ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 162 เหล่านักบาสชื่อดัง

บทที่ 162 เหล่านักบาสชื่อดัง
โดย
Ink Stone_Fantasy

เออร์บักถูกศาสตราจารย์คาร์ลและเหล่าผู้ช่วยของเขารายล้อม เพื่อเก็บตัวอย่างเลือด ถ่ายทำ และตรวจปัสสาวะ เห็นดังนั้นฉินสือโอวก็แอบไม่สบายใจ
บ้าเอ้ย คราวหลังเขาต้องระวังกว่านี้แล้ว นอกจากพวกคนที่สนิทใกล้ชิดกับตัวเอง คงไม่สามารถใช้พลังโพไซดอนใส่ตัวคนอื่นๆได้แล้ว สิ่งนี้มันคือพลังของพระเจ้า ไม่ควรให้ปรากฏอยู่บนโลก ถ้าโดนพบเข้า เขาได้จบเห่แน่!
โชคดี ยังไม่มีคนคิดว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับฉินสือโอว เออร์บักบอกกับพวกหมอว่า เมื่อเร็วๆนี้เขาได้ใช้ยาสมุนไพรที่เหมาเหว่ยหลงเอามาให้ บางทีอาจเป็นผลจากยาวิเศษตะวันออกนั้น
ในส่วนของยาสมุนไพรจีน พวกศาสตราจารย์คาร์ลไม่เคยศึกษามาก่อน เรื่องนี้จึงต้องระงับไปชั่วคราว
แม้เรื่องที่เกิดขึ้นกับเออร์บักสามารถเรียกได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์ต่อการแพทย์ แต่ปาฏิหาริย์นี้ยังไม่มีการวิจัยมายืนยัน มีแค่ประเด็นเรื่องยาสมุนไพรเท่านั้น อย่างไรก็ตามสมาคมการแพทย์อเมริกาเหนือปฏิเสธที่จะศึกษาเรื่องยาสมุนไพรมาตลอด
กล่าวได้ว่า ยาสมุนไพรจีนนำมาซึ่ง ‘การคุกคามทางทฤษฎีของจีน’ ที่มีแต่จะเลวร้ายลง
ในทางการแพทย์ การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของเออร์บักนับเป็นข่าวดีครั้งใหญ่ทีเดียว คาร์ลรู้สึกตื้นตันใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขายิ่งกว่าฉินสือโอวเสียอีก ตอนเที่ยงศาสตราจารย์เฒ่าถึงขั้นเตรียมโต๊ะพิเศษเพื่อฉลองให้กับเรื่องนี้
ฉินสือโอวอดเตือนพวกเขาไม่ได้ “สภาพปู่เออร์บักตอนนี้น่าจะยังไม่ถือว่าน่ายินดีหรือเปล่าครับ? ไอ้นั่นมันยังอยู่ในสมองเขาอยู่เลยนะครับ”
ศาสตราจารย์คาร์ลยิ้มตอบ “ไม่ เจ้าหนู ตอนนี้ชาร์คแมนหนีจากเงื้อมมือความตายมาได้ชั่วคราวเท่านั้น แต่จากการตรวจเลือดและตรวจเซลล์สมองแสดงให้เห็นว่าระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายเขาตอนนี้อยู่ในสภาพดีมาก และกำลังอยู่ระหว่างการทำลายเซลล์ไกลโอมา อธิบายแบบนี้อาจไม่ชัดเจนเท่าไร งั้นฉันจะบอกให้ละเอียดอีกหน่อยแล้วกัน นายต้องรู้ไว้ว่าเซลล์เนื้องอกนั้นเป็นเซลล์ที่สามารถแบ่งตัวได้ไม่สิ้นสุด…”
หลังการอธิบายชุดใหญ่จากผู้เชี่ยวชาญ ฉินสือโอวได้ฟังก็หัวหมุนไปหมด สรุปคือสภาพร่างกายของเออร์บักได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เซลล์ไกลโอมาที่สูญเสียฐานการแบ่งตัวทำให้จากนี้พวกมันจะค่อยๆ หยุดการแบ่งตัวไป และเซลล์ก็จะตาย ถือว่าสามารถควบคุมอาการไว้ได้
ช่วงบ่ายศาสตราจารย์คาร์ลหยุดงาน พาฉินสือโอวกับเหมาเหว่ยหลงทัวร์บอสตัน
บอสตันเป็นเมืองเก่าแก่ ก่อตั้งขึ้นในปี 1630 โดยกลุ่มพิวริตันจากประเทศอังกฤษที่อพยพเข้ามา
เมืองนี้สร้างอยู่บนคาบสมุทร โดยมีช่องแคบคอคอดเชื่อมระหว่างเกาะหลัก ถูกล้อมรอบด้วยอ่าวแมสซาซูเซตส์กับอ่าวแบ็ค…และปากแม่น้ำชาร์ลส์ เพราะเนินเขาเล็กๆสามลูกบริเวณช่องแคบ บอสตันจึงได้ชื่อว่าเมืองสามภูเขา
ตามปกติ บอสตันมักโดนเข้าใจว่าเป็นแหล่งการเรียนรู้ที่โดดเด่นของอเมริกา หลังสร้างเมืองนี้ได้ไม่นานในปี 1635 พวกพิวริตันก็ได้ก่อตั้งโรงเรียนรัฐแห่งแรกในอเมริกา คือโรงเรียนลาตินบอสตัน และปีถัดมาก็ถือกำเนิดมหาวิทยาลัยแห่งแรกในอเมริกา วิทยาลัยนั้นก็คือ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่โด่งดังไปทั่วโลกนั่นเอง!
ตลอดทางศาสตราจารย์คอยแนะนำความรู้เรื่องภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ของเมืองนี้มากมายให้พวกเขา จากนั้นพาพวกเขาไปดูโบสถ์เก่าทางเหนือที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดในบอสตัน ชมหอแฟนิวที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘ต้นกำเนิดสงครามปฏิวัติอเมริกา’ เยี่ยมชมห้องสมุดบอสตัน และแน่นอน ไชน่าทาวน์
แทบจะทุกเมืองใหญ่ของอเมริกาล้วนมีไชน่าทาวน์ ถึงเศรษฐกิจในสถานที่นี้จะยังเติบโตได้ดี แต่ก็เป็นเรื่องที่ทำให้คนผิวขาวและคนผิวสีทั้งยอมรับและไม่ยอมรับกัน
มื้อเย็นพวกเขากินอาหารเสฉวนดั้งเดิมที่ไชน่าทาวน์กันสบายๆ เพราะเหมาเหว่ยหลงไปพูดสำเนียงซีหนานเก่าไม่กี่ประโยคกับเจ้าของร้านที่ดันเป็นคนท้องถิ่น เจ้าของร้านจึงยืนกรานจะให้ส่วนลด 20% และยังทำบัตรวีไอพีให้กับพวกเขาอย่างมีน้ำใจ
เมื่อกินเสร็จ ก็เตรียมตัวไปสนามกีฬาชมการแข่งขันต่อ
การแข่งเพื่อการกุศลจะเริ่มตั้งแต่หกโมงตรง ซึ่งไม่ได้มีแค่การแข่งขัน ช่วงแรกคือเหล่าแพทย์ที่มาเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับมะเร็งในสมองแก่พวกนักบาสชื่อดัง เป็นการเตือนผู้คนที่มาชมให้ความสนใจโรคนี้ เพื่อเข้ารับการรักษาและช่วยควบคุมโรค
ฉินสือโอวเป็นหนึ่งในวีไอพีที่ถูกเชิญมา เขาจึงมีห้องส่วนตัวพิเศษ
ห้องส่วนตัวของสนามกีฬาทีดี การ์เด้นฝั่งเหนือตั้งอยู่ตรงกลาง หนึ่งห้องมีขนาดยี่สิบสี่ยี่สิบห้าตารางเมตร ด้านในมีโซฟา โต๊ะเก้าอี้ ตู้เย็นและเครื่องปรับอากาศแบบพิเศษ เหมือนห้องส่วนตัวที่ตกแต่งไว้อย่างหรูหรา
โดยทั่วไปห้องส่วนตัวไม่ได้เตรียมไว้สำหรับแฟนคลับ แต่สำหรับเหล่าผู้ประกอบการที่จัดให้ลูกค้าคนสำคัญ จุดมุ่งหมายการมาสนามกีฬาของคนพวกนี้ก็ไม่ใช่การมาดูบอล แต่เพื่อเจรจาธุรกิจและอื่นๆ ซึ่งตัวห้องแยกห่างจากสนามค่อนข้างไกล จึงไม่เหมาะสำหรับดูการแข่งขัน
เหมาเหว่ยหลงกับฉินสือโอวมาการแข่งขันออลสตาร์เพื่อการกุศลโดยเฉพาะ ก็เพื่อดูการเล่นของนักบาสชื่อดังในเอ็นบีเอให้ดีต้องได้อยู่ใกล้พวกเขามากที่สุด ดังนั้นเขาจึงปฏิเสธห้องส่วนตัว แล้วไปยังแถวที่สองของที่นั่งผู้เข้าแข่งขัน
แน่นอนว่า พวกวีไอพีไม่สามารถเดินเข้าไปได้ตามใจชอบ ผู้จัดงานย่อมกลัวว่าจะต้องเจอกับความไม่ใส่ใจ อย่างการดูบาสแล้วแอบหนีหายไม่บริจาคเงิน แม้ว่าการบริจาคจะต้องทำด้วยความสมัครใจก็ตาม
ฉินสือโอวดึงเช็คสองแสนดอลลาร์อเมริกาใบหนึ่งขึ้นมาให้ก่อน ผู้จัดงานพึงพอใจมาก เงินเท่านี้ไม่นับว่าเยอะอะไร เมื่อแก้ปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆเรียบร้อย ฉินสือโอวเสนอว่าเขาอยากไปดูการแข่งขันที่แถวหน้า ผู้จัดงานก็กระตือรือร้นรีบจัดการเรื่องที่นั่งให้เขาทันที
เหมาเหว่ยหลงเห็นเช็คที่ยื่นส่งไป เหงื่อเย็นๆ ก็เริ่มไหล ถามว่า “สองแสนดอลลาร์อเมริกา? ให้ไปเลยเหรอ?”
ฉินสือโอวมองค้อนเขาทีหนึ่ง ตอบว่า “นายคิดสิ พวกเราจะโดนเชิญมาเป็นแขกวีไอพี ให้นายมาดูบาสฟรีๆ หรือไง”
แต่วันนี้หลังได้รู้ว่าสภาพร่างกายของเออร์บักดีขึ้นกว่าที่คิด ในใจฉินสือโอวก็ยินดีอย่างมากจนไม่ได้สนใจเรื่องเงินเท่าไร อีกไม่นานฟาร์มปลาเขาก็จะเพาะพันธุ์ปลาค็อดได้แล้ว เมื่อถึงตอนนั้นเดี๋ยวเขาก็ได้กำไรเพิ่มเอง
ผู้สนับสนุนการแข่งเพื่อการกุศลนี้คือดาวเด่นของเอ็นบีเออย่าง เลอบรอน เจมส์ เหตุผลการเลือกจัดที่สนามกีฬาทีมเซลติกส์ เพราะผู้จัดงานคือโรงพยาบาลใหญ่หกแห่งในอเมริกาของเครือโรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ด
เจมส์มีพรรคพวกไม่น้อยที่เอ็นบีเอ นักบาสชื่อดังที่เชิญมาล้วนไม่ธรรมดา เควิน ดูแรนท์, แอนโธนี่, ดเวน เวด, คริส บอช, ชาลเมอร์ส, สตีเฟน เคอร์รี, ไทรีค เอแวนส์, เลโอนาร์ด แน่นอนว่ายังมีดาวเด่นทีมเซลติกส์อย่างเพีร์ซกับรอนโด เป็นต้น
ตอนฉินสือโอวกับเหมาเหว่ยหลงเข้าไป จอยักษ์บนสนามกีฬากำลังฉายประโยคหนึ่ง ขอขอบคุณคุณ SHIOU-QIN จากนิวฟันด์แลนด์ที่บริจาค $200,000 สำหรับกิจกรรมของเรา
คนฉายไฟที่ได้รับแจ้งก็สาดดวงไฟใหญ่มาทางเขา ฉินสือโอวที่ไม่ทันตั้งตัว จึงมึนงง โบกมือตอบพลางยิ้มแหยๆไป
เหมาเหว่ยหลงพูดเสียงเบา “เวรแล้วไง พวกเราจะโดนมองเป็นคนทรยศขายชาติไหมเนี่ย ออกเงินทุนวิจัยวิทยาศาสตร์ให้สหรัฐแบบนี้”
ฉินสือโอวยังคงรักษารอยยิ้มสุภาพ พลางเอ่ยอย่างไม่แยแส “นายน่ะสิเป็น ฉันไม่ใช่ ตอนนี้ฉันเป็นผู้เสียภาษีในแคนาดาแล้ว จะใช้เงินตัวเองยังไงก็ได้ อีกอย่าง ฉันสนับสนุนการวิจัยวิทยาศาสตร์ การแพทย์ที่ไร้พรมแดน ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ?”
ด้วยอำนาจของเงิน เมื่อทั้งสองนั่งลงหลังที่นั่งผู้เล่น สตีเฟน เคอร์รีที่นั่งอยู่ด้านหน้าก็หันมาทักทาย “ไฮ สวัสดีครับ คนจีนใช่ไหมครับ? เฮ้ ผมมีเพื่อนคนจีนที่ซานฟรานซิสโกหลายคนเลย มีคนหนึ่งแซ่ฉินเหมือนกัน”
เคอร์รีเป็นดาวเด่นของเอ็นบีเอที่ค่อนข้างหน้าตาดี หน้าเด็ก บุคลิกดี
ฉินสือโอวกับเหมาเหว่ยหลงหันไปแตะมือกับเขา ฉินสือโอวเอ่ยว่า “นั่นเยี่ยมไปเลย เพื่อน ผมรักทีมของคุณมาก น่าเสียดายผมอยู่ที่นิวฟันด์แลนด์ ได้เจอพวกคุณแค่ตอนแข่งฤดูกาลละหนึ่งครั้งเอง แต่ผมอยากไปเชียร์คุณที่ซานฟรานซิสโกในฤดูหน้านะ เพื่อน”
“มาเชียร์ผมที่ไมอามีด้วยสิ” เวดหันมาตอบยิ้มๆ
ฉินสือโอวแตะมือกับเขา ตอบว่า “แน่นอนอยู่แล้ว แฟนผมก็อาศัยอยู่ชั่วคราวที่ไมอามี เธอเป็นแอร์โฮสเตสของเอซีอี (บริษัทถือหุ้นสายการบินแคนาดา) บินไปมาระหว่างโทรอนโตกับไมอามี เป็นสาวที่น่ารักมากเลย”
ฉินสือโอวกำลังจะพูดต่อ ปรากฏเวดกลับชะงัก แล้วถามขึ้นว่า “แฟนสาวคุณ คงไม่ใช่สาวผมดำที่ชื่อวินนี่ เซโรวาหรอกนะ”
………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset