ผมคือนักบุญหญิงที่เป่ายิ้งฉุบมาเกิดใหม่ครับ – ตอนที่ 24

“ก็อย่างที่บอกนะตามนี้แหละ ร็อดเน่”

“พวกผู้ปกครองทั้ง9สั้งจับเป็นนักบุญแล้วสินะ เป็นเรื่องที่เกินคาดเลย”

    ร็อดเน่พูดคุยกับราชาสรรพ์สัตว์ในบ้านพักผู้ใหญ่บ้านของร็อดเน่ที่ปัจจุบันถูกเหล่าภูติดำเปลี่ยนให้กลายเป็นสำหนักงานประจำหมู่บ้านไปเรียบร้อย

     ที่แห่งนี้มีทั้งหลอดไฟที่จ่ายพลังงานเวทมนต์ และเครื่องปรับอากาศ ฮีสเตอร์เองก็มีไว้ ซึ่งของทั้งหมดยังไม่จำหน่ายเนื่องจากอยู่ในขั้นตอนทดลองใช้งานอยู่ เนื่องจากสิ่งของพวกนี้ทำงานได้โดยเวทมนต์ที่ร็อดนี่เป็นคนถ่ายให้พลังให้ตลอดเวลา เนื่องจากยังไม่สามารถทำวงจรเวทมนต์ที่ปลอคภัคได้และขาดแคลนวัตถุดิบในการทำอุปกรอื่นๆที่ต้องใช้คู่กัน ทำให้ตอนนี้ต้องใช้แบบนี้ไปก่อน โดยมีร็อดเน่เป็นหนูทดลอง

 

“ว่าแต่เจ้ากำลังกำลังทำอะไรกับภูตดำนั้นนะ”

    ราชาสรรพสัตว์ชี้ไปที่บริเวณหน้าอกของร็อดเน่ที่บัดนี้มีภูติดำตัวหนึ่งถกเสื้อเสื้อเชิ้ตของเธอขึ้นและกำลังทำท่าเหมือนดูดอะไรบ้างอย่าง

“หลานสาวกำลังดูดนมจากข้าไง ถามอะไรแปลกๆ เจ้าก็เห็นอยู่ไม่ใช่รึไงเจ้าสิงโต”

“ไม่ๆ ข้าว่าเจ้าเองต่างหากที่แปลกร็อดนี่!! ไหงถึงปล่อยให้ภูติดำดูดไปง่ายๆละ ที่สำคัญเจ้าไม่เคยมีบุตรไม่ใช่เหรอ? จะไปมีน้ำนมได้ยังไง”

“ก็หลานข้าบอกอยากดูดก็ต้องให้ดูดสิ!! นี้เป็นคำขอร้องของหลานสาวที่น่ารักของข้าเลยนะ!!!”

    ร็อดนี่นั้นตะโกนออกมาราวกับมันเป็นเรื่องปกติพร้อมถลกตาใส่ราชาสรรพสัตว์ ราชาสรรพ์สัตว์ถึงกับกุมขมับ

    ร็อดเน่ เบล ที่เขารู้จักนั้นเป็นคนที่ห่วงตัวมาก ในตลอดชีวิตของเธอนั้นไม่มีคนใดได้แตะต้องเธอได้เลยแม้แต่ปล่อยผมหรือแม้กระทั้งเห็นผิวเนื้อในของเธอ

 

   ด้วยรูปโฉมและรูปร่างงดงามยิ่งกว่าหญิงงามในบรรดาหญิงงามทให้เธอเคยถูกเรียกในอดีตว่า’ดอกไม้งามอมตะนิรันดร์ต้องห้าม’เนื่องจากเธอมีความสามารถเวทมนต์สูงพอๆกับความงาม ทำให้มีชายหลายคนต้องจบชีวิตเพราะพยามครอบครองเธอ ไม่มีเจรจา ไม่พูดคุย ไม่เมตตา นั้นคือคำเรียกขานเธอในสมัยก่อน แต่ตอนนี้กลับกำลังเปลือยอกข้างหนึ่งแล้วปล่อยให้หลานสาวที่มีขนาดตัวพอๆกับเธอดูดหน้าอกอยู่

 

“ข้าว่าเจ้าดูเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ ร็อดนี่”

“เหรอ? ข้าว่าก็เหมือนเดิมนะ? อย่างน้อยข้าเองก็มีสายเลือดเอลฟ์ที่มีอายุยืนอยู่แล้วข้าคิดรูปลักษณ์ภายนอกเองก็น่าจะเหมือนเดิมทุกอย่าง บางทีอาจจะมีรอยตีนกาเพิ่มขึ้นละมั้ง? ข้าเองก็อายุเยอะแล้วสินะ เจ้าสิงโต ฮ่าๆ”

    ร็อดนี่พยามพูดอย่างติดตลกแถมเธอก็ไม่รู้ด้วยซ้ำถึงการเปลี่ยนแปลงของตัวเอง แม้เมื่อก่อนจะขี้เกียจไปบ้างแต่ก็ยังทำงานตลอด แต่ตอนนี้เธอทำงานตลอดไม่ขี้เกียจอีกต่อไปแต่ตอนนี้ ราชาสรรพสัตว์กลับรู้สึกว่าเธอในตอนนี้ดูเลวร้ายยิ่งกว่าเก่า

“ท่านทวดคะ คืนนี้พวกเราอยากดูไอ้นั้นอะ”

    ภูติดำที่อยู่ตรงหน้าอกร็อกนี่ได้เอ๋ยถามด้วยน้ำเสียงอ้อนหน่อบๆ ร็อดนี่เอียงหัวสกสัยเล็กน้อย ก่อนจะที่ทำท่านึกออก

“อ๋อ ไอ้ประบำรูดเสาที่ต้องถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นอะนะ”

“พรวดดดดด!!!”

“หืม เป็นอะไรเจ้าสิงโตชาลวกปากรึไง? ข้าว่าก็พยามทำไม่ให้มันร้อนเกินไปสำหรับพวกลิ้นแมวอย่างเจ้านะ”

    ร็อดนี่ถามราชาสรรพสัตว์ที่สำลักชาอย่างกระทันหัน

“แค่กๆๆ… นี้เจ้า..ไปเป็นนักเต้นระบำเปลือยกายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!!”

“ห๊า? พูดบ้าอะไรของเจ้าแล้วทำไมข้าต้องลดตัวไปเป็นนักเต้นระบำเปลือยละ? ข้าไม่จำเป็นต้องใช้เงินด้วยซ้ำ ที่ข้าทำก็แค่สร้างความบันเทิงตามที่หลานสาวข้าขอเท่านั้นแหละ”

“เจ้าคิดจะทำตามที่หลานเจ้าขอทุกอย่างเลยรึไง!! นี้มันจะแปลกไปแล้ว!!!”

“พูดอะไรบ้าๆ ข้าเองก็ไม่ได้ตามใจหลานไปซะทุกเรื่องหรอกข้าเองก็เข้มงวดกับหลานตัวเองพอสมควรเลยนะ จริงไหมจ๊ะ นิว”

    จากน้ำเสียงเข้มๆที่คุยกับราชาสรรพสัตว์ เปลี่ยนเป็นน้ำเสียงอ่อนหวานทันทีเมื่อพูดกับภูตดำ ราชาสรรพสัตว์นั้นรู้สึกถึงขนที่กำลังลุกไปทั้วร่างไม่เว้นแม้กระทั้งแผงคอของเขาเองก็ตาม

“จริงคะ ท่านราชา ท่านทวดนะเข้มงวดมากๆเลยคะ ตอนหนูทำผิดก็ชอบมาหงิกแก้มหนูบ่อยๆด้วย”

“อะไรคือมาตราฐานของความเข้มงวดของเจ้ากัน!! ขนาดลูกสาวข้าทุกคน เมื่อทำผิดข้าก็ลงโทษด้วยการตีเลย!! นี้แค่หยิกแก้มจะไปพออะไรกัน!!! แบบนี้เจ้าจะไปสั้งสอนใครได้กันละ!!”

“จะให้ข้าตีหลานตัวเองรึไง!!! ทำไมราชาผู้มีเกียรติอย่างเจ้าถึงคิดจะให้ข้าทำอะไรไร้อารยะธรรมอย่างงั้นกับหลานตัวเองกัน!! ข้าทำไม่ได้หรอก!!”

“คนที่เคยจะฆ่าผู้ชายเพียงเพราะถูกสัมผัสปลายผมอย่างเจ้า ไม่มีสิทธิ์พูดเรื่องอารยะธรรมหรอก!!”

    เขาเองก็เคยอยู่ในเหตุการณ์นั้นมันผ่านมาเพียง60ปีเท่านั้น เขายังจำได้ได้ว่ามีชายรูปงามคนหนึ่งหลงเสน่ของร็อดนี่ เขาพยามหว่านเสน่และทำทุกอย่างเพื่อให้เธอสนใจ สุดท้ายเขาเผลอไปสัมผัสปลายผมของเธอเข้า ทำให้เธอเผาชายคนนั้นทันที แม้เขาจะไม่ตายแต่ก็อาการสาหัสอยู่หลายวัน ทางราชินีแม่มดเองถึงขั้นออกมารับผิดชอบด้วยตัวเอง  ด้วยการอยู่รักษาเขาถึง 7วัน 7คืนเลยทีเดียว

    ถึงแม้พวกเธอจะตัดความสัมพันธ์กันไปนานแล้วแต่ร็อดเน่ก็ยังเป็นตระกูล เบล อยู่ดี ทำให้ราชินีแม่มดต้องรับหน้าที่รับผิดชอบสิ่งที่เธอทำไว้ในฐานะหัวหน้าตระกูล

 

“มันมีเรื่องแบบนั้นด้วยเหรอ? ข้าจำไม่ได้เลยนะว่าเคยทำอะไรที่ดูโหดร้ายแบบนั้น ถ้าเจ้าคิดจะกล่าวหาข้าก็เอาที่เป็นไปได้สิ”

    ร็อดนี่ทำหน้างงๆ พร้อมกับพยามนึก ไม่ใช่ว่าเธอแกล้งลืมแต่เธอเป็นคนที่ความจำสั้นมาก หากไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับเธอแค่เพียง1นาทีเธอก็ลืมไปจนสิ้นแล้ว แต่หากเป็นเรื่องที่สำคัญเธอก็จะจำได้ตลอดไม่เคยลืม เธอเป็นทั้งอัจฉริยะและคนโง่ในคนๆเดียวก็ว่าได้

“ข้าได้ยินว่ามีชายคนหนึ่งได้ลักลอบเข้ามาในเขตเราเพื่อแอบดูหญิงงามคนหนึ่งอาบน้ำ เมื่อเขาถูกเธอจับได้ เขาถูกเธอคนนั้นตรึงร่างกายไว้ด้วยเวทมนต์ จากนั้นก็ควักลูกตาออกมาทีละข้างแล้วเผาทิ้งต่อหน้าเจ้าของอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย และปล่อยให้ชายคนนั้นเร่ร่อนไปเรื่อยๆในดินแดนเราโดยไม่สนใจใยดีเลย เจ้าพอจะคุ้นหรือไม่”

“ป่าเถื่อนสิ้นดี!! ใครกันที่ทำแบบนั้นกัน!! แค่ถูกมองร่าเปลือยจึงกับต้องทำลายชีวิตคนๆหนึ่งเชียวรึ!! เธอคนนั้นเป็นใครกันถึงได้ทำตัวอวดดีขนาดนั้น ถ้าหากหลานข้าเลียนแบบจะทำยังไง!!”

“จากปากคำให้การได้ยินว่าเธอผู้นั้นเป็นเผ่าพันธ์เอลฟ์ มีผมสีทองสว่างจนสามารถสะท้อนแสงจากดวงจันทร์ มีใบหน้าที่สวยงามเหมือนเทพธิดา มีผิวขาวเรียบเนียนและดวงตาสีม่วงเข้ม พอจะรู้สึกคุ้นๆบางไหม”

“ฟังจากที่เจ้าอธิบายเธอคงจะสวยน่าดูเลยนะ แต่ข้าไม่เคยเห็นพวกเอลฟ์ที่ดูสวยงามแบบนั้นอยู่ในดินแดนของพวกเรานะ แล้วหนูเคยเห็นบ้างไหมจ๊ะ นิวหลานรัก”

“อืม~ ท่าฟังคำอธิบายจากท่านราชามันก็คล้ายๆ ท่านทวดอยู่นะคะ แต่ว่าท่านทวดเป็นคนใจดีเพราะงั้นจึงไม่น่าใช่คนทำคะ”

“ใช่แล้วละจ๊ะนิว คุณทวดไม่เคยทำอะไรโหดร้ายแบบนั้นหรอกจ๊ะ ก็คุณทวดเป็นคนอ่อนโยนนี้น่า มามะ มาให้หอมหน่อยสิหลานรัก”

“ฮ่าๆ ท่านทวดจั้กจี้นะคะ”

    ร็อดนี่กอดหลานของตัวเองแน่นพร้อมกับจูบไปที่หน้าผากและแก้มไม่หยุด ราชาสรรพสัตว์รู้สึกอยากอาเจียนทันทีที่เห็นการกระทำที่เปลี่ยนไปของร็อดนี่

    สำหรับเขาที่รู้จักเธอมานานการกระทำนั้นมันดูน่าขยะขแหยงมาก ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกได้ถึงอาหารเช้าที่อยู่ในท้องกำลังย้อนกลับมาออกทางปากอีกครั้ง เขาพยามบีบไปที่คอตัวเองเพื่อไม่ให้มันไหลออกมา

 

“แล้วท่านแม่เป็นยังไงบ้างละ เมื่อพูดถึงนักบุญ”

“แทบจะบ้าคลั้งเลยละ ข้าไม่เคยเห็นราชินีแม่มดเป็นอย่างงั้นมาก่อนเลย เมื่อ300ปีก่อนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

“มันก็เกิดขึ้นตามที่เจ้าได้ยินมานั้นแหละ แต่แค่แม่ข้าใช้นักบุญเป็นตัวรองรับอารมเท่านั้นแหละ ช่างตลกซะจริงที่ปากคอยพร่ำแต่บอกรักท่านพี่ แต่กลับกลายเป็นคนฆ่าท่านพี่ด้วยมือด้วยเอง แต่ถึงอย่างงั้นเธอเองก็น่าสกสารอยู่นึดๆเหมือนกัน”

“น่าแปลกนะ ที่เจ้าจะเห็นใจแม่ตัวเองเพราะแบบนี้หรือเปล่า ถึงยังไม่ทิ้งชื่อเบลไป”

“ที่ข้ายังไม่ทิ้งเพราะมันเป็นชื่อที่เชื่อมกับท่านพี่ต่างหากเจ้าสิงโต ที่ข้าบอกว่าน่าสกสารอยู่นึดๆคือนางอยากตายแต่ตายไม่ได้มากกว่า”

“ตายไม่ได้หมายความว่านางเป็นอมตะเหรอ?”

“ไม่ๆข้าไม่ได้หมายความแบบนั้นนางเป็นแม่มดที่มีอายุยืนมากก็จริงแต่ก็ยังตายได้นั้นแหละ แถมแม่ข้าเองก็ไม่ได้เป็นพวกบ้าบอที่ยึดติดกับชีวิตอมตะด้วย”

“ข้าก็พึ่งรู้เนี้ยละว่านางไม่ได้ยึดติดกับชีวิตอมตะนี้แหละ ข้านึกว่าจะเป็นพวกคลั้งไคล้พวกวิถีบูชายัญอะไรแบบนั้นก็อีก”

“ฮ่าๆ มันก็อาจจะจริงอย่างที่เจ้าว่าแต่ว่าในบรรดาแม่มดนั้นนางถือว่าเป็นคนที่ศีลธรรมสูงสมควรเลยละ และนางเป็นคนที่ถือทิฐิว่า’พลังควรมาจากตัวเองไม่ควรได้มาด้วยการยืมหรือแย่งชิงมาเพราะนั้นคือการกระทำของพวกอ่อนแอไร้ค่าที่พยามหาทางที่ง่ายที่สุดโดยไม่รู้เลยว่าพลังที่แย่งชิงมานั้นมันคืออะไรเลยแม้แต่น้อย’นั้นก็คือคำขวัญประจำตระกูลของเรายังไงละ ก็เพราะแบบนี้พวกมนุษย์หรือเผ่าพันธ์อื่นที่อยู่ในดินแดนเวทมนต์จึงไม่ถูกเอาไปบูชายัญหรือนำไปใช้ประกอบพิธียังไงละ”

“ไม่ได้เห็นเผ่าพันธ์อื่นเป็นเครื่องมือในความแข็งแกร่งของตัวเองสินะ สกสัยข้าคงต้องเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับนางหน่อยละกัน แล้วสรุปมันยังไงที่บอกว่านางตายไม่ได้นะ ร็อดนี่”

“อ๋อๆ เกือบลืมไปเลย พอนึกถึงเรื่องเก่าๆมันก็ชอบเผลออยู่เลย ลืมตอบคำถามก่อนหน้านี้ไปเลย ก่อนท่านพี่ข้าตายเหมือนเขาจะสาปนางไว้ละ”

“อย่างราชินีเวทมนต์เนี้ยนะถูกสาป มันเป็นคำสาปประเภทไหนละนั้น”

“ข้าก็ไม่รู้รายละเอียดหรอกแต่หลังจากที่แม่ฆ่าท่านพี่เสร็จ นางก็พยามฆ่าตัวตายตามท่านพี่ไปแต่ก็ทำไม่สำเร็จ หลังจากนั้นเธอก็พยามใช้ความรู้ทั้งหมดในการฆ่าตัวตาย อย่างเช่น ทุบ เผา จมน้ำ ดื่มยาพิษ เอามีดในตำนานแทงตัวตาย ระเบิดพลังเวทภายในร่างกายให้ร่างแหลกสลายไปพร้อมวิญญาณ ตัดหัวตัวเองให้ขาด และอีกหลายๆวิธีที่แม่จะนึกได้แต่นางก็ยังไม่ตายอยู่ดี น่าตลกดีนะ คนที่พยามไขว่คว้าพลังอย่างเอาเป็นเอาตายอย่างนาง กลับใช้พลังนั้นเพื่อจบชีวิตตัวเองนะ”

“หากตัวราชินีทรมาณขนาดนั้นจะฆ่าลูกตัวเองทำไมละ?”

 

“ข้าไม่รู้หรอก ในคืนที่ท่านพี่สู้กับแม่ข้าพาก้าก้าหนีจากการกวาดล้างอยู่ แต่ว่าบางทีท่านพี่อาจจะอยากให้นางทรมาณก็ได้ สำหรับท่านแม่ ท่านพี่คือดวงใจของนางและเหตุผลทั้งหมดในการมีชีวิต เมื่อท่านพี่สิ้นไปด้วยน้ำมือตัวเองไปเธอก็ไม่อาจทำใจที่จะมีชีวิตอยู่กับบาปที่ก่อขึ้นถึงได้พยามที่จะตายไง การมีชีวิตแบบนั้นก็ไม่ต่างจากตกนรกทั้งเป็นหรอก”

“อย่างงี้นี้เองมิน่าละ แค่พูดชื่อเกล็น เบลก็ถึงกับฟิวขาดเกือบจะฆ่าข้าเลย”

“ข้าไม่แนะนำให้เจ้าทำอีกครั้งหรอกนะ แม้แม่ข้าจะพูดขู่บ่อยๆ ว่าจะฆ่าอย่างโน้นอย่างนี้เวลาเธอโมโห แต่ถ้าเป็นเรื่องท่านพี่ละก็เธอเอาจริงเสมอแหละ”

“ต่อให้เจ้าไม่เตือนข้าก็ไม่คิดจะทำอีกครั้งหรอก ข้าไม่เอาชีวิตไปเสี่ยงกับเรื่องโง่ๆหรอกนะ”

“นั้นก็ดีแล้วละ การประเมินตัวเองก็ถือเป็นคุณสมบัติของผู้นำนะเจ้าสิงโต”

    ร็อดนี่พูดพร้อกับส่งยิ้มไปทางราชาสรรพสัตว์ มันเป็นรอยยิ้มที่ไม่เคยเปลี่ยนไปจากอดีตเลยแม้แต่น้อย รอยยิ้มของอาจารย์ที่เห็นการพัฒนาของลูกศิษของตัวเองยังไงละ

“อ่าๆ รู้แล้วละน่า จริงสิ!!! เกลจะขอซื้อเหล้าดีๆกับไอ้พัดลมจากพวกภูติดำนะ เจ้าพอจะจัดหาให้หน่อยได้รึเปล่า”

“เรื่องนั้นก็ได้อยู่แล้วละ มิวจ๊ะ ไปบอกพี่น้องของของหนูให้เตรียมของที่คุณสิงโตตัวนี้ต้องการหน่อยสิ”

    ขนของเขาลุกชันอีกครั้งทันทีที่ได้ยินคำว่าคุณสิงโตจากปากเธอ

“ค่า~!!”

    มิวลุกออกไปจากตักของร็อดนี่อย่างรวดเร็วโดยที่เธอเอาบราของร็อดนี่ติดมือไปด้วย แต่ร็อดนี่เองก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก ตอนนี้เธอใส่เสื้อเชิ้ตทรงสลิมสีขาวในสภาพโนบรา ทางราชาสรรพสัตว์จึงรีบเปลี่ยนโฟกัสมามองที่หน้าของเธอย่างเดียว เพราะเขารู้ดีหากถูกจับได้จะโดนอะไร ที่โหดร้ายยิ่งกว่าเรื่องที่เขาเล่าแน่นอน

“แล้วทีนี้เจ้าจะบอกข้าได้รึยังเจ้าสิงโต เรื่องนั้นนะ”

“บอกเรื่องอะไรละ? ข้าก็บอกเรื่องที่ข้ารู้ทั้งหมดเกี่ยวกับการประชุมไปหมดแล้ว”

“ไม่ใช่เรื่องนั้น!! อีกเรื่องหนึ่งสิ!! นี้เจ้าลืมเรื่องสำคัญไปได้ยังไง!!”

“เรื่องอะไรของเจ้ากันละ!!! พูดออกมาชัดๆเลยสิ!!”

   ราชาสรรพสัตว์เริ่มหงุดหงิดเขาไม่เข้าใจว่าร็อดนี่นั้นต้องการอะไรกับเขากันแน่

“เจ้านี้มันโง่จริง!!! ก็ที่อยู่ของไอ้คนที่ชื่อแกลนั้นไง!! ถ้าหลานข้าเตรียมสินค้ามาแล้ว ไม่รู้จะส่งให้ใครก็น่าสกสารแย่นะสิ!! เจ้าพูดยังกะข้ารู้จักไอ้คนที่ชื่อเกลนั้นยังงั้นแหละ!!”

“……”

    ราชาสรรพสัตว์รู้สึกสกสารเพื่อนสนิดของตัวเองจับใจ เขาไม่ได้รับการจดจำจากคนที่เขาชอบด้วยซ้ำ!! ทั้งที่เคยอยู่ด้วยกันมานาน ภายในใจเขาตั้งปณิธานอันมุ่งมั้นว่าเขาจะต้องจับมันแต่งกับลูกสาวของเขาให้มันให้ได้ ไม่งั้นเพื่อนสนินของเขาคงจะต้องโสตและซิงตลอดชีวิตแน่นอน

  มันน่าเศร้าเกินสำหรับชายที่ได้ชื่อว่าเคยได้ชื่อว่าวีรบุรุษเพลิง ผู้ที่เคยหยุดสงครามและทำให้ประเทศตัวเองกลับมารุ่งโรจน์อีกครั้งต้องตายอย่างเดียวดายเพราะตัดใจจากผู้หญิงบ้าบอคนนี้ไม่ได้

ผมคือนักบุญหญิงที่เป่ายิ้งฉุบมาเกิดใหม่ครับ

ผมคือนักบุญหญิงที่เป่ายิ้งฉุบมาเกิดใหม่ครับ

Status: Ongoing
อ่านผมคือนักบุญหญิงที่เป่ายิ้งฉุบมาเกิดใหม่ครับชาย2คนที่เป่ายิ้งฉุบแย่งตัวละนักบุญหญิงเพราะอยากเล่นตัวละครผู้หญิงกัน แต่เมื่อเขาสามารถเอาชนะเพื่อนของตัวเองได้ ก็พบว่าตัวเองได้มาอยู่ต่างโลกในฐานะของนักบุญจริงๆ เสียแล้ว

Comment

Options

not work with dark mode
Reset