ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1162 วันวิคตอเรียของทั้งครอบครัว

“ตื้ด ตื้ด ตื้ด…”
เสียงรอสายในโทรศัพท์ดังขึ้น หลังจากนั้นก็มีเสียงดังเข้ามาในสาย “สวัสดี คุณฉิน ผมคือเฮนรี ชาลส์ อัลเบิร์ต เดวิด วินด์เซอร์ ดีใจที่คุณโทรมาครับ”
ใช่แล้ว คนสุดท้ายที่ฉินสือโอวโทรหาคือบอสจริงๆ เจ้าชายเฮนรีแห่งประเทศอังกฤษ!
การโทรครั้งนี้ฉินสือโอวแค่คิดว่าจะลองดู การเจอกันระหว่างเขาและเจ้าชายเฮนรีแค่สองครั้งเท่านั้น ครั้งแรกงานประชุมช่วยชีวิตจากภัยพิบัติพายุที่อ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ ส่วนอีกครั้งตอนเขาขายเครื่องประดับมุกสีดำ ถ้าพูดตามจริงแล้วทั้งสองคนไม่ได้มีมิตรภาพต่อกัน พอทักทายถามสารทุกข์สุกดิบแล้ว ฉินสือโอวไม่อยากเสียเวลาอีกฝ่าย จึงถามตรงๆ เลยว่า “ผมจะหมั้นในวันที่ 2 เดือนหน้า ไม่ทราบว่าเจ้าชายพอจะมีเวลามาร่วมงานพิธีไหมครับ?”
ครั้งนี้ไม่ต้องพูดถึงจอร์จและภรรยา ครอบครัวตระกูลสเตราส์ หรือเจ้าหญิงน้อยแห่งตะวันออกกลางเลย พวกเขารวมตัวกันยังไม่เท่ากับเจ้าชายเฮนรีหนึ่งพระองค์ เขาจึงไม่จำเป็นต้องให้เกียรติกับใครเลย
เจ้าชายที่มีรูปหน้าดั่งม้าบอกให้เขารอ บอกว่าขอดูตารางงานก่อน ผ่านไปครึ่งนาที เจ้าชายเฮนรีก็ใช้น้ำเสียงที่ดูน่าเสียดายตอบเขาว่า “ขอโทษด้วยครับ คุณฉิน ผมต้องไปร่วมกิจกรรมงานวันเด็กกับท่านยายในวันที่ 1 เดือนหน้า จึงไม่สามารถไปได้ เวลาไม่เอื้อเลย แต่ถ้าคุณคิดว่าโอเค ผมอยากจะเชิญให้เพื่อนสนิทของผมไปเป็นตัวแทนผม นำคำอวยพรของผมไปให้กับคุณ จะได้ไหมครับ?”
การปฏิเสธของเจ้าชายเฮนรีเป็นสิ่งที่ฉินสือโอวคิดไว้อยู่แล้ว แต่เขาไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าเขาจะให้เพื่อนของเขามาร่วมงานแทน ทำเรื่องอะไรต้องกล้าที่จะลองจริงๆ
พอฉินสือโอวกลับมา วินนี่ที่กำลังกัดแท่งปากกากำลังคิดว่าจะเชิญเพื่อนคนไหนก็มองตาปริบๆ ไปที่เขา แล้วถามเสียงอ่อนว่า “คุณเชิญใครได้บ้างแล้ว?”
“จะทำให้คุณตกใจอย่างแน่นอน” ฉินสือโอวตอบไปยิ้มไป เขาวางรายชื่อลง บนนั้นมีเขียนชื่อและตำแหน่ง มี 20 กว่ารายชื่อเรียงกันแน่นขนัด ทั้งหมดเป็นคนที่อยู่นอกแผนหมด แต่ก็มาทั้งหมด
พอวินนี่มองแล้วเธอก็ผงะจริงๆ ปกติคนที่ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรก็จะนิ่งมาตลอดอย่างเธอ พอเห็นรายชื่อก็ถามด้วยความตกใจว่า “คุณเชิญอาฟิฟกับเจ้าหญิงซาลามาห์ได้แล้วเหรอคะ? ว้าว มีซีอีโอ ประธานกรรมการตั้งหลายคน แล้วยังมีตัวแทนของเจ้าชายเฮนรี?!”
เออร์บักก็มองดูเช่นกัน พอมองแล้วก็ส่ายศีรษะแล้วถามขึ้นว่า “นายรู้ไหมว่าประเด็นสำคัญของการส่งการ์ดเชิญคืออะไร?”
ถึงตอนนี้ก็ถึงคราวของฉินสือโอวนายใหญ่ที่จะต้องกระชับความสัมพันธ์แล้ว ประเด็นสำคัญในการส่งการ์ดเชิญคืออะไร?
“กระชับความสัมพันธ์ให้ทั่วถึง หรือพูดง่ายๆ คือ นายจะต้องปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ต้องส่งการ์ดเชิญไปให้คนรู้จักทุกคน เพราะถ้าเกิดพวกเขาพอรู้เรื่องนี้ขึ้นมา ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้คิดเยอะได้ แต่ถ้านายส่งการ์ดเชิญออกไป แล้วพวกเขาไม่ได้มาก็เป็นเรื่องของพวกเขาแล้ว” เออร์บักพูด
จริงๆ แล้ว ฉินสือโอวเข้าใจหลักการนี้ดี ยิ่งที่แคนาดาต้องให้ความสำคัญกับมารยาทแบบนี้เลย โดยเฉพาะพวกพ่อค้าพวกนั้น ที่มักจะให้ความสำคัญกับรายละเอียดที่ไม่เกี่ยวข้องพวกนี้
แต่ฉินสือโอวก็รู้สึกหดหู่ เขาชี้ไปที่รายชื่อ “ผมก็เชิญครบทุกคนแล้วนะ”
เออร์บักถามขึ้น “ผู้กำกับคาเมรอนล่ะ?”
ฉินสือโอวตะลึง ลืมไปจริงๆ ด้วย แต่ถ้าจะว่าไปแล้วผู้กำกับใหญ่จะยังจำเขาได้ไหม?
ฉินสือโอวจึงกดโทรศัพท์โทรออกอีกครั้ง เสียงหัวเราะนุ่มๆ ของคาเมรอนก็ดังขึ้นมา “คุณกับวินนี่จะหมั้นกันแล้วใช่ไหม? ยินดีกับพวกคุณด้วย ฉิน คุณไม่รู้หรอกว่าตอนนี้ผมอิจฉาคุณขนาดไหน เพราะผมน่ะรู้ดีว่าวินนี่เป็นผู้หญิงที่ดีขนาดไหน”
ฉินสือโอวยิ้มแห้ง “ที่แท้คุณก็รู้เรื่องนี้แล้วเหรอ?”
“เคอร์บอกผม” คาเมรอนพูดขึ้น “เขาชวนผมให้นั่งเครื่อบินเหมาลำแล้วบินไปหาคุณที่นั่นด้วยกัน เมื่อกี้ผมทำตัวไม่ถูกเลย จนกระทั่งคุณโทรมานั่นแหละ ผมถึงค่อยโล่งอกว่าผมไม่ได้ถูกลืม”
เหงื่อเย็นๆ ของฉินสือโอวไหลย้อย แม่งเอ๊ย ถ้าเมื่อกี้ไม่ใช่เออร์บักบอกเขา คงจะเกิดเรื่องใหญ่แล้วจริงๆ เขาเชิญผู้กำกับใหญ่อีกครั้ง คาเมรอนพูดว่า “แน่นอนว่าผมมีเวลาไปร่วมงาน จริงๆ แล้วถ้าคุณไม่ได้มีงานหมั้น ผมคิดว่าอีกไม่นานก็ต้องไปหาคุณอยู่ดี งานของหนังเรื่อง ‘ทะเลโกรธ’ เตรียมไปเกือบจะเสร็จแล้ว ก็จะได้คุยเรื่องสิทธิ์ในการใช้นิมิตส์ด้วย”
ผู้กำกับใหญ่เคยคุยกับเขาเมื่อปีที่แล้ว ว่าอยากจะถ่ายหนังสักเรื่องโดยเป็นเรื่องที่พวกเขาอยู่ท่ามกลางพายุ แต่เขาก็ไม่เคยเชื่อ จนฉินสือโอวนึกว่าเรื่องนี้ล้มเลิกไปแล้ว
อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาถึงนิสัยของผู้กำกับคาเมรอนที่ชอบถ่ายลากยาว นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะไม่ว่าจะเป็นหนังก่อนหน้านั้นเรื่อง ‘เอเลี่ยน’  ‘ไททานิค’ หรือหนังช่วงนี้อย่างเรื่อง ‘อวตาร’ งานที่เตรียมก่อนถ่ายทำใช้เวลาเตรียมนานมาก
พอวางสายจากผู้กำกับใหญ่ ฉินสือโอวเอารายชื่อกับโทรศัพท์ไปตรวจดูจับคู่อีกรอบ เออร์บักยักไหล่ให้เขา เขาก็ยกมือขึ้นคารวะชายชราเพื่อบอกเป็นนัยว่า เขาเชื่อจากใจแล้วจริงๆ
จริงๆ แล้วพิธีงานหมั้นไม่ได้เป็นทางการขนาดนั้น ไม่จำเป็นต้องเชิญคนมามากมาย ครอบครัวทั่วไปก็จะเชิญแค่เพื่อนหรือญาติให้มาร่วมงานก็พอแล้ว แต่เหมือนอย่างที่เออร์บักพูด ตอนนี้ฉินสือโอวไม่ใช่คนธรรมดาแล้ว เขาต้องรู้ฐานะของตัวเอง เขาเป็นคนรุ่นใหม่ที่ร่ำรวยอันดับต้นๆ!
ดังนั้นแล้ว เขาจึงต้องใช้ฐานะของเขาให้เป็นประโยชน์ เขากับวินนี่ ตรวจรายชื่อที่เชิญคนมาพิธีงานหมั้นไป 5-6 รอบ สุดท้ายกัดฟัน แม้แต่รัฐมนตรีแมทธิว จิน พวกเขาก็เชิญมา ซึ่งคำตอบของรัฐมนตรีเหมือนกับเจ้าชายเฮนรี ตัวเองไม่มีเวลาจึงจะส่งผู้ช่วยไปอวยพรแทน
ถึงแม้ว่ารัฐมนตรีวัยชราจะเป็นนักการเมือง แต่สำหรับฉินสือโอวเขาคือคนจริง เพราะว่าเขาพูดอย่างชัดเจนในโทรศัพท์ว่า วันที่ 2 เดือนมิถุนายนเขามีงานที่สำคัญกว่าการเข้าร่วมงานหมั้นของเขา แต่ว่าตอนที่ฉินสือโอวจะแต่งงานกับวินนี่ เขาจะไปร่วมงานเอง
รัฐมนตรีวัยชราติดค้างฉินสือโอวอยู่ อย่างงานกิจกรรมหลักเยี่ยมชมฟาร์มปลาเมื่อปีที่แล้ว ฉินสือโอวก็ช่วยเขาไว้ในงาน อย่างปัญหาวิกฤตแมงกะพรุนที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ก็เป็นเขาที่แจ้งข้อมูลกับรัฐมนตรีก่อน สิ่งเหล่านี้เป็นบุญคุณทั้งนั้น
พอมั่นใจว่าไม่มีรายชื่อไหนหลุดจากใบรายชื่อแล้ว ฉินสือโอวก็โล่งอก แต่เขายังคงเตรียมงานหมั้นไม่ได้ เพราะว่าหลังจากนี้จะเป็นวันวิคตอเรียประจำปี ซึ่งถือว่าเป็นเทศกาลที่ค่อนข้างสำคัญสำหรับคนแคนาดา
วันวิคตอเรียถือได้ว่าเป็นวันต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่แท้จริงของการมาถึงฤดูใบไม้ผลิสำหรับแคนาดาทั้งประเทศ
ครอบครัวของวินนี่ให้ความสำคัญกับเทศกาลนี้มาก จะต้องปลูกดอกไม้ ต้นหญ้า พืชผักในวันนี้ ฉินสือโอวเล่าให้พ่อและแม่ฟัง คนสูงวัยทั้งสองจึงหัวเราะขึ้นมา “คนแคนาดาช่างน่าสนใจจริงๆ ปลูกพืชผักยังมีเป็นเทศกาลด้วยเหรอ?”
นี่เป็นความถนัดของพวกเขาเลย พื้นที่ว่างเปล่าในฟาร์มปลาของฉินสือโอวยังมีอีกมาก จึงสามารถเอามาปลูกพืชผักธัญพืชได้ เมื่อก่อนปลูกแค่ผักกับผลไม้ แต่ตอนนี้คนเยอะขึ้น ของที่จะเอามาปลูกได้จึงเพิ่มมากขึ้น
ของที่ปลูกในฟาร์มปลาของฉินสือโอวมีไม่น้อย อย่างเช่นพืชผักหลายชนิดครบครัน ฟาร์มปลาตอนฤดูหนาวจึงไม่เคยขาดผักสดเลย
อีกอย่างเป็นเพราะพลังโพไซดอน ผักที่ปลูกออกมาจึงมีรสชาติดีและสดใหม่ แน่นอนว่าผักราคาสูงในตลาดพวกนั้นเทียบไม่ได้เลย ซึ่งพวกชาวประมงคิดว่าเป็นปัญหาด้านน้ำและดิน พวกเขาไม่เพียงแค่กินในฟาร์มปลา ยังเอาผักกลับบ้านด้วย…
ตอนเช้าของวันวิคตอเรีย ฉินสือโอวเรียกรวมพลพวกชาวประมง แล้วพูดว่า “วันนี้ ฉันจะให้ทุกคนหยุดงานหนึ่งวัน ทุกคนไม่ต้องออกทะเลและปฏิบัติหน้าที่แล้ว”
ทุกคนมีสีหน้าตกใจในทันใด หลังจากนั้นฉินสือโอวก็พูดต่อว่า “ทุกคนไปทำงานให้ฉันหน่อย เพราะปีนี้พวกเราจะไม่ปลูกแค่ผัก ผลไม้ แต่จะปลูกธัญพืชด้วย!”
“บอส คุณจะทำไร่นาเหรอครับ?” ชาร์คตกใจ
“ก็ไม่แน่!” ฉินสือโอวหัวเราะ
……………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset