ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1128 ฟาร์มเพาะเลี้ยงมหัศจรรย์

หู่จือเป้าจือกับฉงต้านอนอยู่ใต้เตียง ส่วนลูกแมวป่าก็มุดขึ้นไปบนเตียงตามปกติ วินนี่จับมันยัดเข้าไปข้างๆ เสี่ยวเถียนกวา เสี่ยวเถียนกวากำลังหลับฝันหวาน เมื่อสัมผัสได้ถึงลูกแมวป่าที่มีขนปุกปุยก็พลิกตัวด้วยจิตใต้สำนึก แล้วอ้าแขนกอดมันไว้ในอ้อมอกของเธอ
ซิมบ้าเบิกตาโตๆ จ้องมองเสี่ยวเถียนกวา มันคิดจะหนีจึงขืนตัวด้วยความระมัดระวัง เพราะถูกเสี่ยวเถียนกวารังแกอย่างน่าเวทนา จิตใจของมันจึงมีเงามืดขนาดใหญ่อยู่ข้างในนั้น
แขนของเสี่ยวเถียนกวามีพละกำลังมาก ซิมบ้าไม่กล้าดิ้นแรง เมื่อลองหนีแล้วหนีไม่ได้ มันจึงทำได้แค่ทนรับความจริงอย่างหมดอาลัยตายอยาก รู้สึกกล้ำกลืนฝืนทนยิ่งกว่าหู่จือกับเป้าจือเสียอีก
แต่ว่าเสี่ยวเถียนกวาที่กำลังหลับสนิทดูสวยงามและเงียบสงบ เหมือนกันกับเด็กน้อยคนอื่นๆ ที่ดูน่ารักเป็นอย่างยิ่ง ซิมบ้าคิดว่าอาจจะเป็นเพราะก่อนหน้านี้มันมีอคติกับเจ้านายตัวน้อย หรือบางทีพอเธอมาอยู่บนทะเลเธอเลยอาจจะกลายเป็นเด็กที่อ่อนโยนและว่าง่ายแล้วก็ได้?
ขณะที่กำลังคิดด้วยความไร้เดียงสาเช่นนี้ ซิมบ้าก็หลับตาลงแล้วเข้าสู่ห้วงนิทรา
เรื่องที่ทำให้ฉินสือโอวกับวินนี่รู้สึกประหลาดใจก็คือ ต้าป๋ายเองก็ปีนขึ้นมานอนบนเตียงเหมือนกัน มันมองดูตัวเองกับวินนี่ จากนั้นก็หาที่นอนตรงบริเวณริมขอบแล้วนอนลงไป
ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาต้าป๋ายจะมีนิสัยนิ่งๆ มาโดยตลอด หลังจากมาอยู่ที่ฟาร์มปลามันจะอยู่กับฉงต้าซะเป็นส่วนใหญ่ น้อยนักที่จะเล่นกันกับเหล่าสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ อย่างวุ่นวาย กับฉินสือโอวและวินนี่เองมันก็ไม่ค่อยสนิทด้วยเท่าไรนัก ลักษณะท่าทางดูนิ่งขรึมเย็นชาอย่างกับเทพธิดาอยู่หน่อยๆ
แต่แน่นอนว่า ถ้าหากมีเรื่องที่ต้องมีต้าป๋ายอยู่ด้วย มันก็ยินดีที่จะเข้าร่วมด้วยเช่นกัน ถ้ามองจากตรงนี้ ก็ควรจะพูดว่ามันแค่ชอบอยู่กับตัวเองไม่คิดแก่งแย่งอะไรกับใคร
คราวนี้ต้าป๋ายปีนขึ้นมาอยู่ข้างๆ ฉินสือโอวกับวินนี่ด้วยตัวเอง เป็นเรื่องที่หาได้ยากมาก ฉินสือโอวจึงลูบขนเส้นละเอียดนุ่มมือของมันอย่างมีความสุข ต่อจากนั้นก็ปิดไฟแล้วเข้านอน
ทุกครั้งที่มาค้างคืนบนเกาะล่องแก่ง ฉินสือโอวจะตื่นแต่เช้าเพื่อไปชมแสงอาทิตย์แรกจากพระอาทิตย์ที่เพิ่งจะโผล่พ้นขอบฟ้า ถึงแม้ว่าจะเคยเห็นมาหลายสิบครั้งแล้วก็ตาม แต่ทว่าเขาก็ยังรู้สึกว่ามันน่าสนใจมากๆ อยู่ดี
เวลาตีห้า เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ฉินสือโอวลืมตาตื่นขึ้นมา
สมัยที่ยังอยู่เมืองไหเต่า เขานอนอยู่กับเตียงทั้งวันจนเคยตัว มันช่วยไม่ได้ ชีวิตมันไม่ง่ายเลย ตอนนั้นเขาไม่มีเงิน เรื่องที่ไม่ต้องใช้เงินอย่างการนอนอยู่บนเตียงเฉยๆ จึงกลายเป็นงานอดิเรกของเขาอย่างหนึ่ง
หลังจากที่มีพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอน เขาก็ยังมีนิสัยนอนติดเตียงอยู่อีกช่วงหนึ่ง แต่ตอนนั้นเขาแค่ชินกับมันเฉยๆ ที่จริงแล้วพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนปรับเปลี่ยนร่างกายของเขาอย่างรุนแรงมากๆ มันทำให้เขากระฉับกระเฉงคึกคักถึงที่สุด ในหนึ่งวันนอนหลับแค่สี่ถึงห้าชั่วโมงก็สามารถรักษากำลังวังชาสำหรับทั้งวันไว้ได้อย่างเต็มอิ่ม
ต่อมาพอได้อยู่ด้วยกันกับวินนี่ เขาก็อยากจะแสดงด้านที่โดดเด่นของตัวเองออกมา จึงเลิกนิสัยชอบนอนอยู่แต่กับเตียงซะ แต่ยังเก็บความเคยชินบางอย่างเอาไว้อยู่ นั่นก็คือนาฬิกาปลุกดังแล้วแต่ก็ไม่ลุก ถึงอย่างไรแต่ละวันก็ตั้งเสียงดนตรีไว้ไม่เหมือนกัน คิดเสียว่าฟังเพลงต้อนรับยามเช้าก็แล้วกัน
แต่พอมีเสี่ยวเถียนกวาแล้ว เขาจะทำอย่างนั้นไม่ได้อีก วินนี่ก็ไม่อนุญาตให้เขาทำแบบนั้นเหมือนกัน เพียงแค่เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นมา เขายังไม่ทันได้ตอบสนองอะไร วินนี่ก็จะตื่นเต็มตาทันที แล้วต่อจากนั้นก็จะเรียกให้เขาให้ตื่นขึ้นมาปิดนาฬิกา
นี่คือความแตกต่างระหว่างพ่อกับแม่
วันนี้ก็เช่นกัน นาฬิกาปลุกเพิ่งจะดัง วินนี่ก็เตะฉินสือโอวเข้าให้ทันที เธอบ่นพึมๆ พำๆ กับเขาว่า “ที่รัก ปิดนาฬิกาปลุกค่ะ!”
ฉินสือโอวปิดนาฬิกาปลุกแล้วลุกขึ้น ณ เวลานี้พื้นผิวน้ำทะเลทางทิศตะวันออก มีเพียงแสงสีเงินเบาบางเพียงนิดหน่อยเท่านั้น แต่ใช้เวลาอีกไม่นาน เดี๋ยวก็จะมีพระอาทิตย์สีแดงเพลิงโผล่พ้นขึ้นมาสู่ท้องฟ้า ส่องแสงไปทั่วทุกหนแห่งแล้ว
หู่จือกับเป้าจือเป็นลูกสมุนที่ซื่อสัตย์ของฉินสือโอว พวกมันเดินตามเขาอยู่ทางด้านหลัง ทางด้านท้ายยังมีสัตว์เลี้ยงอีกหนึ่งตัว ซึ่งก็คือต้าป๋ายนั่นเอง ต้าป๋ายอ้าปากหาวน้อยๆ แล้ววิ่งตามออกมา
ฉินสือโอวมองดูมันด้วยความประหลาดใจ เขารู้สึกว่าต้าป๋ายค่อนข้างผิดปกติไปจากเดิม
หลังจากนั้นไม่กี่นาที เหนือระดับน้ำทะเลทางทิศตะวันออกก็กลายเป็นสีแดงส้ม พระอาทิตย์ยามเช้าค่อยๆ เผยโฉมหน้าออกมาเล็กน้อย ลมทะเลพัดผิวน้ำด้วยแรงลมกำลังดี ฟองคลื่นหมุนขึ้นลง พื้นที่ที่แสงอาทิตย์ส่องลงมาก็ขยายขอบเขตยิ่งกว้างขึ้น ฟองคลื่นสีแดงเพลิงซัดไปข้างหน้า เหมือนกับแม็กมาที่พุ่งกระจายไปทั่วทุกทิศ!
“เป็นภาพที่ยิ่งใหญ่อลังการมากๆ ใช่ไหมล่ะคะ?” วินนี่มายืนอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ เธอยื่นมือออกมากอดเอวของฉินสือโอวเอาไว้
ฉินสือโอวพยักหน้า พูดด้วยท่าทีจริงจังว่า “ใช่ครับ ที่รัก ผมชอบทัศนียภาพแบบนี้มาก”
ดูพระอาทิตย์ขึ้นเสร็จแล้ว วินนี่ก็เอาอาหารเช้าที่เตรียมไว้ไปอุ่นในเตาไมโครเวฟ พอทานมื้อเช้าเสร็จพวกเขาก็จะพากันกลับแล้ว
ที่ที่เหมาะกับการตั้งกระท่อมแคปซูลที่สุดคือริมทะเลหรือไม่ก็บนภูเขา สถานที่เหล่านี้มักจะมีลมพัดแรงที่สุด เครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานลมที่อยู่บนหลังคาจะสามารถแสดงประสิทธิภาพออกมาได้ ทำให้สามารถกักเก็บพลังงานไฟฟ้าได้เพียงพอต่อการใช้งาน
เรือฮาวิซทลากเกาะล่องแก่งกลับมาถึงฟาร์มปลา พวกชาวประมงก็กำลังจะออกทะเลพอดี ชาร์คตะโกนถามเขาเสียงดังว่า “บอส ใช้ชีวิตยามค่ำคืนบนทะเลเป็นอย่างไรบ้างครับ?”
“สวยงามจนพูดไม่ออกเลยล่ะ เพื่อนเอ๊ย” ฉินสือโอวหัวเราะฮ่าๆ พูดว่า “พวกนายอยากพาครอบครัวไปลองสัมผัสมันสักหน่อยไหมล่ะ?”
บรรดาชาวประมงก็คิดอย่างนั้น พวกเขาไม่มีเงินซื้อกระท่อมแคปซูลหรือสร้างเกาะล่องแก่งเป็นของตัวเอง แต่พวกเขาก็ปรารถนาจะได้ใช้ชีวิตแบบนั้นมากจริงๆ
เมื่อกลับมาถึงฟาร์มปลา ฉินสือโอวคิดว่าเขาไม่เจอพวกศาสตราจารย์แซนเดอร์สมานานแล้ว หลังจากเก็บของเสร็จเขาจึงขับรถเอทีวีไปที่ฟาร์มปลาของมิสเตอร์รอท
หลังจากที่ปูดันเจเนสส์ถูกส่งมา ศาสตราจารย์สูงวัยก็ทุ่มเทจิตใจและกำลังไว้กับมันทั้งหมด ฉินสือโอวคิดว่าแบบนี้มันน่าขำอยู่นิดหน่อย เพราะว่าเขาถ่ายทอดพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนให้กับปูดันเจเนสส์อยู่ตลอด สิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะต้องมีชีวิตรอดอยู่ในฟาร์มปลาได้อย่างแน่นอน
เขามาถึงน่านน้ำบริเวณที่เป็นที่ตั้งของระบบการเพาะพันธุ์พันธุวิศวกรรมของปูดันเจเนสส์แล้ว หลายๆ คนกำลังยุ่งอยู่กับงานในพื้นที่น้ำบริสุทธิ์อยู่ ไม่มีใครสนใจเขา เขาขับรถมาดูอยู่สักพัก ก็ยังไม่มีใครเข้ามาทักทาย
ช่วยไม่ได้ เขาทำได้แค่เดินไปหาแซนเดอร์ส แล้วถามว่า “เฮ้ ศาสตราจารย์ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ ผมยังนึกว่าคุณกลับโทรอนโตไปแล้วเสียอีก”
“มีลูกรักอยู่ที่นี่ทั้งฝูง ผมจะไปโทรอนโตได้อย่างไร?” แซนเดอร์สเผลอตอบกลับมาด้วยจิตใต้สำนึก หลังจากนั้นก็ค่อยหันหน้ากลับมา พอมองเห็นฉินสือโอว เขาก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ แล้วก้าวมาข้างหน้าเพื่อจับมือทักทายกันแล้วพูดว่า “บอส ยินดีต้อนรับๆ ยินดีต้อนรับสู่ฟาร์มเพาะเลี้ยงมหัศจรรย์ของแซนเดอร์ส!”
“ฟาร์มเพาะเลี้ยงมหัศจรรย์ หมายถึงอะไรเหรอครับ?” ฉินสือโอวถามเขาด้วยความสงสัย
แซนเดอร์สพาเขาเดินไปถึงบริเวณใกล้ๆ กันกับใจกลางของฟาร์มเพาะพันธุ์ ที่ตรงนี้คือพื้นที่น้ำบริสุทธิ์ระดับหนึ่ง เดิมทีคุณภาพน้ำของฟาร์มปลาก็ดีอยู่แล้ว เมื่อทำให้มันบริสุทธิ์ ก็เหมือนกับว่าไม่ได้มีน้ำทะเลอยู่ เมื่อยืนอยู่ริมชายฝั่งจะสามารถมองเห็นร่องรอยใต้น้ำได้อย่างชัดเจน
ในฟาร์มเพาะเลี้ยง ณ ตอนนี้ ปูดันเจเนสส์จำนวนนับไม่ถ้วนกำลังปีนไปปีนมาอยู่ด้านใน เมื่อมีคนโปรยหัวอาหารลงไป ปูดันเจเนสส์พวกนี้ก็เฮโลกันขึ้นมาทันที พวกมันมีพละกำลังอยู่อย่างเต็มเปี่ยม
ชี้ไปที่ปูดันเจเนสส์ที่เต็มไปด้วยพละกำลังพวกนี้ แซนเดอร์สก็ร้องเสียงสูงว่า “ความหมายก็คือ พวกเราสร้างเรื่องมหัศจรรย์ขึ้นที่นี่ บอส พวกเราเป็นผู้สร้างสิ่งมหัศจรรย์ที่น่านับถือ!”
ฉินสือโอวแสร้งเผยสีหน้าของความประหลาดใจออกมาเป็นเพื่อนเขา “โอ้ พระเจ้า ปูพวกนี้ไม่ได้ตายไปหมดแล้วหรอกเหรอ? ผมหมายถึง ศาสตราจารย์ ปูดันเจเนสส์มีชีวิตรอดอยู่ในฟาร์มปลาของพวกเราได้ด้วยเหรอครับ?”
แซนเดอร์สทั้งพยักหน้าทั้งส่ายหน้า บอกกับเขาว่า “ตอนนี้ยังยืนยันไม่ได้ ต้องรอจนถึงหลังจากที่มันมาอยู่ในฟาร์มปลาได้สี่สิบห้าวันเสียก่อน ถ้ายังมีชีวิตรอดอยู่ได้ถึงจะนับว่าพวกมันสามารถปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมของพวกเราได้จริงๆ แต่ว่า สิ่งที่พวกเราทำในตอนนี้ก็น่านับถือมากแล้ว ดูสิ จนกระทั่งถึงตอนนี้ พละกำลังของปูดันเจเนสส์พวกนี้มันสุดยอดมากๆ เลย!”
ฉินสือโอวยกนิ้วโป้งให้เขา และเอ่ยชมว่า “คุณเก่งมากจริงๆ ครับ ศาสตราจารย์ ตอนนี้ผมรู้สึกดีใจมากๆ ที่จ้างคุณมาเป็นผู้ให้คำแนะนำด้านเทคโนโลยี”
พระเจ้าต่างหากที่เป็นผู้ชี้ทาง คำพูดของเขาในตอนนี้ขัดกับความรู้สึกในใจของเขามาก ถ้าไม่ใช่เพราะต้องหาคนมาทำงานบังหน้า เขาคงเพาะเลี้ยงปูดันเจเนสส์เองไปนานแล้ว
ไม่ต้องสงสัยเลย ที่ปูดันเจเนสส์มีชีวิตรอดไม่ได้เกี่ยวอะไรกันกับแซนเดอร์สเลย ต่อให้เป็นอีวิลสันที่มาเพาะพันธุ์ปูดันเจเนสส์ฝูงนี้ พวกมันก็สามารถมีชีวิตรอดอยู่ต่อไปได้เหมือนกัน
……………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset