ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1170 บินไปนิวยอร์ก

พอรับปะการังแดงนี้มา สายตาบิลลี่ก็จดจ่อไปที่มัน ภายใต้แสงอาทิตย์เขาพลิกปะการังกลับไปกลับมาอยู่นาน ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
ฉินสือโอวรอเขาตัดสินว่ามันคือปะการังแดงอะไร แต่พอเห็นบิลลี่นานแล้วไม่พูดอะไรออกมาสักคำ เขาจึงถามด้วยความตกใจว่า “นายคงไม่ได้แยกชนิดของปะการังนี้ไม่ออกใช่ไหม?”
พอได้ยินเสียงเขา สติบิลลี่ถึงค่อยกลับมาแล้วเขาก็กลอกตาใส่ “ล้อเล่นอะไรอีกเพื่อน ฉันจะแยกไม่ออกได้อย่างไร? ต่อให้เป็นคนตาบอดยังดูออกเลย นี่เป็นปะการังแดง AKA ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่สีดำแดง แต่ก็เป็นเกรดสูงสุดแล้ว!”
เหมาเหว่ยหลงรับมันมาดูต่อด้วยความสนใจแล้วพูดว่า “มิน่าล่ะ คนส่วนมากถึงชอบจ่ายแพงเพื่อซื้อพวกนี้ ดูๆ แล้วก็งามจริงๆ”
บิลลี่วางมันบนมือเขาอย่างระมัดระวังแล้วเตือนขึ้น “เหมา นายระวังหน่อย นี่เป็นของเกรดพรีเมี่ยม หนึ่งกรัมขายได้เป็นหมื่นดอลลาร์แคนาดา แค่ชิ้นนี้ก็ห้าล้านแล้ว!”
เดิมทีมือของเหมาเหว่ยหลงนิ่งมาก พอเขาพูดมาแบบนี้ เขาตกใจจนเกือบจะโยนปะการังก้อนเท่าฝ่ามือนี้ทิ้งไป “ห้าล้าน? ชิ้นเล็กๆ แค่นี้ห้าล้าน?! ตอนนี้เงินดอลลาร์แคนาดามันไม่คุ้มขนาดนี้เลยเหรอ?”
บิลลี่ยื่นมือออกมาทำท่าเกินจริง “ที่ฉันบอกยังไม่เต็มที่นะ เพื่อน นายลองดูปะการังชิ้นนี้ให้ดีๆ มันงามมาก ราวกับเป็นหัวใจของมหาสมุทร! หัวใจของมหาสมุทรจะมีมูลค่าไม่เท่ากับราคาแบบนี้ได้เหรอ? ฉันกล้าพนันเลย ปะการังแดงชิ้นนี้ เป็นชิ้นที่งามที่สุดในรอบสิบปี!”
ฉินสือโอวได้ยินเขาพูดคำว่า ‘หัวใจของมหาสมุทร’ ก็รู้สึกว่าคำเรียกนี้เหมาะสมมาก เพราะหัวใจก็มีสีแดง ชื่อหัวใจของมหาสมุทรนี้ยังเหมาะที่จะใช้คู่กับปะการังแดงมากกว่าไพลินเสียอีก
พอหันกลับมา บิลลี่ถามด้วยความตื่นเต้นว่า “ฉิน เพื่อนนายอยู่ตรงไหนของเมืองเซนต์จอห์น? บ้านเขายังมีปะการังแดงอีกไหม? ไอ้หนุ่มนี่จะต้องเป็นมหาเศรษฐีแน่ๆ เขาดันมีปะการังแดงสวยขนาดนี้ได้ เขาขายให้นายเท่าไร?”
ฉินสือโอวยักไหล่ แล้วพูดขึ้น “เอ่อ พวกเรายังไม่ได้คุยถึงเรื่องราคา ฉันไม่รู้เลยว่าสิ่งนี้จะมีมูลค่ามากขนาดนี้ ก็ไปขอเขามาตรงๆ แล้วเขาได้ยินว่าฉันอยากได้ปะการังแดงสักชิ้นทำแหวนให้ภรรยา เลยเอาปะการังชิ้นนี้มาให้ฉัน”
บิลลี่กลืนน้ำลายลงคอแล้วถามอย่างคาดหวังว่า “เขายังขาดเพื่อนไหม? ฉันอยากรู้จักเขามาก”
ฉินสือโอวตอบได้เพียงว่า “ไม่นะ แต่เขาเป็นชายชราที่แปลกมาก ตอนนี้อายุจะร้อยปีแล้ว ตอนหนุ่มๆ เคยต่อสู้กับพวกอเมริกาอย่างนายที่เกาหลีเหนือ ฉันคิดว่า เขาอาจจะไม่ชอบนายก็ได้นะ”
นี่ก็คือข้อเสียของการโกหก พอพูดโกหกไปหนึ่งเรื่อง ก็ต้องมีเรื่องโกหกอีกสารพัดเพื่อมาปิดบังความจริง
แต่ฉินสือโอวจำเป็นต้องโกหก เขาจะอธิบายที่มาของปะการังแดงนี้อย่างไรดี? คงจะอ้างไม่ได้ตลอดเวลาหรอกว่าดำน้ำแล้วบังเอิญไปพบเข้า? นั่นมันไร้สาระสิ้นดี สภาพแวดล้อมการเติบโตของปะการังแดงแย่เกินไป ความลึกขนาดนั้นต้องนั่งเรือดำน้ำเท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็ดำลงไปไม่ถึง!
บิลลี่อาจจะสงสัยความเป็นมาของปะการังแดงชิ้นนี้ แต่เขาก็ไม่ได้คิดถึงฟาร์มปลา เพราะไม่มีบันทึกว่าเคยค้นพบปะการังแดง AKA ในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ
เมื่อได้ยินคำพูดของฉินสือโอว เขาก็ได้แต่ทอดถอนใจด้วยความหงุดหงิด “ทรูแมนและ ริดจ์เวแม่งเอ๊ย ทำไมต้องไปทำสงครามที่เกาหลีเหนือด้วย? ฆ่าคนดีๆ ไปมากมาย แล้วตอนนี้ยังกำลังฆ่าฉันด้วย! “
เหมาเหว่ยหลงจับช่องโหว่ในคำพูดของฉินสือโอวได้ จึงถามเสียงเบา “นายไม่ได้บอกว่าเป็นคนไต้หวันเหรอแล้วทำไมถึงไปสู้กับพวกอเมริกาที่เกาหลีเหนือได้?”
ฉินสือโอวคิดดีแล้วก็ตอบกลับว่า “เขาเคยเป็นทหารที่ประเทศฉัน แล้วมีช่วงพิเศษอยู่ช่วงหนึ่ง เขาเจอกับความไม่ยุติธรรมเกี่ยวกับสวัสดิการ จึงอาศัยจังหวะลอบข้ามเขตแดนไปที่ไต้หวัน รายละเอียดลึกๆ ฉันก็ไม่ได้เข้าใจอะไรมากหรอก ฉันก็แค่เคยช่วยชายชราคนนี้ไว้ครั้งหนึ่ง แล้วก็ไปส่งผักกับอาหารทะเลให้เขาบ่อยๆ เลยสนิทกันมากขึ้น”
เหมาเหว่ยหลงกระทืบเท้าตัวเองด้วยความขมขื่น “ตอนนี้ฉันอิจฉานายมากจริงๆ นายบอกว่าหลังจากที่นายจบก็ประสบความสำเร็จแล้วใช่ไหม? โชคดีขนาดนี้ฉันจะทำอะไรได้? แม่งเอ๊ย 5 ล้านเลยนะเว้ย ก็แค่ชิ้นเล็กๆ แค่นี้ มีมูลค่าตั้ง 5 ล้าน?!”
ครั้งนี้เขาเดาถูกแล้ว ฉินสือโอวโชคดีจริงๆ แต่ไม่ใช่หลังจากจบการศึกษา แต่เป็นเมื่อสองปีก่อน
ความหนาแน่นของปะการังแดงมีอยู่สูง แต่ละชิ้นเท่ากับฝ่ามือของผู้ใหญ่ได้ ชิ้นหนึ่งก็หนักกว่าครึ่งกิโลได้ การประเมินราคาคร่าวๆ ของบิลลี่ไม่รู้ว่าแม่นยำไหม ถ้าแม่นล่ะก็ ก็ต้องอยู่ประมาณ 4-5 ล้าน ดอลลาร์แคนาดาได้
ของดีแบบนี้ ต้องหาร้านที่ดีที่สุดมารับผิดชอบในการทำแหวนขึ้นมา ซึ่งฉินสือโอวยังคงเลือกร้านทิฟฟานี่ เพราะทั้งสองเคยร่วมงานกันมาหลายครั้ง นอกจากนี้เขายังเชิญมาดามลีฟ หัวหน้าดีไซเนอร์ของร้านทิฟฟานี่ มาเข้าร่วมพิธีงานหมั้นอีกด้วย แน่นอนว่าการทำแหวนนี้คงต้องให้พวกเขาแล้ว
เรื่องไม่ควรปล่อยช้าไปกว่านี้แล้ว เพราะนี่ก็เดือนพฤษภาคมปลายเดือนแล้ว เมื่อฉินสือโอวได้ปะการังแดงแล้ว ก็รีบจองตั๋วเครื่องบินกับบิลลี่ บินตรงจากเมืองเซนต์จอห์นไปเมืองนิวยอร์กเลย
นิวยอร์กเป็นที่ของบิลลี่ พอพวกเขาถึงก็มีรถหรูมารอรับแล้ว ไม่ให้เสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว ไปร้านทิฟฟานี่ที่นิวยอร์กต่อทันที
ลีฟรอพวกเขาอยู่แล้ว หลังจากที่ฉินสือโอวเจอเธอก็สวมกอดกัน แล้วค่อยมอบการ์ดเชิญให้กับเธอ
ดีไซเนอร์สาวสวยที่แสนสง่ายิ้มแล้วพูดว่า “ฉันปลื้มใจมากจริงๆ เจ้าบ่าวมาส่งการ์ดเชิญให้ถึงที่ ฉันคิดว่าแม้แต่คุณจอร์จ บรูซที่เคารพก็ยังไม่ได้รับเกียรติพิเศษแบบนี้เลย ใช่ไหมคะ?”
ถ้าเป็นคนทั่วไปจัดงานหมั้น การ์ดเชิญจะใช้วิธีส่งจดหมายแบบเร็วไปก็ได้แล้ว แต่ฉินสือโอวเชิญคนใหญ่คนโตทั้งนั้นในครั้งนี้ ถ้าใช้ส่งจดหมายก็จะดูไม่เป็นทางการ แต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้มีเวลาและแรงที่จะวิ่งไปส่งด้วยตัวเองทีละคน เขาจึงให้เบิร์ดคนที่มีภาพพจน์ดูดีที่สุดไปแทนเขา
ตอนนี้คาดว่าเบิร์ดน่าจะอยู่ที่ชิคาโก้ ครั้งนี้เขาต้องไปหลายที่เลยทีเดียว
ฉินสือโอวบอกว่าผู้หญิงควรจะได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ลีฟจึงหัวเราะอย่างมีความสุข เชิญให้พวกเขาไปดื่มน้ำชาที่ห้องรับรองแขก “ฉันเพิ่งจะได้รับชาที่มีคุณภาพดีมาหนึ่งกล่อง พวกคุณลองชิมดูสักหน่อย แล้วบอกฉันว่ารสชาติเป็นอย่างไรบ้าง”
ตอนที่ผู้ช่วยของลีฟช่วยชงชา ฉินสือโอวก็บอกความตั้งใจที่มาอีกประการ เขาหยิบกล่องผ้าออกมา เมื่อเปิดออกก็เผยให้เห็นโฉมหน้าของปะการังแดง “ผมยังมีอีกเรื่องที่อยากจะว่ายวานคุณ มาดาม เชิญคุณลองดูสิ่งนี้”
พอเห็นปะการังแดงนี้ มือที่ยกถ้วยน้ำชาอยู่ของลีฟพลันสั่นเล็กน้อย ซึ่งถือว่าเป็นการเสียมารยาทแล้วสำหรับคนฐานะอย่างเธอ แสดงให้เห็นว่าปะการังแดงชิ้นนี้ทำให้เธอตกตะลึงเลยทีเดียว
“AKA สีแดงเลือดนกพิราบเกรดพรีเมี่ยม?! ฉันไม่ได้เห็นปะการังแดงที่มีเฉดสีแบบนี้มานานมากแล้ว” ลีฟวางถ้วยชาลง แล้วหยิบกล่องผ้าขึ้นมา พูดพร้อมทอดถอนใจ “สีงามมาก ไม่น่าถึงมีคนบอกว่า มันเป็นงานชั้นเลิศที่นางเงือกตั้งใจทำออกมา”
ในเวลานั้นเองมีพนักงานคนหนึ่งเคาะประตูแล้วเดินเข้ามา พูดเสียงเบากับเทย์เลอร์ว่า “มาดามครับ มิสฮิลตันจูเนียร์มาแล้วครับ อยากจะพบท่านครับ”
เทย์เลอร์พยักหน้าอย่างสงวนท่าที แล้วพูดว่า “ฉันรู้แล้ว บอกเธอให้รอสักครู่ ตอนนี้ฉันกำลังเจอเพื่อนคนสำคัญอยู่”
พนักงานพยักหน้ารับทราบแล้วจากไป เทย์เลอร์มองไปที่ปะการังแดงชิ้นด้วยความตื่นเต้นแล้วถามว่า “คุณอยากจะใช้มันมาทำอะไรคะ? จะทำเป็นเครื่องประดับอีกสักชุดเหรอคะ?”
ฉินสือโอวยิ้ม “ไม่ครับ แค่ทำเป็นแหวนสองวง ผมจะให้แฟนผมเป็นแหวนหมั้น นี่ครับ ผมเอาขนาดนิ้วจำลองของเธอมาด้วย”
เทย์เลอร์ถามต่อ “นอกจากแหวนล่ะคะ? คุณก็รู้นี่คุณฉิน ปะการังแดงชิ้นใหญ่ขนาดนี้ เอามาทำส่วนหัวของแหวนเป็นร้อยวงยังได้เลย”
ฉินสือโอวรีบส่ายหน้า “ไม่ครับ คุณเข้าใจผิดแล้ว มาดาม ที่ผมต้องการไม่ใช่แต่ส่วนหัวของแหวน แต่เป็นตัวแหวนทั้งหมด ใช้ปะการังแดงชิ้นนี้ผลิตออกมาเป็นแหวนเพียวๆ 2 วงครับ”
……………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset