ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1148 ออกทีวีอีกแล้ว

สาเหตุที่แซนเดอร์สต้องยื่นคำร้องต่อฉินสือโอว ก็เพราะกังวลว่าในระหว่างขั้นตอนการเพาะเลี้ยงแมงกะพรุนเวเลลลาแสงราตรี อาจจะเกิดปัญหาการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ขึ้นอีกครั้ง
แมงกะพรุนมีความสามารถให้การแพร่พันธุ์ที่น่าตกใจ ถ้าจะเพาะพันธุ์สิ่งมีชีวิตชนิดนี้ ก็จะต้องเตรียมตัวป้องกันวิกฤติการณ์การแพร่ระบาดของกลุ่มสัตว์ในถิ่นที่อยู่อาศัยเอาไว้ด้วย
แมงกะพรุนต่างชนิด มีวิธีการสืบพันธุ์ที่แตกต่างกัน แต่สามารถแพร่พันธุ์ได้อย่างดีเยี่ยมทั้งสิ้น ไม่อย่างนั้นพวกมันคงไม่ได้มีชีวิตอยู่บนโลกมานานขนาดนี้ เมื่อก่อนในยุคไดโนเสาร์ แมงกะพรุนก็ปรากฏตัวอยู่ในท้องทะเลแล้ว ยาวนานต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ สิ่งมีชีวิตในยุคเดียวกันกับมันต่างก็สูญพันธุ์ไปหมดแล้ว ไม่รู้ว่าพวกมันได้พบเห็นโลกที่วิบัติเปลี่ยนแปลงมามากเท่าไรแล้ว แต่พวกมันก็ยังมีชีวิตอยู่ได้เป็นอย่างดี…
หลายวันมานี้ฉินสือโอวศึกษาแมงกะพรุนอยู่โดยตลอด ดังนั้นเขาจึงเข้าใจความหมายของแซนเดอร์ส จึงพูดว่า “สามารถเพาะพันธุ์พวกมันได้ครับ พวกเรามีเต่ามะเฟืองอยู่ที่นี่ด้วย ไม่ต้องกลัวการแพร่ระบาดขนาดเล็กของพวกมัน”
ที่จริงเขาก็มีความคิดที่จะเพาะพันธุ์แมงกะพรุนเหมือนกัน เพราะอย่างแรกสามารถใช้เป็นอาหารให้เต่ามะเฟืองได้ อย่างที่สองจะได้ลองดูว่าสามารถบุกเบิกชนิดพันธุ์แบบใหม่ได้ไหม ถ้าเขาเป็นคนเพาะพันธุ์ เขาจะสามารถควบคุมขนาดได้อย่างแน่นอน การแพร่ระบาดของแมงกะพรุนไม่ใช่เรื่องที่น่าสนุกเลยจริงๆ
อนุมัติหัวข้อวิจัยให้แซนเดอร์สเสร็จแล้ว ฉินสือโอวก็ใช้ตู้ปลาอันเล็กมาใส่แมงกะพรุนเวเลลลาแสงราตรีสองตัว เพื่อที่จะเอาไปเซอร์ไพรซ์วินนี่
แต่ปรากฏว่าพอลองคิดๆ ดูเขาก็วางตู้ปลาอันเล็กลงอีกครั้ง ตอนกลางคืนน่าจะดีกว่า จะได้สร้างโลกแห่งความฝันในยามค่ำคืนให้วินนี่ดู
หลังจากกลับมาที่วิลล่า วินนี่กำลังดูแลต้อนรับผู้คนจำนวนหนึ่งอยู่ คนเหล่านี้สวมเสื้อผ้าแบบทางการ มีบางคนกำลังถือไมโครโฟนไว้ในมือ บางคนก็มีกล้องวางไว้ที่ข้างเท้า
ฉินสือโอวนึกว่าคนของบันทึกสถิติโลกกินเนสส์มาที่นี่อีกครั้ง แต่เมื่อสังเกตดูดีๆ ก็เห็นว่าบนเสื้อผ้าของพวกเขามีโลโก้สถานีโทรทัศน์ช่องไอทีวีของนิวฟันด์แลนด์ ที่แท้ก็เป็นนักข่าวของช่องทีวีนั่นเอง
พอมองเห็นฉินสือโอว วินนี่ก็พูดขึ้นมาว่า “โอ้ ดีจัง ฉันกำลังจะโทรศัพท์ไปเรียกให้คุณกลับมาอยู่พอดีเลยค่ะ มีช่องทีวีมาขอสัมภาษณ์ฟาร์มปลาของพวกเรา คุณไปต้อนรับพวกเขาหน่อยนะคะ”
ฉินสือโอวจับมือทักทายกับบรรดานักข่าว นักข่าวที่ทำหน้าที่ในการสัมภาษณ์บอกวัตถุประสงค์ในการมาครั้งนี้ให้เขาฟังคร่าวๆ หัวข้อในการสัมภาษณ์ก็คือภัยพิบัติจากแมงกะพรุนในครั้งนี้ เนื่องจากฉินสือโอวเป็นคนค้นพบวิกฤตการณ์ก่อนแล้วหลังจากนั้นก็โทรไปแจ้งกรมประมง และฟาร์มปลาของเขายังประสบกับภัยพิบัติเบาที่สุด ดังนั้นจึงทำให้ได้รับความสนใจจากทางสถานีโทรทัศน์
ชาวแคนาดาให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ของตัวเองมากๆ ดังนั้นการสัมภาษณ์ของสถานีโทรทัศน์จึงได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี เวลาดูทีวีที่เป็นการถ่ายทอดสดไม่ใช่การถ่ายทอดหลังการตัดต่อ จะเห็นได้ว่าอยู่ๆ ก็มีวัยรุ่นมาปรากฏตัวในฉากอยู่เป็นประจำ
ทั้งสองฝ่ายปรึกษาหารือปัญหาร่วมกันก่อน หลังจากนั้นฉินสือโอวก็พาพวกเขาไปที่ริมทะเล
นักข่าวทอดสายตามองออกไปไกลๆ สิ่งที่ปรากฏอยู่ในสายตาทั้งหมดก็คือน้ำทะเลสีฟ้าสด มีซากแมงกะพรุนเกยตื้นอยู่ตรงไหนกัน? เขาจึงเผลอถามออกมาว่า “ฟาร์มปลาของคุณไม่ได้ประสบภัยพิบัติจากแมงกะพรุนเหรอครับ?”
ฉินสือโอวหัวเราแหะๆ แล้วตอบเขาว่า “ไม่ใช่ครับ เพียงแต่ว่าหลังจากพบปัญหาพวกเราก็ดำเนินการจัดการในคืนนั้นเลย แมงกะพรุนพวกนั้นถูกส่งไปไว้ในห้องแช่เย็นเรียบร้อยแล้ว ผมวางแผนไว้ว่าหลังจากนี้จะจัดการทำเป็นหัวอาหารให้ปลาและกุ้งแล้วโปรยลงไปในทะเล”
หลังจากการสัมภาษณ์ นักข่าวก็บอกว่าพวกเขาจะรายงานข่าวในรายการพิเศษภาคค่ำ จะมีการสัมภาษณ์ของเขาอยู่ด้วย ขอให้เขารอติดตามดู
ขณะที่กำลังทานอาหารเย็น วินนี่เปิดทีวีช่องไอทีวีนิวฟันด์แลนด์ นี่เป็นช่องทีวีท้องถิ่นที่มีความสำคัญมาก มีฐานะใกล้เคียงกับสถานีโทรทัศน์ภูมิภาคในประเทศจีน ได้ออกรายการพิเศษในช่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ
รายการเริ่มแล้ว อันดับแรกคือการให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับภัยพิบัติจากแมงกะพรุนในครั้งนี้
พื้นที่ที่ประสบกับภัยพิบัติในครั้งนี้ไม่ใช่แค่น่านน้ำนิวฟันด์แลนด์ที่เดียว แต่ยังมีน่านน้ำของรัฐโนวาสโกเชียอีกด้วย แต่นิวฟันด์แลนด์ยังเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด ฤดูใบไม้ผลิลมตะวันออกเฉียงใต้พัดกระหน่ำแรง ลมทะเลพัดแมงกะพรุนเข้ามาสู่อ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ ตอนนี้เมื่อดูจากในทีวี จะเห็นว่าบริเวณรอบๆ อ่าวเต็มไปด้วยซากแมงกะพรุนที่ขึ้นมาเกยตื้น
แมงกะพรุนเวเลลลาที่เดิมทีเป็นสีฟ้า เมื่อตายเพราะถูกแสงอาทิตย์ส่องจนสูญเสียน้ำ หลังจากนั้นสีของร่างกายก็เกิดปฏิกิริยาเคมีจนกลายเป็นสีดำอ่อน หาดทรายสีขาวราวกับหิมะก็เลยกลายเป็นสีดำอ่อนๆ ดูแล้วทำให้รู้สึกตกตะลึงต่อภาพที่พบเห็นเป็นอย่างมาก
ฉินสือโอวทอดถอนใจ “โชคดีที่พวกเราลงมือเร็ว ถ้าชายหาดในฟาร์มปลาของเราก็กลายเป็นแบบนั้นเหมือนกันละก็…”
พอพูดจบเขาก็ส่ายหัวไปมา ทำได้แค่ถอนหายใจจริงๆ
หลังจากเล่าถึงสถานการณ์ของภัยพิบัติในครั้งนี้ไปแล้ว ทางรายการก็ได้ดำเนินการบอกเล่าข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่แพร่หลาย อันดับแรกเล่าถึงชนิดของแมงกะพรุนและสถานการณ์การแพร่พันธุ์ของพวกมัน และได้ชี้แจงถึงปัญหาการแพร่พันธุ์เป็นอย่างแรก
แมงกะพรุนสืบพันธุ์ผ่านตุ่มหนวด หลังจากร่างกายของตัวเมียจมลงสู่ใต้ท้องทะเล จะสามารถเคลื่อนย้ายไปกับพืชใต้ท้องทะเลได้ ขณะที่กำลังเคลื่อนย้าย พวกมันก็จะแตกหน่อออกมาแล้วเก็บตุ่มหนวดเอาไว้ด้านบน
ถ้าเวลาและปัจจัยอื่นๆ เอื้ออำนวยตุ่มหนวดเหล่านั้นก็จะสามารถแพร่พันธุ์โพลิปออกมาได้มากยิ่งขึ้น และตัวมันเองก็จะกระจายตัวซ้ำๆ ถึงแม้ว่าเริ่มแรกตัวเมียจะปล่อยไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิแค่ไม่กี่หมื่นฟอง แต่สุดท้ายก็จะกลายเป็นโพลิปหลายพันล้านตัว!
รอจนโพลิปโตขึ้นอีกขั้น ลูกแมงกะพรุนก็จะแตกกระจายกันออกมาทีละตัวๆ ท้ายที่สุดจะมีปริมาณมากถึงหลายหมื่นล้าน
ที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็คือแมงกะพรุนอมตะ แมงกะพรุนชนิดนี้มีขนาดเล็กมาก แค่ห้ามิลลิเมตรเท่านั้น ตั้งแต่พวกมันเติบโตจากเล็กจนโต จนถึงช่วงโตเต็มวัยหลังจากการผสมพันธุ์ จะไม่มีทางตาย แต่จะกลับไปเป็นเด็กโดยฉับพลัน จะกลายไปเป็นตัวอ่อนแล้วหลังจากนั้นก็จะเจริญเติบโตขึ้นอีกครั้ง น่าเหลือเชื่อมากจริงๆ…
ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลจำนวนมากในแต่ละประเทศต่างก็กำลังวิจัยแมงกะพรุนชนิดนี้อยู่ ในสภาพแวดล้อมที่มีทรัพยากรอยู่อย่างเหมาะสม แมงกะพรุนชนิดนี้จะเป็นอมตะไม่มีวันตาย ผ่านวัฏจักรชีวิตครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้ามองจากมุมนี้ก็เหมือนกับฟีนิกซ์ไฟในตำนานที่เป็นสัตว์แห่งสรวงสวรรค์เลย
ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่น่ากลัวมากๆ นั่นก็คือโพลิปของแมงกะพรุนไม่ได้แค่มีปริมาณมหาศาลเท่านั้น แต่พวกมันยังสามารถหลับและหยุดการเจริญเติบโตได้อีกด้วย
หรือพูดอีกอย่างว่า ในตอนที่โลกภายนอกมีปัจจัยที่ไม่เหมาะสมกับการแพร่พันธุ์และเจริญเติบโต พวกมันสามารถเข้าสู่การนอนหลับและหยุดการเจริญเติบโตไว้ได้ สามารถหยุดการเจริญเติบโตไว้ได้นานกว่าร้อยปี ถ้ามีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมตอนไหน พวกมันก็จะกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง
แต่นี่ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เกิดการระบาดของแมงกะพรุน ถึงแม้ว่าความสามารถในการสืบพันธุ์ของพวกมันจะสุดยอดขนาดนี้ แต่เมื่อก่อนพวกมันก็ทำได้แค่ประคับประคองชีวิตให้อยู่รอดไปวันๆ เท่านั้น ไม่ได้แพร่ระบาดอย่างกำเริบเสิบสานเหมือนอย่างตอนนี้
จากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญด้านทะเลที่สถานีโทรทัศน์ได้เชิญมา การแพร่ระบาดของแมงกะพรุนขึ้นอยู่กับสองสาเหตุ หนึ่งคือศัตรูทางธรรมชาติลดน้อยลง ส่วนอย่างที่สองคือปรากฏการณ์เรือนกระจกทำให้เกิดสภาพแวดล้อมในการอยู่อาศัยแบบอุดมคติ ปรากฏการณ์ยูโทรฟิเคชั่นทำให้มีอาหารอยู่อย่างเต็มอิ่ม
ในระหว่าง 60 ปีที่ผ่านมา มนุษย์หาปลาได้จากทะเลเป็นจำนวนสามพันล้านตัน นี่ล้วนแต่เป็นสัตว์ที่เกิดตามธรรมชาติ ไม่ได้เกิดจากการเพาะพันธุ์ของมนุษย์ ในขณะเดียวกันมนุษย์ก็ปล่อยขยะมากกว่าสามพันล้านตันลงสู่ทะเล ดังนั้นทั่วทั้งมหาสมุทรจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นครั้งใหญ่
นอกจากนี้ สังคมของมนุษย์ก็พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว สร้างขยะจากอุตสาหกรรมและขยะจากการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมหาศาล มลพิษก็ยิ่งทำให้สารอาหารที่เหลืออยู่ในทะเลลดน้อยลงไปเรื่อยๆ เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงทำให้พืชจำพวกสาหร่ายเอ่อล้นขึ้นมา ปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ สาหร่ายไส้ไก่แพร่ระบาดอย่างรุนแรง ดังนั้นเมื่อพืชจำพวกสาหร่ายให้อาหารกับแพลงก์ตอนอย่างเต็มอิ่ม แพลงก์ตอนจึงสามารถสืบพันธุ์ได้เป็นปริมาณมาก แมงกะพรุนที่กินแพลงก์ตอนเป็นอาหาร ก็เริ่มใช้อำนาจบาตรใหญ่เที่ยวออกระราน
การแพร่ระบาดของแมงกะพรุน มีเบื้องหลังคือแหล่งทรัพยากรปลาทะเลที่เหี่ยวแห้ง ห่วงโซ่อาหารใต้ท้องทะเลปรากฏเป็นโครงสร้างแบบพีระมิดมาโดยตลอด ตั้งแต่สาหร่ายไดอะตอมที่อยู่ชั้นล่างสุด สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวไปจนถึงปลาใหญ่และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมทางทะเลที่อยู่บนยอดสูงสุด โครงสร้างนี้มีความมั่นคงมาเป็นเวลาหลายร้อยล้านปี
แต่การแพร่ระบาดของแมงกะพรุน ทำให้พวกมันแย่งแพลงก์ตอนไปเป็นจำนวนมาก จนทำให้แหล่งอาหารของปลาทะเลเกิดการขาดแคลน ห่วงโซ่อาหารใต้ทะเลจึงถูกทำลายลง ดังนั้น บรรดาเจ้าของฟาร์มปลาถึงได้ให้ความสำคัญกับปัญหาแมงกะพรุนระบาดมากขนาดนี้
สำหรับทั่วทั้งมหาสมุทร การแพร่ระบาดของแมงกะพรุนจำนวนมากอาจจะส่งกระทบต่อโดยรวมไม่มาก แต่สำหรับพื้นที่แห่งหนึ่งในฟาร์มเพราะพันธุ์ นี่ถือว่าเป็นภัยพิบัติ
ในข่าว ภาพถูกตัดไปที่ฟาร์มปลาแต่ละแห่งอย่างต่อเนื่อง บนชายฝั่งมีแต่ซากแมงกะพรุนที่เกยตื้นขึ้นมา ส่วนในน้ำทะเลก็มีซากปลาตายที่ลอยหงายท้องขึ้นมา มีฟาร์มปลาบางแห่งที่เพิ่งจะปล่อยลูกพันธุ์ปลาลงไปเลี้ยงในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่ลูกพันธุ์ปลาพวกนั้นก็วอดวายไปหมดแล้ว!
………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset