ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1072 ฟอสซิลโผล่ขึ้นมาจากน้ำ

เมื่อเห็นมิเชลอยู่คนเดียว ฉินสือโอวลูบคางและถามว่า “คนอื่นล่ะ?”
มิเชลก้มหน้าไม่พูดไม่จา สีหน้าเต็มไปด้วยความเศร้า เขาไม่ตอบและถามกลับว่า “เป็นเพราะผมอวดว่าผมมีเทรนเนอร์มืออาชีพใช่ไหมครับ? แต่พวกเขามักจะอวดสิ่งของมากมายกับผม ผมก็ยังเป็นเพื่อนกับพวกเขา ยังเล่นบาสด้วยกันกับพวกเขา”
ฉินสือโอวเดินเข้าไปตบบ่าของมิเชล และให้เด็กชายตัวน้อยมองตรงมาที่ดวงตาของตัวเอง หลังจากนั้นก็พูดว่า “อย่าใส่ใจพวกนี้เลย มิเชล นายคือชายที่ถูกกำหนดให้เป็นซูเปอร์สตาร์ของเอ็นบีเอ! สิงโตกับแกะสีฟ้าหิมาลัยไม่สามารถเป็นเพื่อนกันได้ ถ้าพวกเขาไม่เต็มใจจะเป็นสิงโต งั้นก็ไม่สมควรเป็นเพื่อนของนาย!”
โดยทั่วไปแล้ว วิธีการสอนแบบนี้ไม่ถูกต้อง เด็กที่ถูกสอนจะปฏิบัติและหยิ่งยโสมากเกินไป ซึ่งง่ายมากต่อการสร้างนิสัยที่โอหังอวดดีและกำเริบเสิบสาน
แต่สำหรับมิเชล เขาต้องการการสอนแบบนี้ เพราะเขาขาดความมั่นใจในตัวเองมากเกินไป
เด็กสี่คนสี่บุคลิก บรรยากาศที่สงบของพาวลิส จิตใจที่ดีงามของเชอร์ลี่ย์ ความน่ารักและดื้อของกอร์ดอน เด็กพวกนี้เก่งทุกคน แต่บุคลิกของมิเชลคือความอ่อนไหว ความน้อยเนื้อต่ำใจและความขี้ขลาด บุคลิกแบบนี้สำหรับนักกีฬา เรียกได้ว่าถึงตาย!
ฉินสือโอวต้องการปลูกฝังความมั่นใจในตัวเองของมิเชล นั่นก็เพื่อให้เขารู้ถึงความยอดเยี่ยมของตัวเอง และเพื่อแสดงความแข็งแกร่งของเขาผ่านความอ่อนแอของคนรอบข้าง นี่ก็เป็นวิธีหนึ่งเหมือนกัน
หลังจากได้ยินคำปลอบโยนของเขา อารมณ์ของมิเชลก็ร่าเริงขึ้นมาบ้าง จริงๆ ฉินสือโอววางแผนจะให้เขาฝึกเลี้ยงลูก เพราะอนาคตเขาจะต้องพึ่งตัวเองเพื่อก้าวไปข้างหน้าในการแข่งขัน เพื่อนร่วมทีมของเขาตอนนี้ไม่เหลือแล้ว ฉินสือโอวต้องจัดการเรื่องนี้ก่อน
การหักหลังของพวกสมาชิกทีมบาสเกตบอลไม่เพียงแค่ทำร้ายมิเชลเท่านั้น แต่ยังทำร้ายท่านชายฉินอีกด้วย ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาเต็มไปด้วยความมั่นใจในความสามารถการนำทีมของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นชาวประมงหรือพวกทหาร ภายใต้เงื้อมมือของเขานั้นทุกคนเป็นคนที่ว่านอนสอนง่ายและเชื่อฟังทุกคน
แต่ตอนนี้เขานำเด็กน้อยกลุ่มหนึ่ง นึกไม่ถึงว่าจะถูกตอบโต้?
ท่านชายฉินรู้สึกว่าวีแชตของตัวเองได้รับการยั่วยุ เขาจำเป็นต้องนำทีมกลับมาอีกครั้ง
แต่อันที่จริงเด็กกับผู้ใหญ่นั้นแตกต่างกัน ฉินสือโอวรู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องใช้เวลาในการตัดสินใจ ดังนั้นเขาจึงกลับไปที่ฟาร์มปลาหลังจากฝึกซ้อมกับมิเชล
ตอนที่กินมื้อเย็น วินนี่เห็นเขาดูไม่มีความสุขจึงถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่ออยู่ต่อหน้ากับภรรยาของตัวเอง ฉินสือโอวก็ไม่มีอะไรต้องปิดบัง เขาเล่าเรื่องที่พวกเด็กๆ ในทีมบาสเกตบอลโกรธเขาออกมา
วินนี่ตบหลังของเสี่ยวเถียนกวาเพื่อกล่อมให้เธอหลับไปด้วย และถามด้วยรอยยิ้มไปด้วย “คุณวางแผนจะทำอย่างไร?”
ฉินสือโอวยิ้มเยาะ “เจรจากันด้วยเหตุผลก่อน ถ้าล้มเหลวค่อยใช้กำลัง ผมจะอธิบายเหตุผลให้พวกเขาฟังก่อน แต่ถ้าพวกเขายังดื้อรั้นขนาดนี้ งั้นก็อย่าโทษว่าผมเอาความเป็นครูไปกดดันเด็กแล้วกัน!” หลังพูดจบ เขาก็เสริมอีกประโยคว่า “ผมยังมีแผนเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อยู่”
“ไปหาหัวหน้าครอบครัวของพวกเขาเหรอคะ?” วินนี่ถามกลับทันที
ฉินสือโอวมองหญิงสาวผู้อ่อนโยนและสวยงามที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตกใจ วินนี่มองเขาตกใจจนดูโง่ และอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ฉันเป็นคนที่นอนอยู่ข้างๆ คุณทุกวัน คิดว่าฉันจะไม่เข้าใจคุณเหรอ? คุณก็คิดเรื่องนี้น้อยไปเหมือนกัน”
“แต่มันจะมีประโยชน์อย่างแน่นอน” ฉินสือโอวพูดด้วยความโกรธ
วินนี่ยิ้มปิดปากเงียบ และวางเสี่ยวเถียนกวาที่หลับสนิทไว้ข้างๆ หลัวปอ เสี่ยวเถียนกวาพลิกตัวกอดท้องอันนุ่มนิ่มของหลัวปออย่างไม่รู้ตัว และวางหัวเล็กๆ ไว้ระหว่างอุ้งเท้าหน้าของมัน พร้อมกับนอนหลับไปอย่างสวยงาม
หลัวปอยกขาหน้าขึ้นเบาๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการดันเสี่ยวเถียนกวา ดวงตาของมันมองเธอด้วยความอ่อนโยน นึกไม่ถึงว่าจะค่อนข้างมีเสน่ห์ของวินนี่
หนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา วินนี่ก็เลี้ยงดูหลัวปอแบบนี้ เวลาผ่านไป ฉินสือโอวเห็นฉากนี้ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
หลังจากวางเสี่ยวเถียนกวาลง วินนี่ก็พูดว่า “ที่รัก คุณไม่สามารถปฏิบัติต่อนักเรียนของคุณอย่างนี้ได้ มันไม่มีประโยชน์ ตอนนี้พวกเขายังไม่รู้จักโลก เทศนาไปพวกเขาก็ฟังไม่เข้าใจ ถ้าคุณใช้สถานะความเป็นครูไปกดดันพวกเขา ตอนนี้พวกเขาอยู่ในช่วงต่อต้าน พวกเขายิ่งจะไม่ฟังคำพูดของคุณ”
“งั้นจะทำอย่างไร?” ฉินสือโอวตั้งท่าอย่างไม่ละอายใจ
วินนี่พูดต่อ “ง่ายมาก คุณพาพวกเขาไปร่วมรับประทานอาหารสักมื้อ หลังจากนั้นก็บอกพวกเขาว่า คนที่ฝึกซ้อมอย่างกระตือรือร้นมากที่สุดทุกวันจะมีของรางวัลให้ ส่วนคนที่ไม่กระตือรือร้นมากที่สุดก็จะมีบทลงโทษ ตั้งรางวัลความก้าวหน้ารายสัปดาห์และรางวัลความก้าวหน้ารายเดือนไว้ แค่นี้ก็โอเคแล้ว”
ฉินสือโอวเกาหัว สิ่งที่วินนี่พูดดูเหมือนจะสมเหตุสมผล แต่อย่างนี้ก็เป็นแค่การตามใจนักเรียนนิดหน่อยไม่ใช่เหรอ?
เขาพูดข้อสงสัยออกมา วินนี่ชำเลืองมองเขาด้วยความโกรธ เธอบอกว่าความคิดของเขาเป็นความคิดที่เข้มงวด และเขาไม่สามารถทำอย่างนั้นได้
ความคิดของวินนี่เป็นความคิดที่ถูกต้อง บ่ายวันต่อมา ฉินสือโอวไปโรงเรียนก่อนเวลา หลังจากพวกนักเรียนเลิกเรียนก็จะถูกเขากักตัวเอาไว้ จากนั้นเขาจะพาพวกเขาไปกินข้าวและดื่มเครื่องดื่มที่ร้านอาหารของคุณลุงฮิคสัน ช่วงนั้นเขาได้คุยโทรศัพท์อย่างเรียบง่ายกับสตีเฟน เคอร์รี คริส พอลและดาราบาสเกตบอลเอ็นบีเอคนอื่นๆ ที่ติดต่อกันผ่านวิดีโอคอล
นี่สร้างความประทับใจให้กับพวกเด็กๆ เป็นอย่างมาก ความรักที่พวกเขามีต่อดาราบาสเกตบอลนั้นเป็นความรักที่มาจากหัวใจ รวมกับคำพูดดีๆ ของฉินสือโอวที่ชักจูงพวกเขา ในที่สุดพวกเขาก็ยอมกลับมาฝึกซ้อมที่สนามอีกครั้ง
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้พวกเด็กๆ เต็มใจกลับมาก็คือฮิวจ์คนน้อง อย่าคิดว่าชายคนนี้มีชื่อเสียงไม่ดีในแวดวงผู้ใหญ่ของเมืองแฟร์เวล แต่สำหรับพวกเด็กๆ ในเมือง ฮิวจ์คนน้องถือว่าเป็นราชาของพวกเด็กๆ
นอกจากนี้ฮิวจ์คนน้องยังมาเป็นผู้ช่วยโค้ชอีกด้วย ดังนั้นพวกเด็กๆ จึงรู้สึกว่าตัวเองก็มีเทรนเนอร์เหมือนกัน และรู้สึกว่าตัวเองกับมิเชลได้รับความสำคัญเหมือนกันทันที
นอกจากฮิวจ์คนน้อง ไม่นานหลังจากนั้นฉินสือโอวก็ได้ผู้มีความสามารถมาอีกคนหนึ่ง นั่นก็คือบิลลี่
ตราบใดที่เยาวชนอเมริกันมีสุขภาพแข็งแรง โดยพื้นฐานทุกคนจะชอบเล่นบาสเกตบอลกับรักบี้ ระดับบาสเกตบอลของบิลลี่ก็ไม่เลวเหมือนกัน ว่ากันว่าช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยเขายังเคยเป็นคู่ซ้อมของทีมบาสมหาวิทยาลัยอีกด้วย
ก่อนหน้านี้บิลลี่ค้นหาเรืออับปางทองคำที่น่านน้ำโซมาเลียมาโดยตลอด การกลับมาที่เกาะแฟร์เวลครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อมาหาฉินสือโอว แต่การทำงานกู้ซากฟอสซิลที่ทะเลสาบเฉินเป่าได้รับความคืบหน้าอย่างมาก ในฐานะที่เขาเป็นหัวหน้านักดำน้ำ แน่นอนว่าเขาต้องกลับมาเพื่อเป็นพยานในช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ครั้งนี้
ฉินสือโอวมอบงานฝึกซ้อมให้ฮิวจ์คนน้อง เพราะเขาก็ต้องวิ่งไปดูซากฟอสซิลเหมือนกัน ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนเขาจะเคยเห็นมาหลายครั้งที่ก้นทะเลสาบ แต่บนชายฝั่งเขายังไม่เคยเห็น แน่นอนว่าต้องไปหาประสบการณ์ให้ตัวเองสักหน่อย
ฮิวจ์คนน้องก็อยากไปเหมือนกัน ดังนั้นเขาจึงคำรามว่า “ฉิน นายทำแบบนี้ไม่ได้นะ นายเป็นโค้ช ฉันเป็นแค่ผู้ช่วยโค้ช!”
ฉินสือโอวขมวดคิ้วขึ้นเป็นทรงพระวัชระแล้วจ้องมองไปที่เขา “เดิมทีการฝึกซ้อมให้คนในทีมก็เป็นงานของผู้ช่วยโค้ช นายบอกว่านายจะไม่ช่วยฉันฝึกซ้อมนักบาส งั้นฉันจะเก็บนายไว้ทำไม?”
“ไม่!”
“พูดอีกอย่างคือฉันเลิกจ้างนาย ฉันจะให้บิลลี่มาเป็นผู้ช่วยโค้ชของฉันแทน ดังนั้นหลังจากนี้ถ้ามิเชลกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ของเอ็นบีเอ ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนาย” ฉินสือโอวเริ่มขู่
ฮิวจ์คนน้องแสดงสีหน้าอันขมขื่นออกมาทันที เขาอยากจะคุยโม้ไปได้ตลอดชีวิตครึ่งหลังของเขา แต่เขาต้องพึ่งใบบุญมิเชล
ชายฝั่งทางเหนือของทะเลสาบเฉินเป่าในตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ชายฝั่งทางใต้กับชายฝั่งทางตะวันออกและตะวันตกยังคงเป็นศูนย์กลางนักท่องเที่ยว แต่ชายฝั่งทางเหนือกลับมีเรือกู้ภัยกับเรือกู้ซากทอดสมออยู่ บ้านหลังคากระเบื้องเหล็กจำนวนหนึ่งถูกสร้างไว้บนชายฝั่งชั่วคราว และวางเครื่องจักรเอาไว้จำนวนมาก
ที่ทะเลสาบเฉินเป่า ฉินสือโอวเห็นเทคโนโลยีกู้ซากที่ทันสมัยที่สุดในอเมริกาเหนือ เทคโนโลยีประเภทนี้ทำให้เขาได้เปิดประสบการณ์ใหม่จริงๆ และก็ทำให้พวกนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมก่อนหน้านี้ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยเหมือนกัน
…………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset