ผมคือนักบุญหญิงที่เป่ายิ้งฉุบมาเกิดใหม่ครับ – ตอนที่ 27

“ที่นี้เหรอครับ?”

   ผมถามผู้หญิงที่วิ่งตามมาด้วย เธอบอกเห็นดาดาถูกพามาทางนี้

“ใช่แล้วคะ ทางนี้แหละคะ!!”

   ผมวิ่งตามทางที่เธอชี้จนมาถึงป่านอกเมือง พวกนั้นมันจะทำงานเร็วเกินไปรึเปล่า… ช่างเถอะ ไม่มีเวลามาคิดแล้ว

“อันตราย!!”

“ว้าย!!”

เพล้ง!!!!

   ผมปัดลูกธนูที่ยิงมาจากผู้หญิงคนนั้นด้วยสกิลปัดธนูที่ฝึกฝนมามานาน

“ออกมาซะ!! คนที่อยู่หลังพุ่มไม้นั้น!!”

    ผมชี้ดาบไปที่พุ่งไม้ที่ลูกธนูถูกยิงออกมา สักพักก็มีเผ่าหมาป่าคนหนึ่งเดินออกมาจากพุ่มไม้พร้อมคันธนูที่อยู่ในมือ เผ่าหมาป่างั้นเหรอ?

“ขนาดมีแค่แขนเดียวยังปัดลูกธนูของข้าได้ นายนี้มันเก่งตามที่เขาลือจริงๆเลยนะ เฟนักดาบหน้าสวย”

“รู้จักผมด้วยเหรอครับ น่าดีใจจริงๆ ที่ผมมีชื่อเสียงขนาดนี้”

“นายดังจะตายไปในฐานะที่ข้าเป็นนักผจญภัคเหมือนกันท่าไม่รู้จักสิแปลก”

   หมอนี้เป็นนักผจญภัคเหมือนกันงั้นเหรอ

“ต้องการอะไรจากผมเหรอครับ ในฐานะนักผจญภัคเองผมก็ไม่เคยไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครซะด้วยสิ”

“ก็นะ นายไม่เคยทำอย่างงั้นก็จริง แต่นายเผอิญน่าจะขายได้ราคาดีพอสมควร แม้นายจะอายุมากแล้วก็เถอะ”

“โห~ น่าสนใจดีนี้ครับ คิดจะจับผมไปขายงั้นเหรอ แค่คุณคนเดียวผมคิดว่าไม่น่าจะทำได้หรอกนะครับ”

“ก็ไม่ใช่ข้าคนเดียวสักหน่อย”

    เมื่อเผ่าหมาป่าคนนั้นพูดจบ ก็มีคนอื่นๆแสดงตัวออกมา เผ่ามนุษย์สัตว์และมนุษย์ร่วมมือกันงั้นเหรอ ชักยุ่งยากแล้วสิ พวกมนุษย์พวกนั้นก็เหมือนจะเป็นนักเวทด้วย เราจะสู้ยังไงโดยที่ผู้หญิงไม่โดนลูกหลงได้กัน

“อ๋อๆ ใช่ๆ ได้ยินว่านายอยู่กับเผ่าสัตว์มายาด้วยใช่มะ ที่เป็นแมวปีศาจใช่มั้ย?”

“!!!!!”

   หมอนี้รู้เรื่องของดาดางั้นเหรอ… อย่างที่คิดพวกมันจับตัวดาดาไว้แน่ๆ

“เป็นอะไรไปเหรอ? รู้สึกสีหน้าดูดีขึ้นเยอะเลยนี้”

“ดาดาอยู่ไหน?”

“ไม่รู้ดิ บางทีอาจจะอยู่ที่ค่ายเราก็ได้มั้ง”

“แกกกก!!!”

“ฮ่าๆๆๆๆ แค่นี้ก็สติหลุดแล้วงั้นเหรอ? ถึงว่าละทำไม คนอย่างนายถึงโดนหลอกได้ง่ายขนาดนี้”

“…..”

   ผมลองหันกลับไป ผู้หญิงที่พาผมมาที่นี้ เธอกำลังถือมีดที่เปื้ยนเลือดอยู่….

“ทำไม…”

   ผมถามพร้อมกับทรุดลงไป ร่างกายผมรู้สึกอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัดจนไม่อาจถือดาบในมือไว้ได้อีกแล้ว มีดอาบพิษสินะ

“ถ้าถามว่าทำไม? ก็คงตอบว่าเพื่อเงินละมั้ง”

“พวกนั้นไม่ปล่อยเธอไว้หรอก”

“นายคิดว่าฉันเป็นสาวชาวบ้านทั้วไปที่โดนหลอกใช้งั้นเหรอ? นายนี้มันคนดีจริงๆ ชักเสียดายที่ต้องขายนายทิ้งแล้วสิ”

   งั้นเหรอ… ผู้หญิงคนนี้เป็นหัวหน้าสินะ ดันนึกว่าโจรเป็นชาวบ้านธรรมดาซะได้ เราน่าจะเฉลี่ยวใจตั้งแต่เธอตามความเร็วเราทันได้ เรานี้มันประมาทจริงๆ แต่ท่ามันจะจบตรงนี้ละก็อย่างน้อยก็ขอสู้ให้ถึงที่สุดละกัน

“ไฟแห่งเทพผู้–อุ๊บ!!”

   ก่อนที่เฟจะร่ายจบเขาก็ถูกตีซ้ำไปที่ท้ายทอยจนสลบ โดยเผ่าหมาป่าที่เดินเข้ามาอย่างสบายๆ

.

.

.

.

.

“พี่ฉาว ตื่นสิ พี่ฉาว”

“อึก..อุ๊บ”

   เฟตื่นขึ้นมาในกรงขังโดยที่มีเด็กเผ่าแมวอยู่ด้วย ตอนนี้เขารู้สึกเจ็บที่สีข้างที่ถูกแทงมาก

“พี่ฉาวเปนไยเหยอ”

“ไม่มีอะไรหรอกครับ ก็แค่รู้สึกเจ็บนึดหน่อยครับ”

    เฟพูดกับเด็กเผ่าแมวคนนั้น พอเห็นเธอแล้วทำให้เขานึกถึงดาดาสมัยเด็ก ตอนนี้เขาถูกมัดด้วยเชือกอย่างหนาแน่นหนา ขาเองก็มีเครื่องพันธะนาการที่เป็นโซ่ตรวน ดาบและของทุกๆอย่างถูกเอาไปเรียบร้อย พลังเวทในตัวเองก็รู้สึกจะถูกผนึกไปเรียบร้อยโดยหนึ่งในจอมเวทพวกนั้น เฟพยามมองไปรอบๆ เหมือนจะมีเด็กและผู้หญิงคนอื่นถูกจับมาเหมือนกัน ซึ่งโชคดีเหมือนเขาจะไม่เจอดาดาเลย

“พี่ฉาว แม่หนูอยู่ไหนอะ”

เด็กคนนี้ไม่รู้สถานการณ์ของตัวเองด้วยซ้ำ น่าสกสารจริงๆ

“คุณแม่ของเธอกำลังตามหาเธออยู่ครับ ไม่ต้องห่วงหรอกไม่นานก็ได้เจอกันแล้ว”

“จริงเหยอ?”

“จริงครับ เรื่องนั้นผมรับประกันได้เลย”

   เฟพูดพร้อมกับยิ้มไปให้เด็กเผ่าแมวคนนั้น ท่าช่วยตัวเองไม่ได้ละก็..อย่างน้อยก็ขอช่วยเด็กพวกนี้ให้มากที่สุดก็พอ

“ตื่นแล้วเหรอ ไอ้หน้าสวย?”

   เผ่าหมาป่าที่เขาเจอในป่าเอ่ยทักเขา เด็กเผ่าแมวที่อยู่กับเขาก็รีบไปแอบโดยใช้เขาเป็นตัวกำบังด้วยความกลัว

“…..”

“ไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยรึไง?”

“ไปตายซะเถอะครับ”

“ฮ่าๆๆๆๆ พูดได้ดีนี้หว่า เดี๋ยวอีกสักพักจอมผนึกก็จะมาลงตราทาสให้แกแล้ว ช่วยอย่าพึ่งตายจนกว่าจะถึงตอนนั้นด้วยละ”

“มีจอมผนึกร่วมมือด้วยเหรอครับ ท่าทางจะเป็นองค์กรที่ใหญ่น่าดูเลยนะครับ”

“เฮ้ยๆ อย่ามาหลอกถามกันซะให้ยาก ยังไงแกก็ไม่จำเป็นต้องรู้อยู่แล้ว แกเองก็เป็นแค่สินค้านี้หว่า”

“ปฏิบัติกับคนเป็นแค่สินค้าเนี้ย เป็นพวกที่เกินเยียวยาเลยนะครับ พวกคุณเนี้ย”

“ก็มันช่วยไม่ได้นี้หว่า นี้นะเป็นอาชีพที่ทำเงินดียิ่งกว่าเป็นนักผจญภัคที่เอาแน่เอานอนไม่ได้อีกนะเว้ย ไม่จำเป็นต้องไปเสี่ยงตายหรือลงทุนอะไรมากด้วย ก็แค่จับผู้หญิงและเด็กมาขายก็ได้เงินมากมายแล้ว แถมยังได้ของพวกนั้นมาขายอีก จะมีอาชีพไหนที่ได้เงินง่ายขนาดนี้ละ”

“ก็แค่ข้ออ้างของพวกขี้ขลาดที่กลัวการต่อสู้กับมอนสเตอร์เท่านั้น พอยิ่งมาฟังจากปากคุณผมก็รู้ได้เลยครับ ว่าคุณมันขี้ขลาดยิ่งกว่าเด็กผู้หญิงเสียอีก”

“แก!!”

    ชายเผ่าหมาป่าจับลูกกรงแน่นพร้อมกับเอาหน้าที่ส่วนบนที่เป็นหมาป่าเข้ามาใกล้ๆ เด็กผู้หญิงคนอื่นก็ร้องกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจและหวาดกลัว

“ใจเย็นหน่อย นั้นสินค้าของเราเลยนะ”

ผู้หญิงที่แต่งชุดชาวบ้านพูดขึ้นพร้อมกับจับไหล่ของหมาป่า

“เข้าใจแล้ว ยังไงมันก็แค่สินค้านี้นะ”

   เผ่าหมาป่ามองเฟที่อยู่ในกรงด้วยสายตาเหยียดหยามและก็เดินจากไป

“มีธุระอะไรกับผมรึเปล่าครับ”

“ก็แค่มาดูว่านายอาการดีขึ้นรึเปล่าเท่านั้นแหละ”

“ก็สบายๆแหละครับ หนักกว่านี้ผมก็เคยโดนมาแล้ว”

“งั้นก็ดีแล้วละ สนใจมาคุยธุรกิจกันหน่อยไหม คุณนักดาบหน้าสวย”

“ผมคิดว่าไม่มีธุรอะไรกับคุณหรอกครับ”

“อย่าพูดแบบนั้นสิ รู้ไหมว่าฉันถูกใจนายขนาดไหน”

“คงไม่มีใครเอามีดมาแทงข้างหลังคนที่ตัวเองถูกใจหรอกครับ”

“ท่าไม่ทำแบบนั้นนายก็ฆ่าฉันสิ ฉันก็แค่เซฟตัวเองเท่านั้นแหละ”

“พูดธุระของคุณมาเถอะ ผมกำลังฟังอยู่”

    เฟพูดด้วยน้ำเสียงหน่ายๆ เขาเบื่อที่จะฟังเธอพูดยืดเยื้อแล้ว

 

“ก็นั้นสินะ นายสนใจร่วมมือกับเราจับภูติดำไดไหม”

“พวกคุณขาดคนถึงขนาดมาขอความร่วมมือจากคนแขนขาดอย่างผมเลยเหรอครับ”

“ไม่ๆ ฝั้งเราเองก็มีมือดีเยอะเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่ก็แค่ระดับCเท่านั้นแหละ ถึงจะมีพวกระดับBมาบาง แต่ก็ไม่ค่อยมีพวกแร๊งAหรอกนะ”

ต้องการฝีมือเราในการจับภูติดำสินะ

“ทำไมผมร่วมมือกับคุณด้วยละครับ?”

“ก็ไม่ได้คิดหรอก…แต่ว่าท่าเรายังจับภูติดำไม่ได้สักตัวละก็ เป้าหมายต่อไปคงเป็นยัยปีศาจแมวนั้นนะแหละ”

“คิดว่าเธอจะพลาดแบบผมเหรอครับ? ถึงจะเห็นแบบนั้นแต่เธอก็ใจเย็นกว่าผมอีกนะ”

“ดื้อจังนะ ทั้งที่อยากจะคุยกับนายดีๆแท้ๆ สกสัยคงต้องลงตราประทับทาสแล้วบับคับให้นายทำตามแล้วละ”

“ก็แล้วแต่ครับ..ท่าคิดว่าจะบับคับผมได้ก็เชิญ”

   เฟและผู้หญิงคนนั้นจ้องตากัน สำหรับเขาแล้วไม่ว่าจะเป็นความเจ็บปวดแค่ไหนก็จะทน ดีกว่าที่ต้องใช้พลังของตัวเองมาทำร้ายคนบริสุทธิ์ที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย

“นายนี้มันใจเด็ดไม่สมกับหน้าตาเลยนะเฟ ฉันเชื่อแล้วละว่านายคือแร๊งAจริงๆ”

“”!!!!!!””

   มีผู้หญิงผิวแทนปรากฏตัวขึ้นมา ผู้หญิงคนนั้นใส่เกราะเบาและมีดาบเล่มใหญ่อยู่ข้างหลัง ข้างซ้ายห้อยกระบองสีดำไว้ ซ้ายขวามีดาบขนาดปกติ

“เธอมัน!!!!”

ผู้หญิงคนนั้นรีบกระโดดถอยห่างจากมินาโตะอย่างรวดเร็ว พร้อมกับชักมีดขึ้นมาเพื่อเตรียมต่อสู้

“อ้าวๆ เป็นอะไรไปตกใจเหรอคุณหนู ไม่ใช่ว่าอยากจะจับพวกเราไปขายไม่ใช่รึไง?”

“ก็กำลังจะทำอยู่นี้ไง พวกแก!! ล้อมเธอไว้!!”

   โจรพวกนั้นล้อมเธอไว้ด้วยหอกและอาวุษยาวอื่นๆ ทางนักเวทเองก็ร่ายเวทเตรียมพร้อมตลอด

“ไม่ขัดขืนดีกว่า ถ้ามีแค่คนเดียวต่อให้เธอเก่งแค่ไหนก็หนีไม่พ้นหรอก”

“อืมๆ เข้าใจๆ ทางฉันเองก็คิดเหมือนกันนะ พวกเราเองก็ได้รับคำสั้งให้จับเป็นด้วยสิ”

“หา? อย่ามาพูดบ้าๆ ดี–“

“อ๊ากกกกกกก!!!”

   เสียงร้องของนักเวทร้องลั้นด้วยความเจ็บปวด เมื่อหันไปก็พบว่ามีภูติดำคนอื่นๆ ได้จับกดนักเวทพวกนั้นลงไปกับพื้น และมีบางส่วนที่เริ่มเข้าปะทะเข้ากับกองโจร

“เห็นมะ? ทีนี้ก็ไม่มีนักเวทหรือลูกน้องเข้ามายุ่งแล้ว คุณหนูจะทำอะไรต่อดีละ แต่ท่าให้แนะนำก็ยอมแพ้ซะนะ ทางฉันเองก็ไม่อยากทำร้ายผู้หญิงอ่อนแอซะด้วยสิ”

“แก!!!”

   ผู้หญิงคนนั้นพุ่งใส่มินาโตะพร้อมกับมีดในมือทันที เธอใช้สกิลก้าวพริบตาของเธอเพื่อย่นระยะ โดยฟันมีดอาบพิษของเธอไปที่คอของมินาโตะ

“ก็เร็วอยู่นะ แต่ช้าไปหน่อยนะคุณหนู!!”

“!!!!!”

   มินาโตะใช้[Bring]วาปไปข้างหลังของเธอ จากนั้นก็ใช้ฝ่ามือตีไปที่ท้ายทอยของเธอโดยหวังให้เธอสงบลง

“คุณหนูนี้อึดกว่าที่เห็นอีกนะ ท่าเป็นคนปกติโดนขนาดนั้นน่าจะสลบไปแล้ว”

“เหอะ!! อย่ามาดูถูกกันดีกว่าไม่งั้นจะเจ็บตัวได้นะ!!”

   เธอคนนั้นปามีดที่เป็นอาวุษลับที่อาบพิษถึงตายเอาไว้ ก่อนที่มันจะถึงตัวมินาโตะมันก็หายไปเรียบร้อย ทางฝั้งที่ปาเองก็ตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“กะ..แกมันปีศาจ!!!

“ไม่ใช่ๆ ปีศาจต้องอีกพวกต่างหาก เห็นงี้พวกเราเองก็เป็นภูตินะ”

“อึก!!!!”

   มินาโตะใช้[Bring]อีกครั้งเข้ามาใกล้ๆ และตีเข่าไปที่ท้องน้อยของเธออย่างรุนแรง จนเธอหมดสติลงไปกองกับพื้นในทันที

“ก็บอกแล้วให้ยอมแพ้ตั้งแต่แรกก็ไม่เชื่อ…อ๊ะ!! รอแปปนะเดี๋ยวจะไปปลดล็อคให้เดี๋ยวนี้แหละ”

  มินาโตะชักดาบออกมาและฟันไปที่ตัวล็อคจนขาดสะบั้น เหล่าภูติดำคนอื่นๆ เองก็จับกุมพวกล่าทาสทั้งหมดเรียบร้อยภายในเวลาไม่นาน เด็กและพวกผู้หญิงเองก็ถูกปล่อยตัวแล้ว ภูติดำคนหนึ่งยึดรถมาเพื่อพาพวกเธอกลับไปส่งที่เมือง

“บายๆ พี่ฉาว!!”

“บายครับ”

   เฟยิ้มพร้อมกับโบกมือให้กับเด็กสาวเผ่าแมวที่อยู่บนรถม้า หวังว่าจะได้เจอคุณแม่ที่เมืองนะ

“คุณมินาโตะมาอยู่ที่นี้ได้ไงครับ”

“ท่าถามมาอยู่ได้ไง ก็ต้องตอบว่ามาทำหน้าที่สิ เห็นว่าพวกล่าทาสมาป่วนเปี้ยนแถวนี้และก็จับเด็กกับผู้หญิงไป จนได้รับคำร้องเรียนไม่หยุดเลยพวกเราก็เลยต้องตามมาจับกุมตามปกตินั้นแหละ ที่สำคัญก็เถอะ นายมาอยู่ที่นี้ได้ละเนี้ย? เห็นคาลกับคุณหนูบอกว่านายออกมาตามหาคุณหนูเพราะเข้าใจผิดไม่ใช่เหรอ?”

“งั้นเหรอครับ ดาดาอยู่ที่เมืองนี้เองผมเองก็หมดเรื่องที่ต้องกังวลแล้วละครับ”

“ทีนี้เล่ามาได้รึยังว่าทำไมถึงโดนจับมา เท่าที่เห็นยัยนี้ไม่น่าจะจัดการนายได้เลยนะ”

“เรื่องนั้น….”

.

.

.

.

.

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ งี่เง่าชะมัด!! นายนี้มันโคตรงี่เง่าเลย!!”

   มินาโตะหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น หลังจากที่ฟังเรื่องของเฟจบ

“แฮ่กๆๆ..หูว..เหนื่อย นายเองก็ประมาทน่าดูเลยนะ ไม่คิดว่าจะเชื่อสิ่งที่ยัยนี้พูดด้วยนะ”

“เรื่องนั้น..คงต้องขอยอมรับครับ แต่ว่าจะเอายังไงกับคนพวกนี้เหรอครับ”

“อ๋อ เดี๋ยวจะจับมากองๆไว้และเทเลพอทเข้าคุกเลยนะแหละ ที่เหลือเดี๋ยวจะให้ทางเมืองหลวงมาพาไปอีกทีนะ”

“ทำไมถึงไปตัดสินโทษด้วยตัวเองละครับ?”

“ก็ช่วยไม่ได้นี้น่าถึงที่นี้จะกลายเป็นเมืองแล้วก็จริง แตตามความจริงก็มีสถานะเป็นหมู่บ้านตามเดิมนะแหละ ก็เลยไม่มีอำนาจตัดสินใจอะไรเองได้มากหรอกนะ แถมพวกเราเองก็ไม่ใช่ทหารด้วย ถ้าฆ่าคนมัวๆมันจะทำให้ภาพลักษณ์ของพวกเราภูติดำเสียหายได้ ถึงพวกนี้จะเป็นผู้ร้ายก็เถอะ”

“แย่จังเลยนะครับ ต้องมาจับเป็นคนพวกนี้”

   ถ้าเป็นทหารทั้วไปคงทำไม่ได้แน่นอนท่าต้องมาจับเป็นพวกนี้ที่มีอาวุธครบมือ และพวกจอมเวท โดยที่ไม่สูญเสียคนไปเลย พวกภูติดำพวกนี้ถือว่ามีฝีมือมากในฐานะนักสู้ โดยเฉพาะมินาโตะที่สามารถรับมือกับผู้หญิงคนนั้นได้สบายๆ  ท่าหากให้ประเมินเธอเองก็น่าจะอยู่ในระดับแร๊งBล่างๆเลยทีเดียว

“จริงๆ ก็ไม่แย่อะไรมากหรอกจริงๆ คุณทวดจะสามารถตัดสินใจลงโทษพวกนี้ในฐานะผู้ใหญ่บ้านได้ แต่ถึงอย่างงั้นคุณทวดเองก็ไม่ใช่ขุนนางด้วย ขืนไปทำอะไรข้ามหน้าข้ามตาจะซวยโดนขุนนางที่ดูแลเขตนี้เขม่นเอาได้นะ”

“ฟังดูลำบากน่าดูเลยนะครับ เอาเถอะทางผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ด้วยสิ”

“ไม่เข้าใจก็ดีแล้วละ ขืนเข้าใจไปจะปวดหัวเปล่าๆ และนายจะเอาไงต่อจะกลับไปที่เมืองเลยไหม?”

“ก็อยากกลับตอนนี้แหละครับ แต่ผมเองคงต้องหาของ ของตัวเองก่อนไม่งั้นกลับไปคงไม่มีเงินค่าโรงแรมคืนนี้แน่นอนครับ”

“งั้นก็เชิญเลย เดี๋ยวฉันเองก็ต้องไปใช้เทเลพอร์ตส่งพวกนี้กลับไปเหมือนกัน”

   เฟกับมินาโตะแยกย้ายกัน เขาเข้าไปในเต๊นของพวกนั้นที่ห่างออกมานึดหน่อย ในนั้นมีข้าวของถูกเก็บไว้มากมายที่ถูกขโมยมา เขามองหาดาบและกระเป๋าของเขา โดยใช้เวลานึดเดียวโดยใช้สกิลสังเกตุ เขาจึงหยิบโพชั่นระดับกลางจากกระเป๋าของเขามาดื่มและโยนทิ้งไปทันที

“นายมันนักดาบหน้าสวยนี้น่า มาทำอะไรที่นี้กันละ?”

“!!!!”

   ผู้หญิงผมแดงตาสีเหลืองร้องทักเขา เธอใส่ชุดเกราะเบาสีแดงที่มีลวดลายสวยงามเธอดาบของทวีปตะวันตกที่เรียกว่าคาตานะ เขาจำเธอได้เธอคือนักผจญภัคเช่นเดียวกับเขา

“ไม่คิดว่าจะมาเจอกันที่นี้เลยนะครับ นักล่ามังกรเอลซ่า”

   เขาอยู่ในท่าเตรียมต่อสู้ทันที ผู้หญิงที่เขาเจอ เธอคือหนึ่งในคนที่เข้าใกล้แร๊งS ต่างจากแร็คAปลายแถวอย่างเฟ

“ใจเย็นเถอะน่า ฉันไม่ได้มาสู้กับนายซักหน่อย ฉันแค่มาทำงานเฉยๆเท่านั้นแหละ”

“ไม่น่าเชื่อเลยนะครับ ว่าคนระดับคุณจะทำงานให้กับพวกล่าทาสด้วย”

“ไม่มีทางๆ ถึงฉันชอบเงินแต่ใช่ว่าจะชอบเงินของพวกนั้นซักหน่อย งานที่ว่านั้นนะไม่ใช่งานที่ได้รับมาจากพวกนั้นหรอกน่าสบายใจได้”

“แล้วงานที่ว่านั้นรับมาจากใครเหรอครับ”

“บอกไม่ได้หรอก แต่จำไว้เถอะมันไม่ใช่งานสกปรกแน่นอน ที่ทักนายก็ไม่ใช่มีธุระอะไรกับนายมากนักหรอกก็แค่ช่วงนี้เองฉันก็รู้สึกเหงาๆ…ก็เลยอยากชวนนายมานอนด้วยกันเท่านั้นแหละ”

   เธอพูดด้วยน้ำเสียงเย้ายวนพร้อมกับเลียมุมปากเบาๆ

“ต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ ผมไม่คิดจะนอนกับผู้หญิงคนอื่นนอกจากภรรยาและลูกของผมหรอกครับ”

“ใจร้ายจังนะ….นายนะทั้งเก่งกาจและหน้าตาก็ตรงสเป๊กฉันมากๆด้วย ไหนจะนิสัยที่ซื่อตรงแบบนี้อีก ทางนี้อยากได้ตัวนายสุดๆเลยนะ”

“เรื่องนั้นคงต้องให้อนาคตเป็นตัวตัดสินครับ หากเรามีชะตาต้องกันสักวันเราคงได้คู่กันแน่ครับ”

“อร๊าง~ นายนี้มันหล่อยันคำพูดจริงๆ!! ถูกใจสุดๆ!!! ท่างั้นก็คงต้องให้รางวัลแล้วสิ”

  เธอพยามฉวยโอกาสจูบเขา แต่เขาเองก็เอามือปัดป้องไว้

“เลิกเล่นซักทีเถอะครับ ทางผมเองก็ไม่มีเวลาว่างมาเล่นกับคุณหรอกนะ”

“ใจร้ายจังนะนายเนี้ย…. ก็ได้จะบอกอะไรน่าสนใจให้ละกัน ผู้ผนึกกำลังเดินทางมาพร้อมไฮอ็อคใส่ชุดเกราะมิลิธแบบเต็มตัวนะ”

“ว่าไงนะ!!!”

   ไฮอ็อคเป็นมอนสเตอร์ระดับB มันมีพละกำลังและขนาดตัวที่ใหญ่กว่าอ็อคทั้วไปมากและฉลาดกว่าอ็อคทั้วไปเล็กน้อย แต่ถึงอย่างงั้นการโจมตีของมันก็ยังคงซี้ซัวอยู่ดีบวกกับอุปกรของมันที่แย่ทำให้สามารถหาวิธีตอบโต้มันได้ง่าย แต่ท่าหากมีคนควบคุมการโจมตีและใส่อุปกรณ์ครบขนาดนี้แม้แต่แร๊งAอย่างเขาก็อาจต่อกรกับมันได้ยาก

ตูมมมมมม!!!!

“เริ่มแล้วสินะ ทางฉันก็ต้องไปแล้วสิ ถเานายมีอารมอยากนอนกับฉันได้เมื่อไหร่ละก็บอกฉันได้เสมอเลยน้า~”

   เมื่อพูดจบเอลซ่าก็รีบวิ่งอย่างรวดเร็ว เฟเองก็รีบวิ่งไปหาพวกมินาโตะทันที แม้พวกเธอจะเก่งกาจแต่ถึงอย่างงั้นก็ไม่อาจต่อกรกับมิลิธที่เป็นแร่ที่แข็งแกร่งที่สุดได้ ยิ่งใส่ชุดเกราะเต็มตัวยิ่งหมดหวัง การฟันไม่อาจตัดมันได้ การทุบเองก็เป็นไปได้ยากเพราะอ็อคเองก็มีความถึกทนต่อการทุบ การจะจัดการมันต้องใช้เวทมนต์เพียงเท่านั้นซึ่งมิลิธเองก็มีคุณสมบัติต่อต้านเวทมนต์พอสมควร

“คุณมินาโตะครับ!!”

   เฟส่งเสียงเรียกมินาโตะที่ตอนนี้อยู่ในสภาพที่เต็มไปด้วยเลือดสีแดงเลอะตามตัว มาช้าไปงั้นเหรอ!!

“หืม เฟเหรอ นายเจอของที่หาแล้วสินะ”

“เรื่องนั้นช่างมันเถอะครับ!! ไฮอ็อคอยู่ไหนครับ”

“อ๋อ ถเาหมายถึง ไอ้ตัวอ้วนๆนั้นก็อยู่ตรงนั้นไง”

   มินาโตะชี้พร้อมกับพูดแบบสบายๆ ทางที่ชี้นั้นมีร่างไฮอ็อคสูงประมาณ3เมตร ถูกผ่าครึ่งไปทั้งที่ใส่ชุดเกราะสีเงินอยู่ โดยที่มีร่างของชายที่ใส่ชุดเสื้อคลุมสีดำนอนสลบอยู่ข้างๆ อ็อคตัวนั้น

“นะ..นี้คุณทำได้ยังไงกันครับเนี้ย!!”

“ก็ใช้[Bring]ขึ้นไปเหนือหัวมันและสับมันดื้อๆด้วยดาบใหญ่นั้นแหละ มีปัญหาอะไรรึเปล่า?”

“อ็อคตัวนั้นใส่ชุดเกราะมิลิธเลยนะครับ!!! มันเป็นไปได้ที่ไหนจะตัดมิลิธด้วยดาบใหญ่เฉยๆได้นะ!!”

“พูดอะไรของนายนะ ดาบที่อยู่บนหลังฉันมันมิลิธแบบ100%เลยนะ แถมตอนสับเองฉันก็บัฟตัวเองเต็มที่ และเครือบดาบด้วยเวทลมเพื่อเพิ่มความคมด้วยนะ ถ้าแค่ตัดมิลิธบางๆละก็ดาบเล่มนี้สบายๆเลยละ”

   เหนือสามัญสำนึกเกินไป… มิลิธิแม้จะเป็นแร่ที่แข็งแกร่งแต่มันก็มีน้ำหนักมากเกินไป การขึ้นรูปก็ยาก ทำให้ของส่วนใหญ่ที่เป็นมิลิธนั้นจะใช้แร่อื่นผสมเพื่อลดน้ำหนักของมัน ท่าจะใช้มิลิธมาใช้แบบเต็มตัวแม้แต่ดาบเรเปียร์ก็มีน้ำหนักเท่าเด็ก10ขวบแล้ว แต่นี้กลับเอามาทำดาบที่ใหญ่ขนาดนี้มันจะหนักแค่ไหนกัน ไหนจะราคาของดาบเล่มนั้นอีก

“คุณได้รับเงินเดือน เดือนละเท่าไหร่กันครับเนี้ย”

“ตามตำแหน่งหัวหน้าอย่างฉันก็ 1เหรียญทองกับอีก40เหรียญเงินนะ ถามทำไมเหรอ?”

   เฟตกใจค่าแรงต่อเดือนของเธอ ค่าแรงของเธอมันน้อยยิ่งกว่ารายได้ต่อเดือนของพวกแร็คDด้วยซ้ำ ท่าเธอเป็นระดับหัวหน้ายังได้เงินแค่นี้ ลูกน้องของเธอจะได้เงินแค่ไหนกัน

“ผมว่าท่าคุณเป็นนักผจญภัคบ้างทีคุณอาจจะทำเงินได้มากกว่านี้อีกนะครับ”

“ก็อาจจะจริงละมั้ง แต่ฉันพอใจที่อยู่ที่นี้ละนะ คู่ของฉันเองก็อยู่ที่นี้ด้วยท่าขืนหนีไปเป็นนักผจญภัคละก็..ที่รักของฉันคงเกลียดหน้าฉันแหงๆ แถมฉันอยู่ไม่ได้หรอกท่าอยู่ห่างที่รักของฉันนะ ฮ่าๆๆๆๆ”

   มินาโตะพูดแบบติดตลกพร้อมยิ้มอย่างร่าเริ่ง เป็นผู้หญิงที่ดูเท่เกินผู้หญิงจริงๆเลยนะ เธอคนนี้เนี้ย

“หัวหน้ามินาโตะไม่รีบทำงานให้เสร็จจะดีเหรอคะ? ไม่ใช่ว่าวันนี้มีนัดเดทกับท่านแม่ย้าย้าไม่ใช่รึไง?”

“ตายละจริงด้วย!!!”

   มินาโตะรีบวิ่งไปที่คนที่ซากศพอ็อคกับชายในชุดคลุมที่นอนอยู่ จากนั้นพวกนั้นก็หายไปในพริบตา นอกจากจะเป็นนักรบที่เก่งกาจยังเป็นจอมเวทที่เก่งกาจอีก ความสามารถหลากหลายมากจริงๆเลยแหะ เธอคนนี้เนี้ย

“ใช่ๆ ลืมบอกไป พลังเวทฉันใช้เทเลพอร์ตได้แค่อีกครั้งเดียวเพราะงั้นพวกเธอเดินกลับเมืองกันเองนะ ไปละ!!”

“”””เอ๋!!!””””

   เหล่าภูติร้องออกมาเพื่อทักทวงมินาโตะ ก่อนที่ร่างของเธอจะหายไปในทันที

“ช่างเป็นคนที่เอาแน่นอนไม่ได้เลยนะคะ หัวหน้ามินาโตะเนี่ย”

ภูติดำคนหนึ่งพูดพร้อมขยับแว่นของเธอ

“นั้นสินะครับ แต่อย่างน้อยเธอเองก็ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าที่ดีนะครับ”

“ก็ตามที่คุณพูดนั้นแหละคะ ด้วยนิสัยร่าเริ่งและความขยันข้นแข็งของเธอถือว่าเป็นหัวใจหลักของพวกเราในการทำงานเลยละคะ”

ภูติดำพูดพร้อมกับยิ้มเบาๆ พวกลูกน้องเองก็รักคุณมินาโตะสินะ เป็นคนที่มีชีวิตมีความสุขจริงๆเลยแหะ คนๆนี้

“ว่าแต่…คุณเป็นคนที่สวยจังเลยนะคะ คืนนี้ฉันเองก็ว่างด้วยสิ…สนใจไปดื่มด้วยกันไหมคะ? เรื่องค่าใช้จ่ายฉันจะออกให้คุณเองคะ”

ภูติดำพูดด้วยน้ำเสียงเย้ายวนพร้อมลูบไล้ร่างกายของผม จะว่าไงดีละช่วงนี้เราเนื้อหอมจังเลยแหะ

“ขอโทษทีนะครับ ถึงจะเห็นแบบนี้ผมเองก็เป็นผู้ชายอายุ27แล้วนะครับ”

“”””””””เอ๋!!!!!!””””””””

   เหล่าภูติดำที่ได้ยินก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ เนื้อหอมจริงๆเลยนะเราเนี้ย ชักเขินหน่อยๆแล้วสิ

 

ผมคือนักบุญหญิงที่เป่ายิ้งฉุบมาเกิดใหม่ครับ

ผมคือนักบุญหญิงที่เป่ายิ้งฉุบมาเกิดใหม่ครับ

Status: Ongoing
อ่านผมคือนักบุญหญิงที่เป่ายิ้งฉุบมาเกิดใหม่ครับชาย2คนที่เป่ายิ้งฉุบแย่งตัวละนักบุญหญิงเพราะอยากเล่นตัวละครผู้หญิงกัน แต่เมื่อเขาสามารถเอาชนะเพื่อนของตัวเองได้ ก็พบว่าตัวเองได้มาอยู่ต่างโลกในฐานะของนักบุญจริงๆ เสียแล้ว

Comment

Options

not work with dark mode
Reset