ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1095 สงครามชิงอำนาจกลางทะเล

เพียงไม่กี่ประโยค เบิร์ดก็ได้รับข่าวสารที่เขาต้องการ
เรื่องราวค่อนข้างที่จะอธิบายยาก ครั้งนี้เป็นการจู่โจมของโจรสลัดจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นพวกโจรสลัดอาสาพิทักษ์ชายฝั่งของประเทศอีกด้วย ไม่แน่อาจถูกพวกเขาจับเป็นเชลย พวกนี้เป็นเพียงกองกำลังแนวหน้าเท่านั้น ส่วนกำลังหลักอยู่ด้านหลัง
ตามที่พวกโจรสลัดดำได้แจ้งไว้ บนเรือประมงด้านหลังนี้ยังมีพวกโจรสลัดอีกมาก ส่วนจะมีเยอะเท่าไรนั้น พวกเขาเองก็ยังไม่แน่ใจ เพราะพวกเขาก็ไม่ได้นับอย่างจริงจัง แต่สักหนึ่งร้อยคนเห็นจะได้
เมื่อได้ทราบถึงจำนวน ฉินสือโอวถึงกับปวดใจเป็นอย่างมาก คนพวกนี้เป็นคนโซมาเลียหรือว่าอินเดียกันล่ะ? ก็แค่เรือประมงร้อยตันลำหนึ่ง พวกแกคงคิดไม่ถึงซินะว่าบนนั้นจะบรรทุกคนไว้กว่าร้อยคน? ยังมีอะไรที่จะมหัศจรรย์ไปกว่านี้อีกไหม?
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีอีกหนึ่งข่าวร้าย นั่นก็คือเรือกองกำลังหลักของโจรสลัดด้านหลังนั้น มีปืนใหญ่หัวจรวดอาร์พีจี ที่เป็นปืนหัวจรวดของจริง ซึ่งไม่เหมือนกับปืนใหญ่หัวจรวดดับเพลิงแบบที่อยู่ในฟาร์มปลาของฉินสือโอว!
เมื่อได้รับข้อมูลพวกนี้แล้ว เบิร์ดก็ให้นีลเซ็นลงไปติดสปีดโบ๊ท โดยให้พาฉินสือโอวไปและกลุ่มบิลลี่ไปก่อน ดีที่บนเรือไม่มีผู้หญิงและเด็กเล็ก จึงไม่จำเป็นต้องแสดงความเป็นสุภาพบุรุษอะไรเท่าไร
ถ้าเป็นไปได้ ฉินสือโอวแทบจะอยากหนีไปก่อน คนร้อยคน ปืนร้อยกระบอก นี่ยังไม่รู้เลยว่ามีอาร์พีจีอยู่เท่าไหร่ ถึงแม้จะส่งเรือบรรทุกเครื่องบินออกไปก็คงรับมือไม่ไหว คนน้อยเกินไป ที่สามารถสู้ได้ก็มีไม่เกินสิบห้าคนเท่านั้น
แต่ทว่าแนวหน้านั้นได้ประชิดเขาเข้ามาเรื่อยๆ แล้วถ้าจะหนีอีกก็น่าอับอายเกินไป!
ฉินสือโอวไม่ใช่คนที่จะยอมตายเพื่อศักดิ์ศรีและก้มหน้ารับกรรมอย่างคนโง่ แต่เขาอยากที่จะพาชาวประมงและเหล่าทหารนักรบกลุ่มนี้ไปด้วย เพราะถ้าแค่ได้ยินเสียงรบแล้วหนีไปละก็ ต่อไปเขาคงยากที่จะควบคุมกำลังพล
เดิมทีบิลลี่และคนอื่นๆ สามารถไปได้ แต่เขาคิดไว้ว่าจะไม่หนี อย่างมากที่สุดก็แค่ใช้พลังของหัวใจโพไซดอนเป็นเกราะกำบัง เพื่อไม่ให้ศัตรูเห็นได้ และหากปล่อยให้เบิร์ดและคนอื่นๆ อยู่ที่นี่ พวกเขาจะต้องถูกจับเป็นเชลยอย่างแน่นอน
หัวใจโพไซดอนจึงกลายเป็นความหวังเดียวของชัยชนะพวกเขา เขาไม่อยากเป็นคนที่อ่อนแอและขี้ขลาด
นีลเซ็นขึ้นเรือไปและติดเครื่อง บิลลี่และคนอื่นๆ ถึงค่อยพากันลงไป ส่วนฉินสือโอวที่ยังคงรออยู่บนเรือและกอด AK-74 ไว้ เหล่าพลทหารจึงบอกให้รีบออกเรือ เขาส่ายหัว และพูดอย่างเด็ดขาดว่า “มาด้วยกัน ก็ต้องไปด้วยกัน! ฉันตัดสินใจแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก!”
พอได้ยินอย่างนั้น นีลเซ็นจึงรีบลงจากเรือเล็กและปีนกลับขึ้นไปด้านบนเรือ พร้อมกับพูดขึ้นว่า “บอส ผมเป็นชาวประมงของคุณ แน่นอนว่าพวกเราต้องไปด้วยกันอยู่แล้ว”
บิลลี่ เบลค แบรนดอนและคนอื่นๆ “…”
จากนั้นฉินสือโอวจึงเพิ่มความแข็งแกร่งแก่จิตวิญญาณโพไซดอนเพื่อเพิ่มแรงให้แก่คลื่นทะเล แต่เขาจะใช้พลังนี้อย่างไม่มีเหตุที่ต้องทำให้คลื่นใต้ทะเลปั่นป่วนไม่ได้ อีกทั้งยังมีเรือโคลงเคลงของชาวประมงเข้าใกล้มาอย่างช้าๆ อีกด้วย
ในตอนนี้ฉินสือโอวเป็นคนที่ลำบากที่สุด เพราะตอนนี้พวกเขาอยู่บนเรือกู้ชีพลำหนึ่ง ความเร็วของเจ้าเรือกระป๋องนี่ถือว่าช้ามาก เพราะข้างบนมีเครื่องจักรมากมาย  หากแต่เป็นเรือปริ้นเซสเมล่อนหรือเรือประมงฮาวิซท ป่านนี้คงขับหนีไปไหนต่อไหนแล้ว เพราะเรือผุๆ พังๆ ของพวกโจรสลัดตามมันไม่ทันอย่างแน่นอน
บิลลี่และคนอื่นๆ ไม่ได้มีความกล้าและความมั่นใจอย่างฉินสือโอว พวกเขาเลยเลือกที่จะนำหน้าไปก่อน
มองสปีดโบ๊ทที่วิ่งอยู่ไกลๆ นั้น แบล็คไนฟ์ผู้เคร่งขรึมก็ได้แสดงความเคารพต่อฉินสือโอวอย่างทหารอเมริกัน “เซอร์ ท่านคือวีรบุรุษตัวจริง! ท่านคือนักรบผู้กล้า! จ่าสิบเอกฮันส์เบิร์คแห่งฝูงบินรบเดลตาฟอร์ซกองร้อยที่สองหน่วยดี เป็นเกียรติที่ได้ต่อสู้เคียงข้างท่าน!”
ฉินสือโอวโบกมือปัด แล้วพูดขึ้น “เอาล่ะ ทหารกล้าทุกท่าน ตอนนี้พวกเราไม่ถึงกับว่าตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังอย่างนั้น ดังนั้นไม่ว่าจะอย่างไรก็ให้มองโลกในแง่ดีไว้เถอะ ดูจากสีหน้าท่าทางกับคำพูดที่ดูเป็นกังวลของพวกนายแล้ว ทำไมมันเหมือนกับเป็นการบอกลากันอย่างนั้นล่ะ?”
จากนั้นแอร์แบ็คและคนอื่นๆ ก็พากันหัวเราะขึ้น และในขณะที่เบิร์ดหันหน้ากลับไปนั้น ก็ตะโกนร้องอย่างตกใจออกมา “เวรล่ะ ทำไมไอ้พวกสารเลวนั่นย้อนกลับมาอีกแล้วล่ะ?”
ที่แท้ สปีดโบ๊ทที่วิ่งอยู่ไกลลิบๆ นั้นได้กลับลำมา โดยเร่งสปีดเพื่อที่จะตามให้ทัน
แบล็คไนฟ์ทำวันทยหัตถ์อย่างเคารพ พร้อมกับพูดขึ้นอย่างเลื่อมใส “ทั้งหมดนั้นคือกลุ่มวีรบุรุษผู้กล้าหาญ ที่แท้เพื่อนของบอสแต่ละคนก็เก่งกาจเหมือนกับบอสเลย”
แล้วฉินสือโอวก็หัวเราะออกมา ทำให้บิลลี่และคนอื่นๆ ต่างมองขึ้นมา คนพวกนี้ไม่เลวนะ กู้เรือได้ทองคำขึ้นมาในครั้งนี้ อย่างไรเขาก็จะต้องได้ส่วนแบ่ง จะเอาไปเลยเกินครึ่งก็จะไม่ดี
แล้วพอสปีดโบ๊ทนำตามขึ้นมาติดๆ บิลลี่ก็พูดด้วยหน้าที่เศร้าสลดว่า “เวรเอ๊ย! ไอ้สารเลวพวกนี้เติมน้ำมันมาเยอะขนาดนั้นเชียว? เดิมทีมันไม่ควรจะขับมาได้ไกลขนาดนี้ เพราะแป๊บเดียวน้ำมันก็หมดแล้ว!”
ฉินสือโอว “…”
อย่าแม้แต่จะคิด หากครั้งหน้ากู้ขึ้นมาได้ทองได้หินแร่ เขาจะต้องเอาไปเกินครึ่งที่หาได้แน่ ไอ้พวกสารเลว เกินไปแล้ว!
เช่นนี้บิลลี่และคนอื่นๆ ก็คงไปไหนกันไม่ได้แล้ว เพราะเรือกู้ชีพเป็นเรือขนาดใหญ่ ใช้น้ำมันดีเซลในการเผาผลาญ ส่วนสปีดโบ๊ทใช้น้ำมันเบนซิน ซึ่งไม่สามารถใช้ร่วมกันได้
บิลลี่ปีนขึ้นมาพร้อมกับแบกกล่องมาด้วยหนึ่ง เขาส่งมันให้นีลเซ็นพร้อมกับฝืนยิ้มเจื่อนๆ และพูดว่า “แต่ก็ใช่ว่าพวกเราจะกลับมามือเปล่านะ เมื่อกี้ตอนที่กำลังเก็บน้ำมันเบนซินอยู่บนเรือสปีดโบ๊ท พวกเราเก็บของสิ่งนี้ได้ คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับนายนะ”
นีลเซ็นเปิดกล่องดู พวงชิ้นส่วนอะไหล่ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน นี่คือชิ้นส่วนอะไหล่สำคัญของปืนอย่างไม่ต้องสงสัย ฉินสือโอวไม่รู้จักปืนชนิดนี้ แต่เมื่อเห็นลูกกระสุนปืนที่อยู่ในกล่องนั้นแล้ว ก็ถึงกับดีใจเป็นอย่างมาก!
ในกล่องนี้มีกระสุนทั้งหมดเพียงห้านัดเท่านั้น แต่ละนัดนั้นมีความหนาเท่านิ้วโป้ง นี่คือปืนไรเฟิลซุ่มยิงต่อต้านสิ่งอุปกรณ์อย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งสามารถโจมตีรถถัง รถหุ้มเกราะ และเรือได้ มีปืนลำนี้แล้ว พวกเขาก็จะสามารถต่อกรกับเรือโจรสลัดที่น่ากลัวได้
ส่วนนีลเซ็นยิ่งดีใจเข้าไปใหญ่ เขารีบลงมือนำพวกชิ้นส่วนนั้นประกอบเข้าด้วยกัน ด้ามนึงมาพร้อมกับเหล็กกล้าสลักเวลา สัตว์ร้ายได้ถือกำเนิดแล้ว
“บาร์เร็ตต์เอ็ม 90 โอเค ปืนได้ที่แล้ว” นีลเซ็น ‘ก๊อกแก๊ก’ ขึ้นปืนไม่กี่ครั้ง ก็ยิ้มออกมา “มีเจ้านี่แล้ว ก็สามารถเจรจาต่อรองได้แล้วล่ะ”
ฉินสือโอวถามขึ้น “ปืนนี่ก็อยู่ในตระกูลบาร์เร็ตต์ใช่ไหม”
เบิร์ดตอบกลับ “ใช่แล้ว เอ็มแปดสองเอวันที่เป็นที่โด่งดังไปทั่วโลกตอนนี้ ซึ่งมาเป็นตัวตายตัวแทนของเอ็มแปดสอง ปืนนี้เดิมทีกะจะเอามาใช้แทนเอ็มแปดสอง แต่ว่าใช้ได้เพียงห้าปี ในปี 1995 ก็หยุดผลิตแล้ว ไม่รู้ว่าพวกโจรสลัดเอาปืนดีๆ แบบนี้มาจากไหน ปืนนี้ที่อเมริกาก็หาซื้อไม่ได้แล้ว”
แต่ก็ไม่มีเวลาที่จะมาสนใจว่าพวกโจรสลัดเอาปืนพวกนี้มาจากไหน เพราะเรือประมงของโจรสลัดเข้ามาใกล้แล้ว สงครามครั้งนี้คงไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
เบิร์ดยังคิดที่จะใช้กลโกงหลอกล่อให้โจรสลัดขึ้นเรืออีกครั้ง เมื่อปล่อยให้โจรสลัดถือปืนขึ้นชั้นดาดฟ้าของเรือแล้ว เขาก็จะใช้กลโกงเดียวกับที่บอกโจรสลัดกลุ่มก่อนหน้านี้ โดยบอกว่าขอเพียงแค่พวกเขาขึ้นเรือแล้วไม่ทำร้ายผู้คน พวกเขาพร้อมจะยอมแพ้
แต่ในครั้งนี้มันเหมือนจะไม่ได้ผล โจรสลัดที่อยู่บ้านดาดฟ้าเรือตะโกนขึ้นมาว่า “ในเมื่ออย่างไรก็จะยอมแพ้อยู่แล้ว งั้นพวกแกก็ลงไปคุกเข่าที่แคมเรือ แล้วมัดตัวเองไว้กับแคมเรือเอาไว้ให้ดี”
ฉินสือโอวถอนหายใจ นีลเซ็นจึงปลอบใจเขาว่า “ไม่ต้องเสียดายไปหรอกครับ เป็นไปไม่ได้ที่พวกโจรสลัดทุกกลุ่มจะตกหลุมพรางเรา พวกเราได้เจอกลุ่มนั้นก็ถือว่าเราโชคดีแล้ว”
ไม่อาจเลี่ยงการปะทะต่อสู้ได้ แน่นอนว่าพวกเขาก็ไม่สามารถยอมแพ้ได้ แต่ฉินสือโอวหวังว่าจะสามารถเจรจาต่อรองกันได้ เขาจึงให้เบิร์ดถามว่าพวกโจรสลัดต้องการเงินค่าไถ่เท่าไร
แล้วพวกโจรสลัดก็หัวเราะร่าออกมา ฉินสือโอวเห็นฝ่ายตรงข้ามถือปืนเล็งขึ้นมา จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนที่ดังกึกก้อง บวกกับแสงประกายไฟที่ปลายกระบอกปืนมากกว่าสิบกระบอก ประหนึ่งว่ากำลังจุดประทัด
ดูเหมือนว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว
………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset