ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา – ตอนที่ 15 ผมขอโทษ คุณพอใจยัง

เตชินรู้สึกโมโหอย่างมากที่ไม่ได้ข้อมูลผู้อยู่เบื้องหลังเลย

เขาจึงหันไปเอ่ยกับผู้ช่วยคังด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า

” สืบมาให้ละเอียด “

” ครับ “

เอ่ยจบเตชินก็เดินออกไป ผู้ช่วยของณัชชาก็ถูกตำรวจคุมตัวไป

ส่วนณัชชา เธอยืนนิ่งด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าผู้ช่วยที่อยู่ด้วยกันมาหลายปี

ดูเป็นห่วงเป็นใย ให้คำแนะนำ คอยเป็นมือเป็นขาให้จะเป็นเพียงแค่การเสแสร้งแกล้งทำ

เพื่อให้เธอตายใจ ตั้งแต่เกิดเรื่อง เธอไม่เคยเอะใจ หรือสงสัยในตัวผู้ช่วยเลย

เธอรู้สึกผิดต่อเตชินมาก ที่เลี้ยงงูเห่าไว้ข้างกาย จนกลับมาฉกพวกเขาเองแบบนี้

เธอเดินไปที่ห้องของเตชิน ยกมือเคาะประตูเบาๆแล้วเดินเข้าไปในห้อง

เตชินมองเธอด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แววตาเย็นชา ทำให้เธอรู้สึกเย็นไปถึงขั้วหัวใจ

แต่ก็ฝืนเอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวังด้วยความรู้สึกผิด

” ฉันขอโทษค่ะ ที่ไม่ระวังคนรอบข้างให้ดี ไว้ใจคนง่ายเกินไป

จนทำให้บริษัทเกิดปัญหาใหญ่ แต่คุณไม่ต้องห่วงนะคะ

ฉันจะทำทุกวิถีทาง สร้างความเชื่อมั่นให้

นักลงทุนให้กลับมาร่วมลงทุน ซื้อหุ้นของบริษัทเราอีกครั้งให้ได้ค่ะ “

เตชินจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่นชัดถ้อยชัดคำว่า

” พรุ่งนี้ผมจะจัดแถลงข่าว ผมจะให้โอกาสคุณได้แก้ตัวสักครั้ง

ต่อไปจะรับใครเข้ามาทำงานคงรู้นะว่าไม่ควรใช้ความรู้สึกส่วนตัวมาเกี่ยวข้อง “

” ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว “

เตชินรู้ว่าณัชชาเป็นคนใจอ่อน ขี้สงสาร จึงเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ผู้ไม่หวังดีใช้เป็นเครื่องมือได้ง่าย

แม้เธอจะเก่ง มองผิวเผินแลดูเพรียบพร้อม แต่แท้จริงแล้วณัชชาขาดความเป็นผู้นำหลายจุด

มองคนไม่ทะลุปรุโปร่ง ใจอ่อน ขี้สงสาร ชอบใช้ความรู้สึกส่วนตัว และไม่มีความเด็ดขาด

จากนั้นเตชินก็เอ่ยต่ออย่างเหนื่อยหน่ายว่า

” คุณออกไปเถอะ “

ณัชชามองเตชินด้วยสีหน้ารู้สึกผิดแววตาเจือความเศร้า

ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปแล้วปรับสีหน้าให้

นิ่งเฉย

แต่ยังคงความสง่าไว้ในทุกท่วงท่าในการเดิน

หลังจากที่ณัชชาออกไป เตชินก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรไปหาพิม

เมื่อพิมรับสายเขาจึงเอ่ยขึ้นอย่างตำหนิว่า

” ผมจ้างคุณเดือนละสองหมื่นเพื่อมาเล่นซ่อนแอบหรือไง คุณถึงใช้ทางเดินบันได้หนีไฟ

พิมคุณอย่าคิดจะใช้ลูกเล่นกับผมนะ ผมไม่ได้มีความอดทนกับคุณหรอกนะ “

พิมได้ยินดังนั้นเธอทั้งน้อยใจ และอารมณ์ขึ้นทันที จึงเอ่ยตอบไปด้วยความโมโหว่า

” นี่ฉันช่วยให้คุณจับตัวผู้ที่ทำให้บริษัทของคุณเสียหายได้ แทนที่จะขอบคุณ

คุณกลับโทรมาตำหนิฉัน มันเหมาะสมแล้วเหรอ ผู้บริหารอย่างคุณทำกับผู้มีพระคุณแบบนี้เหรอ

ทำคุณบูชาโทษ โปรดสัตว์ได้บาป จริงๆเลย

แล้วก็ไม่ต้องเอาเงินสองหมื่นมาพูด ไม่ต้องเอาเงินสองล้านมาขู่ เข้าใจมั้ย “

ด่าเสร็จเธอก็กดวางสายไป เท้าเอวหายใจออกมาแรงๆด้วยความโมโห แล้วบ่นว่า

” พิมนะพิม ไม่น่าไปทำสัญญาบ้าบอนั่นเลย

ชีวิตที่เคยสงบ กลับวุ่นวาย ไม่สงบสุขอีกเลยตั้งแต่เซ็นสัญญาบ้าบอนั่น “

เตชินนั่งอยู่บนเก้าอี้ประธานบริษัทด้วยท่าทางสุขุม สง่าผ่าเผย

ใบหน้าเหล่อเหลาคิ้วขมวดเข้าหากัน เมื่อถูกพิมวางสายใส่เป็นครั้งที่สอง

เขาไม่รู้จะว่าอะไรเธอจึงเอ่ยออกมาอย่างหงุดหงิดใจ

สีหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชาราวกับก้อนน้ำแข็ง

” อวดดี! “

แล้วเขาก็โยนโทรศัพท์ทิ้งไปไกลออกไปจากตัวเขา

จากนั้นก็ก้มหน้าทำงานต่ออย่างเงียบๆ พอถึงตอนเที่ยง เขามองออกไปที่ประตู

แต่ก็ไม่มีเงาของพิมโผล่มา แล้วเขาก็ก้มหน้าทำงานต่อ

ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง เขาเริ่มหิว มองดูนาฬิกาที่ข้อมือ เป็นเวลาเที่ยงครึ่งแล้ว พิมก็ยังไม่มาอีก

เขาจึงลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องไป เอ่ยกับผู้ช่วยคังที่อยู่หน้าห้อง ด้วยสีหน้าเย็นชาว่า

” กลับไปทานข้าวที่บ้าน “

ได้ยินดังนั้นผู้ช่วยคังถึงกับอึ้งไปสามวิ ดวงตาเบิกกว้าง

พอได้สติ คิดว่าตัวเองได้ยินผิดไปจึงเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ

” คุณชายว่าไงนะครับ “

เตชินมองเขาแล้วเอ่ยเสียงเย็น

” ผมไม่พูดเป็นครั้งที่สอง “

พูดจบเขาก็เดินออกไป ผู้ช่วยคังรีบเดินตามเขาไปแบบงงๆ

ที่อยู่ๆคุณชายเขาก็อยากกลับไปทานมื้อเที่ยง

ที่บ้าน แต่ก็ไม่เอ่ยถามอะไรอีก

ได้แต่ไปเอารถมารับเจ้านาย แล้วขับออกไปมุ่งหน้ากลับไปที่บ้าน

พิมอยู่บ้าน วุ่นวายอยู่กับการล้างผักกาด เธอเสียใจที่ถูกตำหนิ จึงรู้สึกคิดถึงบ้านขึ้นมา

เลยทำจอผักกาดกิน เธอนำเนื้อหมูและซีโครงลงไปต้มในหม้อ

แล้วมานำเอาพริกกับกระเทียมและหอมแดงมาโขลกจนละเอียด

จากนั้นเธอก็ตักกะปิใส่ลงไปโขลกให้เข้ากัน พอเนื้อหมูเริ่มสุกส่งกลิ่นหอม

เธอก็ตักพริกแกงที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในหม้อ จากนั้นก็ใส่ปลาร้าและรสดีลงไป

ใส่เกลือนิดหน่อยแล้วใส่น้ำมะขามเปียกที่เตรียมไว้

ตามด้วยใส่ผักกาดกับมะเขือเทศลูกเล็กหรือมะเขือส้ม

เพื่อเพิ่มความนัว เพิ่มความกลมกล่อมให้น้ำแกง

จากนั้นเธอก็ปิดฝาหม้อรอให้ผักกาดสุก

เมื่อสุกแล้วเธอก็ตักออกมาใส่ถ้วยไปวางไว้บนโต๊ะอาหาร

เตชินเดินเข้ามาในบ้านได้กลิ่นหอมของจอผักกาด

ก็รู้สึกหิวจัดขึ้นมาทันที จนท้องร้องออกมา

เขาเดินมานั่งลงแล้วหยิบช้อนขึ้นมาชิมแล้วเอ่ย

” อืม รสชาติใช้ได้ อมเปรี้ยว อมหวาน อมเค็ม เป็นรสชาติที่แปลกใหม่ อร่อยดี “

เขาไม่เคยทานอาหารทางเหนือเลย และเป็นคนไม่ทานกะปิกับปลาร้าด้วย

แต่ครั้งนี้ เขากลับรู้สึกว่า อาหารบนโต๊ะนั้นส่งกลิ่นหอมจนเขาต้องชิม

พิมเดินออกมาพร้อมข้าวสวย เมื่อเห็นเตชิน เธอก็มองเขาด้วยแววตาเย็นชา สีหน้าขุ่นเคือง

เธอคิดว่าเขายังไม่ได้ทานข้าว จึงตักข้าวใส่จานวางลงตรงหน้าเขา

แล้วเธอก็หมุนตัวเดินออกไปด้วยสีหน้าบึ้งตึงโดยไม่เอ่ยอะไร

คิดว่าจะเข้าไปทานข้าวในห้องครัว เพราะไม่อยากมองหน้านายจ้างคนนี้

เตชินเห็นดังนั้นจึงเอ่ยขึ้น

” คุณจะไปไหน มานั่งทานข้าวตรงนี้ “

เธอจึงเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงโกรธเคืองว่า

” ฉันไม่หิว คุณทานก่อนเลย “

เตชินรู้ว่าเธอโกรธเรื่องเมื่อเช้า และรู้ว่าตอนนี้เธอหิวมาก

เธอเตรียมอาหารบนโต๊ะก็เพื่อตัวเองไม่ใช่เพื่อเขา เขาจึงเอ่ยต่อว่า

” งั้นเหรอ แต่ดูเหมือนอาหารที่หน้าตาอัปลักษณ์ กลิ่นเหม็นแปลกๆนี่ ไม่ได้ถูกเตรียมมาเพื่อผมนะ “

ได้ยินเขาว่าให้อาหารที่เธอทำแบบนั้นเธอจึงเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉยเย็นชาว่า

” ถ้าคุณไม่ชอบ ฉันจะไปเก็บค่ะ แล้วจะให้ผู้ช่วยคังสั่งอาหารราคาแพงๆหน้าตาน่าทานๆให้ค่ะ “

พูดจบเธอก็เดินกลับมาที่โต๊ะอาหาร เตรียมจะเก็บถ้วยแกง พอมือไปสัมผัสถ้วยแกง

เตชินก็จับมือเธอไว้ แล้วมองหน้าเธอที่กำลังบึ้งตึงและเย็นชาอย่างเงียบๆ แล้วเอ่ย

” ผมขอโทษ คุณพอใจยัง ถ้าพอใจแล้วก็นั่งลงทานข้าวกับผม ตามข้อตกลงในสัญญา ผมหิวแล้ว “

แล้วเขาก็ลุกขึ้นกดไหล่พิมให้นั่งลงข้างๆเขา จากนั้นก็ไปตักข้าวใส่จานให้เธอแล้วเอ่ย

” วันนี้ผมบริการคุณ ตอบแทนที่คุณช่วยจับผู้ไม่หวังดีมาลงโทษ “

เขาวางจานข้าวลงตรงหน้าเธอแล้วเอ่ยต่อว่า

” ทานข้าวเถอะ ผมรู้ว่าคุณหิว “

ด้วยความที่หิวมาก พิมจึงจับช้อน แล้วก้มหน้าก้มตาทานข้าวอย่างเงียบๆ

โดยที่ไม่พูดไม่จาอะไรอีกต่อไป

เตชินทานข้าวไปมองเธอไป จนเผยยิ้มในหน้าออกมาอย่างเงียบๆ

ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา

ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา

Comment

Options

not work with dark mode
Reset