ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1149 แผนความคิดที่ได้รับการยอมรับ

ผู้ดำเนินรายการใช้น้ำเสียงที่สื่อถึงความเสียใจในการบรรยายถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์จากแมงกะพรุนที่แพร่ระบาดในครั้งนี้ โดยเฉพาะที่อ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ ที่มีสภาพเหมือนกับกรุงเบอร์ลินของประเทศเยอรมนีตอนที่เพิ่งจะผ่านพ้นสงครามโลกครั้งที่สองมา เรียกได้ว่าน่ารันทดพอๆ กัน ฉินสือโอวคาดการณ์ว่าเมื่อรวมกับเรื่องเชื้อแบคทีเรียแก๊ฟคี่ในกุ้งมังกรแล้ว อ่าวแห่งนี้ต้องใช้เวลาประมาณสี่ถึงห้าปีถึงจะสามารถฟื้นคืนสู่สภาพเดิมได้
ในระหว่างนั้นทางรายการได้สัมภาษณ์เจ้าของฟาร์มปลาไปแล้วหลายคน ทุกคนต่างก็ทำหน้าเศร้าเหมือนอยากจะร้องไห้ ให้สัมภาษณ์ว่าฟาร์มปลาของตัวเองเสียหายไปเท่าไร หลังจากนั้นก็พูดถึงคำร้องขอ บอกว่าอยากให้กรมประมงออกนโยบายเพื่อช่วยเหลือการพัฒนาฟาร์มปลา
ที่จริงแล้วธุรกิจประกันภัยในแคนาดามีความรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก บรรดาเจ้าของฟาร์มปลาล้วนซื้อประกันภัยประเภทต่างๆ ไว้ให้ฟาร์มปลาของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น แต่ความเฮงซวยก็คือ ประกันภัยของแคนาดาไม่ได้รวมภัยพิบัติจากแมงกะพรุนไว้ในข้อตกลงที่ได้รับการคุ้มครอง ดังนั้นภัยพิบัติในครั้งนี้ บริษัทประกันจะไม่ดำเนินการชดเชยค่าเสียหายให้
ท้ายที่สุดแล้ว เพราะในประวัติศาสตร์ของแคนาดาไม่เคยประสบกับภัยพิบัติจากการแพร่ระบาดของแมงกะพรุนมาก่อน ปรากฏว่าพอเกิดการระบาดขึ้นมา เจ้าของฟาร์มปลาระดับล่างจึงตกอยู่ในความมืดบอด
หลังจากรายงานสถานการณ์ภัยพิบัติไปแล้ว ภาพบรรยากาศก็หมุนเปลี่ยนไปจากเดิม ฟ้าครามเมฆขาวท้องทะเลใสสะอาดกับหาดทรายบริสุทธิ์ปรากฏขึ้นบนจอทีวี เมื่อมองเห็นภาพบรรยากาศแบบนี้ กอร์ดอนก็ส่งเสียงโห่ร้องออกมาด้วยความดีใจ “นั่นมันฟาร์มปลาของพวกเรานี่!”
คาดว่าผู้รับชมทุกคนคงกำลังรู้สึกประหลาดใจ ช่วงแรกรายการนี้กำลังรายงานถึงความเสียหายที่เกิดจากภัยพิบัติอย่างหนักหน่วง ทำไมตอนท้ายถึงได้มีวิวทิวทัศน์ริมชายฝั่งที่สวยงามปรากฏขึ้นมาได้ล่ะ? หรือว่านี่จะเป็นโฆษณาการท่องเที่ยวคั่นรายการ?
สถานีโทรทัศน์ขนาดใหญ่มีมาตรฐานที่เหนือชั้น ไม่เสียแรงที่ฉินสือโอวให้พวกเขายืมเฮลิคอปเตอร์เพื่อดำเนินการถ่ายภาพจากมุมสูง ภาพที่ถ่ายออกมาสามารถฟื้นคืนทัศนียภาพของฟาร์มปลาในดินแดนอุดมคติได้ดีมาก
ต่อจากนั้นฉินสือโอวที่กำลังใช้มือเท้าเอวก็ปรากฏตัวขึ้นบนหน้าจอ นักข่าวสัมภาษณ์เข้าว่า “จากการตรวจสอบทำให้พวกเราทราบว่า คุณคือคนที่ค้นพบภัยพิบัติในครั้งนี้ ไม่ทราบว่าคุณสังเกตเห็นมันได้อย่างไรครับ?”
ฉินสือโอวยกความดีความชอบให้แซนเดอร์ส ฝึกเขาให้พร้อม เวลาจำเป็นจะได้ใช้งานได้ “คืออย่างนี้ครับ ผมกับภรรยาไปเดินเล่นที่ริมทะเลตามความเคยชิน เย็นวันนั้นพวกเราเห็นแมงกะพรุนเวเลลลาถูกคลื่นทะเลพัดขึ้นมากองอยู่บนชายหาด ดังนั้นพวกเราเลยรู้สึกแปลกๆ เพราะเมื่อก่อนไม่เคยมีแมงกะพรุนปรากฏตัวขึ้นเยอะขนาดนี้มาก่อน”
“หลังจากนั้นผมจึงเชิญที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีในฟาร์มปลาของพวกเรา ซึ่งก็คือศาสตราจารย์แซนเดอร์สนักชีววิทยาทางทะเลชื่อดังให้มาช่วยดู เขาเป็นคนวินิจฉัยได้ว่าเกิดวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของแมงกะพรุนขึ้น”
กล้องถูกหมุนไปอีกทาง แซนเดอร์สโบกมืออย่างคนเห่อกล้อง กลายเป็นคนที่สองของฟาร์มปลาที่ได้ปรากฏตัวต่อสายตาของสาธารณชน
หลังจากนั้น นักข่าวก็ถามถึงวิธีและประสบการณ์การควบคุมดูแลวิกฤตการณ์แมงกะพรุนของพวกเขา เรื่องนี้ไม่มีอะไรให้ต้องปกปิด ฉินสือโอวอธิบายวิธีการไล่แมงกะพรุนออกไปอย่างละเอียด ในตอนท้ายยังได้โชว์แมงกะพรุนแห้งที่พวกเขาเก็บไว้ในห้องแช่เย็นให้ดูอีกด้วย “หลังจากนี้นี่จะสามารถนำมาทำเป็นอาหารสำหรับปลาได้ มาจากธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีสารปนเปื้อน”
การสัมภาษณ์สิ้นสุดลง ต่อจากนั้นก็มีผู้เชี่ยวชาญออกมาทำการวิเคราะห์อีก เขาวิเคราะห์ถึงประสบการณ์ของฟาร์มปลาต้าฉินที่สามารถต่อต้านและโต้ตอบภัยพิบัติจากแมงกะพรุนได้สำเร็จ
ที่จริงแล้วมันจะมีประสบการณ์บ้าบออะไรกัน สาเหตุก็มีอยู่อย่างเดียวเท่านั้น ก็คือเงินเยอะคนเยอะ!
ประสบการณ์การควบคุมดูแลของฉินสือโอวไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับฟาร์มปลาทั่วๆ ไปเลย พวกเขาจะไปเตรียมเรือจำนวนมากขนาดนั้นมาจากที่ไหน? จะไปหาชาวประมงที่มีมานะอดทนจำนวนมากขนาดนี้มาได้อย่างไร? แล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ พวกเขาจะไปหาสายการผลิตปลาโบนิโตอบแห้งทั้งสองสายมาจากที่ไหน?
ดูรายการจบแล้ว ภาพยนตร์ภัยพิบัติครั้งใหญ่จากแมงกะพรุนในครั้งนี้ก็ฉายมาได้พอสมควรแล้วเช่นกัน แมงกะพรุนระบาดอย่างรวดเร็วแต่ก็จบเห่ลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน หลังจากที่พวกมันเข้ามาสู่แถบชายฝั่งทะเล นั่นก็หมายความว่าชีวิตของพวกมันเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว คลื่นทะเลสาดซัดคลื่นลมพัดกระหน่ำ แมงกะพรุนขึ้นมาอยู่บนชายหาด หลังจากนั้นก็ดับดิ้นสิ้นลม
วิกฤตการณ์เกิดขึ้นต่อเนื่องกันเพียงหนึ่งสัปดาห์ ทว่าความเสียหายที่สร้างให้กับฟาร์มปลา กลับมีมหาศาล!
ฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูกาลที่ฟาร์มปลาหลายๆ แห่งจะปล่อยลูกพันธุ์สัตว์น้ำอย่างปลาและกุ้งลงไปเพาะเลี้ยง พวกแมงกะพรุนพากันกินลูกปลาเข้าไป พวกแมงกะพรุนเป็นอันตรายต่อปลาเล็กทุกชนิด แต่อันตรายที่มีต่อลูกปลาลูกกุ้งจะมีมากยิ่งกว่า
ความรุนแรงที่พวกมันมีต่อปลาใหญ่ มีต้นเหตุมาจากการแย่งออกซิเจนในน้ำ แต่ความอันตรายของพวกมันที่มีต่อลูกพันธุ์ปลาคือการใช้พิษในหนวดฆ่าลูกปลาพวกนี้เพื่อกินเป็นอาหาร แมงกะพรุนที่มีจำนวนมากขนาดนี้ มีลูกปลาลูกกุ้งกี่ตัวที่ต้องเป็นอาหารให้กับพวกมัน?
เรื่องนี้ที่ฟาร์มปลาต้าฉินก็เกิดความเสียหายเช่นกัน ถึงแม้ว่าเขาจะจัดการแมงกะพรุนได้ทันการ ทั้งยังจัดการได้อย่างรวดเร็ว แต่หลังจากที่แมงกะพรุนเข้ามาในฟาร์มปลาพวกมันก็เริ่มกลืนกินแพลงก์ตอนในน้ำอย่างต่อเนื่อง ปล้นอาหารไปจากปลากับกุ้งที่เป็นสัตว์ชั้นล่าง
หากมองดูจากบนผิวน้ำจะเห็นผลกระทบที่แมงกะพรุนมีต่อฟาร์มปลาต้าฉินได้ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไร ฉินสือโอวใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนจึงสามารถสัมผัสได้ว่า ที่ก้นทะเลของฟาร์มปลามีซากของกุ้งแดงอยู่เป็นจำนวนมาก พวกมันทั้งหมดตายเพราะไม่มีอาหารให้กิน
ในช่วงเวลานี้ต้องพึ่งความสามารถในการฟื้นฟูของฟาร์มปลา ให้ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ใต้ทะเลเริ่มแสดงความสามารถในการปรับตัวที่เข้มแข็งและยิ่งใหญ่ของพวกมันออกมา
สาหร่ายใต้ทะเลทุกชนิดเป็นรากฐานของฟาร์มปลา พวกมันไม่เพียงแต่เป็นอาหารของลูกกุ้งและลูกปลาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เมื่อสาหร่ายทะเลบางส่วนตายแล้วร่วงหล่นลงไปที่ใต้ทะเล หลังจากเกิดการเน่าเปื่อยก็จะกลายเป็นอาหารและแหล่งที่พักอาศัยของแพลงก์ตอนที่มีชีวิตอยู่ใต้ก้นทะเล
พอฉินสือโอวถึงฟาร์มปลาเขาก็เริ่มปลูกสาหร่ายชนิดต่างๆ เลยทันที โดยเฉพาะการปลูกหญ้าปลาไหล ที่ทำให้ก้นทะเลของฟาร์มปลาเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา
ด้วยการเก็บสะสมภายในระยะเวลาสองปี ทำให้ได้ผืนสาหร่ายหนาๆ ใต้ทะเลมา พวกมันผสมปนกันอยู่ในโคลนทรายใต้ทะเลแล้วค่อยๆ เน่าเปื่อยลงไปอย่างช้าๆ แพลงก์ตอนอาศัยพวกมันในการดำรงชีวิต ด้วยการรับเอาพลังงานและสารอาหารบำรุงร่างกายเข้าไป แร่อนินทรีย์ที่เหลือจะถูกแยกสังเคราะห์ออกมา แล้วผสมกันเข้ากับโคลนทะเล ช่วยเพิ่มสารอนินทรีย์ให้กับฟาร์มปลา
ความช่วยเหลือที่สาหร่ายทะเลนำมาให้ฟาร์มปลาไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ถ้าฉินสือโอวให้ความใส่ใจกับมัน หลังจากนี้อีกหลายปี เขาจะสามารถขุดโคลนสาหร่ายใต้ทะเลขึ้นมาได้ นี่คือแป้งทาสีสำหรับการตกแต่งที่ดีต่อสุขภาพ เป็นหนึ่งในสีทาเคลือบที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมที่สุดชนิดหนึ่งในปัจจุบัน
ในอุตสาหกรรมการประดับตกแต่งบ้านเรือน เพราะความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของโคลนสาหร่าย กับการตกแต่งและการใช้งานที่ทนทาน จึงเป็นผลให้มันถูกมองว่าเป็นวัสดุสำหรับการตกแต่งภายในชนิดใหม่ที่สามารถมาแทนที่วอลล์เปเปอร์กับสีน้ำผสมกาวยางได้
ถ้านำโคลนสาหร่ายไปสกัดเพิ่มอีกขั้น แร่ธาตุที่สกัดออกมาจะสามารถนำไปผลิตเป็นโคลนมาสก์หน้าได้ และนั่นก็จะกลายเป็นห่วงโซ่สินค้าอันใหม่ ที่ทำให้สามารถยกทัพเข้าสู่อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางได้
แน่นอนว่าถ้าเขาไม่ทำก็ไม่มีปัญหาอะไร โคลนสาหร่ายของฟาร์มปลามีพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนอยู่ด้วย หากนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเครื่องสำอางก็จะมีความเหมาะสมยิ่งกว่า ถ้าทำเคมีวิเคราะห์กับโคลนสาหร่ายของฟาร์มปลา คาดว่าบริษัทเครื่องสำอางใหญ่ๆ หลายแห่งก็คงจะแอบแย่งกันมาขุดโคลนสาหร่ายชั้นล่างของฟาร์มปลา
พวกนี้เป็นเรื่องที่ต้องคุยกันทีหลัง ในตอนนี้หวังแค่ว่าฟาร์มปลาจะสามารถแสดงประสิทธิภาพในการปรับตัว และช่วยชดเชยแพลงก์ตอนที่ถูกแมงกะพรุนกินเข้าไปได้ก็พอ ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพียงแต่ต้องใช้เวลาในการคลี่คลายเล็กน้อย
ชาร์คถามว่าหรือระยะนี้จะโปรยอาหารลงไปก่อน อาหารสำหรับกุ้งแดง ปลาแฮร์ริ่ง ปลาซาบะอะไรพวกนั้นก็พอจะมี เครื่องบินแทรกเตอร์ที่ไม่ได้ถูกใช้งานมานาน อย่างไรก็คงต้องเอาออกมาใช้งานบ้าง
ฉินสือโอวส่ายหน้าปฏิเสธ บอกว่า “ปล่อยให้ฟาร์มปลาฟื้นคืนสภาพเดิมด้วยตัวมันเอง ฉันวางแผนไว้ว่าจะยื่นขอการรับรองเป็นฟาร์มปลาเพาะเลี้ยงบริสุทธิ์ตามธรรมชาติของแคนาดา จะใช้พวกหัวอาหารกับสารเคมีทางการเกษตรไม่ได้”
ชาร์คพูดขึ้นมาอย่างฉับพลันทันที “พวกเราจะขอการรับรองเป็นฟาร์มปลาเพาะเลี้ยงบริสุทธิ์ตามธรรมชาติเหรอครับ? ว้าว ถ้าขอการรับรองผ่าน แบบนั้นก็ดีเลยล่ะ”
สิ่งที่เรียกว่าการรับรองฟาร์มปลาเพาะเลี้ยงตามธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ก็เหมือนกับการรับรองผักออร์แกนิค เนื้อสัตว์ออร์แกนิคของฟาร์มเกษตรกับฟาร์มเลี้ยงสัตว์นั่นเอง อย่างหลังคือผักและธัญพืชที่ผลิตโดยฟาร์มที่ได้รับการรับรองระดับประเทศว่าไม่ผ่านการดัดแปลงทางพันธุกรรม และในระหว่างนั้นก็ไม่มีการใช้ยาและปุ๋ยที่มีส่วนผสมของสารเคมี ส่วนอย่างแรกก็คืออาหารทะเลที่เกิดจากการเพาะพันธุ์และอาหารทะเลที่จับมาจากทะเลน้ำลึกโดยฟาร์มปลาที่ได้รับการรับรองระดับประเทศว่าเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นอาหารทะเลที่ได้รับการเพาะเลี้ยงโดยปราศจากการให้หัวอาหารและไม่ใช้สารเคมีทางการเกษตร แบบนี้จะยิ่งทำให้ขายได้ราคาสูงขึ้น
ฟาร์มปลาต้าฉินมีทรัพยากรการประมงที่อุดมสมบูรณ์เกินไป จะอาศัยการขายอาหารทะเลภายใต้แบรนด์ต้าฉินอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ฉินสือโอวจะเก็บทรัพยากรการประมงเหล่านี้ไว้ในฟาร์มปลาเฉยๆ ไม่ได้ ต้องทำการจำหน่ายผ่านวิธีการอื่นด้วย
……………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset