงหรู หันกลับไปด้วยสายตาสบประมาท
ทุกคนในแผนกขายต่างรู้ดีว่าประธานหวังของ บริษัทอู้เหม่ย เป็นคนเจ้าเล่ห์ แต่ลั่วมั่นกลับจะไปเซ็นสัญญา เธอผู้เป็นภรรยาที่ร่ำรวยสามารถทนรับได้ถึงมีผี แต่กลับเป็นเรื่องซุบซิบที่ทำให้ผู้คนหัวเราะเท่านั้น
หลังจากได้รับข้อมูลแล้ว ลั่วมั่นนั่งรถแท็กซี่เป็นยังสถานที่ที่นัดหมายไว้
ขณะนั่งรถเธอพลิกดูข้อมูลเกี่ยวกับประธานหวัง จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า บริษัทอู้เหม่ยเป็นหุ้นส่วนของ บริษัทH.Y. ติดต่อกันเป็นเวลาห้าปี ว่ากันตามเหตุผลก็ไม่ยากที่จะเซ็นสัญญา สายตาเธอปรากฏความสงสัยขึ้นมา
ที่ตั้งของห้องรับประทานอาหารเป็นสโมสรเอกชน สภาพแวดล้อมห้องส่วนตัวดูสวยงามมาก
ประธานหวังของ บริษัทอู้เหม่ย รูปร่างไม่สูง อ้วนเล็กน้อย สวมแว่นตาแบบผู้ดี เพียงแต่คนใส่ดูไม่ได้เป็นผู้ดี พออ้าปากพูดก็พูดว่า ‘แผนกขายของบริษัทH.Y. ล้วนแล้วแต่เป็นผู้หญิงสวยทั้งนั้น’ จับมืออยู่ตั้งนานไม่คิดจะปล่อยเลย
ลั่วมั่นยิ้มอย่างเป็นมิตรแต่ซ่อนความรังเกียจไว้ “คุณคิดว่าควรสั่งอาหารก่อนดีไหม?”
ประธานหวังถึงได้ปล่อยมือ จากนั้นโบกมือเรียกบริกร
“ไม่ต้องสั่ง เอาแบบเดิมมา”
ดูท่าจะมาที่นี่บ่อย

ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว

ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว

เธอเป็นสะใภ้ตระกูลใหญ่มา3ปี สามีเธอหยอกล้อกับหญิงอื่น เธอก็ไม่สนใจแถมยังต้มซุปบำรุงไตส่งให้สามีทุกวันวันหนึ่ง ผู้หญิงที่สามีรักที่สุดมายืนอยู่ตรงหน้าเธอ แล้วบอกว่า"ฉันตั้งครรภ์แล้ว"นี่เป็นครั้งแรก ที่ลั่วมั่นได้ใช้อุบาย บังคับผู้หญิงคนนั้นทำแท้งเฟิงเฉินบีบคอของเธอ "ลั่วมั่น ที่เธออดทน3ปีมานี้ เสแสร้งต่อไปไม่ไหวแล้วใช่ไหม"เธอยิ้มจนน้ำตาไหล "excuse me ฉันก็ตั้งครรภ์แล้ว ส่วนทายาทของตระกูลเฟิง ต้องเป็นลูกชายของฉัน!"

Options

not work with dark mode
Reset