ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1143 แม่

ฉินสือโอวไม่ใช่พระเยซู เขาอุทิศพละกำลังและความสามารถของตัวเอง โดยการแจ้งให้ทางการกับเจ้าของฟาร์มปลาทราบล่วงหน้า ไม่อย่างนั้นด้วยนิสัยของกรมประมงแคนาดา ถ้าไม่ถึงตอนที่แมงกะพรุนรวมฝูงจนเกิดการระบาด พวกเขาคงไม่มีทางรู้ว่ากำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์อะไรอยู่
ฉินสือโอวปิดมือถือ แล้วขึ้นไปนอนบนเตียง เขาให้พวกชาวประมงหยุดพักชั่วคราวเป็นเวลาสองวัน วันนี้กับวันพรุ่งนี้ให้หยุด พักผ่อนเอาแรงคืนพรุ่งนี้จะมีงานปาร์ตี้
ฟาร์มปลาจะไม่ได้ทำการจับปลาอย่างน้อยที่สุดเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ หลังจากนั้นไม่กี่วันก็ต้องจัดการกับงานที่ยังค้างอยู่ทั้งหมด เพราะยังมีแมงกะพรุนบางส่วนที่หลุดลอดออกจากอวนจับปลากำลังลอยนวลอยู่ข้างนอก
หลับไปสี่ชั่วโมง ประมาณสิบโมงเช้านิดๆ ฉินสือโอวก็ลุกขึ้นจากเตียงแล้ว พลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนเป็นสิ่งที่ดี แค่หลับตาแล้วลืมตา ความเหนื่อยล้าก็ถูกกวาดล้างจนหมดในชั่วพริบตาเดียว แล้วกลับมาคึกคักแจ่มใสอีกครั้ง
ลืมตาขึ้น ข้างๆ กายเขาก็คือวินนี่ที่กำลังนอนหลับฝันหวาน เธอก็เหนื่อยจนแทบไม่ไหวแล้วเหมือนกัน เหน็ดเหนื่อยทรมานอยู่ตลอดทั้งคืนเหมือนกันกับเขา
ฉินสือโอวแย้มรอยยิ้มมองดูวินนี่ที่กำลังนอนหลับอยู่อย่างเงียบๆ ด้วยท่าทางที่สง่างาม ลงจากเตียงนอนอย่างเงียบเชียบ ปรากฏว่าตอนที่กำลังเดินผ่านเปลของลูกสาว เขาก็พบว่าเด็กหญิงตัวน้อยกำลังเล่นกับนิ้วมือของตัวเองอยู่
“เป็นเด็กดีจริงๆ” ฉินสือโอวยิ้มออกมา เขานึกว่าพ่อกับแม่ของวินนี่กำลังดูเสี่ยวเถียนกวาอยู่ข้างล่างเสียอีก คิดไม่ถึงว่าวินนี่จะอุ้มเธอขึ้นมาด้วย
เพราะกิจวัตรประจำวันของฉินสือโอวกับวินนี่ ทำให้เด็กน้อยตื่นตั้งแต่เช้า หลังจากนั้นก็เล่นอยู่ตลอดทั้งช่วงเช้า ตอนกลางวันจะนอนหลับเป็นเวลานาน พอตื่นมาตอนพลบค่ำก็แฮปปี้อยู่กับพวกหู่เป้าฉงหลัวอีกหลายชั่วโมง
เมื่อลองคำนวณอย่างนี้ ตอนนี้เสี่ยวเถียนกวาเล่นอยู่กับตัวเองมาเป็นเวลาสี่ชั่วโมงแล้ว เธอไม่ได้ส่งเสียงออกมาเลยสักแอะ แต่เล่นถูฝ่ามือกับจับหมวกใบเล็ก ว่านอนสอนง่ายอย่างน่าเหลือเชื่อ
เห็นฉินสือโอวเข้ามาใกล้ๆ เสี่ยวเถียนกวาก็ทิ้งหมวกใบเล็กในมือทันที ‘ฟึบ’ พลิกตัวภายในเวลาสั้นๆ แล้วเตะขาเล็กๆ สั้นๆ เพื่อให้พ่ออุ้ม
ฉินสือโอวอุ้มเธอเดินลงไปชั้นล่าง พอมิแรนดาเห็นพวกเขาสองพ่อลูก เธอก็หยิบขนมปังที่อยู่ในกล่องเก็บอุณหภูมิออกมาให้เขาทาน
มิแรนดารับเอาเสี่ยวเถียนกวาแล้วเตรียมนมให้เธอดื่ม แต่เด็กน้อยกลับไม่อยากให้เธออุ้ม ก้นเล็กๆ ที่กำลังสวมผ้าอ้อมอยู่ส่ายไปส่ายมา เธอยื่นแขนออกไปหาฉินสือโอวไม่หยุด ร้องอ้าๆ อู้ๆ ด้วยท่าทางกระสับกระส่าย
“นี่ยายของหนูไง อยู่นิ่งๆ ให้คุณยายกอดดีๆ โอเคไหม?” ฉินสือโอวกัดขนมปังไปพร้อมๆ กับบีบจมูกของเสี่ยวเถียนกวาเล่น
เสี่ยวเถียนกวาส่ายหัวไปมา ราวกับว่าเธอกำลังปฏิเสธอยู่ แล้วยื่นแขนออกมาจะให้เขาอุ้มอีก
มิแรนดาหลุดหัวเราะออกมา พูดว่า “โอ้ สวรรค์ เด็กคนนี้อายคนแปลกหน้านี่นา”
ที่จริงแล้วเสี่ยวเถียนกวาเลี้ยงง่ายมาก ปล่อยเธอไว้บนพรม แล้วเรียกหู่เป้าฉงหลัวกับลูกแมวป่ามาก็พอ ถ้ามีพวกมันคอยอยู่เป็นเพื่อน เสี่ยวเถียนกวาก็สามารถเล่นอยู่กับตัวเองได้
ดูเหมือนว่าอาร์ม็องกับฟอกส์จะเอ็นดูเสี่ยวเถียนกวามากๆ นั่งอยู่ข้างๆ เธอคอยดูเธอเล่น อาร์ม็องเอาหัวรถจักรของเล่นมาด้วยหนึ่งอัน เขามักจะหยิบมันมาใช้หยอกเธออยู่บ่อยๆ
น่าเสียดายที่เด็กน้อยไม่สนใจของเล่น เธอไม่เหมือนกับเด็กทั่วๆ ไป สิ่งที่เธอชอบที่สุดก็คือเหล่าสัตว์เลี้ยงอย่างหู่เป้าฉงหลัว อีกทั้งเหล่าสัตว์เลี้ยงก็มีน้ำอดน้ำทนกับเธอมากๆ
ฉินสือโอวเดาว่า น่าจะเป็นเพราะพวกเขามีพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนอยู่ในร่างกาย ภายใต้การผลักดันของสัญชาตญาณ ทั้งสองฝ่ายจึงรู้สึกชอบกันและกัน
ระยะการเจริญเติบโตเกือบสี่เดือน เสี่ยวเถียนกวาสลัดใบหน้ามุ่ยๆ ของทารกแรกเกิดออกไป จนตอนนี้กลายเป็นเด็กน่ารักขึ้นมาแล้ว
เด็กหญิงตัวน้อยมีผมสั้นๆ เป็นสีดำขลับเหมือนผมของฉินสือโอวกับวินนี่ เส้นผมเล็กละเอียด วินนี่มักจะพูดอยู่บ่อยๆ ว่าเธอมีผมที่สวยจนสามารถถ่ายโฆษณาให้กับแชมพูดสระผมได้เลย เพราะมีการบำรุงสารอาหารที่เพียงพอ เธอถึงได้โตมาอ้วนตุ๊ต๊ะ มีแก้มกลมๆ เหมือนเด็กทารกทั่วไป ตาดวงโตเปล่งประกายแวววับ ปากนิดจมูกหน่อย อวัยวะบนใบหน้ามีความละเอียดลอองดงามอย่างลูกครึ่ง น่ารักมากๆ
ฉินสือโอวคิดว่าชีวิตช่างน่ามหัศจรรย์ ตอนที่เพิ่งเกิดเสี่ยวเถียนกวาหน้าตาขี้เหร่มาก แต่ปรากฏว่าแค่แป๊บเดียวก็กลายมาเป็นหนูน้อยน่ารักแล้ว เขาคิดว่าถ้าพ่อกับแม่มาถึงที่นี่แล้วก็อาจจะจำเธอไม่ได้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะวิดีโอคอลคุยกันทุกวันก็ตาม
ฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูที่กระรอกคึกคักมีชีวิตชีวาเป็นอย่างยิ่ง เสี่ยวหมิงกอบเอาเมล็ดสนลูกใหญ่สองลูกวิ่งมาหาฉินสือโอวตามปกติ
พอเห็นว่าในห้องรับแขกมีคนอยู่เยอะขนาดนี้ มันก็สะบัดหางอันใหญ่ๆ ไปมาด้วยความลังเลอยู่สักพัก แต่เห็นว่าฉินสือโอวก็อยู่ในนั้น มันเลยตัดสินใจวิ่งเข้ามาข้างใน พอมาถึงตรงหน้าเขาแล้วก็ยกอุ้งเท้าเล็กๆ ขึ้นมา มอบเมล็ดสนให้เขาราวกับว่ามันเป็นของล้ำค่า
จนถึงทุกวันนี้เสี่ยวหมิงเป็นสัตว์เลี้ยงเพียงตัวเดียวที่เสี่ยวเถียนกวายังไม่สามารถเอาชนะได้ เนื่องจากเจ้ากระรอกแดงเฉลียวฉลาดเกินไป ในป่าใหญ่ต่อให้เป็นนกอินทรีทองก็จับพวกมันได้ยาก แล้วนับประสาอะไรกับเด็กหญิงตัวน้อยๆ ที่เพิ่งจะคลานเป็น?
ดังนั้นพอเสี่ยวหมิงวิ่งเข้ามา เสี่ยวเถียนกวาก็ตาเป็นประกาย หู่จือกับเป้าจือที่อยู่ข้างๆ ก็ตัวสั่นขึ้นมาทันที พวกมันกลัวสีหน้าแบบนี้ของเสี่ยวเถียนกวา เธอเหมือนวินนี่มากจริงๆ น่ากลัวเกินไปแล้ว
ขยับมือขยับเท้า เสี่ยวเถียนกวาคลานไปหาเสี่ยวหมิงด้วยความรวดเร็ว ความเร็วเท่านั้นทำให้มิแรนดากับสามีถึงกับช็อกไปเลย “ฉิน คุณต้องพาเด็กคนนี้ไปร่วมงานแข่งคลานของเด็กทารกนะ เธอต้องได้รางวัลมาเต็มไม้เต็มมือแน่ๆ!”
แต่ถึงอย่างนั้นกลับไม่มีประโยชน์อะไร ต่อให้เสี่ยวเถียนกวาคลานได้เร็วกว่านี้แต่จะเร็วกว่ากระรอกแดงเหรอ? ต้องรู้ว่า เสี่ยวหมิงมีผลการต่อสู้ที่สามารถล้มหู่จือกับเป้าจือได้! มันคือนักสู้ที่มีทั้งความฉลาดปราดเปรื่อง ความกล้าหาญพละกำลังเคียงคู่กับความเร็วในหมู่กระรอกแดง
มองดูเด็กหญิงตัวน้อยที่คลานเข้ามาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความฮึกเหิมอย่างใจเย็น รอจนเธอคลานมาถึงตรงหน้า กระรอกน้อยก็ใช้กลยุทธ์แบบเดินหน้าไม่ยอมถอย ปีนเข้าไปในอ้อมอกของเด็กน้อยแล้วหายวับไปกับตา
พอเป็นแบบนี้เถียนกวาก็เริ่มรู้สึกใจคอแห้งเหี่ยวแล้ว เธอกะพริบตาปริบๆ อย่างงงงวย เธอไม่เห็นเสี่ยวหมิงแล้ว ผ่านไปสักพักถึงรู้ว่า มันคลานมาอยู่ใต้ตัวเธอ
ด้วยเหตุนี้เด็กน้อยจึงตัดสินใจอย่างเหี้ยมโหด นอนลงไปเลยทันที…
ฉินสือโอวหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก เสี่ยวหมิงอาจจะถูกทับตายได้เลยนะ เขาจึงรีบเข้าไปช่วยชีวิตมันออกมา
หลังจากเดินเข้าไปถึงได้พบว่า เขาไร้เดียงสาเกินไป เสี่ยวหมิงฉลาดขนาดนั้น มันคลานออกไปจากขาทั้งสองข้างของเถียนกวาตั้งแต่แรกแล้ว ไต่ไปตามขาเล็กๆ สั้นๆ ไต่ไปจนถึงบนหลังของเธอ
เสี่ยวเถียนกวาลองแล้วไม่ได้ผล เธอรู้แค่ว่าใต้ตัวเธอไม่มีกระรอกแดงอยู่ เลยต้องคลานขึ้นมาตามหาอีกครั้ง แต่ปรากฏว่าไม่ว่าเธอจะวนดูยังไงก็ยังหากระรอกแดงไม่เจอ
เด็กๆ มักจะลืมอะไรง่ายๆ หาอยู่สักพักแต่ก็ไม่เจออะไร เธอเลยไปเคี่ยวกรำหู่จือกับเป้าจืออีกครั้ง
หู่จือเป้าจือร้อนใจขึ้นมาทันที นี่มันอะไรกัน? ทำไมถึงมาดึงหูของพวกเราอีกแล้วล่ะ?
พวกมันทั้งสองตัวก็นับว่ามีเล่ห์เหลี่ยมเหมือนกัน หู่จือฟาดเสี่ยวหมิงที่อยู่บนหลังของเสี่ยวเถียนกวาให้หล่นลงมาข้างล่าง
เสี่ยวหมิงโมโหสุดๆ มันอดแสยะปากยิงฟันทำท่าขู่ใส่หู่จือไม่ได้
หู่จือส่งสายตาเหยียดหยามให้มัน มาสิ ถ้ากล้าก็มาชนกับฉัน ฉันจะรอดูว่าแกจะล้มฉันอย่างไร!
ครั้งแรกที่ได้พบกัน พวกมันกลับถูกกระรอกที่ตัวเล็กกว่าพวกมันห้าหกเท่าล้ม ความอัปยศอดสูนี้จะถูกจดจำไปชั่วชีวิต
มองเห็นเสี่ยวหมิง เสี่ยวเถียนกวาก็แสยะปากหัวเราะเอิ๊กอ๊ากออกมา ยื่นมือเล็กๆ ออกไป จับหางที่มีขนปุกปุยของเสี่ยวหมิงเอาไว้ แล้วออกแรงลากเข้ามาหาอ้อมอกของตัวเอง
เสี่ยวหมิงร้อนใจจนร้องจี๊ดๆ ออกมา ตาเล็กๆ จ้องไปที่ฉินสือโอว รีบมาช่วยกันหน่อย!
เพิ่งจะตื่นนอนในตอนบ่าย พอลงมาข้างล่างแล้วเห็นว่าเสี่ยวเถียนกวากำลังหลับ เธอก็เผยรอยยิ้มของคนเป็นแม่ออกมา
“ช่วยด้วย!” เสียงร้องอย่างอ่อนแรงดังขึ้นมา พอเสี่ยวหมิงมองเห็นวินนี่ มันก็โผล่หัวที่มีขนพันกันยุ่งเหยิงออกมาจากระหว่างแขนของเสี่ยวเถียนกวา ช่วยด้วย
วินนี่เข้ามาดึงแขนของเสี่ยวเถียนกวาออกอย่างเบาๆ แล้วช่วยเสี่ยวหมิงออกมา พร้อมกับช่วยสางขนให้มัน
เสี่ยวหมิงรู้สึกซาบซึ้งจนน้ำตาล้นเอ่อ นี่แหละคนเป็นแม่
สางขนเรียบร้อยแล้ว วินนี่จับเสี่ยวหมิงยัดเข้าไปในอ้อมกอดของเถียนกวาอีกครั้งเหมือนจับตุ๊กตา เด็กหญิงตัวน้อยกอดแขนทั้งสองข้างเข้าหากัน รัดเสี่ยวหมิงไว้อีกครั้ง
เสี่ยวหมิงยังคงมีน้ำตาล้นเอ่อ เป็นแม่จริงๆ แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช่แม่แท้ๆ ของตัวเอง…
…………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset