ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว – ตอนที่ 309

“ซือโม่ คุณกลับมาแล้วเหรอ มั่นมั่นอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องหนังสือชั้นบน
ชั้นล่างมีเสียงมารดาดังขึ้นกะทันหัน ลั่วมั่นรีบปิดหน้าต่างที่มุมขวาบนทันที และดึงปลั๊กไฟคอมพิวเตอร์ออก แล้วหยิบหนังสือที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นเดินไปที่โซฟา แล้วเปิดออกหนึ่งหน้า
ไม่นาน ซือโม่ก็เปิดประตูเข้ามา ด้วยสีหน้าที่อ่อนโยนเฉกเช่นอย่างเคย
“ทำไมถึงคิดที่อยากจะมาอย่างหนังสือล่ะ”
“รู้สึกว่าง” ลั่วมั่นพูดอย่างเรียบเฉย “ก็เลยหยิบมั่วๆมาหนึ่งเล่ม แต่ปรากฏว่าเป็นภาษาฝรั่งเศส ดูแล้วถึงกับมึนตึ๊บ”
“ไม่ต้องฝืน ตรงไหนที่อ่านไม่ออก บอกผม เดี๋ยวผมจะแปลให้คุณเอง”
ซือโม่สีหน้าปกติ จากนั้นเดินไปที่หน้าโต๊ะทำงาน สักพักเงยหน้าพูดขึ้น “ลั่วมั่น คุณแตะคอมพิวเตอร์ของผมเหรอ”
ลั่วมั่นคิ้วขมวดขึ้นแน่น เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็กลายเป็นใบหน้าที่ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ใช่ค่ะ เมื่อสักครู่หนังสือเล่มนี้มันยากเกินไปที่จะอ่านเข้าใจ ก็เลยคิดที่จะเปิดใช้คอมพิวเตอร์ของพี่เพื่อค้นหาดูว่ามีฉับแปลหรือไม่ แต่รหัสเสียงอัตโนมัติของคอมพิวเตอร์กลับเป็นชื่อเล่นของฉัน คอมพิวเตอร์ของพี่ช่างไม่มีความปลอดภัยซะเลย”
ซือโม่สีหน้าคร่ำเครียด และถามเพิ่มเติมขึ้น “แล้วค้นหาเจอไหม”
“กำลังหาอยู่ดีๆ ขาของฉันไม่รู้ไปโดนปลั๊กไฟได้ยังไง ทำให้ปลั๊กไฟหลุด คอมพิวเตอร์ก็เลยดับ ฉันก็เลยขี้เกียจเปิดเครื่องใหม่”
ได้ยินดังนั้นแล้ว สีหน้าของซือโม่จึงผ่อนคลายขึ้น “ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ผมจะให้คนนำหนังสือฉบับแปลนี้มาส่งให้กับคุณ”
“ไม่ต้องแล้ว ฉันก็แค่ดูผ่านๆเพื่อฆ่าเวลาเท่านั้น”
“ครับ พิธีงานฝังศพของคุณลุงจะเป็นคืนวันพรุ่งนี้ คุณยังโอเคไหม”
“อืม ฉันโอเค” เมื่อเอ่ยถึงบิดา แววตาของลั่วมั่นก็หมองเศร้าขึ้น
“อย่างนั้นก็ดี”
ซือโม่ตอบรับเบาๆ “คนตายไม่อาจฟื้นคืน ฉะนั้นต้องดูแลใส่ใจคนที่ยังมีชีวิตอยู่ให้มากๆ ถ้าหากว่าต่อไปคุณไม่อยากอยู่ที่นี่ ผมสามารถทำเรื่องให้คุณกลับไปที่สหรัฐอเมริกาได้ เมื่อถึงเวลานั้นพาคุณแม่คุณไปด้วย”
“ เรื่องนี้ค่อยว่ากันทีหลังแล้วกัน” ลั่วมั่นดูเหมือนจะไม่ค่อยมีกะจิตกะใจ ใบหน้าดูหมองคล้ำ
ซือโม่ก็รู้ดีว่าพูดเรื่องนี้ในเวลานี้นั้นเร็วเกินไป จึงไม่ได้พูดต่อไปอีก “ครับ”
“อย่างนั้นฉันไปก่อนนะ หนังสือเล่มนี้ฉันขอเอาไปก่อนจะได้ไหม” ลั่วมั่นปิดพับหนังสือลงแล้วถามความเห็นของซือโม่
“ได้สิ”
เธอลุกยืนขึ้นแล้วเดินจากไป ซือโม่แอบมองตามหลังเธอแล้วยิ้มด้วยใบหน้าที่เอ็นดู
เมื่อประตูห้องหนังสือปิดลง เขาถึงได้เปิดคอมพิวเตอร์ขึ้น แล้วคลิกโฟลเดอร์ที่ซ่อนไว้ ครุ่นคิดสักพัก จากนั้นก็พิมพ์เคาะออกมาเป็นประโยค “เป็นเวลานานสิบกว่าปีแล้ว ผมไม่สามารถลืมคุณได้ และก็ไม่สามารถลบความรู้สึกนี้ได้……”
ด้านนอกห้อง ลั่วมั่นถือหนังสือเล่มนี้ไว้แน่น ถ้าหากเมื่อสักครู่ซือโม่สังเกตเธอนานอีกสักหน่อย ก็จะเห็นว่ามือของเธอนั้นกำลังสั่นเทา
ถ้าหากว่าชีวิตเมื่อสิบกว่าปีก่อนของคุณนั้นจอมปลอม ถูกวางแผนโดยใครบางคน แล้ววันหนึ่งคุณพบว่าตัวเองนั้นมีชีวิตอยู่เหมือนกับเดอะทรูแมนโชว์ คุณจะทำอย่างไร
เสแสร้งทำเป็นว่าไม่รู้เรื่องอะไร แล้วมีชีวิตอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ หรือว่าจะออกมาการจัดฉากชีวิตนั่น แล้วปล่อยให้ความจริงทุกอย่างปรากฏขึ้น
วันรุ่งขึ้นเป็นพิธีงานฝังศพของพ่อลั่ว
พิธีงานศพจัดเตรียมพร้อมโดยซือโม่ เขาได้เลือกสถานที่ทางตะวันออกแห่งหนึ่งของเมืองเจียงเป็นสุสานฝังศพ ลั่วมั่นไม่ต้องการรบกวนผู้คนมากมาย จึงได้แจ้งข่าวเฉพาะญาติที่สนิทเท่านั้น เพื่อส่งพ่อลั่วเป็นครั้งสุดท้าย
ในตอนเย็นมีเม็ดฝนตกปรอยๆ ลั่วมั่นจึงได้กางร่มแล้วพยุงมารดาที่น้ำตาหลั่งเป็นสายไม่หยุด ดวงตาของตัวเองก็แดงก่ำเช่นกัน
“ได้ข่าวว่าลั่วมั่นมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณซือแห่งMX วันนี้คุณซือก็คงจะมาด้วยมั้ง”
ท่ามกลางฝูงชน มีเสียงหนึ่งดังขึ้นที่ไม่ถูกกาลเทศะทำลายบรรยากาศความโศกเศร้า คนที่พูดประโยคนี้คือจ้าวจื่อหลันลูกพี่ลูกน้องของลั่วมั่น เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของน้ารองเธอ แต่ไหนแต่ไรมาเป็นคนเจ้าเล่ห์ ครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะคิดทำอะไรอีก

ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว

ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว

เธอเป็นสะใภ้ตระกูลใหญ่มา3ปี สามีเธอหยอกล้อกับหญิงอื่น เธอก็ไม่สนใจแถมยังต้มซุปบำรุงไตส่งให้สามีทุกวันวันหนึ่ง ผู้หญิงที่สามีรักที่สุดมายืนอยู่ตรงหน้าเธอ แล้วบอกว่า"ฉันตั้งครรภ์แล้ว"นี่เป็นครั้งแรก ที่ลั่วมั่นได้ใช้อุบาย บังคับผู้หญิงคนนั้นทำแท้งเฟิงเฉินบีบคอของเธอ "ลั่วมั่น ที่เธออดทน3ปีมานี้ เสแสร้งต่อไปไม่ไหวแล้วใช่ไหม"เธอยิ้มจนน้ำตาไหล "excuse me ฉันก็ตั้งครรภ์แล้ว ส่วนทายาทของตระกูลเฟิง ต้องเป็นลูกชายของฉัน!"

Options

not work with dark mode
Reset