ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1157 สุดท้ายก็ยังถูกขี่

กินข้าวกลางวันกันอย่างสนุกสนานแล้ว ไม่รู้ว่าคนอื่นๆ จะรู้สึกอย่างไร ฉินสือโอวรู้สึกว่าตัวเองกินได้ฟินมาก ไม่ได้เกี่ยวกับรสชาติ พ่อแม่ลูกเมียอยู่ข้างกายหมด อาหารที่กินก็ทำเอง ความรู้สึกเลยไม่เหมือนกัน
ตอนบ่ายยังคงขุดผักป่า พ่อแม่ของฉินสือโอวสนใจมาก ผ่านการล่าหมูป่ารอบนั้น พ่อของฉินสือโอวเข้าใจแล้วว่าตัวเขาเองไม่ใช่คนที่เหมาะกับการเล่นปืน จากนั้นจึงตั้งใจขุดผักป่ากับภรรยาขึ้นมา
หลักๆ ที่ทั้งสองตามหาคือผักกระเป๋าเงินของคนเลี้ยงแกะ อันนี้วันหลังเอาไว้ใช้ห่อเกี๊ยวและเกี๊ยวน้ำ ฟาร์มปลาคนเยอะขนาดนี้ ทำครั้งเดียวก็สามารถกินได้เป็นกอง ดังนั้นถ้าเก็บไปน้อยก็จะไม่มีประโยชน์
เดินอยู่บนเขาจนถึงสี่โมง พ่อแม่ของฉินสือโอวถึงได้ลงจากเขาอย่างอาลัยอาวรณ์ สุดท้ายระหว่างทางก็พบเข้ากับไกด์และนักท่องเที่ยว พวกเขาเองก็กำลังเตรียมตัวลงเขา ฉินสือโอวเห็นบางคนยังถือปลาอยู่ในมือ เห็นทีคงได้อะไรจากในแม่น้ำไปไม่น้อย
เห็นกลุ่มฉินสือโอวแบกหญ้าป่าเป็นถุงๆ เอาไว้ ไกด์สองคนเกิดความนับถือขึ้นมา มีคนบอกกับนักท่องเที่ยวว่า “ฉินเป็นคนที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ พวกคุณดูสิ พวกเขากำจัดหญ้าตลอดทางมาจนถึงที่นี่ แล้วยังเอาหญ้าป่าลงเขาไปอีก มันช่าง…”
ไกด์รู้สึกแปลกๆ กำจัดหญ้าสามารถอธิบายได้ แต่จะเอาหญ้าที่กำจัดแล้วลงเขาไปมันคืออะไรกันแน่? รักษาสิ่งแวดล้อมก็คงไม่ทำถึงขนาดนี้ คงต้องใช้โรคย้ำคิดย้ำทำมาอธิบายแล้ว
แต่นักท่องเที่ยวกลับเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น มีบางคนหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้แล้วบอกกับไกด์ว่า “อะไรกัน เพื่อน คนนั้นเขาขึ้นเขามาเก็บผักป่าต่างหาก!”
“อุ๊ย แคนาดาเองก็มีผักป่าด้วยเหรอ? ถ้ารู้แต่แรกก็จะเก็บด้วยสักนิด นี่มันเป็นออร์แกนิคแท้ไม่ปนเปื้อนเลยนะ”
“เพื่อนผักป่าพวกนี้สามารถกินได้เหรอ? คงไม่มีพิษใช่ไหม?”
พ่อของฉินสือโอวทักทายคนกลุ่มนี้อย่างอารมณ์ดี แนะนำผักป่าพวกนี้ให้กับพวกเขา สอนพวกเขาว่าจะหาได้อย่างไร
แต่ไกด์กลับร้อนรนแล้ว “ฉิน พวกคุณสอนพวกเขาเก็บผักป่าไม่ได้นะ ถ้าหากกินแล้วเกิดปัญหาอะไรขึ้นจะยุ่งยากนะ! นอกจากปลา พวกเราไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวหาของในป่ากินกันเองนะ เบอร์รียังไม่ได้เลย”
ฉินสือโอวอธิบายให้พ่อฟัง แล้วพาทุกคนจากไปก่อน
คนทั้งกลุ่มกลับฟาร์มปลาไปอย่างยิ่งใหญ่ มิแรนดายิ้มถามพวกเขาว่าวันนี้ใช้ชีวิตมีความสุขหรือเปล่า วินนี่บอกว่ายอดเยี่ยมเป็นที่สุด เธอได้เรียนรู้อะไรมามากมายที่เมื่อก่อนไม่เคยได้เรียนมาก่อน
ไข่นกที่หาได้ตอนอยู่บนเขาค่อนข้างเยอะ พวกเขาไม่ได้กินจนหมด ฉินสือโอวเองก็ลืมไปแล้วว่าเอามาจากรังนกไหน เลยจะเอาไปไว้ที่ฟาร์มเพาะเลี้ยง ดูว่าจะสามารถเอาของปลอมมาปนกับของจริงได้ไหม ให้พวกไก่เป็ดช่วยฟักให้
ลิงซ์น้อยตามอยู่ข้างหลังอย่างตื่นเต้นคึกคัก หางขนฟูๆ กระดกขึ้นเหมือนกับเสาธง เวลาเดินสวยสง่า มันรู้ว่าไข่นกพวกนี้เป็นผลงานของตัวเอง
ถึงฟาร์มเพาะเลี้ยง พอราชาเจ้าป่าซิมบ้าเข้าใกล้ หมูป่าหลายตัวข้างในก็แตกตื่นขึ้นมาทันที พวกมันวิ่งมาจ้องราชาเจ้าป่าซิมบ้าที่อยู่นอกรั้ว ตัวที่เป็นหัวหน้าชนกระแทกท่อนไม้ทันที
ท่อนไม้ที่ใช้ทำรั้วพวกนี้ บางส่วนก็ถูกหนอนชอนไชหมดแล้ว ดังนั้นจึงถูกหมูป่าชนกระแทกอย่างเอาเป็นเอาตาย จึงทำให้มีสองท่อนที่หักออก
ช่องว่างที่เกิดจากการหักของท่อนไม้สองท่อนมีขนาดใหญ่พอ พวกหมูป่าก็ส่งเสียงร้องแย่งกันออกมา พากันพุ่งเข้ามาใส่แมวป่า
ราชาเจ้าป่าซิมบ้าตกใจมาก ฉินสือโอวเองก็ตกใจมากเหมือนกัน แต่หลังจากนั้นก็นึกขึ้นมาได้ว่า บนตัวของแมวป่ายังมีกลิ่นของเห็ดทรัฟเฟิลเปื่อยเน่าอยู่ คงจะเป็นกลิ่นนี้ที่ไปกระตุ้นหมูป่าเพศเมียเข้าแน่ๆ!
แมวป่าตกใจเพียงสักครู่ มันยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่รู้ว่าถ้าตัวเองไม่รีบวิ่ง คงจะต้องถูกหมูป่ากินเป็นแน่ ดังนั้นมันจึงร้องโหยหวนออกมาหนึ่งครั้ง แล้วรับหันหลังวิ่งทันที หางที่ตั้งตรงเหมือนเสาธงก่อนหน้า ตอนนี้ถูกหนีบไว้ที่ก้นอย่างแน่นหนา…
ฉินสือโอวไม่มีทางช่วยแมวป่า เขาต้องรีบซ่อมรั้วที่พังเสียหาย ไม่อย่างนั้นถ้าหากพวกหมูเพศผู้และกวางป่าวิ่งออกมาคงได้ครึกครื้นกันเป็นแน่
ดังนั้น แมวป่าพึ่งได้แค่ตัวเองเท่านั้น ขยับขาอันสั้นอย่างสุดชีวิต วิ่งอยู่บนสนามหญ้าของฟาร์มปลาไม่หยุด!
ตอนที่อยู่ในป่า มันสามารถหยอกล้อหมูป่าเพศเมียตัวเต็มไวจนหัวหมุนได้ นั่นก็เพราะว่าในป่ามีต้นไม้เป็นที่กำบังมาก ตัวของมันก็เล็ก แมวป่ายังมีความสามารถปีนป่ายได้แต่กำเนิด ดังนั้นพวกหมูป่าถึงทำอะไรมันไม่ได้
ตอนนี้ไม่ได้แล้ว ในฟาร์มปลามีแต่ที่ราบ บางทีมีเนินเล็กๆ หลายลูก นั่นก็ไม่ได้ช่วยอะไร ต้นชูการ์เมเปิลสองต้นที่ใกล้ที่สุดก็อยู่หน้าบ้าน ตำแหน่งจากตรงนี้อยู่ไม่ใกล้เลย
เดิมทีกลุ่มวินนี่ที่กำลังพูดคุยกันอยู่ในบ้าน พวกหู่เป้าฉงหลัวก็หมอบนอนลักไก่อยู่ข้างหลัง ที่ด้านหลังหูของพวกมันสั่นแล้วรีบวิ่งออกไปจากวิลล่า
คนในบ้านต่างก็แปลกใจว่าพวกเจ้าตัวน้อยทำไมถึงไปหมดเลย วินนี่ตามออกไปดู มองเห็นก้อนขนกลิ้งอยู่บนพื้นหญ้าไกลๆ และข้างหลังก้อนขนนั่น ก็มีหมูป่าเพศเมียหลายตัวที่กำลังบ้าคลั่งอยู่…
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ซิมบ้าไปกวนแม่หมูพวกนี้ได้อย่างไร?” มิแรนดาที่ตามออกมาถามวินนี่อย่างสงสัย
ฉินสือโอวไม่ได้บอกเรื่องก่อนหน้านี้ให้กับวินนี่ ไม่อย่างนั้นถ้าให้เธอรู้ว่าตัวเองใช้แมวป่าไปเป็นเหยื่อล่อหมูป่า จะต้องถูกตำหนิอย่างแน่นอน
แบบนี้วินนี่เองก็ไม่รู้เรื่องอะไร ได้ส่ายหัวบอกว่าไม่รู้เรื่อง
มีแค่แบล็คไนฟ์และเบิร์ดสองคนที่รู้เรื่องนี้เท่านั้น พ่อของฉินสือโอวและพี่เขยเคยเห็นหมูป่าไล่ซิมบ้ามาก่อน แต่ฉินสือโอวไม่ได้บอกเหตุผลให้พวกเขา พวกเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
พอเป็นแบบนี้ จึงเป็นคนกลุ่มหนึ่งที่ยืนอยู่ไม่ไกลมองกลุ่มหมูไล่ตามแมวป่าอย่างสนใจ กอร์ดอนยังคิดว่าซิมบ้าไปแหย่พวกมันเล่นเสียอีก เลยตะโกนสุดเสียงว่า “ซิมบ้า สู้ๆ นายจะถูกไล่ตามทันแล้ว!”
ตอนนี้ซิมบ้าเอาแต่รีบวิ่งหนี แม้แต่เรี่ยวแรงจะร้องยังไม่มีเลย มันยังคาดหวังว่าพวกเพื่อนตัวน้อยจะมาช่วยตัวเอง แต่ปรากฏว่าพวกหู่เป้าฉงหลัวยังหมอบดูอยู่เฉยๆ ไม่มาช่วยที่หน้าประตู หลังจากนั้นมันเห็นแม่วินนี่พาคนเดินออกมา มันคิดว่าคงจะช่วยเหลือตัวเอง แต่สุดท้ายคนกลุ่มนั้นกลับให้กำลังใจมันอยู่…
สู้กับผีสิ! ราชาเจ้าป่าซิมบ้าทำได้แต่ขมิบทวารแน่น พุ่งไปทางต้นชูการ์เมเปิลอย่างไม่คิด
แต่ว่าโชคร้ายที่หมูป่าเพศเมียตัวหนึ่งวิ่งเก่งมาก แต่แมวป่ากลับไม่ได้ถนัดเรื่องการจู่โจมระยะไกล พวกมันครองยุทธภพด้วยความคล่องแคล่วและการเดินบนพื้นหิมะ เรื่องการวิ่งระยะไกลแบบนี้ มันยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหมูป่า
ได้ยินเสียงหายใจแรงดังมาจากด้านหลัง ความสิ้นหวังนั่นของซิมบ้า!
ที่ยิ่งสิ้นหวังก็คือ เห็นต้นชูการ์เมเปิลอยู่ข้างหน้าแล้ว ในที่สุดราชาเจ้าป่าซิมบ้าก็ถูกตามทัน หลังจากนั้นคนที่อยู่หน้าประตูก็ต้องประหลาดใจ หมูป่าตัวหนึ่งปิดทางซิมบ้าไว้ จากนั้นใช้ปากคาบมันขึ้นแล้วมุดไปยังช่วงล่าง…
ในที่สุดซิมบ้าก็มีเรี่ยวแรงและเวลาร้องแล้ว เสียงร้องค่อนข้างน่าสงสารมาก จะถูกขี่อยู่แล้วมันยังจะไม่น่าสงสารอีกเหรอ?
ยังดีที่ปกติมีความสัมพันธ์ระหว่างสัตว์ดีอยู่ บุชที่บินอยู่บนฟ้ารู้สึกถึงความผิดปกติ บินโฉบลงมาด้วยความเร็ว ขาใหญ่ที่มีแรงฉีกหนังหมูป่าเพื่อไล่มันออกไป จากนั้นก็จับซิมบ้าไว้แล้วเอามันขึ้นมา
ฉินสือโอวซ่อมรั้วไม้ง่ายๆ เสร็จแล้ว ก็ใช้เท้าถีบหมูป่าที่หน้าด้านคิดอยากจะวิ่งออกมาตัวหนึ่ง หลังเช็ดเหงื่อเขาถึงมีโอกาสกลับไปช่วยเหลือราชาเจ้าป่าซิมบ้า
บุชจับราชาเจ้าป่าซิมบ้าบินวนอยู่บนฟ้ารอบหนึ่ง เมื่อเห็นว่าฉินสือโอววิ่งมา จึงได้บินลงมาปล่อยแมวป่าไว้ในอกของเขา
ราชาเจ้าป่าซิมบ้ามองดูฉินสือโอวอย่างโกรธเคือง มันรู้ว่าตัวเองถูกใครทำให้มีสภาพแย่ขนาดนี้ มันอ้าปากกัดเสื้อของเขาเอาไว้แล้วส่ายหัวฉีกดึงสุดแรง จากนั้นวินนี่วิ่งมา มันรีบกระโดดไปบนพื้นมุดเข้าไปในอกของวินนี่
มุดไปพลางร้องไปด้วยความสงสาร เมื่อครู่ตัวเองถูกหมูขี่นะ ทำไมแม่ไม่มาช่วยตัวเองกันล่ะ?
ถือว่าวินนี่เป็นแพะแทนฉินสือโอว เพราะว่าตอนนี้เธอเองยังไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่!
………………………………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset