ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1069 สร้างคริสทัลพาเลซขึ้นมาใหม่

หลังจากที่แซนเดอร์สได้กระดองสีดำมา เขาก็ขมวดคิ้วและพึมพำว่า “ของสิ่งนี้เป็นของที่มีอยู่จริงเหรอ? สิ่งมีชีวิตประเภทนี้ ผมเคยเห็นมันในงานประชุมการค้นคว้าสิ่งมีชีวิตทางทะเลครั้งหนึ่ง ตอนนั้นผมคิดว่ามีคนแกล้งประกอบมันขึ้นมา แต่ดูเหมือนว่าพวกเราจะคิดผิด”
ฉินสือโอวถามเขาว่าของสิ่งนี้ใช้ทำอะไร แซนเดอร์สส่ายหัว “ตอนนี้ผมยังบอกไม่ได้ แต่ผมจะศึกษามันสักหน่อย บางทีพวกเราอาจจะมีการค้นพบครั้งใหญ่ ตัวอย่างเช่นการค้นพบสายพันธุ์ใหม่สายพันธุ์หนึ่ง”
นี่มั่นใจว่าต้องเป็นสายพันธุ์ใหม่ ฉินสือโอวค้นหามานานขนาดนี้ ก็ไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์นี้ในข้อมูลอย่างเป็นทางการ แต่เขากลับเคยเห็นภาพเงาของพวกมันบนเว็บไซต์ขนาดเล็กส่วนหนึ่งและในรายงานของสื่อขนาดเล็กบางแห่ง
แซนเดอร์สถือกระดองเดินจากไป ฉินสือโอวยังคงดำน้ำต่อและมองดูโลกใต้ทะเลของตัวเอง
ตอนนี้เขาอยู่ที่จุดแกนกลางของแนวปะการัง หอยเป๋าฮื้อบริติชลายสลับสีก็ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ พวกมันขยายพันธุ์ช้ามาก แต่โชคดีที่หลังจากพวกมันดูดซับพลังโพไซดอนไปก็มีพลังงานอยู่เต็มเปี่ยม ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันก็ยังผสมพันธุ์กันอย่างต่อเนื่อง จำนวนของพวกมันจึงเพิ่งขึ้นอย่างช้าๆ
ปลานกแก้วที่แวววาวและสวยงามฝูงหนึ่งเห็นฉินสือโอวจึงรายล้อมเข้ามา นี่เป็นปลาสายพันธุ์หนึ่งที่มีทั้งความสามัคคีและความอยากรู้อยากเห็นหนักมาก พวกมันเคยเป็นแขกกลุ่มแรกของแนวปะการัง
ในตอนนั้นแนวปะการังนี้มีแค่ปลานกแก้วไม่กี่ตัว ฉินสือโอวจำได้ว่า มีครั้งหนึ่งที่ปลานกแก้วตัวหนึ่งติดอยู่ในรังไหมที่มันสานด้วยตัวเอง และเป็นเขาที่ช่วยเหลือปลาตัวนี้
เรื่องเหมือนเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ แต่คำนวณอย่างละเอียดถี่ถ้วน เวลาก็ผ่านไป 2 ปีแล้ว!
เมื่อผ่านการขยายพันธุ์และการค้นหา จำนวนของปลานกแก้วที่อยู่ในแนวปะการังเพิ่มขึ้นมาก และเปลี่ยนไปเป็นฝูงปลาสองสามฝูง ฝูงปลาฝูงนี้ว่ายอยู่ข้างๆ ฉินสือโอวซึ่งมีปลานกแก้วตัวเล็กตัวใหญ่ 100 กว่าตัว
ปลาอีโต้มอญไม่กี่ตัวพุ่งเข้ามาด้วยความบุ่มบ่าม ปลานกแก้วเห็นปลาตัวใหญ่สายพันธุ์นี้จึงว่ายหนีไปอย่างรวดเร็ว และปกติที่พวกปลาอีโต้มอญไล่ตามก็ไม่ใช่พวกมัน แต่เป็นฝูงปลาทูน่าครีบเหลืองที่ยังเด็ก
ปลาทูน่าครีบเหลืองตัวเมีย ทุกปีจะให้กำเนิดลูกหลายสิบล้านตัว แต่สุดท้ายตัวที่มีชีวิตอยู่จนโตเต็มวัยจะมีไม่กี่พันตัว นั่นเพราะช่วงวัยเด็กของพวกมันยาวนานเกินไป ปริมาณของโภชนาการยังสูงอีกด้วย ซึ่งทุกตัวล้วนเป็นอาหารของปลาขนาดใหญ่สายพันธุ์อื่น
ฉินสือโอวปกป้องปลาตัวเล็กฝูงนี้ และจิตสำนึกแห่งโพไซดอนก็ขับไล่ปลาอีโต้มอญพวกนี้ไป
เมื่อว่ายไปที่ขอบของแนวปะการัง ฉลามแมวเจ็ดพี่น้องก็ลอยขึ้นมาจากก้นทะเล คาดการณ์ว่าพวกมันคงหิวและอยากออกมาล่าเหยื่อ ผลคือมันเงยหน้าขึ้นมองฉินสือโอว ปกติที่นี่ไม่มีนักดำน้ำ ดังนั้นพวกมันจึงแปลกใจมาก
ฉินสือโอวว่ายเข้าไปใกล้พวกมัน พวกมันอ้าปากกว้างเผยให้เห็นฟันที่แหลมคม หลังจากทำท่าทางดุร้าย พวกมันก็หมุนตัวสะบัดหางและว่ายหนีไป
มันรู้สึกว่าตัวเองทำตัวขี้ขลาดนิดหน่อย แต่เมื่อหันกลับไปก็ต้องตกใจเมื่อพบว่า โดนหลอก น้องชายทั้งหกตัวของมันหนีไปแล้ว!
โซนขอบของแนวปะการังเป็นก้นทะเลที่ราบเรียบ สีผิวของทรายทะเลละเอียดเป็นสีขาวหิมะ ฉินสือโอวใช้มือหยิบทรายขึ้นมาหนึ่งกำมือ เขารู้สึกราวกับว่าตัวเองหยิบหิมะขึ้นมาได้หนึ่งกำมือ
ด้านหลังเป็นแนวปะการังที่งดงาม ส่วนด้านหน้าราบเรียบไปจนถึงก้นทะเลที่กว้างใหญ่ไพศาล ฉินสือโอวลอยตามคลื่นทะเลไปอย่างช้าๆ นี่ก็คือโลกของเขา และเขาก็คือราชาของที่นี่ โลกใต้น้ำที่สวยงาม น่าเสียดายที่ไม่มีคริสทัลพาเลซ…
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ อยู่ๆ ก็มีฟ้าแลบแวบขึ้นมาในความคิดของฉินสือโอว เขาคิดถึงของอย่างหนึ่งที่เขาลืมไปนานมากแล้ว แก้วใต้ทะเล!
เมื่อเกิดความคิดนี้ขึ้นมาทำให้ฉินสือโอวตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น เขาไม่ได้ไปหาแก้วใต้ทะเลที่สีต่างกันพวกนั้นมานานแล้ว เขาจำได้ว่าแก้วพวกนั้นอยู่ในแอ่งขนาดเล็ก จิตสำนึกแห่งโพไซดอนทั้งสี่ข้ามไปกวาดตามองเพื่อค้นหา และหาแอ่งขนาดเล็กแห่งนั้นเจออย่างรวดเร็ว
แก้วสีแดงสีขาวพวกนี้ยังคงนอนอย่างเงียบสงบอยู่ในแอ่งขนาดเล็ก บริเวณรอบๆ มีคลื่นใต้น้ำพัดผ่าน โคลนทะเลที่พัดขึ้นมาก็เกือบจะปกปิดไว้อีกชั้น จิตสำนึกแห่งโพไซดอนม้วนตัวเป็นคลื่นทะเลและหมุนอยู่บริเวณรอบๆ แก้วพวกนี้จึงเผยสีที่แท้จริงออกมา
แก้วใต้ทะเลทั้งแผ่นเล็กแผ่นใหญ่ สีก็แตกต่างกัน แก้วใต้ทะเลแผ่นใหญ่เป็นเหมือนกับภูเขาลูกเล็ก สามารถวัดได้หลายสิบลูกบาศก์เมตร แต่แก้วใต้ทะเลแผ่นเล็กมีขนาดแค่เตาไมโครเวฟเท่านั้น ส่วนสีนั้น จะมีสีแดง สีขาว สีน้ำเงินและสีเหลืองเป็นหลัก
ครั้งก่อนฉินสือโอวต้องการเคลื่อนย้ายแก้วใต้ทะเลพวกนี้ แต่ตอนนั้นความสามารถของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนยังไม่แข็งแกร่งพอ แค่เคลื่อนย้ายแก้วใต้ทะเลแผ่นเล็กก็ลำบากแล้ว
ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน ตอนนี้ฉินสือโอวสามารถก่อสึนามิขนาดเล็กในมหาสมุทรได้อย่างง่ายดาย การเคลื่อนย้ายแก้วใต้ทะเลพวกนี้จึงไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนทั้งสี่ก่อให้เกิดคลื่นใต้น้ำสี่ลูก คลื่นใต้น้ำที่ทรงพลังพวกนี้ปะทะกันจนเกิดเป็นคลื่นทะเลคำราม และยกแก้วใต้ทะเลขึ้นมา มันเริ่มหมุนไปข้างหน้า…
รวดเดียว คลื่นขนาดใหญ่ใต้ทะเลที่ฉินสือโอวสร้างพัดแก้วขนาดเล็กหลายชิ้นพุ่งออกไปไกลร้อยเมตร หลังจากคลื่นทะเลเกิดขึ้นก็มีแรงเฉื่อย พัดน้ำทะเลไปผสมกับแก้วใต้ทะเลและกลิ้งไปข้างหน้า มันเคลื่อนย้ายไป 40 ถึง 50 กิโลเมตรและเข้าไปอยู่ใกล้ๆ กับแนวปะการัง
แม้ว่าแก้วใต้ทะเลพวกนี้จะมีขนาดค่อนข้างเล็ก แต่การควบคุมคลื่นเป็นเวลานานขนาดนี้ก็ยังใช้พลังชีวิตมากอยู่ดี หลังจากฉินสือโอวส่งแก้วใต้ทะเลหลายแผ่นเข้ามาเขาก็หอบนิดหน่อยด้วยความเหนื่อย
อย่างนี้คงไม่ไหว ฉินสือโอวส่ายหัว การสร้างคริสทัลพาเลซต้องการแก้วใต้ทะเลเยอะมาก และยังต้องการแก้วขนาดใหญ่พวกนั้นโดยเฉพาะ เขาลองดูแล้ว แก้วใต้ทะเลหลายสิบลูกบาศก์เมตร แค่เขาเคลื่อนย้ายได้ 1 ถึง 2 กิโลเมตรก็ลำบากแล้ว
ชัดเจนว่า คลื่นทะเลที่สร้างโดยโพไซดอนนี้ เมื่อเทียบกับคลื่นที่รุนแรงตามธรรมชาติ อานุภาพยังต่างกันอยู่หลายปีแสง…
เมื่อรู้สึกขุ่นเคือง ฉินสือโอวก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาในทันที ทำไมตัวเองต้องใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนเคลื่อนย้ายแก้วใต้ทะเลมาไกลขนาดนี้ด้วย? เขาสามารถใช้เรือลำใหญ่ลากแก้วพวกนี้ได้ ในเวลานั้นเขาไม่สามารถใช้อุบายนี้ได้ เป็นเพราะจิตสำนึกแห่งโพไซดอนไม่สามารถย้ายแก้วใต้ทะเลขึ้นมาและส่งเข้าไปในอุปกรณ์ที่เรือลำใหญ่ลากมาด้วยได้
เมื่อเข้าใจจุดนี้ ฉินสือโอวก็ผ่อนคลายขึ้นมา ตอนนี้เขามีความคิดที่ยิ่งใหญ่มาก ถ้าความคิดนี้เป็นจริง นั่นจะเป็นเซอร์ไพรส์ที่เหมือนกับระเบิดนิวเคลียร์สำหรับวินนี่อย่างแน่นอน
เมื่อเสี่ยวเถียนกวาเกิด ฉินสือโอวก็ควรจะขอวินนี่แต่งงาน แต่สถานที่กับวิธีขอแต่งงานเขายังไม่มีแผนในใจ เขาหวังว่าจะทำให้วินนี่เซอร์ไพรส์ ทำให้ช่วงเวลาขอแต่งงานของเธอเป็นที่น่าจดจำไปตลอดชีวิต และถ้าเป็นการขอแต่งงานในคริสทัลพาเลซใต้ทะเล…
แค่คิดก็ทำให้คนตื่นเต้นแล้ว นี่ยังคงเป็นเรื่องที่ฉินสือโอวจินตนาการด้วยตัวเอง ถ้าวินนี่ผ่านปะการังใต้ทะเลมา ทันใดนั้นเธอก็จะเห็นคริสทัลพาเลซแห่งนี้กับฉินสือโอวที่จะขอเธอแต่งงาน นั่นคงจะสมบูรณ์แบบมาก!
เรื่องนี้จะเป็นเสียงสะท้อนแห่งความสุข ฉินสือโอวลอยขึ้นไปบนผิวน้ำและเตรียมตัวจะขึ้นเรือจากไป แต่เขามองไปรอบๆ ที่ว่างเปล่า บนผิวน้ำทะเลบริเวณรอบๆ ไม่มีเรือเลย!
“ไอ้เวร แซนเดอร์สนึกไม่ถึงว่านายจะวิ่งกลับไปเอง!” ฉินสือโอวทนไม่ไหวตะโกนด่าอย่างรุนแรง
ในเวลานี้เขายังห่างจากชายฝั่งอีกหลายกิโลเมตร แม้ว่าเขาเพิ่งจะข้ามช่องแคบ 15 กิโลเมตรมา แต่ตอนนั้นเขาก็แทบจะเหนื่อยตาย โดยเฉพาะตอนนี้เขายังสวมหมวกกันน็อคใบใหญ่ที่ไม่ตรงกันไว้บนหัวอยู่!
หลังจากก่นด่า เขายังต้องว่ายน้ำกลับเองอีกหลังจากนี้ ไม่มีวิธีอื่น ไม่มีอุปกรณ์การสื่อสาร ไม่มีคนอยู่รอบๆ และเขาอยากกลับไป นอกจากว่ายน้ำกลับไปด้วยตัวเองเขายังสามารถทำอะไรได้อีก?!
โชคดีที่ท่านชายฉินมีสมองที่ชาญฉลาด เขาคิดหาวิธีได้อย่างรวดเร็ว เขาจะให้เฮยป้าหวังแบกเขาไป
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนเคลื่อนตัวออกไป และเฮยป้าหวังที่กำลังอวดโฉมอยู่ในฝูงฉลามขาวยักษ์ตัวเมียก็ว่ายเข้ามาอย่างเร่งรีบ ฉินสือโอวพลิกตัวและกระโดดขึ้นไปอยู่บนแผ่นหลังกว้างของมัน คลื่นลูกใหญ่ ฉลามขาวยักษ์ที่ตัวยาว 10 กว่าเมตรส่งเสียงร้องและพุ่งไปข้างหน้า
“ไอ้บ้าเอ๊ย!” ฉินสือโอวนั่งอยู่ได้ที่ไหนกัน? ผิวหนังของฉลามขาวยักษ์ลื่นเกินไป เฮยป้าหวังเร่งความเร็วเร็วขนาดนี้ ท่านชายฉินที่ปีนขึ้นไปอย่างยากลำบากก็ถูกเหวี่ยงลงน้ำอีกครั้ง…
………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset