ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1090 กองทัพเรืออเมริกา

ภายในเรือคอนเนตทิคัต จัสติน บัตลีย์ยืนขมวดคิ้วอยู่ที่ตำแหน่งสั่งการ สองตาจับจ้องหน้าจอโซนาร์นิ่งเงียบ ไม่ต่างจากรูปปั้น
ในห้องบังคับการ ทหารกองทัพเรือสิบกว่านายกำลังวุ่นวายกับการปฏิบัติการ มีคนคอยรายงานพารามิเตอร์ที่ต้องการคำสั่งและเจ้าหน้าที่ที่คอยให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่อง เจ้าสัตว์ประหลาดยักษ์ใหญ่แห่งทะเลลึกก็ถูกควบคุมโดยเช่นนี้เอง เคลื่อนไหวตามคำสั่งของพวกทหารอย่างว่าง่าย
ชายผิวดำวัยกลางคนร่างกำยำคนหนึ่งเดินมาที่ด้านหลังจัสติน ทำความเคารพอย่างนอบน้อมพร้อมเอ่ยว่า “ผู้พันครับ ด้วยเหตุใดไม่ทราบ พวกสัตว์ประหลาดทะเลถึงเริ่มดำน้ำลึกกัน ทำการยิงระเบิดดาวกระจายน้ำลึกเข้าไปแล้วรังหนึ่ง จะให้โจมตีต่อไหมครับ?”
ในฐานะกัปตันเรือดำน้ำนิวเคลียร์ซีวูฟคลาสคนที่สอง ตลอดมาจัสตินเป็นทหารที่ยอดเยี่ยม ซื่อสัตย์ กล้าหาญ แก้ปัญหาเก่ง แข็งแกร่ง มองโลกในแง่ดีและมีประสบการณ์ในการสั่งการ ไม่ว่าเรือดำน้ำจะเจอเรื่องอะไรก็ดูจะไม่เป็นปัญหากับเขาแม้แต่น้อย
ทว่าตอนนี้ เขาค่อนข้างลำบากใจ ความลำบากใจนี้มาจากสิ่งที่เขาเชื่อแต่ไม่ได้แปลว่าจะจัดการเรื่องตรงหน้าไม่ได้
ตามข้อบังคับของกระทรวงกลาโหมและกองทัพเรือ ตามปกติเรือดำน้ำนิวเคลียร์ซีวูฟคลาสสามารถประจำอยู่ที่ฐานทัพเรือรัฐวอชิงตันคิตสัพได้ แต่ไม่นานก่อนหน้านี้มีการซ้อมรบระหว่างยุโรปกับอเมริกา เรือคอนเนตทิคัตจึงต้องไปยังมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือในฐานะตัวแทนกองทัพเรืออเมริกา
ปรากฏว่าเมื่อสองวันก่อน เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้เกิดวิกฤตความขัดแย้งและมีการปะทะกัน ทางกองทัพเรืออเมริกาจึงรีบส่งเรือคอนเนตทิคัตไปยุติความขัดแย้ง โดยเดินทางจากสเปนผ่านมหาสมุทรอินเดียและเข้ามหาสมุทรแปซิฟิก ก่อนจะไปข่มขวัญเกาหลีเหนือเล็กน้อย
นี่เป็นคำร้องขอที่ทางเกาหลีใต้เสนอมา เพราะในช่วงความขัดแย้งด้านพรมแดนของทั้งสองฝ่าย เกาหลีใต้ได้ข้อมูลมาว่า เกาหลีเหนือเริ่มเคลื่อนไหวกองทัพเรือดำน้ำทั้งหมดแล้ว เพื่อไปปิดท่าเรือขนาดใหญ่ของเกาหลีใต้ ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่กองทัพเรือระดับสูงค่อนข้างกระวนกระวาย
พูดถึงเรื่องนี้ ผู้นำหน่วยงานของสหรัฐก็คาดหวังไว้สูง เกาหลีใต้ถือครองกองทัพเรืออันดับหนึ่งในเอเชีย ในแง่ของเทคโนโลยีกองทัพเรือ แม้แต่จีนก็ไม่อาจเอาชนะได้
อย่างไรก็ตามหากเทียบในด้านประสิทธิภาพการรบ ตรงส่วนนี้ยังมีปัญหาอยู่ ถึงเกาหลีใต้จะโดดเด่นด้านเทคโนโลยีแต่ก็ยังมีความกลัวเกาหลีเหนือ ซึ่งในสายตาพวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐนั้นช่างน่าเหลือเชื่อ
เรือคอนเนตทิคัตเป็นเรือดำน้ำนิวเคลียร์จู่โจม หลักๆ จะใช้โจมตีเรือบรรทุกเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่ เป็นจอมทำลายล้างเรือใหญ่ และปัจจุบันก็โดนส่งไปทำภารกิจต่อต้านเรือดำน้ำข้าศึก ไปจัดการกับกองทัพเรือดำน้ำของเกาหลีเหนือตามคำร้องขอของเกาหลีใต้
กองทัพเรือดำน้ำของเกาหลีเหนืออยู่ในอันดับที่สี่ของโลก มีในครอบครอง 80 ลำรวมถึงเรือดำน้ำจู่โจมโรมิโอคลาส เรือดำน้ำซังโอและเรือดำน้ำยูโกคลาส
แม้จะมีจำนวนมาก แต่ที่จริงกองทัพเรือของเกาหลีเหนือกลับไม่มีประสิทธิภาพในการรบนัก จัสตินมั่นใจ ถ้าต้องทำสงครามจริงๆ แค่เรือคอนเนตทิคัตของเขาลำเดียวก็รับมือกองทัพเรือเกาหลีเหนือได้แน่
ความจริง ทั้งสองฝ่ายไม่มีทางทำสงครามกันได้ เรือคอนเนตทิคัตยังไม่ทันผ่านแอฟริกาใต้เข้ามหาสมุทรอินเดีย ก็ได้รับข่าวมาว่าเกาหลีใต้กับเกาหลีเหนือแก้ปัญหากันเรียบร้อยแล้ว พวกเขาสามารถกลับไปเข้าร่วมการฝึกซ้อมต่อได้เลย
พอได้ทราบข่าวดังนั้น พวกเจ้าหน้าที่บนเรือคอนเนตทิคัตก็แทบสบถด่ากัน สงครามใหญ่มันเป็นเรื่องคอขาดบาดตายนะ ทำไมพวกเกาเหลาเหนือใต้ถึงมองว่ามันเป็นเหมือนเรื่องเด็กเล่นกัน?
ตอนนี้ที่พวกเขาจะเตรียมตัวเดินทางกลับนั่นเอง เรดาร์บนเรือดำน้ำก็พบกับฝูงสัตว์ประหลาดเข้า
ฉินสือโอวเดาได้แม่น โซนาร์ของเรือคอนเนตทิคัตสุดยอดจริงๆ พวกเขาพบคราเคนยาวสิบกว่าเมตรกับพวกงูเหลือมทะเลผ่านพาสทีฟโซนาร์ ตอนนั้นคิดว่าเป็นเรือดำน้ำพลเรือน แต่พอเปิดแอ็คทีฟโซนาร์ดูถึงเห็นว่าไม่ใช่ พวกเขาเจอสัตว์ประหลาดทะเลเข้าแล้วต่างหาก!
ใช่ สัตว์ประหลาดทะเล ในสายตาของเจ้าหน้าที่และทหารในเรือ สิ่งมีชีวิตยาวสิบกว่าเมตรบนหน้าจอโซนาร์พวกนี้ เป็นสัตว์ประหลาด!
หลังเจอสัตว์ประหลาด จัสตินในฐานะกัปตันก็รีบรายงานข่าวให้ทางฐานทัพคิตสัพ เพราะฝูงสัตว์ประหลาดนี้ดูแปลกเกินไป ที่น่าเหลือเชื่อคือ ต่อให้มีหลักฐานว่าหมึกยักษ์ตัวหนึ่งถืออะไรบางอย่างที่เป็นเหล็ก ก็ยังยากจะทำให้คนเชื่ออยู่ดี
ในสายตาของพวกจัสติน ฝูงสัตว์ประหลาดพวกนี้คงกำลังออกหาอาหารไม่ก็ฝูงตัวอะไรสักอย่างกำลังไล่ฆ่าหมึกยักษ์อยู่
ด้วยเครื่องตรวจจับโซนาร์พวกเขาทำได้แค่แยกแยะลักษณะของหมึกยักษ์ เช่นเดียวกับปีศาจงูทะเลยาวสิบเมตรกว่าที่คอยไล่ตามหมึกยักษ์อยู่ด้านหลัง ลำตัวหนาเท่าถังน้ำ นอกนั้นก็ไม่รู้อะไรอีกแล้ว
ตอนนี้วงการวิทยาศาสตร์ยอมรับว่าความยาวสูงสุดของงูทะเลนั้นคือสี่เมตร ไม่อาจยาวไปกว่านี้ได้ แต่ทว่าในยามนี้สัตว์ประหลาดที่พวกเขาค้นพบนั้น ตัวที่สั้นที่สุดกลับมีขนาดสี่เมตรพร้อมรูปร่างที่น่าตกตะลึง!
นอกจากนี้ ยังมีอีกเรื่องที่วงการวิทยาศาสตร์ยอมรับเหมือนกันคือ หมึกยักษ์เป็นนักล่าชั้นสูงในท้องทะเล สิ่งเดียวที่ต่อกรกับมันได้มีเพียงวาฬสเปิร์มกับวาฬเพชฌฆาต ส่วนสัตว์ตัวอื่นๆ มีแต่จะกลายเป็นอาหารของมันแทน
แต่ตอนนี้สิ่งที่พวกเจ้าหน้าที่ทั้งหมดเห็นคือ ฝูงสัตว์ประหลาดที่เหมือนงูทะเลกำลังตามไล่ฆ่าหมึกยักษ์…
ถ้าฉินสือโอวรู้สิ่งที่พวกเจ้าหน้าที่เดากัน คงนึกถึงมุกหนึ่งของจีนแน่ รถแทรกเตอร์คันหนึ่งเสียบนถนน รถเมอร์เซเดส เบนซ์เลยมาช่วยลากมันไป บอกกับคนขับว่าถ้าเขาขับเร็วเกินไปให้บีบแตรบอก จากนั้นรถบีเอ็มดับเบิลยูคันหนึ่งก็มาขับแซงไป เบนซ์โมโหมาก เร่งความเร็วไล่ตามไปอย่างบ้าคลั่ง ทว่าในสายตาของตำรวจจราจรกลับเห็นเป็น รถเบนซ์กับบีเอ็มดับเบิลยูแข่งรถกันโดยมีรถแทรกเตอร์ด้านหลังคอยบีบแตรขอแซงไม่หยุด
เช่นเดียวกัน ชัดเจนว่าหมึกยักษ์นั้นนำหน้าพวกงูทะเล ทำไมถึงกลายเป็นงูทะเลจะไล่ฆ่าหมึกยักษ์เสียอย่างนั้นได้ล่ะ?
ทว่าในกรณีนี้ถ้าไม่ใช่คนที่เกี่ยวข้องก็คงไม่มีทางรู้ได้ หลังได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ ฐานทัพคิตสัพก็เริ่มสนใจขึ้นมา จึงขอให้พวกเขาหาทางจับตัวสัตว์ประหลาดพวกนั้นกลับมาวิจัย ไม่แน่มันอาจจะเป็นการค้นพบใหม่ก็ได้
พวกทหารเรือไม่ได้สนใจเรื่องสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ สนแค่ว่าสัตว์ประหลาดสายพันธุ์ใหม่นี้จะไล่ฆ่าหมึกยักษ์ได้หรือไม่
สุดท้ายเรือคอนเนตทิคัตก็ไล่ตามไปตลอดทาง ตอนที่อีกนิดเดียวก็จะตามทันแล้ว จู่ๆ พวกมันกลับเลือกดำน้ำหนีไป และจากที่เห็นในหน้าจอ สัตว์ประหลาดพวกนี้ยังกระจายตัว เหมือนกับว่าพวกมันรับรู้ได้ถึงเรือคอนเนตทิคัต
จัสตินไม่เข้าใจ เรือดำน้ำยังอยู่ห่างจากพวกมันพอสมควร แล้วพวกมันจะรับรู้ถึงเรือด้านหลังได้อย่างไร?
จ่าสิบเอกจิน เวิร์ดสเวิร์ธ หลังรวบรวมรายงานสถานการณ์ปัจจุบันเสร็จก็รออย่างอดทน เขาเข้าใจจัสตินว่าเป็นการตัดสินใจที่ยาก เพราะสิ่งที่ฐานทัพต้องการคือให้พวกเขานำตัวอย่างของสัตว์ประหลาดกลับมา ถ้าใช้ระเบิดสักรอบ พวกเขาก็น่าจะนำชิ้นส่วนตัวอย่างของมันกลับมาได้
ทว่าตอนนี้ปัญหาคือ พวกสัตว์ประหลาดมันเจ้าเล่ห์มาก เอาแต่ดำน้ำลึกหนี ถ้าไม่โจมตีก็คงเอาตัวอย่างมาไม่ได้แน่
เมื่อคิดถึงตรงนี้ จัสตินก็รีบตัดสินใจ สะบัดมืออย่างแน่วแน่ แล้วตะโกนว่า “ยิง!”
สิ้นคำสั่งเขา ทหารกลุ่มอาวุธยังไม่ทันลงมือ เรือดำน้ำก็เกิดโคลงเคลงขึ้นมา
จัสตินยังดีที่คว้าแขนเก้าอี้สั่งการเอาไว้ทัน ส่วนเจ้าหน้าที่ที่โชคร้ายตั้งตัวไม่ทันต่างก็ยืนซวนเซก่อนจะล้มลงไปกับพื้น
ทันใดนั้น ไฟสีแดงบนเพดานห้องบังคับการเรือก็กะพริบขึ้น เดี๋ยวส่องแสงวูบวาบเดี๋ยวส่งเสียงหวอแสบแก้วหู แบบนี้แสดงว่าเรือดำน้ำกำลังเจอกับวิกฤตเข้าแล้ว!
……………………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset