ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1141 อาหารสัตว์ที่อ้วนท้วนสมบูรณ์

เมื่อไม่ได้วิธีรับมืออะไรกลับมา ฉินสือโอวก็ไม่ได้รู้สึกทดท้อ เขามีวิธี แต่ความคิดนี้ค่อนข้างอันตรายไปหน่อย
เมื่อเทียบกันแล้วแมงกะพรุนเวเลลลากับปลาและกุ้งในทะเลมีความแตกต่างที่มากที่สุดอยู่หนึ่งอย่าง ซึ่งเกี่ยวกับการที่พวกมันไม่มีมันสมองใหญ่นั่นเอง ดังนั้นพวกมันจึงไม่รู้จักความหิวโหย เพราะกินเอาอาหารเข้าไปตลอดชีวิต นี่เป็นหลักประกันได้ว่าพวกมันจะสามารถมีชีวิตรอดยาวนานที่สุด ซึ่งสิ่งนี้ก็นำปัญหาอื่นมาให้เช่นกัน
อย่างเช่นเรื่องที่พวกมันไม่สามารถถ่ายทอดข้อมูลได้ หลังจากที่พวกมันประสบกับภาวะวิกฤต ก็จะไม่สามารถพลิกแพลงสถานการณ์ได้
ฉินสือโอวคิดจะแจกจ่ายจิตสำนึกแห่งโพไซดอนในขอบเขตขนาดใหญ่ เพื่อให้พวกกุ้งปูปลาไปรวมตัวกันอยู่ในน่านน้ำหนึ่ง เพื่อไม่ให้มีจุดอับในน่านน้ำอื่น
ตอนนี้ยังไม่ได้ใช้อวนจับปลา แต่สาเหตุที่ไม่ใช่เพราะว่าแมงกะพรุนเวเลลลาเก่งกาจจนสามารถหนีรอดไปได้ในทันที แต่เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้อวนจับปลาจับโดนปลากับกุ้งขึ้นมา จึงมีข้อจำกัดอยู่หลายอย่างมาก ซึ่งข้อจำกัดพวกนี้เปิดโอกาสให้แมงกะพรุนเวเลลลาหนีรอดไปได้
ถ้าไม่มีกุ้งปูปลาที่ทำให้เกิดความไม่สะดวก การจับแมงกะพรุนเวเลลลาจะง่ายขึ้นกว่าเดิมอีกเยอะ
ฉินสือโอวกำลังวางแผนว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไรอยู่ในใจ พื้นที่ของฟาร์มปลากว้างใหญ่เกินไป ต่อให้จิตสำนึกทั้งสี่กระจายตัวออกไปพร้อมกัน แต่การที่จะปกคลุมผืนน้ำที่ใหญ่ขนาดนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน
ในตอนนี้แซนเดอร์สมาหาเขาและบอกกับเขาว่า “บอส ผมคิดว่าพอจะมีวิธีรับมือกับแมงกะพรุนพวกนี้ได้แล้ว”
ฉินสือโอวมึนงงไปชั่วครู่ หลังจากนั้นก็ถามเขาด้วยความดีใจว่า “วิธีอะไรเหรอครับ?”
ศาสตราจารย์สูงวัยชี้ไปที่คลื่นในทะเลแล้วพูดว่า “คุณก็รู้ แมงกะพรุนเวเลลลามีประสาทสัมผัสที่เยี่ยมยอดมาก พวกมันสามารถสัมผัสได้ถึงการปรากฏตัวของพายุล่วงหน้าห้าถึงหกชั่วโมง แล้วมันสามารถคาดการณ์การเกิดพายุได้อย่างไรน่ะเหรอ?”
เรื่องนี้ฉินสือโอวทราบดี พายุจะไม่ก่อตัวขึ้นอย่างฉับพลัน มันคือผลลัพธ์หลังจากการรวมตัวของกระแสอากาศหลายๆ หย่อม และขณะที่อัตราความเร็วในการไหลของกระแสอากาศพวกนี้เพิ่มเร็วขึ้นพวกมันก็จะเกิดการปะทะเสียดสีกับน้ำทะเลอย่างรุนแรง ทำให้เกิดคลื่นใต้เสียง 8 ถึง 9 เฮิร์ท ซึ่งแมงกะพรุนก็คาดการณ์ทิศทางที่พายุจะมาและความรุนแรงของพายุผ่านการรับคลื่นใต้เสียงนั่นเอง
เห็นฉินสือโอวพยักหน้ารับ ศาสตราจารย์จึงข้ามเรื่องหลักการไป แล้วพูดถึงแผนรับมือโดยตรง “ฟาร์มปลามีเรือมากพอ ไม่ว่าจะเป็นเรือยอชต์หรือเรือประมง ขอแค่พวกเราปรับแต่งโซนาร์กับอุปกรณ์อัลตราโซนิค ให้มีคลื่นเสียงที่คล้ายคลึงกัน แบบนั้นก็จะสามารถหลอกแมงกะพรุนเวเลลลาได้แล้ว”
“พวกมันไม่มีสมองใหญ่ อาศัยสัญชาตญาณในการเคลื่อนที่ ดังนั้นถ้าพวกเราใช้คลื่นใต้เสียงมาไล่พวกมัน ให้พวกมันไปรวมกันอยู่บริเวณตรงกลางของผืนน้ำ แค่นั้นก็เก็บกวาดได้จนหมดไม่มีเหลือแล้วไม่ใช่เหรอ?”
พอได้ยินที่แซนเดอร์สพูด ตาของฉินสือโอวก็เป็นประกายขึ้นมาทันที ปัญหายากเย็นอะไรกัน ง่ายจะตายไป ใช้คลื่นใต้เสียงไล่ให้พวกมันไปอยู่ด้วยกันแล้วจับพวกมันขึ้นมาก็เรียบร้อยแล้ว อาจจะถึงขั้นที่ว่า พอถึงตอนนั้นแค่กางอวนออก ก็รอให้พวกมันมาติดกับเองได้แล้ว
“เป็นวิธีที่ดี ศาสตราจารย์ คุณเก่งมากครับ! ผมจะไปทำงานกับพวกชาวประมง ถึงอย่างไรฟาร์มปลาของพวกเราก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นแล้ว ก็มีแต่เรือนี่แหละครับที่มีเยอะ” พอพูดจบฉินสือโอวก็กำลังจะไปบอกให้พวกชาวประมงรู้
แซนเดอร์สดึงเขาเอาไว้ แล้วบอกว่า “อย่าเพิ่งรีบร้อน บอส ตอนนี้ยังมีปัญหาที่แก้ได้ยากอยู่ ซึ่งก็คือการจับแมงกะพรุนนั่นแหละครับ พวกเราจะจัดการกันอย่างไร? ตอนนี้ลองประมาณการคร่าวๆ อย่างน้อยที่สุดพวกมันน่าจะมีอยู่ถึงห้าล้านตัวเลย!”
แมงกะพรุนเวเลลลามีขนาดค่อนข้างเล็ก ส่วนที่เป็นเหมือนร่มมีเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ 8-10 เซนติเมตร แต่เนื่องจากพวกมันมีส่วนประกอบเป็นน้ำอยู่จำนวนมาก ดังนั้นตอนยังมีชีวิตอยู่พวกมันจึงมีน้ำหนักไม่น้อยเลย อีกอย่างแมงกะพรุนตั้งหลายล้านตัว ถามว่าจะเอามากองรวมกันจะต้องใช้พื้นที่ว่างมากขนาดไหน? จะจัดการกับมันอย่างไร?
ฉินสือโอวเกาศีรษะแกรกๆ แมงกะพรุนส่วนใหญ่สามารถเป็นแหล่งอาหารสำหรับมนุษย์ได้ แมงกะพรุนเวเลลลาก็นำมาทำอาหารได้เช่นกัน แต่น่าเสียดายที่มันไม่ใช่อาหารอร่อย ตอนเขาอยู่ที่จีนก็มีคนนำแมงกะพรุนหนังมาทำยำทานเหมือนกัน แต่พอมาอยู่แคนาดา เขาก็ไม่เคยเห็นวิธีการปรุงอาหารแบบนี้มาก่อนเลย
และนั่นก็หมายความว่า อย่างน้อยที่สุดแมงกะพรุนเวเลลลาก็เข้าไปอยู่ในแรงก์อันดับของอาหารทะเลต้าฉินไม่ได้
หลังจากทำการไตร่ตรองในช่วงเวลาสั้นๆ ฉินสือโอวก็พูดขึ้นมาว่า “บางที พวกเราน่าจะสามารถเอาไปตากแห้งจากนั้นก็บดให้เป็นผงแล้วโปรยกลับลงไปในฟาร์มปลา ให้เป็นอาหารบำรุงของแพลงก์ตอน คุณคิดว่าอย่างไรบ้างครับ?”
แซนเดอร์สพยักหน้าพูดว่า “ถึงแม้ว่านี่อาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก แต่ก็เป็นความคิดที่ทำได้จริง ผงแมงกะพรุนกับเศษแมงกะพรุนตากแห้งสามารถนำมาทำเป็นหัวอาหารให้ฟาร์มปลาได้ แต่ว่านะครับบอส คุณได้คิดเอาไว้ไหมว่าหลังจากที่เราจับพวกมันขึ้นมาแล้ว จะเอาพวกมันไปเก็บไว้ที่ไหน?”
ปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข ตอนนี้สิ่งที่ยังขาดอยู่ก็คือพื้นที่จัดเก็บที่มีขนาดเหมาะสม
ฉินสือโอวโบกมือปัด “เรื่องนี้กลับไปแล้วค่อยว่ากัน พวกเราคิดหาวิธีที่จะจับแมงกะพรุนพวกนี้ขึ้นมาก่อนดีกว่าครับ ถ้ายังปล่อยพวกมันตามสบายต่อไป ฟาร์มปลาของผมน่าจะล้มละลายแล้ว!”
แมงกะพรุนเวเลลลามีกระเพาะรูปวงแหวนสี่อัน สิ่งมีชีวิตเหล่านี้วันๆ ไม่ทำอะไรเอาแต่กินอย่างเดียว ที่ตรวจตราดูตอนนี้ อาจจะเห็นว่าพวกมันยังไม่ได้ไปกินลูกกุ้งลูกปลา แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะหุบปากไม่กินอะไร ที่ที่ตาของมนุษย์ไม่สามารถมองเห็นได้ พวกมันกำลังกินแพลงก์ตอนอยู่ต่างหากล่ะ!
ตามสถิติแล้ว ถ้าปล่อยให้แมงกะพรุนหนึ่งตัวอยู่ในน้ำขนาดหนึ่งลูกบาศก์เมตร ใช้เวลาแค่หนึ่งชั่วโมง แพลงก์ตอนจำนวน 70% ในน่านน้ำผืนนั้นก็จะถูกมันกินเข้าไปจนหมด!
อีกทั้งแพลงก์ตอนพวกนี้ยังเป็นอาหารของปลาชั้นล่างอย่างปลาคาพีลิน ปลาแฮร์ริ่ง ปลาซาบะ ถ้าพวกมันไม่มีอาหารให้กิน ก็แปลว่าปลาค็อดจะไม่มีอาหาร ห่วงโซ่อาหารทั้งหมดของฟาร์มปลาก็จะได้รับผลกระทบ
เมื่อหาวิธีได้แล้ว ฉินสือโอวก็ตะโกนแจ้งผ่านช่องวิทยุสื่อสารของเมืองนี้ เพื่อขอยืมใช้อุปกรณ์อัลตราโซนิค ที่เมืองแฟร์เวลมีของสิ่งนี้อยู่ไม่น้อย โดยปกติแล้วทุกคนจะใช้ของสิ่งนี้เพื่อไปกระตุ้นปลาคาร์ฟเอเชียในทะเลสาบเฉินเป่า เพื่อหาปลามาให้นักท่องเที่ยวได้ยิงเล่น
หลังจากได้อุปกรณ์อัลตราโซนิคมาแล้ว ชาร์คกับแบล็คไนฟ์ก็เริ่มทำการติดตั้งใหม่ หลังจากนั้นก็แขวนไว้บนเรือเหมือนติดตั้งเครื่องยนต์ติดท้ายเรือ เรือกำปั่นทะเลทั้งสี่ลำ เรือฮาวิซท เรือเด็คเออร์บักและยังมีเรือหัวกว้างอีกสองลำ กระทั่งเจ็ทสกีเทพเจ้าสายฟ้ามืดก็ถูกส่งออกไปสู่สนามรบ
เสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น การสู้รบที่ดุเดือดในยามค่ำคืนเริ่มต้นขึ้นแล้ว
ในวิลล่า คุณปู่กับคุณย่าของวินนี่ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เห็นด้านนอกยกหลอดไฟทังสเตนไอโอดีนออกไปเริ่มงานที่ฟาร์มปลาเหมือนกับจะสู้รบกัน มีคนร้องตะโกนอยู่ไม่ขาดสาย ทันใดนั้นพวกท่านก็รู้สึกกลัวขึ้นมาจึงถามว่า “วินนี่ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
วินนี่ตอบกลับไปอย่างสบายๆ ว่า “ไม่มีอะไรค่ะ ฉินแค่พาพวกเขาไปทำงานเฉยๆ”
คุณปู่ของวินนี่ก็ถอนหายใจออกมา แล้วพูดว่า “การทำฟาร์มนี่ไม่ง่ายเลยจริงๆ ดูสิ ดึกขนาดนี้แล้วแต่ฉินยังต้องทำงานอยู่เลย พวกเราเห็นแค่ฉินในตอนที่ร่ำรวยแล้ว แต่กลับไม่เคยเห็นเขาในตอนที่ต้องเหน็ดเหนื่อยกับความยากลำบากมาก่อนเลย วินนี่ หนูต้องดีกับฉินให้มากๆ นะ”
แอร์โฮสเตสขายาวพยักหน้ารับปากอย่างอ่อนโยน แต่กลับแอบแขวะฉินสือโอวอยู่ในใจ เธอรู้จักฉินสือโอวมาสองปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นเขาทำงานตอนกลางคืน เมื่อก่อนพอพระอาทิตย์ตกดินเขาก็วิ่งกลับมาทำลูกกับเธอแล้ว
บนท้องทะเล พวกที่มีความสุขที่สุดในตอนนี้ก็คือวงศ์ตระกูลเต่ามะเฟือง เต่าทะเลตัวเล็กตัวใหญ่ล้วนแต่พากันว่ายน้ำออกมาแล้ว เต่าตัวใหญ่นำเต่าตัวเล็ก สอนพวกมันล่าแมงกะพรุนเวเลลลา
จากตำแหน่งตรงบริเวณปากแม่น้ำทางฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ของฟาร์มปลา พวกเต่ามะเฟืองรวมฝูงกันว่ายน้ำเข้ามาเหมือนกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก ฉินสือโอวตรวจตราสถานการณ์ของแมงกะพรุนเวเลลลาผ่านจิตสำนึกแห่งโพไซดอนอยู่ตลอดเวลา เมื่อได้เห็นเต่ามะเฟืองที่ไล่กวาดมาทั้งทาง เขาก็ทั้งดีใจและประหลาดใจขึ้นมา
เมื่อสักครู่มัวแต่ทำงานจนหัวหมุน ลืมไปเลยว่าที่ฟาร์มปลายังมีศัตรูตามธรรมชาติของแมงกะพรุนอยู่ แต่จะว่าไปแล้ว เต่ามะเฟืองในฟาร์มปลามีจำนวนมากขนาดนี้เลยเหรอ?
เขาจำได้ว่าที่ฟาร์มปลามีเต่ามะเฟืองอยู่สองร้อยกว่าตัว แต่ดูจากตอนนี้แล้ว แค่เต่าที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางของกระดองมากกว่าหนึ่งเมตรก็ไม่ใช่แค่สองร้อยตัวแล้ว อีกทั้งเต่าที่มีขนาดกลางๆ ยังมีมากถึงห้าร้อยหกร้อยตัว ส่วนเต่าที่มีขนาดเท่าฝ่ามือ อย่างน้อยๆ ก็ต้องเริ่มต้นที่หนึ่งพัน!
ปลูกแตงได้แตง ปลูกถั่วได้ถั่ว เมื่อปีที่แล้วพวกเต่ามะเฟืองแพร่พันธุ์ในฟาร์มปลาได้สำเร็จ ลูกเต่าพวกนี้ล้วนแต่เป็นไข่ที่ฟักออกมาเมื่อปีที่แล้ว เต่าหนึ่งตัววางไข่ราวๆ สิบยี่สิบใบ ไข่เต่าฟักตัวออกมาได้สำเร็จทั้งหมด ต้องมีจำนวนลูกเต่าอยู่มากเป็นธรรมดา
………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset