ผมคือนักบุญหญิงที่เป่ายิ้งฉุบมาเกิดใหม่ครับ – ตอนที่ 30

“เมี้ยวๆๆๆ น้องแมวมาทางนี้หน่อยจ้า”

“ไม่ๆ อย่าไปทางยัยนั้นเลย ทางนี้มีปลาย่างด้วยนะ มาทางนี้ดีกว่า”

“ยัยโง่!!! คิดว่าแมวทุกตัวชอบกินปลารึไงยะ!! น้องแมวมาทางนี้ดีกว่าพี่สาวมีขนมอร่อยๆด้วยนะจ๊ะ”

“หุๆๆๆ ขนนุ่มจังเลยนะ ไม่ทราบว่าใช้อะไรบำรุงเหรอ?”

“อย่าฉวยโอกาศจับน้องแมวตามใจชอบสิยะ!!! เดี๋ยวท่าน้องแมวโกรธวิ่งหนีขึ้นมาจะทำยังไง ฉันไม่ไปตามจับให้หรอกนะ”

   ตอนนี้พวกเรากำลังเดินอยู่ในป่ารอบๆเมือง เหมือนวันนี้ภารกิจของพวกเธอจะต้องลาดตระเวณและกำจัดมอนสเตอร์รอบๆเมือง เพื่อความปลอคภัค แต่ดูเหมือนเหล่าภูติจะชอบดาดาเป็นพิเศษเลยพยามเกาะแกะเธอมาตั้งแต่อยู่ในเมืองแล้ว

“อะไรของพวกเธอเนี้ย!!!! ฉันชื่อดาดาต่างหาก!!! มาเรียกน้องแมวอยู่ได้มันน่ารำคาญนะยะ!!! ไม่ว่าหล่อนจะเอาปลาหรืออะไรมาล่อฉันก็ไม่เดินไปหาหรอกนะ!! และก็เลิกมาจับหูกับหางฉันได้แล้วมันจั้กจี้นะ!!! ที่สำคัญฉันไม่ใช่แมวนะย้า~”

   ดาดาเองก็พยามจะอดทนมาตลอดการเดินทางแต่ความอดทนของเธอก็หมดลงเรียบร้อย ทางฝั้งภูติดำเองก็เงียบลงทันทีที่ถูกโวยใส่

“”””นะ…น่าร้ากอ่า~!!!””””

“ห๊า?”

   ดาดางงกับปฏิกิริยาของภูติดำทั้งที่ถูกเธอต่อว่าแต่กลับทำท่าดี้ดาดีใจและก็พูดอะไรก็ไม่รู้

“ดูสิๆ เมื่อกี้น้องแมวน้องขนฟู่ด้วยแหละ น่ารักเนอะ”

“อันนั้นฉันก็ชอบนะ แต่ฉันชอบเขี้ยวเล็กๆของน้องแมวตอนที่ตะโกนมากกว่าอะ”

“อ๊ะ อันนั้นฉันก็ชอบนะ น่ารักดีเนอะ!!”

“แฮ่กๆๆ กลิ่นของน้องแมวตอนโกรธโมโหละ”

   ภูติดำนั้นต่างดี้ดากันมากกว่าหง่อย ทำให้สีหน้าของดาดาเสียทันทีและวิ่งไปแอบหลังเฟเพื่อลี้ภัค

“เอ้าๆ พอได้แล้วคะ!! ตอนนี้กำลังอยู่ในภารกิจอยู่นะคะ ช่วยจริงจังกันด้วยคะ”

“””””””ค่า~””””””‘

    เหล่าภูติดำต่างกลับมาทำหน้าที่ตามที่บเรนสั้ง ทุกๆคนต่างเตรียมอาวุษและเฝ้าระวังจากทุกทิศทาง

“เป็นทีมที่คึกคักจังเลยนะครับ คิดว่างั้นไหมครับ ดาดา?”

“ตรงไหนกันยะ!!! ยัยพวกนั้นมันก็แค่พวกเพี้ยนเท่านั้นแหละ!!”

“งั้นเหรอครับ? ก็เห็นดาดาสนุกดีนี้ครับ”

“ใช้ตาหรืออะไรมองถึงเห็นว่าฉันสนุกกันยะ!! ตาบ้า!!”

“ทางฝั้งนั้นก็เลิกเล่นได้แล้วนะคะ หากไม่ระวังตัวไว้จะถูกจู่โจมโดยที่ไม่รู้ตัวได้นะคะ”

“ผมก็ระวังตัวอยู่ตลอดเวลานั้นแหละครับ ท่าให้ยกตัวอย่างละก็..ตรงนั้น!!”

“!!!!”

    เฟชักดาบขึ้นมาและพุ่งไปที่พุ่มไม้ด้านหน้าอย่างรวดเร็ว เลือดกระเด็นมาจากพุ่มไม้และก็มีร่างของโคบอลตัวหนึ่งล้มลงมาจากพุ่มไม้

“เร็วมากๆเลยนะคะ สมแล้วจริงๆที่เป็นแร๊งAที่เป็นแร๊งรองสูงสุด”

“ก็ปกตินั้นแหละครับ ว่าแต่น่าแปลกนะครับที่โคบอลโพล่มาแค่ตัวเดียว ปกติพวกมันอยู่กันเป็นฝูงแท้ๆ”

“เรื่องนั้นละก็ทีมของเราจัดการอีก5ตัวให้เรียบร้อยแล้วคะ”

   ภูติดำต่างกระจายกันไปคนละที่อย่างรวดเร็ว และกำลังลากศพของโคบอลมากองๆรวมกันไว้

“ถึงขั้นจะทำลายศพให้ด้วยเหรอครับ?”

“แน่นอนคะ ปล่อยไว้มันจะเป็นแหล่งอาหารให้กับสัตว์ดุร้ายตัวอื่นเปล่าๆ เพราะงั้นจึงต้องทำลายคะ”

   บเรนพูดพร้อมหยิบศพโยนไปที่กองโคบอล หลังจากนั้นก็มีภูติคนหนึ่งใช้เวทไฟเผาทิ้งทันที เธอเชี่ยวชาญเวทไฟมากเลยแหะ เผาเฉพาะศพโดยที่ไม่เผาพื้นหญ้าหรือต้นไม้เลยสักนึด

“จะว่าไปแถวนี้โล่งมากๆเลยนะครับ ไม่เจอพวกมอนสเตอร์ระดับDขึ้นเลยสักตัวเลยนะครับ แม้จะเข้ามาไม่ลึกมากก็เถอะ”

“ช่วงแรกๆที่เริ่มขยายอณาเขตท่านแม่ย้าย้าได้ล่าสัตว์ดุร้ายแถวนี้ไปจนหมดแล้วละคะ ที่เหลือๆก็มีแต่ลูกกระจ๊อกนั้นแหละคะ นานๆทีก็มีพวกเสือลมหรือหมีสี่แขนโพล่มาบ้าง แต่ก็ไม่เท่าไหร่หรอกคะ”

“งั้นเหรอครับ คิดว่าจะมาเคาะสนิมซะหน่อยแต่แบบนี้แย่เลยนะครับเนี้ย”

“นี้ก็ถือว่าดีสำหรับเราแล้วละคะ ไม่มีสัตว์ดุร้ายแถวนี้เลยพื้นที่รอบๆก็จะปลอคภัคคะ ที่สำคัญกิลนักพจญภัคเองก็ไม่จำเป็นต้องมาตั้งสาขาที่นี้ด้วย”

“นั้นสินะครับ ท่าไม่กิลนักผจญภัคเองก็หมายความว่าเมืองนี้มีระบบรักษาความปลอคภัคที่ดีมากจนไม่ต้องพึ่งสาขาจากทางกิลเลยสินะครับ”

   เมืองที่มีสาขานักผจญภัคส่วนใหญ่จะเป็นเมืองที่ชุกชุมไปด้วยมอนสเตอร์และขาดงบประมาณในการจ้างทหารประจำ จึงมีการตั้งสาขาขึ้นมาและบับคับให้เมืองวางงบกลางไว้เพื่อเป็นการว่าจ้างในภารกิจจากทางเจ้าเมืองและกิจการภายในของกิล นั้นคือสิ่งที่เฟรู้เท่านั้น ส่วนรายละเอียดเรื่องอำนาจการปกครองนั้นเฟไม่รู้เรื่องแม้แต่น้อย

“ใช่แล้วละคะ แม้จะลำบากพวกคุณไปบ้างแต่ทางนี้เองก็ไม่อยากโดนทางกิลมาแทรกแซงการบริหารภายในเมืองของเราหรอกนะคะ”

“ผมก็ไม่รู้เรื่องการบริหารเมืองด้วยสิ”

“ไม่เข้าใจมันนั้นแหละดีสุดแล้วคะ ขืนเข้าใจจะมีแต่เรื่องปวดหัวเปล่าๆ”

“พูดเหมือนคุณมินาโตะเลยนะครับ”

“งั้นเหรอคะ หัวหน้าเองก็พูดแบบเดียวกันสินะคะ”

   บเรนครุ่นคิดสิ่งที่เฟพูดออกมา

“รองหัวหน้าคะ!! มีสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่กำลังมาทางนี้คะ!!”

ภูติดำคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแตกตื่น

“มาจากทางไหน!! โซนา!!”

“ข้างบนคะ!!”

  เมื่อพูดจบทุกคนต่างมองขึ้นไปบนฟ้า ทุกคนต่างเห็นสิ่งมีชีวิตสีแดงขนาดใหญ่มีเกล็ดหนารอบๆตัวกำลังบินอยู่

“มะ..มังกรเพลิง..”

   เฟพึมพำออกมานี้คือครั้งแรกที่เขาได้เห็นมอนสเตอร์ระดับSในตำนาน แม้จะดูตัวเล็กจนเกือบเท่าไวเวิร์นแต่มันก็ยังเป็นมังกรอยู่ดี

“ช็อกเกอร์!! เอามันลงมาอย่าให้มันหลุดไปที่เมืองได้เด็ดขาดคะ!!”

“คะ!!”

เธอกระโดดขึ้นไปและสร้างโซ่เวทมนต์ออกมารัดมังกรที่บินอยู่ มังกระหยุดชะงักกลางอากาศแต่มันก็ยังไม่พอที่จะหยุดมันได้อยู่ดี

“ใครที่ใช้โซ่ได้มาช่วยเธอดึงลงมาหน่อย!!! เร็วเข้า!!”

“”คะ””

   ภูติดำอีก2คนใช้โซ่เวทมนต์ทันทีที่ได้รับคำสั้ง และช่วยกันกระชากจนมันหล่นมาบนพื้นสำเร็จ!!

“ทุกคนวิ่งไปหามังกรซะ อย่าให้มันตั้งตัวได้เด็ดขาด!!”

“””””””คะ”””””””

   ภูติดำทั้งหมดวิ่งไปตรงที่มังกรอยู่ทันทีด้วยความรวดเร็ว

“น้องแมวเหมียวกลับไปที่เมืองและไปแจ้งหัวหน้ามินาโตะให้หน่อยได้ไหมคะ?”

“ตะ..แต่ว่า!!”

“เร็วเข้าสิคะ!!! พวกเราไม่มีเวลาแล้วนะคะ!!”

“อืม..”

   ดาดาวิ่งกลับไปทางเมืองทันที แม้ดูเหมือนจะไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก

“ต้องขอโทษด้วยนะคะ ดูเหมือนว่าเราจะต้องใช้งานคุณแบบเต็มที่แล้วละคะ”

“ก็ต้องการให้ทำแบบนั้นอยู่แล้วละครับ[Boost Up][Speed Up][Attack Speed Up]และก็..”

   เขาบัฟทุกอย่างโดยเน้นความเร็วเป็นหลักหลังจากนั้นก็กินยาบัฟเพิ่มความเร็วเข้าไปอีก

“ใช้ยาบัฟที่มีค่าจะดีเหรอคะ?”

“ท่าไม่ใช่มันตอนนี้คงไม่มีโอกาศได้ใช้แล้วละครับ”

“เข้าใจแล้วคะ งั้นกรุณาตามมาให้ทันด้วยนะคะ”

“ครับผม”

  เฟกับบเรนพุ่งไปด้วยความเร็วเต็มที่ผ่านลัดเลาะป่าอย่างรวดเร็ว พวกเขาเข้าใกล้เป้าหมายถึงเรื่อยๆจนได้ยินเสียงคำรามของมังกรเพลิง

“พอมีแผนอะไรบ้างไหมครับ”

“พวกเราจะถ่วงเวลาจนกว่าหัวหน้ามินาโตะจะมาค่ะ  อุปกรที่เธอมี สามารถตัดผ่านเกล็ดของมังกรจนถึงชั้นในได้คะ”

“เท่าที่ดูพวกคุณใช้เวทมนต์กันเก่งมากเลยไม่ใช่เหรอครับ น่าจะมีเวทมนต์แรงๆสักบทที่สามารถโจมตีมังกรเข้าได้นะครับ”

“คำตอบคือ’มี’คะ แต่พวกเราไม่อยากจะใช้มันหรอกคะ มันจะทำให้พื้นแถวนี้เสียหายโดยไม่จำเป็นมากกว่าคะ”

“คงจะเป็นเวทมนต์ที่รุนแรงน่าดูเลยนะครับ”

“ต้องขออภัคที่ต้องทำให้เหนื่อยคะ น่าอายจริงๆที่ต้องให้แขกอย่างคุณมาช่วยสู้”

“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับผมเองก็อยากสู้กับมังกรมานานแล้วละครับ นี้ก็เป็นความฝันของลูกผู้ชายเหมือนกันนะครับ”

“ท่างั้นเรามาทำความฝันของคุณให้เป็นจริงกันเถอะคะ!!”

“กรรรรรรรรรร!!!!!!!”

   พวกเขาเดินทางมาถึงพื้นที่ ที่มังกรอยู่ตอนนี้มันกำลังต่อสู้กับพวกภูติดำที่เคลื่อนไหวไปมาอย่างรวดเร็วเพื่อหลอกล่อมันอยู่

“เมโลตี้ฝากเรื่องบัฟและดีบัฟมังกรด้วย!! ส่วนดีน่ากางเขตแดนไว้อย่าให้มันบินหนีไปได้คะ”

“คะ/ได้เลย!!”

   ภูติดำที่ชื่อเมโลดี้สร้างพิณเวทมนต์และบรรเลงเพลง ทันทีที่เริ่มบรรเลงเฟรู้สึกได้ถึงพละกำลังที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

“พวกเราจะถ่วงเวลาให้นานที่สุดคะ!! พยามทำให้ป่าแถวนี้เสียหายน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้!! ส่วนใครที่ใช้กระสุนเวทเจาะเกราะได้ ขอให้ชาจพลังไว้ให้ได้เยอะที่สุดค่อยปลดปล่อยคะ ในกรณีฉุกเฉินอนุญาติให้ปลดลิมิตได้ ย้ำนะคะ!! ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้นคะ!!”

“””””ค่ะ!! รองหัวหน้า!!!”””””

   มีภูติดำอีก2คนกระโดดถอยไปอยู่ในแนวหลังและเริ่มชาจยิงกระสุนเวททันที ส่วนเฟเองก็พุ่งไปหามังกรโดยพยามฟันไปที่ขาของมัน

“ชิ!! แข็งกว่าที่คิดอีก!! ท่างั้นเจอนี้หน่อยเป็นไง!!!”

“กรรรรรรรร!!”

ตุบบบบ!!!

   เฟฟันไปที่เดิมซ้ำๆอย่างรวดเร็วโดยหวังว่ามันจะสามารถฝ่าเกล็ดอันแข็งแกร่งของมันไปได้ ก่อนที่เขาจะกระโดดถอยออกมาเพราะถูกมันโจมตีด้วยขาหน้าของมัน

“ชิ!! อีกนึดเดียวแท้ๆ!!”

“”ยิง!!!””

ตูมมมมมม!!!!

“กรรรรรรรร!!!”

    กระสุนเวทถูกยิงออกไปโดยเล็งไปที่ส่วนคอของมังกร มังกรนั้นได้บาดแผลแล้ว มันหันหน้าไปทางคนที่ปล่อยเวทใส่มันและเตรียมพ่นไฟคืนให้แก่ผู้ที่สร้างบาดแผลให้มันด้วยเพลิงแห่งความพิโรธ

“คิดว่าจะปล่อยให้ทำได้รึไงคะ!!!”

ตูมมมมม!!!

  บเรนพุ่งไปที่ปลายคางของมันและเตะเสยใส่จนทำให้ไฟที่กำลังพ่นออกมาระเบิดคาปากทันที เฟไม่ปล่อยโอกาศนี้ให้พลาดพุ่งไปและกระโดดแทงตาข้างซ้ายของมันจนบอด และใช้หัวของมันเป็นฐานเหยียบพอกระโดดกลับอย่างรวดเร็ว ภูติดำคนอื่นๆเองก็เริ่มสามารถโจมตีเจาะผิวหนังมันได้แล้วด้วยดาบได้แล้ว

“กรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร!!!!”

ตูม!!! ตูม!!!ๆๆๆๆๆๆๆๆ

   มังกรคลุ้มคลั้งและเริ่มสะบัดขาหน้าและหางของมันโจมตีไปมั่วๆโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น

“เหมือนว่าคุณจะไปทำให้มันโมโหมากกว่าตัดกำลังมันนะ”

“ก็คงงั้นแหละครับ”

“คุณเนี้ยน้า~ ทำให้งานของเราลำบากแท้ๆ ยังจะพูดเหมือนไม่ใช่เรื่องตัวเองอีก ทางนี้ต้องถ่วงเวลาและไม่ทำให้พื้นที่เสียหายนะ แบบนี้พวกเราก็โดนรองหัวหน้าโกรธแย่เลยสิ”

“งั้นลองมาเปลี่ยนเป้าหมายจากถ่วงเวลามาลองกำจัดมันดูไหมครับ?”

“ก็อยากจะทำแบบนั้นอยู่เหมือนกัน แต่คงไม่ต้องแล้วละ”

    ภูติดำคนนั้นพูดพร้อมมองไปอีกทาง ทางนั้นมีภูติดำคนหนึ่งที่หน้าตาคุ้นเคยกำลังเดินถือกล่องข้าวและเดินฮึ่มเพลงมาอย่างอารมดี

“ลัลล้า ล่า~ ข้าวกล่องของที่รัก มีเนื้ออ็อค มีเนื้ออ็อค ปาปีด้า~ ดาๆ มีกับข้าวอร่อยๆ มากมาย ลัลล้าๆล่า~ ฝีมือย้าย้านั้นสุดยอด ลัลล้าๆ”

“หัวหน้ามินาโตะ!!!! เลิกฮึ่มเพลงไร้สาระแล้วมาช่วยกันสู้สักทีเถอะคะ!!!”

“ไม่เอาน่าบเรนอย่าพึ่งอารมเสียสิ ย้าย้าอุส่าทำข้าวกล่องใหม่มาให้ฉันเชียวนะ ดูสิ มีพาสต้าเนื้ออ็อคของโปรดของเธอด้วยนะ”

“ช่างหัวพาสต้าเนื้ออ็อคเถอะคะ!!! ทางนี้กำลังสู้แบบตึงมือกันอยู่นะคะ”

“อะไรๆ อยากได้พาสต้าเนื้ออ็อคที่รักของฉันสินะ ไม่ต้องมาเขินหรอกน่าขอตรงๆมาเถอะ ฉันยินดีแบ่งให้เธอตลอดแหละ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”

    มินาโตะหัวเราะเสียงดังออกพร้อมกับเปิดข้าวกล่องโชวไปทางบเรนที่กำลังยืนอยู่

“หัวหน้ามินาโตะ..คุณนี้มัน–“

ตูมมมมมมมมมม!!!

“””””””””อ๊ะ!!!”””””””””

    มังกรฟาดหางไปทางที่มินาโตะยืนอยู่ ทุกคนต่างตะลึงกันหมด เฟเองก็รีบวิ่งไปดูอาการของมินาโตะที่ถูกหางมันฟาดทันที

“คุณมินาโตะ!! เป็นอะไรไหมครับ!!”

เฟเห็นมินาโตะกำลังยืนนิ่งอยู่ตรงที่เดิมที่มังกรฟาดมา

“ขะ”

“ขะ? อะไรครับ!! คุณมินาโตะ!!!”

“ข้าวกล่องของฉานนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!”

   มินาโตะกู่ร้องออกมาพร้อมกับลงไปคุกเข่าต่อหน้ากล่องข้าวที่ตอนนี้แบนติดกับพื้นไปแล้ว

“พอกันที….ฉันจะไม่ทนกับแกอีกต่อไปแล้วไอ้กิ้งก้าเวร!!!!”

มินาโตะพูดพร้อมชักดาบที่เอวออกมาถือและชี้ไปที่มังกรทั้งน้ำตา

“เดี๋ยวสิคะ!! ทางคุณปลดลิมิตละก็ป่าแทบนี้จะหายไปเลยนะคะ!!”

“ใช่แล้วคะ!! หัวหน้าได้โปรดใจเย็นๆหน่อยนะคะ!!!”

“เดี๋ยวพวกเราจะช่วยขอร้องให้ท่านแม่ก้าก้าทำให้ใหม่เองเพราะงั้นใจเย็นๆ และวางดาบนั้นลงเถอะคะ นะ?”

   ภูติดำทั้งหมดที่กำลังต่อสู้อยู่ได้ทิ้งการต่อสู้และมาพยามขอร้องมินาโตะให้ใจเย็นลง จนลืมมังกรที่กำลังมองพวกเธอด้วยสายตาเคียดแค้น ทางเฟเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“ตัวข้ามินาโตะผู้ผ่ามิติ…..”

“””””””!!!!!!!!””””””

   เมื่อมินาโตะเอ่ยปากพูด ภูติดำทั้งหมดต่างตกใจและเริ่มวิ่งหนีไปทันทีโดยที่บางคนทิ้งดาบไว้ก็มี ส่วนผมของมินาโตะที่แต่เดิมเป็นสีขาวก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้มและมีประกายแสงวิบวับเหมือนกับดวงดาวที่อยู่บนฟ้า ส่องแสงอยู่รอบผมของเธอ

“คุณเฟคะ!! อย่ามัวแต่บื้อสิ!! รีบวิ่งหนีไปให้ไกลที่สุดเลยคะ!!”

“เอ่อ ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกันเหรอครับ”

“เอาเถอะน่า!!! รีบตามฉันมาเถอะค่ะ!!”

  บเรนรีบจูงมือของเฟและวิ่งทันที แม้เขาจะงงอยู่แต่ก็ยอมตามไปแต่โดยดี แต่เขาก็ยังหันกลับมองมินาโตะอยู่

“ดาบของข้าจักเป็นอาวุธผ่าทุกสิ่ง”

   ดาบของมินาโตะกลายเป็นสีดำเหมือนกับท้องฟ้ายามค่ำคืนโดยที่มีแสงประกายอยู่ข้างในภายในความมืดนั้น

“ด้วยดาบของข้า ข้าจะตัดทุกสิ่ง ข้าจะดูดกลืนทุกอย่าง จะไม่เหลือสิ่งใดให้ระลึกถึง ทุกๆสิ่งจะกลับสู่ความว่างเปล่า ไร้ซึ่งความปราณี ไร้ซึ่งโอกาศ ไร้ซึ่งทางหนี ด้วยดาบของข้า!!! ข้าจะดูดกลืนทุกสิ่ง!!!!!”

“กรรรรรร!!!”

   มังกรที่เห็นมินาโตะเหลือตัวคนเดียวรีบพุ่งเข้ามาเพื่อโจมตีเธอ โดยที่ไม่รู้เลยว่าชะตาของมันกำลังจะขาดแล้ว

“หายไปซะ!!! ไอ้จิ้งเหลนเวร!!!![Incision of Black hole!!!!!]”

ฉับบบบ!!!

 

   มินาโตะฟาดดาบเป็นแนวนอนเป็นวงกว้าง แนวดาบสีดำนั้นตัดผ่านคอของมังกรและตัดไม้ทั้งหมดด้านหลังของมัน ก่อนที่แนวดาบนั้นจะเริ่มขยายตัวกลานเป็นหลุมดำและดูดกลืนทุกสิ่งที่มันตัดไม่เว้นแม้กระทั้งมังกร และพวกเฟและภูติดำที่หนีไปได้ไม่ไกลนักก็กำลังถูกมันดูดด้วย

“ทุกคนเกาะต้นไม้เอาไว้!!! อย่าให้หลุดมือเด็ดถ้ายังไม่อยากตาย!!!”

“นี้มันอะไรกันคร้าบบบบบบ!!!”

   ภูติดำคนอื่นๆและเฟต่างเกาะต้นไม้กันอย่างเหนียวแน่นเพื่อสู้กับแรงดึงดูดของหลุมดำนั้น ทุกคนต่างรู้ชะตากรรมแน่นอนหากมือหลุดจากต้นไม้ คงไม่ได้กลับมาแน่นอน

“ข้าวกล่องของฉัน…”

   มินาโตะอยู่ในท่าOpzตรงที่เดิม ผมของเธอยังคงมีสีม่วงที่มีประกายแสงวิบวับ แต่ที่ต่างกันคือป่าตรงนั้นได้หายไปหมดเหลือแต่พื้นที่รกร้างไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตแม้แต่แมลงสักตัวก็ไม่เหลือสักตัว

“หัว-หน้า-มิ-นา-โตะ!!!!!!!”

   บเรนคำรามชื่อของมินาโตะด้วยความโกรธสุดขีด ตอนนี้ป่าที่เธอพยามปกป้องมาแทบตายได้หายไปแล้วภายในดาบเดียวเท่านั้น

“อะไรละ..ทางนี้กำลังไว้อาลัยให้กับข้าวกล่องอยู่ อย่าพึ่งมากวนสิ”

“ข้าวกล่อวเหรอ? ข้าวกล่องเหรอ!!!! คุณรู้ตัวไหมคะว่าทำอะไรลงไป!!!”

“ก็แค่ฟันฉับเดียวเองไม่เห็นเป็นไรเลย”

“ไม่เห็นเป็นอะไร? คุณตาบอดรึไงคะ!!!! คุณได้ลบป่าที่เป็นทรัพยากรในพื้นที่เราไปแล้วนะ!!!! ที่ทำก็เพราะแค่ข้าวกล่องเนี้ยนะ!!! จะบ้ารึไงคะ!!!”

“นี้มันข้าวกล่องที่ฉันได้รับเป็นของขวัญคืนดีเลยนะ!! อย่าคิดว่าเป็นแค่ข้าวกล่องธรมมดาสิ!!!”

ตูมมมมมม!!!

   บเรนเหยียบหัวของมินาโตะสุดแรงจนหัวมินาโตะจมไปกับพื้นดิน ตอนนี้ที่หน้าผากของบเรนมีเส้นเลือดบูดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

“ข้าวกล่องคืนดี? อ๋อใช่ๆ ข้าวกล่องคืนดีสินะ ได้!!!! ฉันจะฟ้องท่านแม่ย้าย้าว่าคุณเคยลักหลับฉันคะ!! จะบอกให้หมดเลยว่าคุณทำอะไรกับฉันตอนเมาไม่ได้สติบ้าง!!!”

“ดะ..เดี๋ยวสิ!! ไหนเธอเคยบอกว่าจะไม่บอกย้าย้าไง!!!”

“หนวกหูคะ!!! คุณเกือบฆ่าพวกเราเลยนะคะ!!! ฉันต้องเอาคืนคุณให้สาสมหน่อย!!!”

“พวกเธอก็ยังมีชีวิตอยู่ไม่ใช่รึไง!!! แถมตอนนั้นเธอกับฉันก็เมาด้วยกันด้วยเพราะงั้นหยวนๆให้หน่อยเถอะน่า”

“โห~ ไอ้คนที่หิ้วฉันเข้าห้องไปหน้าตาเฉยตอนไร้ทางสู้แล้วบอกให้ฉันมองแต่เพดานเดี๋ยวมันก็จบแล้วเนี้ย… นี้มันต้องเมาขนาดไหนกันคะ?”

“กะ..ก็ตอนนั้นฉันยังไม่ได้คบกับย้าย้านี้น่า!! ฉันต้องหาที่ระบายบ้างซี่!!!”

“ไม่รู้..ไม่สนใจ..ขอให้สนุกกับการง้อท่านแม่ย้าย้านะคะ”

“ดะ..เดี๋ยว!! บเรน!! บเรนนนนนนนนน!!!!”

   มินาโตะพยามขอร้องบเรนแต่เธอไม่ได้สนใจและก็เดินเชิดออกมา

“พึ่งรู้เลยแหะ ว่าหัวหน้ากับรองเคยมีความสัมพันธ์กันแบบนั้นด้วย”

   ภูติดำที่ยืนอยู่ข้างเฟบ่นพึมพำออกมา ผมเองก็คาดไม่ถึงเหมือนกันนั้นแหละ

“จะว่าไปอะไรคือการปลดลิมิตเหรอครับ?”

“ท่าถาทว่านั้นคืออะไรก็ประมาณใช้ท่าไม้ตายเหมือนที่หัวหน้าใช้นั้นแหละ”

“เป็นท่าไม้ตายที่น่ากลัวจังเลยนะครับ เล่นซะป่าหายไปทั้งแทบเลย”

“ในหน่วยของเราก็มีแต่หัวหน้ามินาโตะเท่านั้นแหละ ที่รุนแรงขนาดนี้ ที่เหลือก็ธรรมดาๆ ไม่มีอะไรมากหรอก..อ๊ะ!! จริงสิ ฉันยังไม่แนะนำตัวเลยสินะ ฉันชื่อซอร์ด ยินดีที่ได้รู้จักนะคุณเฟ เอาไว้ว่างๆเอาน้องแมวมาเล่นที่หน่วยของเราอีกนะ”

ซอร์ดพูดพร้อมยื่นมือไปทางเฟ

“ครับยินดีที่ได้รู้จักเหมือนกันครับคุณ ซอร์ด เอาไว้ผมจะพาดาดาไปเล่นกับพวกคุณอีกแน่นอน ขอสัญญาเลยครับ”

  เฟจับมือของซอร์ดกลับ เพื่อแสดงถึงมิตราภาพที่เธอแสดงมาให้

“ขอบคุณมาก จะว่าไปคุณเฟเนี้ยใช้ดาบเก่งจัง ฝึกมากี่ปีแล้วเหรอ?”

“ฝึกมาตั้งแต่6ขวบแล้วละครับ หลังจากนั้นก็ฝึกด้วยตัวเองมาเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้นั้นแหละครับ”

“โห~ ฝึกด้วยตัวเองสินะ ตอนนี้คุณพอมีแรงเหลือรึเปล่า? พอดีเมื่อกี้ฉันสู้กับมังกรยังไม่สะใจเลยนะ”

“มีเหลือเยอะมากๆ เลยละครับ ก็ผมเล่นบัฟตัวเองเต็มที่เลยนี้น่า ยังใช้ได้ไม่คุ้มกับค่ายาบัฟเลย”

“งั้นเหรอตอนนี้ก็พร้อมเต็มที่เลยสินะ คุณเฟ…”

   ซอร์ดพูดพร้อมอยู่ในท่าเตรียมชักดาบเพื่อต่อสู้อีกครั้ง

“แน่นอนสิครับ ดูเหมือนทางนั้นเองก็คันมือน่าดูเลยนะครับ”

ทางเฟเองก็อยู่ในท่าเตรียมเช่นกัน

“ท่างั้นฉันเริ่มนับที่3 กับ 1 คุณเฟก็นับ 2 กับ 0ไปละกันนะ”

“ไม่มีปัญหาครับ..”

   เฟและซอร์ดจ้องตาของกันและกัน

“3”

ซอร์ดเริ่มนับ3

“2”

เฟเองก็นับ2ให้

“1”

“0!!!”

เพล้งๆๆๆๆๆๆๆๆ

   ทั้งสองคนเข้าต่อสู้กันเองเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง ทั้งสองผลัดกันรุกผลัดกันรับไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่ได้สนใจภูติดำคนอื่นๆที่ทยอทกลับเมืองไปทีละคนสักคนเลยแม้แต่น้อย

ผมคือนักบุญหญิงที่เป่ายิ้งฉุบมาเกิดใหม่ครับ

ผมคือนักบุญหญิงที่เป่ายิ้งฉุบมาเกิดใหม่ครับ

Status: Ongoing
อ่านผมคือนักบุญหญิงที่เป่ายิ้งฉุบมาเกิดใหม่ครับชาย2คนที่เป่ายิ้งฉุบแย่งตัวละนักบุญหญิงเพราะอยากเล่นตัวละครผู้หญิงกัน แต่เมื่อเขาสามารถเอาชนะเพื่อนของตัวเองได้ ก็พบว่าตัวเองได้มาอยู่ต่างโลกในฐานะของนักบุญจริงๆ เสียแล้ว

Comment

Options

not work with dark mode
Reset