ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1187 วันที่ต้องอยู่กับเจ้าชายน้อย

อาหารกลางวันเป็นไปอย่างคึกคัก ฉินสือโอวนำร่มกันแดดออกมา ทุกคนที่มาร่วมกิจกรรมนี้ต่างพากันนำอาหารมาด้วย บางคนทำแฮมเบิร์กมา บางคนซื้อพิซซ่าอบระหว่างทางมาและบางคนก็เอาไส้กรอกเนื้อที่ทำเองมา
ฉินสือโอวให้ชาร์คไปที่ผับดาราประกายเพื่อไปรับเอาเบียร์สด เพราะหลังทานอาหารเสร็จจะต้องเริ่มการแข่งขัน ดังนั้นจึงไม่สามารถดื่มเยอะได้ แต่ละคนจะหยิบได้แค่หนึ่งแก้วใหญ่เท่านั้นและต้องดื่มอย่างเหมาะสม
ชาวต่างชาติพวกนี้พอได้ดื่มเบียร์แล้วก็ยิ่งดื่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับพวกเขาแล้วเบียร์สดหนึ่งแก้วใหญ่ก็ไม่ต่างอะไรกับน้ำเปล่าธรรมดาๆ แก้วหนึ่ง
ฮัดสันขับเรือกลับมาอย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงท่าเรือเดิมหู่จือและเป้าจือที่นอนอยู่ตรงหน้าฉินสือโอวกำลังทำหน้าน่ารักๆ ขอของกินอยู่ จู่ๆ พวกมันก็หันไปมองตามสัญชาตญาณและจ้องมองไปที่ท่าเรืออย่างใจจดใจจ่อ จากนั้นก็รีบวิ่งไป
ขณะที่กำลังวิ่ง หู่จือและเป้าจือก็ยังหันหน้ากลับมาพร้อมกับร้องตะโกน พวกเจ้าของฟาร์มปลาไม่รู้ว่าทำไมพวกมันถึงหันหน้ามาพร้อมกับร้องตะโกนไปด้วย แต่สักพักฉงต้า หลัวปอและซิมบ้าที่กำลังกินอาหารอยู่ในวิลล่าก็วิ่งออกมาด้วยท่าทางดุร้ายและน่ากลัวเช่นกัน
ขณะนี้เจ้าของฟาร์มปลาจึงเบิกตากว้างขึ้น พวกเขาเพิ่งเข้าใจว่าที่แท้หู่จือและเป้าจือหันกลับมาและร้องตะโกนเพื่อบอกเตือนเพื่อนของพวกมันว่ามีศัตรูมาที่ประตู
ฮัดสันพาสุนัขขนยาวตัวใหญ่สองตัวลงมา พวกมันทั้งสองมีรูปร่างใหญ่กว่าหู่จือและเป้าจือ ขนที่หนายาวของพวกมันเป็นเหมือนกับหมีดำตัวเล็กๆ สองตัวที่มีลักษณะอันน่าเกรงขาม
หู่เป้าฉงหลัวต่างก็เป็นทรราชตัวน้อย สิ่งที่พวกมันเกลียดที่สุดก็คือการที่สัตว์อื่นๆ เข้ามาเหยียบย่ำในอาณาเขตของตัวเองและครั้งนี้เหมาเหว่ยหลงก็ไม่ได้พาสุนัขบูลลี่ของเขามาเล่นด้วย เจ้าบูลลี่ตัวน้อยต่างก็โตกันหมดแล้ว ถ้าพวกมันมาเจอกับหู่เป้าฉงหลัวจะต้องเกิดการปะทะกันในประเด็นเรื่องอาณาเขตอย่างแน่นอน
สุนัขสองตัวที่ฮัดสันพามาเป็นสุนัขพันธุ์นิวฟันด์แลนด์ สุนัขพันธุ์นี้อาจจะมีไอคิวไม่สูงมากนัก แต่จะมีความมั่นใจและเชื่องมาก ซึ่งเป็นผู้ช่วยของชาวประมงและมนุษย์ได้ดี พวกมันสามารถช่วยเหลือผู้คนได้ในหลากหลายเรื่องอย่างเช่น การช่วยชีวิตคนให้พ้นจากอันตรายและอื่นๆ
หู่จือและเป้าจือทั้งส่งเสียงร้องโฮ่งๆ ทั้งกระโดดโลดเต้น หากเป็นสุนัขตัวใหญ่ตัวอื่นๆ คงจะรีบกระโจนเข้าใส่ แต่สุนัขนิวฟันด์แลนด์สองตัวกลับนั่งลงเงียบๆ พร้อมกับจ้องมองหู่จือและเป้าจือด้วยสายตาที่เป็นมิตร
เจ้าแลบราดอร์ทั้งสองตัววิ่งและกระโดดอุ่นร่างกายเพื่อเตรียมต่อสู้ ผลก็คือทุกคนมองพวกมันด้วยสายตารักใคร่ เจ้าเด็กน้อยทั้งสองจึงปิดปากลงทันที จากนั้นพวกมันทั้งสองก็มองหน้ากันพร้อมกับวิ่งกลับไปอย่างเศร้าหมองและโผเข้าไปในอ้อมแขนของฉินสือโอวพร้อมกับบิดตัวไปมา
สีหน้าของฉงต้าและหลัวปอเต็มไปด้วยความแปลกประหลาดใจ เจ้าพี่น้องสองตัวนี้กำลังทำอะไรอยู่? ไม่ได้เรียกให้เราออกมาต่อสู้เหรอ? เจ้าสองตัวนี้เข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของพ่อมันหมายความว่าอย่างไร?
ฉินสือโอวก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน หู่จือกับเป้าจือที่ไม่หวาดกลัวหมูป่าและหมาป่าสีเทา แค่ต้องเผชิญหน้ากับสุนัขพันธุ์นิวฟันด์แลนด์สองตัวพวกมันจะเสียความมุ่งมั่นตั้งใจในการต่อสู้ได้อย่างไร?
เรคหัวเราะเสียงดังขึ้นมาและถามว่า “หู่จือกับเป้าจือเป็นสุนัขตัวผู้ใช่ไหม?”
ฉินสือโอวก็เข้าใจทันที เขาจึงถามกลับว่า “สุนัขสองตัวนั้นของนายพวกมันเป็นตัวเมียเหรอ?”
เรคพยักหน้าแล้วโบกมือให้สุนัขนิวฟันด์แลนด์ทั้งสองตัวที่เหมือนกับหมีดำตัวเล็กๆ ที่กำลังก้าวเท้าวิ่งไปมา
หู่จือและเป้าจือรู้สึกเขินอายพร้อมกับดูบรรยากาศรอบๆ จากอ้อมแขนของฉินสือโอว ท่าทางเขินอายของพวกมันทำให้เจ้าของฟาร์มปลาอดไม่ได้ที่จะมองดู
สตั๊คกี้แกล้งเอาไส้กรอกให้เจ้าตัวน้อยทั้งสอง หู่จือและเป้าจือจึงจ้องไปที่เขา อุ้งเท้าข้างหนึ่งเตะไปที่ไส้กรอกที่กำลังโยนจนตกลงพื้น ฉงต้าเข้ามาดมกลิ่นและใช้ลิ้นขนาดใหญ่ตวัดกินไส้กรอกเข้าไป อย่ากินอาหารสิ้นเปลืองสิ
ฉินสือโอวจึงกอดเจ้าแลบราดอร์ทั้งสองตัวไว้และถามชาร์คว่า “แลบราดอร์ต้องมีอายุเท่าไรถึงจะเข้าสู่ช่วงติดสัด?”
“อีกสองปีก็ถึงฤดูติดสัดแล้ว ผมคิดว่าหู่จือและเป้าจือก็คงจะโตแล้ว” ชาร์คกล่าว
ฉินสือโอวยิ้มพร้อมกับผลักหู่จือและเป้าจือออกไปและให้พวกมันทำความรู้จักกับสุนัขนิวฟันด์แลนด์ทั้งสองตัวนี้ ด้วยเหตุนี้อย่ามองข้ามเวลาที่แลบราดอร์เห่าส่งเสียงดังและนี่เป็นเรื่องที่สำคัญมาก พวกมันทำหน้าไร้เดียงสาอยู่ข้างๆ ฉินสือโอว จากนั้นพวกมันก็รู้สึกอายจึงวิ่งกลับไปที่วิลล่า
หลังจากทานอาหารกลางวันแล้ว ทุกคนก็พร้อมที่จะออกทะเล ก่อนอื่นจะต้องแบ่งกลุ่ม เจ้าของฟาร์มปลาบอกว่าพวกเขาจะพาคู่หูเข้าร่วมการแข่งขันด้วยทั้งหมด ชาร์คและคนอื่นๆ จึงรวมกันได้อย่างอิสระ
เหล่าทหารก็จะเข้าร่วมด้วย เรื่องล้อเล่นอะไรกัน อันดับที่หนึ่งห้าแสนดอลลาร์แคนาดาเลยนะ!
ชาวประมงไม่ได้พาพวกเข้ามาด้วยจึงให้พวกเขาตั้งทีมกันเอง แน่นอนว่านี่คือการกลั่นแกล้งล้วนๆ แบล็คไนฟ์และบีบีซวงชูนิ้วกลางใส่ชาวประมง หลังจากการเจรจาต่อรองกันแล้ว เบิร์ดจึงแบ่งกลุ่มให้พวกเขาด้วยความยากลำบาก
“อย่าทำอย่างนั้นเพื่อน ความสามารถของพวกเราทั้งห้าคนนายก็รู้ดีอยู่แล้ว ดูเหมือนว่านายจะต้องแพ้ให้กับทีมของพวกเราแล้วล่ะ” แบล็คไนฟ์ปลอบโยนเขา
เบิร์ดถึงกับพูดไม่ออก “เอาล่ะ ใครจะเป็นคนขับเรือ? แล้วใครมีประสบการณ์ในการหาปลากระโทงสีน้ำเงิน? ฉันสามารถเป็นผู้เล่นหลักหรือสำรองก็ได้?”
แอร์แบ็คยกมือขึ้นแล้วพูดว่า “ฉันเอง? ฉันฝึกขว้างหอกมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น จากนั้นก็เข้าร่วมกองทัพและก็เป็นนักขว้างลูกเบสบอลที่เก่งที่สุดในกองร้อยของเราด้วย”
ฝั่งเจ้าชายน้อยไม่มีใครรวมทีมด้วยเลย ผู้ช่วยรอบด้านของเขาจึงหมดหนทาง ทั้งหาปลากระโทงสีน้ำเงินไม่เป็นทั้งขับเรือไม่ได้ ไหนจะขว้างหอกแทงปลาอีก? นั่นจึงทำให้เขาบ้าคลั่ง!
ถึงอย่างไรเขาก็เป็นผู้สนับสนุน ฉินสือโอวจึงต้องจัดหาผู้เล่นให้ ไม่อย่างนั้นต่อไปจะหาคนที่ทุ่มเงินเยอะขนาดนี้ได้จากที่ไหน? ดังนั้นเขาจึงพูดว่า “เฮ้ ฝ่าบาท ถ้าอย่างนั้นเราตั้งทีมด้วยกันไหม?”
ฮามานแดนมองเขาอย่างลังเลแล้วพูดว่า “คุณขว้างหอกได้ใช่ไหม? ผมไม่อยากถูกคนอื่นถ่วงนะ”
“งั้นมาอยู่ทีมเราบอส มาอยู่ทีมเรา”
“ไม่ ชาร์ค นายไปให้พ้นเลย ทีมของพวกนายรวมตัวกันได้ดีแล้ว! บอสมาอยู่ทีมผม มาอยู่กับพวกเราเถอะ! “
“เราเล่นทายนิ้วกัน ใครชนะบอสจะต้องไปอยู่ทีมคนนั้น!”
ชาวประมงเป็นคนที่รู้พลังของฉินสือโอวดีที่สุดและตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่าห้าธาตุพิชิตมังกร ถ้าพวกเขาสามารถดึงฉินสือโอวเข้าทีมได้ พวกเขาก็ไม่ต้องกังวลว่าจะหาปลากระโทงสีน้ำเงินได้อย่างไร
เมื่อเห็นท่าทางการต่อสู้แย่งชิงของชาวประมงซึ่งดูไม่เหมือนว่าแกล้งทำแล้ว ฮามานแดนจึงนึกขึ้นได้ว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนหลังจากตกปลากระโทงสีน้ำเงินฉินสือโอวขว้างฉมวกออกไปอย่างแข็งแกร่งและกล้าหาญ เขาจึงเปลี่ยนใจอย่างรวดเร็ว “ผมล้อเล่นน่ะ ฮ่าๆ พี่ฉินสือโอว งั้นเรามาอยู่ทีมเดียวกันเถอะ”
จอร์จก็จะเข้าร่วม และไม่มีใครยอมดึงเอาราชาแห่งเหล็กกล้าเข้าไปอยู่ในทีมด้วย เขาก็ขับเรือได้ แต่ฝีมือไม่ดีเท่าชาวประมงที่อายุมากแล้วและเขาทำอย่างอื่นไม่ได้นอกจากขับเรือได้อย่างเดียว ดังนั้นจะเอาเขามาร่วมทีมด้วยทำไม?
ฉินสือโอวเป็นเหมือนคนเก็บกวาด ดังนั้นเขาจึงเอาราชาแห่งเหล็กกล้าเข้ามาอยู่ในทีมด้วย
หลังจากแบ่งทีมกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากฉินสือโอวเน้นย้ำเรื่องการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยหลายรอบแล้ว แต่ละคนจึงรับหอกและขึ้นเรือเพื่อเตรียมเริ่มการแข่งขัน
เรือที่พวกเขาขับคือเรือหัวกว้าง ซึ่งมีระดับความเร็วมาก มีพื้นที่ดาดฟ้าขนาดใหญ่และมีมุมในการมองเห็นที่ดี เหมาะกับกิจกรรมแบบนี้มากที่สุด
หลังจากขึ้นเรือแล้ว เจ้าชายน้อยก็ถอดเสื้อผ้าออกแล้วหยิบขวดทรงกระบอกขวดหนึ่งออกมาแล้วทาตามร่างกาย ซึ่งเหมือนกับการฉาบปูนเป็นชั้นๆ
ฉินสือโอวและจอร์จมองเขาด้วยความประหลาดใจ ตัวเขาเองก็ยังคงทำอย่างไม่สนใจอะไร “พวกคุณคงสงสัยว่าทำไมผิวผมถึงดีขนาดนี้ใช่มั้ย? ฮ่าๆ มนุษย์น่ะต้องใส่ใจกับการบำรุงรักษา? มาเถอะ พวกคุณไม่อยากทาด้วยเหรอ? พวกนี้เป็นสินค้าชั้นหนึ่งเลยนะ”
ฉินสือโอวและจอร์จตัวสั่นพร้อมกับรีบส่ายหัวอย่างรวดเร็ว
…………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset