ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว – ตอนที่ 296

ลั่วมั่นเปิดปิ่นโตอาหารออก มีกับข้าวสามอย่างกับอีกหนึ่งซุป ในส่วนของเล่อสวี้ได้ให้ลี่ลี่นำไปให้แผนกฝ่ายขายแล้ว
“หากส้งชิงหรูรู้ว่าคุณใช้เธอเป็นเกราะกำบังให้ฉัน คิดว่าหนิงโจวก็คงจะไม่ไปแล้ว คงวิ่งไปที่แผนกบุคคลแล้วก็ทำการลาออก”
ก่อนหน้านี้เฟิงเฉินรู้สึกว่าส้งชิงหรูแอบมีใจให้กับเขา อีกทั้งยังวิ่งมาฟ้องเขาเรื่องของเล่อสวี้ จึงได้เลยตามน้ำไป ‘ให้ความสำคัญ’เธอสักพัก ต่อหน้าผู้คนก็ให้เธอรู้สึกว่ากำลังไต่เต้าสู่ในสิ่งที่ต้องการ แต่ในความเป็นจริงก็เพื่อให้ข่าวลือของบริษัทช่วงนั้นเปลี่ยนทิศทางเท่านั้นเอง
คนในบริษัทต่างซุบซิบเกี่ยวกับการฆาตกรรมของลั่วมั่นอย่างไม่หยุดหย่อน อยู่ๆมีข่าวของส้งชิงหรูที่ได้รับการเอาใจใส่ให้ความสำคัญจากเขาแพร่กระจายออกไป ความสนใจของผู้คนส่วนใหญ่ก็จะเบี่ยงเบนจากคดีฆาตกรรมนองเลือดไปสนใจซุบซิบเรื่องรักๆใคร่ๆแทน อีกทั้งยังสามารถทำให้ผู้คนสงสารเห็นใจลั่วมั่นอีกด้วย ทำให้การกล่าวโทษเธอนั้นก็จะลดน้อยลงตาม
เพียงแต่ส้งชิงหรูเองนั้นโลภมากไปหน่อย มองไม่ออกและคิดว่าเป็นเรื่องจริง จึงทำให้ได้ใจจนลืมว่าตัวเองเป็นใคร วันนี้เจอลั่วมั่นแล้วยังกล้าเพิกเฉยใส่ ทำให้เฟิงเฉินถึงนึกขึ้นได้ว่ายังมีเรื่องเธอ จึงถือโอกาสจัดการเสียเลย
“นั่นเป็นเรื่องของเธอ” เฟิงเฉินยกถ้วยซุปขึ้นซดเบาๆ
ลั่วมั่นเบ้ปาก
“คุณนี่ช่างใจร้ายไร้ความปรานีจริงๆ”
ได้ยินดังนั้น เฟิงเฉินค่อยๆเงยหน้าขึ้น “คุณพูดว่าอะไรนะ”
“ฉันบอกว่าคุณนี่ก็ใจร้ายเหมือนกัน หลอกใช้คน เมื่อใช้เสร็จแล้วก็เขี่ยทิ้ง ไม่รู้จริงๆว่าทำไม่ผู้หญิงในเมืองเจียงถึงได้แห่แหนกันมาแย่งคุณ หรือว่าเป็นสังคมที่มองกันที่หน้าตา”
ลั่วมั่นเพียงแค่แดกดันไปอย่างนั้น แต่เฟิงเฉินกลับไม่พอใจขึ้น วางถ้วยซุปลง จากนั้นคว้าข้อมือของเธอแล้วดึงเข้ามาอยู่ที่อ้อมกอดของตัวเอง
“ใครๆก็สามารถบอกว่าผมใจร้ายได้ แต่ว่านายหญิงเฟิงถ้าคุณก็พูดแบบนี้กับผม มันจะไม่มากเกินไปไปหน่อยเหรอ หือ”
ลั่วมั่นถูกเขาดึงโดยไม่ทันตั้งตัว จึงร้องอุทานขึ้น แก้มนุ่มๆไปกระทบแนบที่ทรวงอกอุ่นๆ แล้วพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ “คุณจะทำอะไร ฉันก็แค่พูดเล่น อย่าได้ใจแคบขนาดนี้สิ”
“ผมใจแคบเหรอ” เฟิงเฉินโกรธจนหัวเราะขึ้น
เขาแทบอยากจะคว้าโลกทั้งใบมาประเคนให้เธอ แต่เธอกลับหาว่าตัวเองใจแคบ จะต้องลงโทษสักหน่อยแล้ว”
พลางพูดพลางใช้มือจับคางของเธอขึ้น แล้วดูดแรงๆเข้าที่ริมฝีปากของเธอ
“อื้อ……” ลั่วมั่นร้องเสียงคราง น้ำเสียงที่เย้ายวนชวนคนหลงใหล
เฟิงเฉินอดใจไม่ใหว จึงได้จูบลึกๆสอดแทรกลิ้นผ่านชั้นฟันเข้าไปแล้วห่อลิ้นของเธออย่างดูดดื่ม จนเธอหายใจแทบไม่ทัน หยาดเหงื่อบางๆซึมไหลออกตามหน้าผาก
จับเสื้อตรงไหล่ของเฟิงเฉินไว้แน่นคือสติเดียวที่ลั่วมั่นเหลืออยู่ เสียงแหบพร่าในลำคอดังเบาๆขึ้น “อย่า อย่าเลอะเทอะ ที่นี่เป็นห้องสำนักงาน มี…..มีคน”
เฟิงเฉิงไม่สนใจ “กลัวอะไร ที่นี่เป็นห้องสำนักงานของผม ไม่ได้รับการอนุญาตจากผม ใครก็ไม่สามารถเข้าออกได้โดยพละกาล”
เฟิงเฉินโอบหลังเธอไว้แน่น ไม่ยอมให้เธอดิ้นหลุดมือ มือข้างหนึ่งเลื่อนคลำผ่านเสื้อคลุมขนแกะเข้าไปข้างใน แล้วถลกชุดกระโปรงที่มุมกระโปรงขึ้น นัวเนียผ่านจุดใดก็ทำให้เคลิ้มสั่นระทวย
“อื้อ……”ลั่วมั่นพยายามดิ้นรนอย่างยากลำบาก “ไม่ได้ ฉันยังตั้งท้องอยู่”
เฟิงเฉินกระซิบที่ข้างใบหู “ไปตรวจครรภ์ครั้งล่าสุด คุณหมอบอกว่าครรภ์สามเดือนนั้นปลอดภัยแล้ว ทำได้แล้ว”
น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำ เสียงเหมือนแม่เหล็กที่มีแรงดึงดูดกระแทกเข้าไปในหัวใจของลั่วมั่นราวกับกระแสไฟฟ้า เต้นตึกๆขึ้น หฤหรรษ์แห่งกามารมณ์ สักพักก็ดื่มด่ำจนไม่สามารถถอนตัวออกได้

ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว

ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว

เธอเป็นสะใภ้ตระกูลใหญ่มา3ปี สามีเธอหยอกล้อกับหญิงอื่น เธอก็ไม่สนใจแถมยังต้มซุปบำรุงไตส่งให้สามีทุกวันวันหนึ่ง ผู้หญิงที่สามีรักที่สุดมายืนอยู่ตรงหน้าเธอ แล้วบอกว่า"ฉันตั้งครรภ์แล้ว"นี่เป็นครั้งแรก ที่ลั่วมั่นได้ใช้อุบาย บังคับผู้หญิงคนนั้นทำแท้งเฟิงเฉินบีบคอของเธอ "ลั่วมั่น ที่เธออดทน3ปีมานี้ เสแสร้งต่อไปไม่ไหวแล้วใช่ไหม"เธอยิ้มจนน้ำตาไหล "excuse me ฉันก็ตั้งครรภ์แล้ว ส่วนทายาทของตระกูลเฟิง ต้องเป็นลูกชายของฉัน!"

Options

not work with dark mode
Reset