ผมคือนักบุญหญิงที่เป่ายิ้งฉุบมาเกิดใหม่ครับ – ตอนที่ 20

      ผมเดินมาที่กระท่อมหลังหนึ่งในหมู่บ้าน มันเป็นกระท่อมโทรมๆ เมื่อเทียบกับที่อยู่อาศัยแถวนี้ที่เริ่มกลายเป็นบ้านไม้แบบทั่วไปในเมือง

    เมื่อเปิดประตูไปก็จะพบกับหญิงสาวผิวแทนผมขาวยาวยาวถึงบ่า นั้งอยู่บนเตียง สีหน้าของเธอนั้นดูซีดอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับภูติดำคนอื่นๆ

 

“มาเยี่ยม เหรอ?”

     เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสกสัย เธอคือสาวผิวแทนคนเดียวที่ผมอยู่ได้โดยไม่ต้องระวังตัว คนแรกที่อุ้มลูกของผมและไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกัน แม้กระทั้งความสัมพันธ์เชิงชู้สาวเองก็ไม่มีเลยเช่นกัน

     แม้เธอจะพูดไม่เก่งเหมือนลูกเธอก็เถอะ แต่เธอก็น่ารักสุดแล้วละนะเมือเทียบกับพวกนั้น

“อ่าใช่แล้วละเป็นยังไงบ้างอาการดีขึ้นไหม?”

“ก็ดีขึ้น ย้าย้า มาเยี่ยม บ่อย ลาล่า ริริ ยุ่ง ไม่ค่อยมา หา”

     เธอดูน้อยใจนึดๆ เมื่อพูดถึงชื่อลูกๆของเธอ เห็นว่าลาล่ากับริริเหมือนจะเป็นหัวหอกในการขยายพื้นที่ใหม่ๆ เพื่อให้ภูติดำอยู่อาศัยละนะ จะยุ่งก็ไม่แปลก ส่วนย้าย้าเองก็เป็นนักล่าอับดับ1ของหมู่บ้านแทนที่ก้าก้าที่นอนพักฟื้นอยู่ หลังจากล่าเสร็จก็กลับมาเยี่ยมก้าก้าประจำอยู่แล้ว

“จะว่าไปให้ฉันรักษาให้มันน่าจะเร็วกว่านะ”

“ไม่เอา ถ้า หาย กลัวลูก ไม่ มาหา”

   คำตอบก็เหมือนเดิมทุกครั้งดูเหมือนหลังจากที่คลอดลูกให้นมลูกเสร็จ ลูกๆของเธอเองก็โตเร็วมากๆ จนสามารถแยกไปใช้ชีวิตคนเดียวได้ภายในเวลาอันสั้น สำหรับเธอที่กลายเป็นแม่แล้วก็อยากโอ๋ลูกด้วยละนะ

“ไม่เอาน่า ตอนนี้เธอมีหลานเกือบจะพันเลยนะรู้รึเปล่า? ไม่ต้องกลัวเหงาหรอก”

“เคย เป็น ตัวสุดท้าย ของเผ่า มัน น่ากลัว”

   ถ้าาฟังจากเรื่องราวที่เหล่าลูกหลานผมเล่า เหมือนกาก้าจะเป็นตัวสุดท้ายของภูติดำแล้วละนะ เหมือนรู้สึกจะเกิดสงครามเมื่อ300ปีก่อนทำให้เผ่าเธอโดนกวาดล้างเพราะเข้าใจผิดว่ารับใช้จอมมารทำให้จากที่เหลือน้อยอยู่แล้วยิ่งน้อยเข้าไปอีก

   คุณร็อดนี่เองก็พยามปกป้องหลานของตัวเองจนพาหนีมาที่นี้ เอาเถอะนี้ก็เป็นเรื่องที่ฟังมาอีกทีละนะ จริงหรือหลอกผมก็ไม่รู้ด้วยสิ อย่างน้อยผมก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ด้วยสิ ช่างมันเถอะ มารักษาคุณแม่จอมน้อยใจกันดีกว่า

 

“[Heal]”

“!!!!?”

    ผมร่ายเวทรักษาใส่ ก้าก้า หน้าตาของเธอดูดีขึ้นเหมือนปกติแล้วละ

“ทำไม?”

“ก็แค่สามีรักษาภรรยามันผิดรึเปล่าละ?”

    ถึงจะเรียกถือวิสาสะเรียกตัวเองก็เถอะนะ แต่มันก็เรื่องจริงที่เธอได้มีลูกกับผมไปแล้ว ก็น่าจะเรียกได้ละมั้ง?

 

“สามี? มีเรีย เป็น ตัว เมีย”

“แต่ใจฉันยังคนแมนเต็มร้อยนะ ไม่สิ ต้องเรียกห้าสิบเต็มร้อยถึงจะถูกดีกว่าสินะ”

“มีเรีย อ่อนแอ ไม่เหมาะ–“

   ก่อนที่เธอจะพูดจบผมก็จับเธอจูบทันที ว่าใครไม่เหมาะกันห๊า? ยัยสาวพรรมจรรย์มีครรภ์ อย่ามาดูถูกกันดีกว่านะ

“ถึงจะอ่อนแอแต่ก็ทำแบบนี้กับคนที่แข็งแกร่งแบบเธอได้นะเออ”

“(・///–///・)”

    แม้หน้าเธอยังนิ่งอยู่ก็เถอะ แต่ใบหน้าของเธอนี้แดงยิ่งกว่าลูกสะเขือเทศอีก เอาจริงๆ ในใจก็กลัวโดนเธอก็กระทืบอยู่เหมือนกัน ท่าเธอเอาจริงละก็ผมตายแน่นอน

“เป็นอะไรไม่พูดต่อรึไง”

“รู้สึก ร้อน นี้คือ เวทมนต์ เหรอ?”

    ตามเดิมแล้วเผ่าภูติดำแม้จะเกิดจากพลังเวทที่บริสุทธิ์ก็จริงแต่เดิมแล้วใช้เวทมนต์ไม่ได้หรอกนะแต่ก็แลกมากับแรงกายและความเก่งกาจในการต่อสู้ เลยดูคล้ายๆเผ่านักรบมากกว่าภูติอะนะ

   ถึงพวกภูติดำที่เกิดจากผมจะสามารถใช้เวทมนต์ได้ แถมดูจะเก่งกาจกว่าพวกจอมเวทหลายๆคนอีก ก็อย่างที่บอกพวกเธอมันกลายพันธ์ยังไงละ

“จะเรียกเวทมนต์ก็ไม่ผิดหรอกนะ นี้คือเวทมนต์ที่ฉันร่ายใส่เธอยังไงละ!! ท่าอยากให้ถอนออกก็ตามมาซะดีๆ”

“ท่า ออก ไปจะ ยอมเหรอ?”

“แน่นอนสิเว้นแต่เธอจะขี้ขลาด!! ไม่กล้าออกไปละนะ”

“!!!!!”

    นี้คือคำต้องห้ามของเธอ จริงๆแล้วภูติดำตามเดิมแล้วจะยึดติดกับความแข็งแกร่งของตัวเองมากๆ หากถูกท้าทายก็จะตอบรับทันที นี้คือวิถีของเผ่าภูมิดำตามจริง ถึงตอนนี้จะกลายเป็นอะไรไม่รู้แล้วก็เถอะ

“ไม่กลัว!! ขอรับ คำท้า”

 

 

 

“นี้มัน คือ อะไร?”

   ก้าก้า พูดออกมาด้วยความตะลึง กับบรรยากาศหมู่บ้านที่เปลี่ยนไป ตอนนี้พื้นที่หมู่บ้านได้รับการปรับปรุงจนแตกต่างจากเมื่อก่อนเรียบร้อย สองข้างทางเองเต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆ มากมาย เหล่าพ่อค้าหลากหลายและนักท่องเที่ยวจะหลายที่ก็เดินทางมาที่แห่งนี้ เพื่อมาซื้อของแปลกๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน บางทีก็ข้ามชายแดนมาก็มี บางทีก็สกสัยเหมือนกันว่าพวกเธอทำขนาดนี้ภายใน5เดือนได้ยังไงกันนะ

“นั้นมันท่านแม่กับท่านทวดนี้!! ทางนี้!!!”

   มีหญิงสาวคนหนึ่งกวักมือเรียกพวกเราด้วยรอยยิ้มจากร้านแผงลอยที่ตั้งอยู่ตามมุม คนที่กวักมือเรียกนั้นมีผิวสีแทนผมสีขาวคือหลักฐานว่าเธอเป็นภูติดำคนหนึ่ง ก้าก้าเองที่กำลังสับสนกับพื้นที่ ที่เปลี่ยนไปจรทำอะไรไม่ถูก ผมจึงจูกมือของเธอเพื่อพาไปหาหนึ่งในลูกหลานของเราที่กำลังกวักมือเรียก

“แหมๆ พึ่งเคยเห็นท่านทวดก้าก้าเลยนะคะเนี้ย หายจากการพักฟื้นแล้วเหรอคะ?”

“เธอ คือ?”

“อ๋อใช่ๆ ได้ยินว่าท่านย่าทวดหลังจากคลอดท่านแม่รุ่นแรก เองก็พักฟื้นยาวเลยใช่ไหมคะ จะไม่รู้จักหนูก็ไม่แปลก หนูคือ รัสเซีย รุ่นที่54 คะ”

“54!!!”

   ก้าก้าเองตกใจกับจำนวน 54 ค่อนข้างมาก แต่ผมตกใจกับชื่อเธอมากกว่านะ!! ใครมันเอาชื่อประเทศมาตั้งเป็นชื่อคนเนี้ย!!

“ก็เคยบอกไปแล้วนิ ว่าลูกหลานเธอเนี้ย มีเกือบพันคนเลยนะ”

“เป็นไป ไม่ได้ ไม่ใช่ 54 ตัวเหรอ?”

   ไม่ได้พูดเล่นนะ มันมีเกือบพันคนจริงๆ ถึงผมจะจำ จำนวนชัดๆ ไม่ได้ก็เถอะ

 

“อ๊ะ ท่านทวดก้าก้ายังไม่รู้สินะคะ จำนวนรุ่นนะคือรอบที่เด็กที่เกิดจากการรุมท่านแม่มีเรียนะคะ”

“รุม เหรอ?”

“ใช่แล้วคะ ตอนรุ่นหนูเองก็มีเกือบตั้ง300คน กว่าหนูจะได้เล่นกับท่านแม่มีเรีย ท่านแม่ก็นอนกลายเป็นตุ๊กตาไร้ความรู้สึกไปแล้วแหละคะ คิดถึงตอนนั้นจังเลยน้า~ อยากจะลิ้มรสตื้ด~ ของท่านแม่อีกรอบจัง”

“สะ..สาม ร้อย!!!”

“พูดดังไปแล้วเฟ้ย!! เบาๆหน่อยๆสิ!!”

    มันคืออดีตอันโคตรเลวร้ายเลยละ แม้การจะถูกรุมโดยสาวๆจะเป็นหนึ่งในความฝันสูงสุดของผมก็เถอะ แต่มันต้องไม่ใช่ลูกหรือหลานตัวเองแบบนี้สิ!!

    ผมเองช่วงนั้นก็แทบไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ จนกระทั้งถึงรุ่น68 มีรุ่นก่อนหน้านี้ค้นพบความสามารถในการมีลูกโดยไม่ต้องผ่านผม พลังเศษของพวกเธอนั้นสามารถถ่ายให้กันเองได้

 

    ตอนนั้นเองก็คิดว่าจะได้พักซักทีและกลับซักทีแต่พวกนั้นก็ยังให้มีการรุมอยู่ดีเพราะอิจฉารุ่นก่อนๆที่ได้รุมผม โดยที่ขู่ผมว่าท่าไม่ให้รุมนั้นรุ่น68นั้นจะทำการเดินทางเพื่อไปพรากเมียคนอื่นจากเมืองอื่นมาให้หมด

    ซึ่งทำให้ผมที่เป็นคนมีศีลธรรมพอสมควร ต้องขอร้องพวกเธอทั้งน้ำตาเลยละ ว่าอย่าทำจนสุดท้ายก็ยอมถูกรุมโดยมีเงื่อนไขว่าห้ามถ่ายพลังเวทผมไปเด็ดขาด ทำให้ความทรมาณนั้นหยุดลง และผมก็ได้พักซักทีแต่ก็ยังไม่รอดโดนพวกรุ่นอื่นๆ อย่างรุ่นซุปเปอร์ที่เป็นหลานตามลวนลามอยู่ดี บางทีก็ตื่นมาอยู่ที่เตียงใครก็ไม่รู้ในสภาพแก้ผ้าหรือไม่ก็มีคนนอนอยู่ข้างๆตัวเองทั้งที่อยู่ในที่พักตัวเองแท้ๆ ชักอยากร้องไห้แล้วสิ

 

“ไม่เข้าใจ แค่ถ่ายพลัง เวท ถึงต้องทำ แบบนั้น ด้วย?”

“ก็แหม~ ก็ได้รับอารมทางเพศจากท่านแม่มีเรียนี้คะ แถมยังเป็นอารมที่เกิดเฉพาะผู้หญิงด้วยกันอีกและน่าแปลกที่ทุกรุ่นนั้นจะเกิดอารมทางเพศรุนแรงกับท่านแม่มีเรียมากๆ โดยเฉพาะกับคนท่าเป็นรุ่นที่1-68ที่เคยผ่านการรุมมาแล้วแค่เห็นหน้าท่านแม่มีเรียก็เปียกแล้วละคะ”

“!!!!!!!”

    ก้าก้า ทำท่าเหมือนวิญญาณเริ่มหลุดลอยไปแล้ว อืมนั้นแหละความจริงแหละ ลูกหลานที่ผมพวกเราร่วมให้กำเนึดนั้นเป็นแบบนี้หมดทุกคนเลยละ ต่อให้ภายนอกจะดูเก่งแค่ไหนหรือดูฉลาดก็ไม่พ้นเป็นโรคจิตกันหมดเลย น่าเศร้าจังนะ

“มะ…แม้..แต่ ลาล่า กับ ริริ รึเปล่า?”

“อ๋อหมายถึงพวกท่านแม่รุ่นแรกสินะคะ แน่นอนสิคะ ทุกครั้งที่กลับมาที่หมู่บ้านเองก็ชอบไปแวะไปลักหลับท่านแม่มีเรียทุกครั้งเลยละคะ”

“อะไร..กัน.. ทั้ง ที่ ไม่ค่อย มาเยี่ยม กลับไปหา มีเรีย”

   ก้าก้านั้นลงไปอยู่ในท่าOVZไปแล้วโว้ยย!!! พอเป็นเรื่องลูกตัวเองทีไร หดหู่ง่ายจริงๆนะ เธอเนี้ย

“!!!!”

   ก้าก้านั้นหันมามองผมด้วยสายตาเคียดแค้นราวกับผมนั้นเป็นศัตรูที่ต้องกำจัดให้ได้ ผมไม่เกี่ยวนะ ยัยพวกโรคจิตพวกนั้นมันข่มขืนผมนะ ผมสิเป็นผู้เสียหาย!!

“นี้ หนูพูดเรื่องอะไรไปไม่ดีไปรึเปล่าคะ แหะๆ”

    จริงๆเธอก็ไม่ผิดหรอกนะ แค่ยัยนี้มันเป็นพวกคุณแม่จอมน้อยใจที่ลูกไม่ค่อยไปเยี่ยมนะ ก็แบบจะว่ายังไงละอารมเหมือนคุณแม่ที่อยู่ต่างจังหวัดคนเดียวแต่ลูกทำงานอยู่ที่เมืองหลวงไง คนเป็นแม่จะน้อยใจก็ไม่แปลก จริงไหมละ

“อ๊ะ จริงด้วย!!นี้คะ ท่านแม่มีเรียกับท่านทวดก้าก้า รับไปเลยไม่ต้องเกรงใจ หนูเลี้ยงเอง!! ถือซะว่าเป็นของขวัญฉลองให้กับท่านย่าที่หายดีแล้วไงคะ!!”

    เธอยื่นไอศครีมโคนสีขาวให้ นี้แม้แต่ไอติมก็มาแล้วเหรอ นี้มันจะพัฒนากันเร็วไปเกินไปไหมเนี้ย แถมยังเป็นแบบโคนอีกนี้พวกเธอรู้วิธีทำกันแล้วเหรอฟะ!! ไหนจะไอ้ที่ตักไอติมนั้นอีก….เดี๋ยวนะ ที่ตักไอติมทำมาจากน้ำแข็งด้วยทำได้ไงเนี้ย!!

“นี้คือ..”

“มันถูกเรียกว่าไอศกรีมค่ะ หนูพยามตัดแปลงมาจากภาพความทรงจำบางส่วนที่เคยเห็นของท่านแม่มีเรียโดยใช้ของที่คล้ายๆกันมาทำ!! เอ้าลองชิมดูสิคะ”

   ผมลองรับมาชิมดู..อืมอร่อยแหะ นี้มันรสอะไรหว่า? หวานๆแบบนี้รู้สึกคุ้นๆมากเลยละ เหมือนเคยกินที่ไหนเลยแหะวนิลารึเปล่านะ?

   ฝั้งก้าก้าเองรับมาแบบไม่เต็มใจนักเธอจ้องมันด้วยความประหลาดใจและเธอก็ไม่กล้ากินมัน

“ท่านทวดไม่ชอบไอศครีมที่หนูทำเหรอคะ?”

“งับ ง้ำๆ อึก.. เอ้กกกก!!”

   หลังจากที่เจอคำพูดของหลานไปจากที่เธอดูกล้าๆกลัวๆ เธอก็จัดยัดเข้าปากภายในคำเดียว จากนั้นก็เรอออกมาเสียงดัง ในสายตาผมเธอยังเป็นผู้หญิงที่ดีนะ รู้ไหม? เพราะฉะนั้นอย่าทำอะไรที่มันดูน่าเกลียดแบบนั้นสิ!!

“เย็น..แต่..อร่อย…ดีนะ.. ทำจาก อะไรเหรอ?”

“หลักๆก็นมของมิโนทอรัสกับน้ำตาลนะคะ แล้วก็แช่เย็นด้วยเวทมนต์อีกที จริงๆมีส่วนผสมลับอยู่แต่หนูคงบอกวัตถุดิบอื่นๆ ไม่ได้เหมือนกันเพราะมันเป็นความลับทางธุรกิจของหนูนะคะ”

   อ๋อ ที่รู้สึกคุ้นๆ ก็เพราะน้ำมาจากมิโนทอรัสนี้เอง เข้าใจแล้วละก็ว่าอยู่ทำไมรสชาติมันคุ้นๆ ว่าแต่ทำไมเธอไม่เอานมวัวปกติมาทำฟะ!! ไปเอานมมิโนทอรัสมาจากไหนกัน!! อย่างน้อยเธอก็ได้มันมาอย่างสุจริตสินะ ใช่มัั้ย?

“แปลก ทำไม พวกนั้น ถึงยอมให้ นมละ?”

“เธอเคยมีปัญหาอะไรกับพวกมิโนทอรัสรึไง? เขาถึงจะไม่ขายนมให้นะ”

“ใช่ เมื่อก่อน เคยไปฆ่า หัวหน้า ของพวกนั้น เพราะมาก่อ ปัญหาให้หัวหน้า พวกนั้น เลยบอก ว่าจะไม่ให นม ภูติดำ เด็ดขาด”

    มีอดีตแบบนี้ด้วยเหรอเนี้ยพึ่งรู้แหะ จะว่าไปก้าก้าเองก็เป็นนักรบคนหนึ่งนี้นะ จะมีอดีตแบบนั้นก็ไม่แปลกแถมอยู่มานานแล้วด้วยสิ

“เห~ มันมีอดีตอย่างงั้นด้วยเหรอคะ หนูไม่เคยรู้มาก่อนเลยก็ว่าอยู่ ทำไมตอนไปขอแบ่งนมพวกนั้นถึงโวยวายใส่เฉยเลย”

“ไม่ใช่ว่าเธอมีความทรงจำของก้าก้าอยู่ในหัวรึไง?”

“ไอ้มีก็มีอยู่แหละคะ แต่ส่วนใหญ่ก็มีแต่ความจำของท่านแม่มีเรียนี้คะ หนูนะรุ่น58เลยนะคะ จะมีความทรงจำของท่านแม่มีเรียมากกว่าก็ไม่แปลก”

     จะว่าไปก็จริงแหะ พวกรุ่นก่อนๆก็ได้รับความจำผมไปทีละน้อยทีละน้อยจะสะสมมาเรื่อยๆก็ไม่แปลก แต่ทำไมถึงไม่มีใครรู้ว่าผมเป็นอดีตผู้ชายเลยนะ น่าแปลกใจเหมือนกัน แอบเศร้านึดๆเหมือนกันแหะ

“ส่วนถ้าอยากรู้ว่าทำไมหนูถึงมีนมของมิโนทอรัสได้ละก็.. ฮานะ!! มานี้เดี๋ยวสิ!!!”

“ค่า!!!”

    สักพักหนึ่งก็มีสาวสวยในชุดกิโมโนในผ้ากันเปื้อนโพล่มาจากหลังร้าน ผู้หญิงคนนั้นมีผมยาวดำตรง ตาดำ ผิวสีขาวเนียน และดูท่าทางเป็นกุลสตรีแบบญี่ปุ่น สิ่งเดียวที่บ่งบอกว่าเธอคืออะไรคือเขาอยู่บนหัวกับหน้าอกทรงโตที่เป็นลักษณะเด่นของเผ่ามิโนทอรัส

   แม้จะไม่ใหญ่เท่าคุณเจ้าเชลลี่แต่ก็พอๆกับคุณฟรานเซ็ทละนะ แต่เขาเองตำแหน่งกับรูปร่างมันมันต่างจากของคุณเชลลี่เลยแหะ คนละสายพันธ์กันรึเปล่านะ

 

“นี้เป็นแฟนหนูเองชื่อ ฮานะ ไหนแนะนำตัวหน่อยสิ”

“ดิฉันชื่อ โชวคาคุ ฮานะ เจ้าคะ เป็นภรรยาของท่านรัสเซีย ยินดีที่ได้รู้จักและพบท่านแม่สามีกับท่านทวดเจ้าคะ”

   เธอโค้งคำนับให้ผมกับก้าก้ามันดูงดงามมากเลยนะ นี้มันสาวมิโนทอรัสฉบับญี่ปุ่นเหรอ? พึ่งเคยเห็น วัฒณธรรมของเอเชียครั้งแรกตั้งแต่มาอยู่นี้เลยนะเนี้ย ว่าแต่ก็ไม่เลวเลยนะเนี้ยไปหาแจ่มๆมาจากไหนกันนะ ชักอยากให้พวกนั้นสอนวิธีจีบแล้วสิ

“คนนี้หนูไม่ยกให้หรอกนะ ต่อให้เป็นท่านแม่มีเรียก็เถอะ”

“ท่านรัสเซียเจ้าคะ…”

   รัสเซียกอดฮานะพร้อมกับแสดงท่าทางหึงห่วง โห~นี้รู้รสนิยมของผมด้วยเหรอ น่าสนุกดีนี้ขอลองทดสอบคำรักของพวกเธอหน่อยละกัน

“เหรอ? ท่างั้นแลกกับเดินจับมือกับฉันทั้งวันไหมละ”

“ของเด็กๆ แบบนี้คิดว่าจะยอมรึไง!!”

“อืมท่างั้นให้1ชม.ทำอะไรกับฉันก็ได้ที่นอนอยู่บนเตียง แถมรีเควสคำพูดที่อยากให้พูดด้วยนะ”

“อุก..กะ..กะ..อีแค่..ของพันธ์นั้น..หนูไม่ยอมแลกกับ..ฮานะ ของหนูหรอก!!”

“เป็นอะไรไปเสียงสั่นเชียว? ไม่ใช่ตอนนี้ในใจอยากแลกสุดๆเลยรึไง”

“มะ..ไม่ได้อยากได้เลยสักนึด!!!”

   หึๆ อย่าดูถูกคนที่ให้กำเนิดพวกเธอสิ คิดว่าผมคนนี้เคยตอบสนองความต้องการของพวกเธอมาเป็นพันๆ ครั้งแล้วนะ

“อืมงั้นเหรอๆ..คืนนี้รู้สึกว่าฉันจะว่างทั้งคืนด้วยสิอยากได้คนไปดื่มเหล้าเป็นจัง”

“หนูไม่กินเหล้าหรอก!! หนูไม่หลงกลแม่หรอก”

“ไม่หรอกๆ ก็แค่ตอนกินเหล้าเมาแล้วตอนนอนมันก็ร้อนด้วยสิ ก็เลยอยากให้คนมาดับร้อนบนเตียงให้หน่อยนะ”

“ดะ..ดับร้อน!!”

   อะเหยื่อกินเบ็ตแล้วละ แบบนี้ต้องหย่อนเหยื่อเพิ่มซักหน่อยละมั้ง

“ใช่แล้วละ ก็แหม~ กลางคืนมันร้อนจนเหงื่อท่วมจนเปียกไปหมดเลยนี้น่าแถมตอนจะถอดเสื้อผ้าก็น่ารำคาญด้วยสิ ก็เลยอยากได้คนแถวๆนี้มาช่วยถอดละก็คงจะดีไม่น้อยเลยละ แถมตั้งแต่รุ่น68นั้นเองก็ห่างมาตั้ง2เดือนกว่าแล้วสินะ ตอนนี้เลยยิ่งร้อนสุดๆเลยละ ก็เลยอยากจะชวนมาดับร้อนให้หน่อยนะ แค่สอง-ต่อ-สองนะ”

“สองต่อสอง..เหรอ..อึก”

 

“ช่ายแล้วละ..ดูสิเหงื่อเต็มไปหมดเลยเห็นไหม?”

 

  ผมพูดพร้อมแอ่นหน้าไปข้างหน้าเพื่อให้ข้างหน้าเพื่อคอเสื้อกว้างๆของผมมันเปิด ตัวกระผมเองก็ไม่ใส่ชุดชั้นในหรือเสื้อซับในอยู่เพราะอย่างงั้นก็เลย..แน่นอนเห็นหมด แต่ผมเองก็ไม่ค่อยอายหรอกนะ ขนาดมันเท่าเม็ดลูกเกตเองด้วย ไม่ต่างอะไรกับของเด็กๆ หรอกแต่ดูเหมือนมันจะได้ผลกับเด็กๆ ของผมมากพอควรละนะ

“อิก..อุก..แง้~!!!”

“เอ๋!?”

   รัสเซียร้องจู่ๆไห้ออกมาเหมือนเด็กๆด้วยใบหน้าผู้ใหญ่ของเธอ ทำไมถึงร้องไห้แบบนั้นละ? นี้ผมทำอะไรผิดไปรึไง? ปกติพวกเธอดีใจจะตายที่ผมมาทำอะไรแบบนี้ให้นะ!! แล้วไหงถึงร้องไห้ละ?

“ท่านทวดก้าก้า ท่านแม่มีเรียแกล้งหนูอ่า~”

  รัสเซียวิ่งไปซบอกของก้าก้าที่อยู่ใกล้ๆ ก้าก้าเองก็รู้สึกดีใจเล็กน้อยรู้ที่มีคนมาอ้อนแค่ดูสีหน้าก็รู้แล้ว ตรงจุดนั้นทำให้เธอดูเหมือนคุณร็อดนี่หน่อยๆ ที่เป็นคนชอบเห่อหลาน แบบไม่มีเหตุผล

“อย่า แกล้ง หลาน!!”

“เจ็บๆๆๆๆ”

   ก้าก้านั้นยื่นมือมาจับที่หูผมแล้วดึงขึ้นอย่างแรงด้วยส่วนสูงที่ต่างกันทำให้ตัวผมเกือบลอย จนต้องเขย่งเท้าตามแรงดึงของเธอ

“ไม่ได้แกล้งซักหน่อย!! ก็แค่อยากหยอกมันเล่นเท่านั้นแหละ!! ไม่เห็นแปลกเลยมันก็ลูกฉันเหมือนกันนะ”

“โฮกกกก!!!”

“โอยยๆ หูมันจะขาดแล้ว!! เบามือหน่อยสิ!!”

“ขอโทษ สิ”

“ก็ได้ ขอโทษ!! เอ้า!!! พอใจย้างงงง!? เจ็บๆๆ”

“พูดดี ดีหน่อย ขอโทษ คะ นะ?”

“รู้แล้วค่า!! แม่ขอโทษคุณลูกด้วยนะคะ!!”

   พอเริ่มบิดหูของผมแล้วแต่ก็ไม่ปล่อยมือจากหูผมอยู่ดี ส่วนทางรัสเซียเองก็เหมือนจะยังร้องไห้อยู่

“เข้าใจแล้วละน่า ฉันผิดเองแหละต้องทำยังไงถึงจะยกโทษให้บอกมาสิ”

“นอน…ด้วยกัน..”

“ห๊า? พูดอะไรไม่ได้ยินเลย?”

“คืนนี้หนูต้องได้นอนด้วยกับคุณแม่หนูถึงจะยอมยกโทษให้คะ!!”

“มะเหงกดิ!! เอ็งไม่ได้คิดจะนอนเฉยๆ แห–เจ็บๆๆๆๆ”

“พูดแล้ว ห้ามคืน คำ นะ?”

“เธอยังไม่รู้นะเฟ้ย!! พวกรุ่นธรรมดานะมันร้ายกาจขนาดไหน ทั้งจิก ทั้งข่วน ทั้งกัด!! แถมพวกนี้นะยังมีแรงเหนือมนุษย์อีก!!! คืนนี้ฉันไม่ได้นอนแหงๆ!!”

     รู้ไหมว่า ฉันต้องใช้เวลาฟื้นฟู่บาดแผลในใจเป็นเดือนเลยนะกว่าจะกลับมามีความรู้สึกได้ ไหนจะเรื่องที่พวกนั้นชอบเล่นพิเรนทร์จนเกือบฉีกตั้งหลายรอบ คนที่ต้องเจ็บตัวมันฉันนะเว้ย!! ไม่ใช่เธอ!!

“คุณทวดคุณแม่ว่าหนูอีกแล้วง่า~ แง้~!!!”

“นี้แก!!! เจ็บๆๆ”

   รัสเซียอ้อนก้าก้าอีกครั้ง ให้ตายสิหล่อนจะโอ๋หลานตัวเองไปถึงไหนฟะ ช่วยเห็นหัวตูหน่อยสิเฮ้ย!!! แถมยัยนี้มันก็แค่ใช้เธอเป็นเครื่องมือเองนะเฟ้ย

“ก็ได้ๆ!! ฉันยอมแพ้จะนอนหรือทำอะไรของเรื่องของเธอเลย!! ฉันยอมแล้ว!!”

“จริง นะ?”

“จริงยิ่งกว่าจริงอีกฉันไม่ผิดคำพูดหรอกนะ!!”

“ไชโย!! รักคุณทวดที่สุดด้วย”

    รัสเซียกอดก้าก้าด้วยความดีใจ ทางฝั้งก้าก้าเองหน้าตาสดใสขึ้นมาเลยนะ!!! แต่ไอ้คนที่ต้องโทรมมันฉันนะเฟ้ย!!!

“หุๆ ช่างเป็นคุณแม่ที่น่ารักเหมือนที่รัสเซียเล่าไว้เลยนะเจ้าคะ”

“รัสเซียมันนินทาอะไรฉันให้ฮานะจังฟังละนั้น?”

“ก็คุณแม่มีลูกตั้งเยอะแยะเต็มไปหมดเลยนี้คะ รัสเซียเองก็เป็นลูกอับดับท้ายๆ เลยไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกับคุณแม่เท่าไหร่เลยน้อยใจนะคะ แม้คุณแม่จะไม่สังเกตุเห็นก็เถอะ แต่แค่ถูกเรียกชื่อ รัสเซียเองแค่ดีใจจนแทบตัวลอยแล้วนะคะ”

“เห~ พวกนั้นเองก็มีมุมน่ารักๆแบบนี้ด้วยเหรอเนี้ย เปิดโลกใหม่เลยนะเนี้ย!!”

“อ๊า!!! ไม่ได้นะฮานะไหนสัญญาแล้วไงว่าจะไม่บอกคุณแม่นะ!!”

    รัสเซียรีบมาปิดปากฮานะพร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำ จะว่าไปพวกนั้นก็เห็นเราเป็นแม่สินะ อย่างงี้นี้เองอืมๆ

“รัสเซีย..ก้มหัวลงมาหน่อยสิ”

“ช่วยเบามือให้หนูด้วยนะ”

     รัสเซียก้มหัวทำตามที่ผมสั้งอย่างว่าง่าย พร้อมกับหลับตาปี้ กลัวผมจะตีสินะ? จะว่าไปพวกเธอเองก็อายุไม่ถีง1ปีกันเลยนี้นะ

“เก่งมากที่พยามทำของอร่อยๆแบบนี้ขึ้นมา แม่ภูมิใจในตัวลูกมากเลยนะจ๊ะ”

     ผมพูดด้วยน้ำเสียงหวานๆ และก็ลูบหัวเธอเบาๆ ถ้าเป็นแม่คงต้องประมาณนี้สินะ แต่พอทำแบบนี้แล้วรู้สึกหงุดหงิดจัง…หงุดหงิดสุดๆเลยละ

“อะไรกันเล่า หนูไม่ใช่เด็กแล้วซักหน่อย….”

“ถึงจะพูดแบบนั้นรัสเซียยิ้มไม่หุบเลยนะเจ้าคะ หุๆ”

“เดี๋ยวเถอะ!! ฮานะอย่ามาแซวกันสิ!! คืนนี้เธอโดนหนักแน่!!!”

“อ๊าย~ น่ากลัวจังเลยเจ้าคะ”

 

“เอ้า!! จะยืนมองตรงนั้นไปถีึเมื่อไหร่ไม่คิดจะมาชื่นชมหลานสาวคนเก่งรึไง!!”

    ผมตะโกนถามก้าก้าที่ยืนอยู่ในสภาพอ่ำอึ่งยืนอ่ำอึ่งอยู่ เป็นอะไรของเธออีกละนั้น

“แต่ว่า..”

“ไม่มีแต่ทั้งนั้นแหละ!! นี้ไงแค่เอามือแตะหัวแล้วพูดเก่งมาก แค่เนี้ย!! ก็จบละ”

“กะ.กะ..เก่งมาก”

   ผมจับมือของก้าก้ามาวางที่หัวของรัสเซลแม้จะยังงงๆ แต่เธอเองก็ยับลูบหัวตามที่ผมบอก

“มือคุณทวดเองก็อุ่นไม่แพ้คุณแม่เลยนะคะ”

“ก็แหงแหละที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้ก็คือต้นตระกูลพวกเธอเชียวนะ”

   เริ่มต้นจาก2คนไม่รู้จักกันจู่ๆ ก็เริ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว น่าประหลาดใจเหมือนกันที่ผมกลับคุ้นชินมันได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน แต่น่าแปลกจริงๆ ที่ผมกลับรู้สึกหงุดหงิดเพราะบรรยากาศดีๆ แบบนี้ได้

“โย้สสส!!! กำลังใจเต็มเปี่ยม!!! วันนี้แหละจะขายไอติมให้หมดเลย!! ฮานะ!! ช่วยเรียกลูกค้าด้วยนะ!!”

“เข้าใจแล้วเจ้าคะ!! เชื่อมือภรรยาคนนี้ได้เลยเจ้าคะ!!”

    รัสเซียกับฮานะทำหน้าที่ของกันและกันอย่างสมบูรณ์ ฮานะตะโกนเรียกลูกค้าส่วนรัสเซียก็ตักไอติมอย่าฃรวดเร็ว ความสัมพันธ์แบบคู่รักเหรอ? ก็ไม่เลวเหมือนกันนะ

     สุดท้ายพวกเราเองก็ไปเดินดูตลาดรอบๆนี้ มันมีของขายที่คุ้นหน้าคุ้นตามากมายจากโลกเก่า ซึ่งคนขายเองก็ไม่ใช่ใครเลยลูกหลานเรานั้นเอง พวกเราแวะคุยบ้าง หัวเราะด้วยกันบ้าง กินของอร่อยด้วยกัน ทำอะไรแปลกๆด้วยกัน พบปะเจอกับมุมมองของลูกหลานคนต่างๆที่มากมายหลายตา มีคนที่เป็นช่างแต่งหน้า นักเขียนนิยาย คนส่งของ นักประดิษย์หรือ แม้กระทั้งอาชีพแปลกๆที่ไม่คิดว่าจะมีอย่างช่างทำเซ็กทอย…เอาเป็นว่าไม่พูดถึงมันดีกว่า

แต่ลูกหลานพวกเขาทั้งหมดที่เจอนั้นต่างรักและเชิดชูผมและเรียกผมว่าแม่

    ผมไม่รู้หรอกนะว่าคนเป็นแม่เขาทำหน้าที่กันยังไง แถมผมเองก็ไม่เคยเลี้ยงพวกนั้นด้วยสิ ผมเองก็ไม่อาจจำหน้าตาหรือแม้แต่ชื่อพวกนั้นได้หรอกนะ ก็มีตั้งพันกว่าคนเลยนี้น่า ไหนจะพวกที่ไม่อยู่ที่นี้แล้วไปอาศัยอยู่ที่อื่น หรือไม่ก็ไปผจญภัคเพื่อตามหาความฝันของตัวเอง

 

“แล้วเป็นไงบ้างรู้สึกเป็นยังไงบ้างเวทมนต์พอจะคลายออกบ้างรึเปล่า”

   ผมถามก้าก้าที่นั้งอยู่ข้างๆ กัน ตอนนี้ก็เย็นแล้วสินะ เดินมาทั้งวันปวดขาเป็นบ้าเลย แต่วันนีี้ก็สนุกดีนะ แม้จะรู้สึกหงุดหงิดนึดหน่อยก็เถอะ

“ไม่เลย รู้สึกในอก มันร้อน ยิ่งกว่าเดิม แต่ว่า รู้สึกสนุก”

“หว่า~ แย่จังนะขนาดคนแข็งแกร่งอย่างเธอยังคลายมันไม่ได้เลยเหรอเนี้ย”

“นั้นสินะ สกส้ยครั้งนี้ ต้องยอมแพ้ แล้วเธอละ คลายได้ไหม?”

“ฉันเหรอ? ฉันยอมแพ้มาตั้งแต่ต้นแล้วละ มนต์ที่ทำให้มีความสุขแบบนี้นะ ยอมโดนไปตลอดชีวิตก็ไม่เลวเหมือนกัน”

“นั้นสินะ ตัวสุดท้าย ในเผ่า อย่าง–“

  ผมเอานิ้วปิดปากของก้าก้าไว้ก่อนจะพูดจบ

“เธอไม่ใช่ตัวสุดท้ายในเผ่าแล้วนะลองมองไปรอบๆ ดูสิว่าเธอเห็นภูติดำแบบเธออีกกี่ตัว”

    ก้าก้านั้นมองตามที่ผมบอก ที่หมู่บ้านแห่งนี้เต็มด้วยภูติสีดำมัน ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มีเพียงแค่เธอคนเดียวหรอกนะ แถมพวกนี้ยังเป็นตัวการหลักในการพัฒนาพื้นที่ด้วยอีกไม่นานที่นี้คงกลายเป็นเมืองขนาดใหญ่แล้วละมั้ง ก็สามารถอัพเกรดกระท่อมไม้เก่าๆกลายเป็นบ้าน2ชั้นสุดทรูได้ในเวลาไม่นานด้วยนี้นะ ถ้าในอนาคตอีก4-5ปี อาจจะมีคอนโดโผล่ขึ้นมาเลยก็ได้ แต่คงเป็นไปไม่ได้หรอกของที่คำนวณยุ่งยากแบบนั้นนะ แต่หากโผล่มาคงตกใจน่าดูเลยละ

“อืม ฉัน คือ ทวด ไม่ใช่ สุดท้าย อีกต่อไป”

“ตำแหน่งของเธอยังดีแต่ฉันนี้กลายเป็นแม่ของเด็กพันกว่าคนเลยนะ”

“แล้วอยาก จะได้ ตำแหน่งเพิ่ม ไหม?”

“โอะๆ มีตำแหน่งมาเสนอให้ด้วยเหรอครับเนี้ย? แหมๆ ช่วงนี้กระผมเนื้อหอมจริงๆ ว่าแต่ตำแหน่งอะไรเหรอครับคุณผู้หญิง”

“สนใจ ตำแหน่ง สามี ของฉันไหม?”

“ว้า~ แย่จังเลยนะครับ น่าเสียดายๆ บังเอิญตอนนี้ตอนนี้ผมไม่สนใจงานอื่นนอกจากการเป็นไอ้หน้าบากแกรนด้วยสิ”

“ทำ ไม?”

“ก็หน้าที่แม่พันธ์มันจบแล้วนะสิ ฉันเองก็ต้องกลับแล้วละมีปาตี้คู่รักที่น่าจะรออยู่ที่โน้นนะ”

    ผมพูดถึงฮาลกับเนียร์ตั้งแต่เริ่มผจญภัคก็มี2คนนี้อยู่ด้วยกันตลอดละนะ แม้ที่นี้จะไม่เลวก็เถอะแต่คงต้องกลับแล้วละ แถมผมก็คุยกับคุณร็อดนี่ไว้ด้วยว่าจะกลับไปเร็วๆนี้ เธอเองก็ไม่คัดค้านอะไร

ที่สำคัญผมต้องการจะใช้ชีวิตอิสระมากกว่าที่จะอยู่ที่นี้ตลอดไปละนะ

 

“งั้น จะไป ด้วย”

“ดีจะเหรอ?”

“ทำไม จะไม่ดี?”

“ก็ไม่ใช่อะไรหรอกนะ จริงๆพวกเด็กพวกนั้นที่มีความทรงจำของฉันอาจจะรู้แล้วก็ได้นะ คือตอนนี้ฉันโดนไล่ล่าจากแกรนเทลอยู่นะ ก็แหมไอ้เจ้าชายขี้เก๊กนั้นมันอยากได้ฉันไปเป็นเมียมากๆด้วยสิ แถมตั้งค่าหัวไว้ยังกะนายพลของจอมมารเลยด้วย”

“ฉันรู้ หัวหน้า บอกแล้ว”

   คุณร็อดนี่เองก็รู้สินะ ก็แหงละนะก็เล่นติดใบประกาศจับ ไปทั้ว9อาณาจักรเลยนี้น่า แถมคนที่ชื่อมีเรียที่มีพลังเวทเยอะแบบนี้มีไม่กี่คนหรอกนะ แต่น่าแปลกเหมือนกันที่ข่าวนั้นไม่หลุดไปถึงหูพวกทหาร ชักสกสัยแล้วสิ ว่าคุณร็อดนี่เก็บข่าวได้ไงกันนะ แต่ช่างเถอะ ยังไงเรื่องนั้นคงต้องขอบคุณละนะ

“แต่ฉันต้องกลับไปที่เมืองของฉันนะ”

“อืม เพราะงั้น จะไปด้วย”

“ถ้าเธอตามฉันไปเธออาจจะต้องเสียใจตลอดชีวิตเลยก็ได้นะ”

“รู้ ไม่สน”

“เธอไม่ห่วงลูกกับหลานของเธอเลยรึไง? เห็นว่าเธอเองก็สนุกตอนอยู่กับพวกนั้นดีนี้”

“ห่วง พวกนั้น เก่งกว่า ก้าก้า จึง ไม่เป็นไร และอีก อย่าง..”

   ก้าก้าจูบผมซึ่งมันเป็นจูบธรรมดาไร้การสอดอะไรเข้ามา มันเป็นการจูบที่ไร้เดียงสาและใสซื่อ ซึ่งจากที่ผมโดนบับคับในช่วงก่อนหน้านี้

“ก้าก้า ยอมรับ มีเรียคือ สามี ต้องอยู่ ด้วยกัน”

“ก้าก้า.. หน้าแดงมากเลยนะนั้นไหวรึป่าวเนี้ย?”

“!!!!”

“โอ็ยๆ อย่าตีสิฟะ!! ท่าเขินก็อย่าทำตั้งแต่แรกสิ!!”

 

   ก้าก้าผมตีด้วยความเขินอาย หน้าของเธอแดงแจ๋เป็นมะเขือเทศเลยละ ไร้เดียงสาจังแหะ ต่างกับพวกลูกหลานของเราเลยนะ… ไม่สิอันนั้นมันเกินคำว่าไร้เดียงสาเกินไปแล้วสินะ น่ารักอย่างที่คิดเลยนะเธอเนี้ย

“บ้า..”

“จะไปไหนแล้วเหรอ”

“…..”

 

    ก้าก้าไม่พูดอะไรเธอเดินจากโดยไม่หันหลับมามองทางนี้ เฮ้อ~ ไม่เชื่อเลยนะผู้หญิงแบบนี้จะเคยคลอดลูกมาแล้วนะเนี้ย ส่วนเราเองก็ไปคิดซักหน่อยละกันว่าหลังจากนี้จะเอายังไง จริงมั้ยละ มีเรียเอ๋ย

ผมคือนักบุญหญิงที่เป่ายิ้งฉุบมาเกิดใหม่ครับ

ผมคือนักบุญหญิงที่เป่ายิ้งฉุบมาเกิดใหม่ครับ

Status: Ongoing
อ่านผมคือนักบุญหญิงที่เป่ายิ้งฉุบมาเกิดใหม่ครับชาย2คนที่เป่ายิ้งฉุบแย่งตัวละนักบุญหญิงเพราะอยากเล่นตัวละครผู้หญิงกัน แต่เมื่อเขาสามารถเอาชนะเพื่อนของตัวเองได้ ก็พบว่าตัวเองได้มาอยู่ต่างโลกในฐานะของนักบุญจริงๆ เสียแล้ว

Comment

Options

not work with dark mode
Reset