ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1188 ความเร็วดุจสายฟ้าแลบ

เรือลำอื่นๆ ได้ฝ่าลมโต้คลื่นออกไปแล้ว ส่วนทางฝั่งฉินสือโอวก็นั่งอยู่บนท่าเรือรอให้เจ้าชายน้อยทาครีมกันแดด ครีมบำรุงผิว ฉินสือโอว จอร์จและเหมาเหว่ยหลงก็ไม่ได้พูดอะไรและมองดูความเสแสร้งของเจ้าชายน้อยอย่างเงียบๆ
ในที่สุดก็ทาเสร็จ ฉินสือโอวจึงลุกขึ้นและพูดว่า “งั้นเรามาเริ่มออกเรือกันเถอะ?”
ฮามานแดนโบกมือพร้อมพูดว่า “ไม่ต้องรีบร้อน ผมยังต้องโกนหนวดเคราอีกสักหน่อย ฮัสซันเตรียมผ้าขนหนูลายตารางหมากรุกสีฟ้าไว้ให้ผมแล้วด้วย ชายที่ต้องการพิชิตท้องทะเลอันกว้างใหญ่นี้ จะไม่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของตัวเองได้อย่างไร?”
จอร์จหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วถอนหายใจ “ผมขอไปจัดการธุรกิจก่อนนะ ดูเหมือนจะยังไม่ได้ไปง่ายๆ”
ฉินสือโอวก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเช่นเดียวกัน และเขาก็พยักหน้าให้กับเหมาเหว่ยหลง ทั้งสองจึงเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและเริ่มเล่นเกมกัน หู่จือและเป้าจือนอนอยู่บนหัวเรือก็มองไปที่เรือด่วนของเรคที่กำลังออกตัวไปอย่างแห้งเหี่ยว เพราะมีสาวสวยตัวเมียสองตัวอยู่บนนั้น…
หลังจากทาครีมโกนหนวดเคราเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าชายน้อยก็สวมผ้าขนหนูลายตารางสีน้ำเงินและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “เอาล่ะ เหล่านักรบ พวกเราไปที่ส่วนลึกของทะเลและออกโจมตีกันเลย!”
เมื่อจอร์จออกเรือ ฉินสือโอวจึงยืนอยู่ที่หัวเรือเพื่อปล่อยจิตสำนึกแห่งโพไซดอนออกไปสำรวจอย่างรวดเร็วเพื่อค้นหาร่องรอยของปลากระโทงสีน้ำเงิน เหมาเหว่ยหลงเริ่มเตรียมเหยื่อ หลังจากเครื่องหาปลาเจอร่องรอยของพวกมัน พวกเขาก็จะโยนเหยื่อลงไปในน้ำเพื่อล่อพวกมัน
เมื่อเรือของพวกเขาเริ่มออกตัว ก็มองไม่เห็นเรือลำอื่นเห็นในทะเลแล้ว สุดท้ายฮามานแดนจึงรู้สึกอับอายเล็กน้อยและพูดว่า “ขอโทษนะพวกเรา ที่ผมทำให้ทุกคนต้องเสียเวลา”
เมื่อรู้ถึงข้อผิดพลาดก็สามารถปรับปรุงแก้ไขได้ ฉินสือโอวไม่ได้โกรธเจ้าชายน้อย บางคนเกิดมาพร้อมกับสิทธิพิเศษ นี่ไม่ใช่การรับใช้ แต่ความจริงก็เป็นเช่นนี้และไม่สามารถเปลี่ยนโลกที่ไม่ยุติธรรมนี้ได้ จึงต้องปรับตัวให้เข้ากับโลกนี้ ไม่เช่นนั้นอาจจะถูกกำจัดได้
นอกจากนี้ เจ้าชายน้อยก็ไม่ใช่ว่าไม่ยอมรับผิดไม่ใช่เหรอ? ดังนั้นเขาจึงให้อภัยเจ้าชายน้อยและปลอบว่า “ไม่เป็นไรเจ้าชาย การล่าปลากระโทงสีน้ำเงินก็เพิ่งผ่านไปได้ไม่นาน เราไม่รีบร้อน”
ฮามานแดนพยักหน้าและพูดว่า “ใช่ ผมก็คิดแบบนั้น ดังนั้นผมจึงไม่รีบ”
ฉินสือโอวยิ้มให้จอร์จและเหมาเหว่ยหลง น้องชายอย่าตื่นเต้นไปเลย จัดการกับชายคนนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์กับใครหรอก เขาจึงตัดสินใจที่จะไม่ให้อภัยเจ้าชายน้อยแล้ว…
เรือหัวกว้างเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วบนผิวน้ำทะเล ฉินสือโอวยืนอยู่บนหัวเรือจึงก้าวเท้าซ้ายขึ้นไปบนราวบันไดแล้วหันหน้าไปทางลมทะเล จู่ๆ จิตใจอันแน่วแน่ก็กว้างใหญ่ขึ้นทันที เดิมทีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ จะถูกลมทะเลพัดออกไปอย่างรวดเร็วจนไม่รู้ว่าหายไปไหน
มีเฮลิคอปเตอร์ขับขึ้นมาอยู่เหนือศีรษะของเขา ซึ่งเป็นบีบีซวงกำลังขับเฮลิคอปเตอร์ วินนี่โบกมือให้ฉินสือโอวผ่านหน้าต่างและมีเด็กตัวเล็กๆ อยู่ในอ้อมแขนของเธอ ซึ่งกำลังแยกเขี้ยวยิงฟันด้วยความตื่นเต้นอยู่
ฉินสือโอวก็โบกมือด้วยความตื่นเต้นกลับไป วินนี่จึงพาเถียนกวาตัวน้อยออกมา ซึ่งมันดีมากจริงๆ
บีบีซวงคิดว่าฉินสือโอวกวักมือเรียกให้เขาลดความสูงในการบินเฮลิคอปเตอร์ จึงบินวนขึ้นไปในอากาศและบินเอียงตัวลงมาทันที
ทันใดนั้น ปีกที่หมุนอยู่ก็ทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ ทำให้เจ้าชายน้อยที่กำลังโพสท่าถ่ายรูปอยู่ถูกน้ำสาดจนเปียกโชกไปทั้งตัว
ฉินสือโอวยกนิ้วกลางให้บีบีซวง บีบีซวงจึงแบะปากด้วยความเสียใจ ทันทีที่เขาดึงก้านควบคุมเฮลิคอปเตอร์ก็บินสูงขึ้นอีกครั้งทันทีและบินไปที่กองทัพใหญ่
ชาวประมงออกทะเลทุกวัน จึงเอาสถานการณ์การกระจายทรัพยากรของปลาที่เก็บเกี่ยวได้ในฟาร์มปลามาบันทึกอย่างละเอียด จากนั้นพวกเขาก็ตรงไปยังน่านน้ำที่ฮามานแดนเคยตกปลากระโทงสีน้ำเงิน ซึ่งที่นั่นมีแหล่งปลากระโทงสีน้ำเงินที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดอยู่
เจ้าของฟาร์มปลาคนอื่นฉลาดพอๆ กับภูตผีปีศาจ พวกเขารู้ดีว่าตัวเองเสียเปรียบเรื่องข้อมูลในเกมของฝ่ายตรงข้าม จึงตามชาวประมงไปเพื่อให้เรือทั้งหมดกระจายไปในพื้นที่ทะเลตรงนั้น
เมื่อเรือของฉินสือโอวและคนอื่นๆ มาถึง เรือลำอื่นๆ ก็กำลังโยนเหยื่อลงไปในน้ำ เมื่อปลากระโทงสีน้ำเงินใต้ทะเลเจออาหารเหล่านี้ก็จะไม่หนีหรือต่อต้าน มันจะค่อยๆ ถูกดึงดูดเข้ามาอย่างช้าๆ
ทุกคนจะมีเครื่องรับส่งวิทยุอยู่บนไหล่ และมีผู้คนกำลังพูดคุยซุบซิบกันอยู่ในนั้น เพราะมีสิ่งนี้จึงทำให้ทุกคนสามารถติดต่อกันได้อย่างสะดวกสบาย โดนัลด์และเจ้าของฟาร์มปลาคนอื่นๆ สังเกตเห็นถึงพลังของมันได้เป็นพิเศษ พวกเขาจึงถามว่าสิ่งนี้ราคาเท่าไรสามารถจัดการทำให้ได้ไหม
สมกับที่เรคเป็นนักล่าปลามืออาชีพ ไม่นานเสียงเชียร์ของเขาก็ดังขึ้นในเครื่องรับส่งวิทยุ ฉินสือโอวจึงตกใจคิดว่าเขาเป็นคนแรกที่แทงปลากระโทงสีน้ำเงินในช่วงแรกได้ แต่เมื่อเขามองไปที่โทรศัพท์ วินนี่ที่เป็นคนรับรองจึงส่งข้อความมาว่า “ทีมเรคพบปลากระโทงสีน้ำเงินแล้วหนึ่งตัว คนบนเรือรอบๆ โปรดสงบสติอารมณ์”
ปลากระโทงสีน้ำเงินมีนิสัยอย่างหนึ่งคือ เมื่อออกล่าอาหารพวกมันจะว่ายเข้าไปชิงอาหารและมักจะพุ่งเข้าใส่น้ำด้วยความเร็วสูง ซึ่งนี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในการขว้างหอก
ฉินสือโอวหยิบกล้องส่องทางไกลขึ้นมาดู เรคกำลังยืนอยู่บนดาดฟ้าพร้อมกับหอกยาวในมือ หัวของหอกก็มีความแหลมคม ซึ่งดูแล้วก็ยังทำให้ผู้คนหวาดกลัวได้
จู่ๆ ปลากระโทงสีน้ำเงินยาวสองเมตรครึ่งก็โผล่พ้นน้ำและกระโดดออกมา ตัวสีฟ้าเรียวยาวและแข็งแรง ส่วนท้องส่วนล่างมีสีขาวราวกับหิมะซึ่งมีความมันเงาและเรียบเนียนมาก เมื่อแสงอาทิตย์เปล่งประกายส่องกระทบ ขอบที่เชื่อมกันระหว่างสีฟ้าและสีขาวดูเหมือนกำลังเปล่งแสงหลากสีสะท้อนไปที่เรือ!
“ว้าว!” เจ้าชายน้อยร้องตะโกนขึ้นมา
ฉินสือโอวแอบตื่นตระหนกตกใจอย่างเงียบๆ เขาอยากเห็นทักษะการขว้างหอกของเรค แต่กลับมีคนดึงเขาออกมา เขาจึงทำได้เพียงวางกล้องส่องทางไกลลงอย่างไม่พอใจแล้วกลับหลังหันไปมองและสิ่งที่เขาเห็นคือเจ้าชายน้อยกำลังโมโห
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” ฉินสือโอวถามด้วยความโกรธ
ความโกรธของเจ้าชายน้อยดูเหมือนจะดุร้ายกว่าเขามาก “เมื่อกี้มีปลาตัวใหญ่ผ่านหน้าเราไป! คุณเป็นคนคอยเฝ้าดูปลาของเรา คุณเพิ่งจะบกพร่องในหน้าที่ตัวเองนะ!”
ฉินสือโอวมองไปที่เหมาเหว่ยหลงและจอร์จด้วยความประหลาดใจ ทั้งสองจึงยักไหล่ใส่เขาแล้วพูดว่า “ความจริงก็เป็นแบบนี้แหละ”
เขาจึงเช็คโทรศัพท์อีกครั้ง วินนี่ก็ได้ส่งข้อความใหม่มาว่า มีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย ข่าวร้ายเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เรคพลาดการแทงปลากระโทงสีน้ำเงิน ทำให้ปลาตัวใหญ่หนีไปได้ ข่าวดีคือ ปลาตัวใหญ่ไปปรากฏตัวข้างๆ เรือของทีมเจ้าชายน้อย โดยที่ทั้งสี่คนในเรือไม่มีใครสนใจเลยและปลาตัวใหญ่ตัวนั้นก็ได้หนีไปแล้วเช่นกัน…
จากนั้นก็มีข้อความจากบูลส่งมาต่อกัน “คุณว่าพวกเขาทั้งสี่คนดูเหมือนคนโง่ไหม?”
ฉินสือโอวเก็บโทรศัพท์ลงด้วยสีหน้าเจ็บปวดและพูดว่า “วินนี่หมายความว่าอย่างไร ทำไมปลาตัวใหญ่ถึงหนีไป ทางฝั่งเรคเป็นข่าวร้าย ส่วนเราก็เป็นข่าวดีงั้นเหรอ?”
“รีบไปดูปลาของคุณ! พระอัลเลาะห์บนสวรรค์ การที่ผมติดตามท่านนั้นมันโชคร้ายจริงๆ!” เจ้าชายน้อยพูดอย่างไม่พอใจ
ฉินสือโอวจึงแขวนกล้องโทรทรรศน์ไว้ที่ราวบันไดและจ้องไปที่เจ้าชายน้อยแล้วพูดว่า “เจ้าชายนี่มันหมายความว่าอย่างไร?”
เหมาเหว่ยหลงจึงช่วยพูดไกล่เกลี่ยว่า “พี่ๆ น้องๆ ใจเย็น ๆ พวกเราอยู่ทีมเดียวกัน เห็นแก่หน้าฉัน ลืมเรื่องนี้ไปเถอะ”
ซึ่งขณะนี้มีปลากระโทงสีน้ำเงินได้ว่ายผ่านมาจากทางไกลอีกตัว มันอยู่ห่างจากเรือของฉินสือโอวและคนอื่นๆ ประมาณยี่สิบกว่าเมตร นี่ไม่ใช่ระยะการล่าที่เหมาะสม ต่อให้ใช้ปืนในระยะนี้ก็ไม่สามารถยิงปลากระโทงสีน้ำเงินได้อย่างแน่นอน แต่สุดท้ายเมื่อมันว่ายผ่านน้ำไปก็ยังใช้ความเร็วสูงเหมือนเดิมอยู่ดี
ฉินสือโอวคว้าหอกที่อยู่ข้างๆ เขาตามสัญชาตญาณและขว้างมันออกไปด้วยความเร็วดุจสายฟ้าแลบที่สะท้อนแสงบริสุทธิ์ออกมา
‘ฟึ้บ’!
หอกถูกขว้างออกไปและก็มีเสียงดังขึ้น นี่คือเสียงแตกหักที่เกิดจากลมเสียดสีกับความเร็วสูงของหอก!
หลังจากปลากระโทงสีน้ำเงินตัวนั้นว่ายขึ้นมาได้ไกลกว่าสิบเมตร มันก็เตรียมที่จะกระโดดลงไปในน้ำ แต่ปรากฏว่าทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก เกือบในพริบตาเดียว ปลาตัวใหญ่ที่กระโดดขึ้นมาก็ตกลงไปอีกครั้งและหอกก็พุ่งเข้าไปที่ตัวมันอย่างแม่นยำ!
……………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset