ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1082 มาถึงศูนย์กลางแห่งกำยานและมดยอบ

ปูดันเจเนสส์เป็นปูประเภทที่ค่อนข้างสงบเสงี่ยม โดยเฉพาะปูตัวเมีย ตอนถูกขนย้ายมาพวกมันต่างหวาดกลัวรีบวิ่งหนีลงไปยังสระน้ำ จากนั้นก็หาบริเวณที่เหมาะสม แล้วกอดก้ามเริ่มพักผ่อนอย่างเงียบๆ
พวกลูกปูจะมีชีวิตชีวามากกว่า ปีนขึ้นลงสระน้ำตามเกาะกลางไปมาจนถึงบ่อน้ำสะอาดทั้งสองด้าน กำลังวังชาล้นเหลือ ทำเอาฉินสือโอวสงสัยว่าต่อให้ตัวเองไม่ได้กรอกพลังโพไซดอนให้ พวกมันก็คงอยู่รอดในฟาร์มปลาได้
แน่นอนว่า คิดก็ส่วนคิด เพื่อความปลอดภัยเขาจะยังส่งพลังโพไซดอนให้พวกมันอยู่ดี
อีกด้านหนึ่ง แซนเดอร์สสั่งการให้เปิดเครื่องยนต์ เครื่องผลิตออกซิเจนเริ่มทำงาน เสียง ‘บุ๋งๆ’ ฟองอากาศสายหนึ่งปรากฏขึ้นทั่วทั้งบ่อ เครื่องเริ่มส่งอากาศเข้าสู่น้ำ
ด้วยการเสริมพลังโพไซดอนและออกซิเจนมากมาย พวกปูน้อยเลยพากันวิ่งคึกไปทั่วบ่อปานฉีดเลือดไก่[1]มา
ถึงพื้นที่ในบ่อจะไม่ได้เล็ก แต่เมื่อเจอปูเยอะขนาดนี้ก็ยังไม่พออยู่ดี ฉินสือโอวใช้จิตสำนึกโพไซดอนลองตรวจสอบดู ก็พบว่าปูแทบจะล้นทะลักบ่อ พวกปูน้อยวิ่งวุ่นไปมาเพราะต้องการหาที่ที่กว้างว่านี้กัน
ไม่ยาก ฉินสือโอวทำการเปิดส่วนน้ำสะอาดสองฝั่งให้ปูน้อยผ่านเข้าไป
แซนเดอร์สไม่แนะนำให้เขาทำอย่างนั้น น้ำสองฝั่งนั้นนอกจากจะทำให้น้ำทะเลในส่วนเพาะพันธุ์สะอาดแล้ว ยังเป็นสถานที่ที่จะเคลื่อนย้ายปูไปในภายหลัง ซึ่งมีปริมาณออกซิเจนในน้ำต่ำกว่า เขาเชื่อว่าควรจะค่อยๆ เปลี่ยนสภาพแวดล้อมไปทีละนิดดีกว่า
แต่ฉินสือโอวจะไปมีเวลาทำตามขึ้นตอนขนาดนั้นได้ที่ไหนกัน?!
ตั้งแต่เริ่มส่วนเพาะพันธุ์นี้ แผนการการปรับปรุงฟาร์มปลาของศาสตราจารย์ก็เริ่มขึ้นเช่นกัน เขาทุ่มเทสติปัญญาและกำลังกับส่วนเพาะพันธุ์นี้ ไม่เพียงแค่เพื่อใช้ขยายพันธุ์ปูดันเจเนสส์ แต่ในอนาคตผลผลิตทางทะเลอะไรก็ตามที่ฟาร์มปลาจะนำเข้ามาล้วนต้องมาทำการปรับตัวกับสภาพแวดล้อมที่นี่ก่อนทั้งนั้น เพื่อช่วยเพิ่มอัตราการอยู่รอดของพวกมันให้มากที่สุด
ด้วยการเพาะพันธุ์แบบรวมในสภาพแวดล้อมพิเศษนี้ ไม่เพียงช่วยให้สิ่งมีชีวิตทางทะเลคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงกะทันหัน และยังมีประโยชน์ในการโปรยเหยื่อทีเดียว ซึ่งลดการสิ้นเปลืองต้นทุนได้
ตอนผลผลิตทางทะเลเพิ่งมาถึงฟาร์มปลา ต้องกินแค่เหยื่อที่เตรียมไว้ให้ก่อน หลังปรับตัวกันได้แล้วถึงค่อยให้พวกมันหาอาหารเอง
แซนเดอร์สสมกับที่เป็นนักวิชาการและนายช่าง ทันทีที่นำปูดันเจเนสส์มาไว้ในส่วนเพาะพันธุ์ เขาก็แทบจะย้ายมาอาศัยอยู่ที่ฟาร์มปลาของมิสเตอร์รอท เพื่ออยู่เฝ้าพวกมันทั้งวัน
เพราะอากาศอุ่นขึ้นแล้วศาสตราจารย์จึงมาตั้งเต็นท์ตรงชายฝั่ง กินนอนและวิจัยอยู่ตรงนั้นเลย ท่าทีแสนรับผิดชอบนั้นทำเอาฉินสือโอวอยากกดไลก์ให้
พอส่งต่องานเรื่องปูดันเจเนสส์ให้ศาสตราจารย์แซนเดอร์สเรียบร้อยแล้ว ฉินสือโอวนอกจากคอยมาแผ่พลังโพไซดอนอย่างสม่ำเสมอ เวลาอื่นก็ไม่ได้สนใจอีก ความสนใจของเขาย้ายไปยังน่านน้ำในประเทศโซมาเลียแล้ว และเตรียมตัวไปเก็บทองคำแท่งในเรือสีทอง
น่านน้ำโซมาเลียอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ตรงปากอ่าวของอ่าวเอเดน อุณหภูมิน้ำตลอดปีอยู่ที่ยี่สิบองศาเซลเซียสขึ้นไป สภาพอุณหภูมิร้อนชื้น ตั้งอยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรแค่สองร้อยกิโลเมตร
บิลลี่พบเรืออับปางนี้ห่างจากท่าเรือโมกาดิชูเมืองหลวงของโซมาเลียทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ราวสองร้อยหกสิบไมล์ทะเล ที่ความลึกหนึ่งพันแปดร้อยเมตร
ตามปกติหนึ่งพันแปดร้อยเมตรไม่ถือว่าลึกอะไร ด้วยเทคโนโลยีดำน้ำของมนุษยชาติในปัจจุบัน เรือดำน้ำที่ใช้กันทั่วไปก็สามารถไปถึงความลึกระดับนั้นได้แล้ว แบบนี้บิลลี่ไม่จำเป็นต้องให้ฉินสือโอวออกโรงด้วยซ้ำ
แต่ปัญหามันอยู่ที่ภายในประเทศโซมาเลียนั้นวุ่นวายมาก โจรสลัดเยอะทำให้การป้องกันลำบาก เรือมากมายที่ตอนกลางวันมาขนส่งหรือเดินทางทำธุรกิจ พอตกกลางคืนก็พากันปิดหน้าปิดชื่อเรือกลายเป็นเรือโจรสลัดไป
ดังนั้นหากจะจอดอยู่ในน่านน้ำโซมาเลียเป็นเวลานาน ก็ต้องแจ้งให้ทางรัฐบาลท้องถิ่นทราบก่อน ไม่งั้นจะถือว่าเป็นเรือโจรสลัด โดยเฉพาะเรือต่างชาติ
รัฐบาลโซมาเลียเป็นรัฐบาลอันธพาลหัวรุนแรงที่มีชื่อเสียง ทางสหประชาชาติและประเทศต่างๆ ในยุโรป อเมริกา และเอเชียต่างเรียกร้องให้พวกเขาจัดการกับพวกโจรสลัด ทว่าเรือโจรสลัดมากมายต่างก็มาจากที่ตัวเองสนับสนุนทั้งนั้น นี่เรียกว่าจัดการคนของตัวเองไหมนะ?
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเล่นทำสงครามกันชุดหนึ่ง ตอนที่สหประชาชาติมอบกำลังโจมตีขนาดใหญ่ให้ พวกเขาก็ใช้วิธีเสียสละส่วนน้อยเพื่อส่วนมาก หาเรือสักลำโดยเฉพาะเรือต่างชาติมาเป็นเรือโจรสลัดแล้วโจมตี เป็นการแก้ขัดให้จบเรื่องไป
เพื่อปกป้องตัวเอง เรือพลเรือนที่มายังน่านน้ำโซมาเลียจะต้องทำการแจ้งก่อน แล้วรัฐบาลจะส่งคนขึ้นเรือตามมาด้วย ผู้ช่วยปกป้องจากการโดนโจรสลัดปล้นนั้นเป็นแค่ในนาม แท้จริงก็คือมาฉวยโอกาสเอาสินบนนั่นเอง
คนของรัฐบาลโซมาเลียนอกจากจะมาเพื่อหารายได้พิเศษ พวกเขายังคอยควบคุมดูแลไม่ให้เรือสินค้าพวกนี้ทิ้งขยะทุกชนิดลงในทะเลของพวกเขาด้วย
ในทศวรรษแรกของศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด เนื่องจากความวุ่นวาย โซมาเลียจึงกลายเป็นประเทศตัวเลือกแรกที่รัฐบาลแต่ละประเทศมาทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์และขยะเคมี แม้แต่ประเทศไร้ยางอายอย่างอเมริกากับรัสเซียที่ในภายหลังก็ยังมาเทขยะนิวเคลียร์ที่ประเทศของพวกเขา!
เลี้ยงหญ้าฆ่ากระต่ายได้[2]ชัดๆ เจ้าหน้าที่ตรวจตรายังต้องตรวจสอบว่าเรือเหล่านี้มาทำธุรกิจผิดกฎหมายหรือไม่ การจับปลาทุกอย่างในน่านน้ำโซมาเลียถือเป็นธุรกิจผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเรืออับปางหรือทรัพยากรปลากุ้งก็ไม่สามารถเข้ามาจับได้
แต่วิธีเผด็จการแบบนี้ก็ใช้จัดการรัฐบาลอันธพาลได้ผลดีทีเดียว เช่นเรือล่าวาฬญี่ปุ่นแทบไม่กล้าเข้ามาในน่านน้ำโซมาเลียเลย ถ้าถูกพบทางรัฐบาลจะตรงเข้าจับกุมทันทีและเรียกเงินชดใช้เป็นจำนวนมาก
บนเรือบิลลี่ไม่ได้นำพวกอุปกรณ์เก็บกู้น้ำลึกมาด้วย ไม่งั้นมันจะเป็นการบอกรัฐบาลโซมาเลียโต้งๆ ว่าพวกเขาเจอเรืออับปางไม่ใช่เหรอ? แบบนั้นเป็นการหาเรื่องโดนบีบคั้นเปล่าๆ รัฐบาลคงยินดีรอพวกเขาเก็บกู้เสร็จ แล้วส่งกองทัพเรือไปฉกฉวยเรืออับปางนี้แน่
เรือของบิลลี่เป็นเรือวิจัยทางวิทยาศาสตร์แค่ในนาม บอกว่ามาวิจัยการรักษาสภาพความเป็นอยู่ปัจจุบันของแนวปะการังในน่านน้ำโซมาเลีย ซึ่งภายในเรือติดตั้งอุปกรณ์วิเคราะห์สารเคมีไว้จำนวนหนึ่ง แต่ที่จริงแล้วเอามาใช้วิเคราะห์แร่ทองในเรืออับปาง
แน่นอนว่าด้วยระดับความรู้ของเจ้าหน้าที่รัฐโซมาเลียที่ไม่เคยเรียนหนังสือ พวกเขาย่อมมองไม่ออกว่าอุปกรณ์พวกนี้แท้จริงใช้ทำอะไร
แต่เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐรู้ตัว บิลลี่จึงระมัดระวังตัวมาก เขาไม่ได้ติดต่อให้ฉินสือโอวมาเก็บกู้แร่ทองคำทันทีที่มาถึง แต่ค่อยๆ ทำเป็นสำรวจแนวปะการังน้ำตื้นแล้วไปยังน่านน้ำลึกอย่างช้าๆ
พอใกล้ถึงเวลาเก็บกู้ ฉินสือโอวก็จัดการแบ่งงานกับคนงานในฟาร์มปลา และไปโซมาเลียด้วยตัวเอง เพื่อประสานงานเรื่องการวิจัยแร่ทองในเรืออับปางกับบิลลี่
หลังเปลี่ยนเครื่องอยู่หลายครั้ง สุดท้ายก็บินมาถึงน่านฟ้าโมกาดิชู
ก่อนจะมาฉินสือโอวได้ค้นคว้าเกี่ยวกับโซมาเลียและโมกาดิชูมาบ้าง ประเทศและเมืองหลวงนี้เคยมีความยอดเยี่ยมเหมือนกัน
ที่ทวีปแอฟริกา ตั้งแต่โบราณประเทศโซมาเลียได้ถูกยกย่องว่าเป็น ‘ประเทศแห่งกำยานและมดยอบ’ เป็นสถานที่ที่มีการผลิตกำยานกับมดยอบมากที่สุดและมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน 1000 กว่าปีก่อนคริสต์ศักราช ชนชั้นสูงชาวอียิปต์คนหนึ่งที่มีชื่อว่า คันนู เขาถูกฟาโรห์ส่งมาซื้อเครื่องหอมที่โมกาดิชู หลังจากนั้นพ่อค้าชาวกรีซ เปอร์เซีย และจีนก็พากันทยอยเดินเรือเข้ามา
ช่วงศตวรรษที่ 12-13 เครื่องหอมของโมกาดิชูรุ่งเรืองจนกลายเป็นศูนย์กลางการค้ากำยานและมดยอบแห่งแรกของโลกเช่นเดียวกับงาช้างและหนัง
ทว่าในปัจจุบันเพราะความขัดแย้งภายใน ผู้กบฏร่วมกันก่อสงครามจนนำไปสู่ความเสื่อมโทรม ทำผู้คนอดทอดถอนใจไม่ได้
ก่อนหน้านี้พอรู้ว่าฉินสือโอวต้องไปโซมาเลีย วินนี่ก็กังวลแทบทนไม่ไหว เพราะเธอเคยบินไปมาแล้วทั่วโลก ย่อมรู้ว่าโซมาเลียในปัจจุบันเป็นอย่างไร แต่ฉินสือโอวลงนามทำธุรกิจไปแล้ว เธอเลยทำได้แค่ย้ำเตือนเขาให้ระวังตัวแต่ไม่สามารถห้ามเขาได้
…………………………………………..

[1] การฉีดเลือดไก่เป็นวิธีการรักษาที่นิยมในช่วงทศวรรษที่ 1960 เชื่อกันว่าเป็นยาวิเศษที่รักษาได้สารพัดโรค
[2] คำพังเพยกล่าวถึงชาวนาที่กำลังใช้มีดตัดหญ้า แล้วมีกระต่ายป่ากระโดดออกมาในจังหวะที่แกว่งมีดพอดี ชาวนาจึงได้เนื้อกระต่ายไปกิน หมายถึงได้โชคลาภที่คาดไม่ถึง

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset