ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1166 การให้อาหารและข้อเสนอแนะ

ปลาค็อดชนิดต่างๆ อย่างเช่น ปลาอลาสก้าพอลล็อค ปลาค็อดดำ ปลาหิมะ เป็นต้น ว่ายขึ้นมาบริเวณผิวน้ำเพื่อหาอาหาร ปลาพวกนี้สามารถเติบโตได้ยาวมากกว่า 1 เมตร ตัวเดี่ยวๆ เล็กกว่าปลากระโทงสีน้ำเงินมาก แต่พวกมันไม่ได้ปรากฏตัวแค่ตัวเดียว แต่เป็นกลุ่มก้อนใหญ่!
ปลาค็อดหลายพันตัวรวมตัวกันเป็นฝูงใหญ่แหวกว่ายไปมาอยู่บนผิวน้ำอย่างว่องไว ปลาไข่ถูกทำให้ตกใจจนสลายตัว ฝูงปลาว่ายชนกันไปมาทำให้เกิดเป็นคลื่นนับไม่ถ้วน
ปลาแอนโชวี่แอตแลนติก ปลาแบสดำ ปลาคาซาโกะ ปลาอมไข่ครีบยาว ปลาลิ้นหมา ปลาโอขาว ปลาโอหลอด ปลากระโทงขาว และปลาโอแถบ เป็นต้น สีของฝูงปลาชนิดต่างๆ สะท้อนสลับกันไปมา เปลี่ยนพื้นที่นอกชายฝั่งให้กลายเป็นตลาดอาหารทะเลที่แออัด
ฉินสือโอวปล่อยจิตสำนึกแห่งโพไซดอนออกไปที่ทะเลลึกเพื่อสำรวจ ยังคงมีปลาไข่กำลังจะมาอีกเป็นระลอกๆ แม้แต่ปลาซาบะและปลาแฮร์ริ่งก็สามารถจับพวกมันกินได้ ปลาเหล่านี้นำไปสู่งานเลี้ยงแห่งการล่าเหยื่อทางทะเลอย่างแท้จริง
ไม่มีทางที่ปลาไข่จะหมดเกลี้ยงหรอก เพราะว่าจำนวนของมันมีมากเกินไป ด้วยเหตุนี้ในทางกลับกัน พวกมันจะกินพวกสัตว์ระดับล่างจำนวนมาก อย่างแพลงก์ตอน เมล็ดสาหร่าย เศษใบสาหร่ายพวกนี้ที่อยู่ในฟาร์มปลาจนหมด
ตอนนี้มองดูบนบริเวณผิวน้ำทะเลก็จะเห็นปลาไข่จำนวนมาก แต่ความเป็นจริงแล้วหากมองผ่านจิตสำนึกแห่งโพไซดอนจะรู้เลยว่าใต้ทะเลลงไปยังมีจำนวนปลาไข่ที่มากกว่าอีกเยอะ ฝูงปลาจำนวนไม่น้อยจะอยู่ตรงกลุ่มปะการังใต้น้ำ หรือแทรกตัวอยู่ตามสาหร่ายทะเล
ในที่สุด ปลาทูน่าครีบน้ำเงินก็ปรากฏตัว แต่พวกมันไม่ได้กระโดดขึ้นมาบนผิวน้ำ แต่มาจากทะเลลึก ลักษณะรูปร่างคล้ายตอร์ปิโดวิ่งพุ่งชนเข้าไปอยู่ท่ามกลางฝูงปลา ปลาไข่ ปลาแฮร์ริ่ง ปลาซาบะและปลาค็อดตัวเล็กล้วนเป็นอาหารรสเลิศของมัน
ปลาทูน่าครีบน้ำเงินเมื่อปรากฏตัวออกมาก็มากันเป็นฝูง ปลาตัวใหญ่หลายสิบตัวส่งเสียงร้องไห้หวาดกลัวและพุ่งด้วยความเร็วมหาศาล อ้าปากกว้างเหมือนกับเครื่องเกี่ยวข้าว จะมีปลาตัวเล็กๆ วิ่งชนเข้าไปในปากมันอัตโนมัติ
ในทะเลลึกวาฬบาลีน วาฬสีน้ำเงิน วาฬหลังค่อมจำนวนหนึ่งต่างเตรียมพร้อม แต่น่าเสียดายที่พวกมันไม่กล้าเข้าไปในเขตน้ำทะเลตื้น เพราะง่ายต่อการเกยตื้น ธรรมชาติสอนพวกมันว่าต้องระมัดระวังในการล่าเหยื่อ ยังดีว่าในทะเลน้ำลึกยังมีปลาไข่อยู่บ้างจึงทำให้พวกมันยังได้กินปลาไข่
ฉลามแมวเจ็ดพี่น้องมีความสุขมาก ตั้งแต่ปลาไข่ปรากฏตัวขึ้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็ทำให้การล่าเหยื่อของพวกมันง่ายขึ้นมาก
ตอนนี้ฉลามแมวเจ็ดพี่น้องล่าเหยื่อได้ง่ายขึ้น พวกมันถ้าไม่ดำน้ำก็ว่ายอยู่บนผิวน้ำ พอเจอปลาฝูงใหญ่ พวกมันก็จะล้อมรอบจากทุกด้าน พอเป็นแบบนี้เมื่อปลาไข่ตกใจก็จะว่ายชุลมุนไปหมด แน่นอนว่าจะต้องมีสักตัวที่ว่ายเข้าไปในปากพวกมันที่อ้ากว้างไว้อย่างแน่นอน
เมื่อกินจนอิ่มหนำ ฉลามแมวเจ็ดพี่น้องก็หยุดหาอาหาร พวกมันแต่ละตัวอวบอ้วนเพราะว่ากินอาหารบำรุงไปเยอะ ใจก็กล้ามากขึ้นเช่นกัน ปลาไข่ที่ไร้สมองและขี้กลัวทำให้พวกมันมีความกล้า ฉลามแมวเจ็ดพี่น้องจึงว่ายสู่ทะเลลึกไปด้วยกัน
หลังจากมองอยู่ตรงริมชายทะเลสักพัก พวกชาวประมงก็ต้องเริ่มทำงานแล้ว เบิร์ดไปขับเครื่องบินแทรกเตอร์ที่ไม่ได้ใช้งานมานานออกมา ส่วนชาวประมงก็เอาแมงกะพรุนอบแห้งที่ทุบแล้วในโกดังลำเลียงขึ้นเครื่องบินทีละกระสอบ ทีละกระสอบ
สิบวันก่อนหน้านั้น ฉินสือโอวสั่งให้ชาร์คช่วยจัดการพาคนเอาแมงกะพรุนอบแห้งไปส่งที่บริษัทอาหารปลาเพื่อที่จะเอาไปบด ตอนนี้ในกระสอบคือผงทั้งนั้น มีกลิ่นทะเลเข้มๆ คละคลุ้ง ซึ่งก็คือผงของแมงกะพรุนอบแห้ง
ส่วนที่เหลือจากคายน้ำของแมงกะพรุนส่วนมากคือโปรตีน หลังจากบดแล้วสามารถเป็นอาหารของพวกแพลงก์ตอน ปลาและกุ้งระดับล่างในห่วงโซ่อาหารได้
การมาถึงของปลาไข่จำนวนมากขนาดนี้ จึงคาดว่าแพลงก์ตอนในฟาร์มปลาจะถูกกินจนเกลี้ยง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องจัดหาอาหารโดยการทำแพลงก์ตอนเทียม
ฉินสือโอวขึ้นไปช่วย ผงแมงกะพรุนแต่ละกระสอบถูกลำเลียงขึ้นไปห้องโดยสารของเครื่องบิน เพียงครั้งเดียวก็สามารถจุได้ถึงสองตัน
เครื่องบินแทรกเตอร์เป็นเครื่องบินที่ใช้สำหรับเกษตรกรรมโดยเฉพาะ ใช้สำหรับพ่นยาฆ่าแมลงและโปรยอาหารจากท้องฟ้าสำหรับฟาร์มปลาโดยตรง ซึ่งมันจะมีห้องโดยสารพิเศษ เมื่อลำเลียงผงแมงกะพรุนขึ้นไป ส่วนท้องของเครื่องบินจะเปิดช่องออกมาหนึ่งช่อง พอถึงเวลาผงแมงกะพรุนก็จะถูกโปรยปรายลงมาอย่างง่ายดาย
ฉินสือโอวและชาร์คขึ้นไปบนเครื่องบิน ส่วนเบิร์ดขยับแท่นควบคุม เครื่องยนต์เทอร์โบพร๊อปของเครื่องบินแทรกเตอร์หมายเลข PT6A45R ส่งเสียงคำรามหึ่งๆ ดังขึ้นมา ใบพัดโลหะห้าใบพัดด้วยความเร็วคงที่ก็เริ่มหมุนเสียงดัง วิ่งตรงไปบนรันเวย์ หลังจากนั้นก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า
หลังจากบินขึ้นไปแล้ว หัวของเครื่องบินแทรกเตอร์ก็ดิ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า พอทรงตัวได้ถึงค่อยร่อนลงมาบินขนานกับทะเลเพื่อโปรยผงแมงกะพรุนแห้ง
ไม่ได้ถือว่าสูงมากนัก ฉินสือโอวมองออกไปที่ทะเลจากหน้าต่างในห้องโดยสาร เมื่อมองจากด้านบนยิ่งรู้สึกได้ถึงความตื่นตะลึงที่ฝูงปลานับหมื่นกำลังต่อสู้กัน ภาพที่ปลาตัวใหญ่นับแสนกำลังเบียดเสียดอัดแน่น ทำให้รู้สึกได้เลยว่าเพียงเหยียบบนตัวพวกมันก็สามารถเดินบนน้ำทะเลได้
ชาร์คเปิดช่องประตูตรงส่วนท้องของเครื่องบิน ผงแมงกะพรุนค่อยๆ ปลิวว่อนลงไป ราวกับควันที่พ่นออกมาจากเครื่องบินด้านหลัง…
ถ้ามองจากมุมไกล นึกว่าเครื่องบินไฟไหม้จนควันขึ้นโขมงอย่างไรอย่างนั้น
เครื่องบินเดี๋ยวก็ร่อนลงต่ำ เดี๋ยวก็ทะยานขึ้นสูง เดี๋ยวก็บินไปตามแนวชายฝั่งบินอยู่ในฟาร์มปลาด้วยระดับความสูงต่ำ ผงแมงกะพรุนแห้งสิบกว่าตันถูกโปรยลงมาเพียงครั้งเดียวจนหมด เพื่อเอามาเลี้ยงแพลงก์ตอนที่หิวโหย
แน่นอนว่า ปลาไข่ก็สามารถกินผงโปรตีนพวกนี้ได้
หลังจากที่เด็กๆ เลิกเรียน พอเห็นว่าชายหาดที่ฟาร์มปลามีปลาจำนวนมากติดอยู่ พวกเขาจึงตะโกนไปพลางจับปลาพวกนั้นขึ้นมาแล้วโยนลงไปในทะเลไปด้วย
ครั้งนี้มีหนุ่มน้อยทึ่มๆ สองหนุ่มอย่างไวส์และเสี่ยวฮุยมาร่วมด้วย พวกเขาก็ไม่รู้ว่าทำไมจะต้องจับปลาขึ้นมาแล้วโยนลงไปในทะเลด้วย
ความคิดของเสี่ยวฮุยไม่เหมือนกับกอร์ดอนและคนอื่นๆ เขารู้ว่าปลาพวกนี้เอามาเป็นอาหารได้ เพราะปลามีขนาดใหญ่ ดังนั้นจึงหยิบตะกร้าแล้วจับขึ้นมาจำนวนหนึ่ง ให้แม่ฉินทอดปลาให้เขากิน
พี่สาวของฉินสือโอวรู้ว่าทำแบบนี้เป็นการปลูกฝังความรักของเด็กๆ เธอเอาตะกร้าคืนให้เสี่ยวฮุย แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เราลองดูซิว่าพี่กอร์ดอนและพี่เชอร์ลี่ย์ทำอะไรกันอยู่ ไปร่วมกับพวกเขากันเถอะ”
เสี่ยวฮุยเคยกินปลาไข่ ซึ่งฟาร์มปลามีทุกปี ฉินสือโอวเคยให้เขากินแบบทอด เขายังจำรสชาติที่แสนอร่อยได้ดี จึงพูดขึ้นมาว่า “นี่เอามาทอดอร่อยมากจริงๆ นะครับ”
กอร์ดอนทำหน้าแสยะยิ้มใส่เสี่ยวฮุย “นายรู้จักแต่กิน พวกเราไม่ได้ขาดอาหารอะไรแล้ว ตอนนี้พวกเราควรจะปล่อยปลาเป็นๆ ไปถึงจะถูก!”
เสี่ยวฮุยทันใดนั้นก็รู้สึกอับอายเมื่อถูกเยาะเย้ย แล้วพูดอย่างกลัวๆ ว่า “ปล่อยไปพวกมันก็โดนปลาตัวใหญ่กินอยู่ดี ปลาใหญ่กินปลาเล็ก”
กอร์ดอนยังคงยืนยัน “นั่นมันเรียกว่าวงจรธรรมชาติ ปลาใหญ่กินปลาเล็กเป็นเรื่องปกติทั่วไป ก็เหมือนกับพวกเราที่ต้องกินปลาตัวใหญ่เช่นกัน แต่ตอนนี้พวกเรากินปลาตัวใหญ่แล้ว แม้แต่ปลาตัวเล็กก็ยังจะไปแย่งมา แล้วอย่างนี้ปลาตัวใหญ่จะกินอะไร? ปลาใหญ่พอไม่มีอะไรกินก็จะตาย แล้วพวกเราจะหาปลาใหญ่มากินได้อย่างไร?”
ฉินสือโอวลูบหัวของเสี่ยวฮุย ให้เขาออกไปเล่นกับกอร์ดอน ไม่คิดเลยว่ากอร์ดอนที่ปกติดูไม่เข้าใจอะไร ก็จะมีตอนที่คิดเป็นเช่นกัน เหตุผลที่เขาพูดถูกต้องที่สุด มากเกินไปจริงๆ แต่น่าเสียดายที่ความโลภมันน่ากลัวมาก ต่อให้คนเข้าใจในเหตุผลนี้ก็ยังไม่ยอมปล่อยปลาตัวเล็กไป
แน่นอนว่า ตอนกลางวันพวกเขาก็จับปลาไข่จำนวนมาก แล้วยังเป็นปลาตัวเมียก่อนที่จะวางไข่ด้วย
แต่ก็ต้องอยู่ในความพอดี ฉินสือโอวแค่ติดตั้งแหอยู่จุดเดียว แล้วยังเป็นจุดปากทางที่แม่น้ำไหลลงสู่ทะเลตรงเทือกเขาเคอร์บัล ปลาบริเวณนั้นนับได้ว่าเขาเพาะพันธุ์ไว้ ดูดซึมพลังโพไซดอนไปเป็นจำนวนมาก
ดังนั้นพอถึงตอนเย็นพวกชาวประมงและสมาชิกในครอบครัวมาที่วิลล่าในฟาร์มปลาทุกคน มีวิธีการกินปลาไข่อยู่หลากหลายวิธี ฉินสือโอวตั้งกระทะและเริ่มทอดปลาไข่ ส่วนอาร์ม็องทำซอสและเทลงบนตัวปลาตัวเล็กที่นึ่งอยู่ พ่อฉินและแม่ฉินทำปลาดอง
……………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset