ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1198 พ่อที่ทุ่มเทให้กับลูกๆ

หลังจากหมั้นหมายกันแล้ว ก็ส่งพ่อแม่และครอบครัวกลับไป วินนี่จึงตั้งใจเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีในเดือนหน้า
ซึ่งเรื่องนี้ฉินสือโอวไม่สามารถช่วยเธอได้มากนัก ตัวเขาเองก็มีปัญหาเช่นเดียวกัน เดือนมิถุนายนเป็นช่วงที่ปลาไส้ตันจะกลับไปที่แม่น้ำจืดเพื่อขยายพันธุ์ ปลาไส้ตันฟลอริดาในฟาร์มปลาจึงมีโอกาสที่จะขยายกลุ่มสายพันธุ์
แต่ความต้องการของปลาที่คล้ายกับปลาชนิดนี้เข้มงวดมาก ประการแรกสภาพแวดล้อมต้องเป็นที่เงียบสงบ ประการที่สองคุณภาพน้ำต้องใส มลพิษต้องบางเบาและควรมีกระแสน้ำที่ค่อนข้างเร็วเพื่อให้แน่ใจว่ามีเหยื่อเพียงพอ และสุดท้ายก้นแม่น้ำควรเป็นพื้นกรวด พวกมันคุ้นเคยกับการซ่อนไข่ไว้ใต้สิ่งนี้
โชคดีที่แม่น้ำสายเล็กๆ ที่ไหลลงมาจากเทือกเขาเคอร์บัลตรงตามเงื่อนไขนี้ ดังนั้นจึงทำให้ฉินสือโอวลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้
ฉินสือโอวกังวลมากว่าพวกมันจะมีปัญหา ดังนั้นจึงเฝ้าติดตามการกลับสู่กระแสน้ำของพวกมันตลอดเวลา และรู้ว่ามีปลาแซลมอนในภูเขาและแม่น้ำ ปลาพวกนี้กินเนื้อสัตว์ ถ้าจับปลาไส้ตันที่ผอมแห้งแรงน้อยได้ มันจะต้องเป็นอาหารชั้นดีอีกหนึ่งมื้อของมันแน่นอน
จำนวนของปลาไส้ตันมีหลายพันตัวฟังแล้วดูเหมือนจะมาก แต่อันที่จริงสำหรับมหาสมุทรและแม่น้ำแล้ว จำนวนนี้ถือว่าไม่มากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งขนาดของปลาเหล่านี้มีขนาดเล็กมากอีกด้วย แม่น้ำขนาดเล็กบนภูเขาจึงเพียงพอสำหรับการวางไข่ของพวกมัน
ช่วงหัวค่ำ จิตสำนึกแห่งโพไซดอนทั้งสี่ของฉินสือโอวถูกส่งออกไปทั้งหมด ปลาไส้ตันและสายพันธุ์อื่นๆ ก็เหมือนกัน เมื่อถึงช่วงใกล้วางไข่จะร้อนรนกระวนกระวายใจ พวกมันมักจะมองหาน้ำจืดเพื่อตัดเข้าปากแม่น้ำ ถ้าฉินสือโอวยังไม่ลงมือทำอะไรเลย พวกมันก็จะไปหาแม่น้ำทางเหนือ
จากการวิจัยพบว่าในสมองของปลาไส้ตันมีอนุภาคเหล็กชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถช่วยพวกมันเดาทิศทางในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ได้เหมือนกับเข็มทิศ
และความสามารถทางประสาทสัมผัสของพวกมันก็แข็งแกร่งมาก พวกมันสัมผัสได้ถึงความแตกต่างของจำนวนอนุภาคเกลือในน้ำทะเลในระยะหนึ่งร้อยเมตรได้ ด้วยความสามารถทั้งสองนี้ พวกมันจึงสามารถค้นหาแม่น้ำบนชายฝั่งในทะเลที่ไม่คุ้นเคยเจอได้
นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดที่พวกมันต้องกลับไปในกระแสน้ำ ตอนแรกมีคนคิดว่าไข่ปลาของพวกมันกับปลาแซลมอนเหมือนกัน จึงสามารถอยู่รอดได้ในน้ำจืดเท่านั้น แต่ต่อมาการศึกษาค้นคว้าวิจัยก็พบว่ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ฉินสือโอวคิดว่าสาเหตุที่ปลาไส้ตันกลับกระแสน้ำเพื่อวางไข่ก็เพราะความปลอดภัยของแม่น้ำนั้นสูงกว่าในมหาสมุทร
แม้ว่าไข่ปลาของพวกมันจะไม่ใหญ่และอร่อยเท่าไข่ปลาแซลมอน ในช่วงที่ปลาไส้ตันตัวเมียวางไข่จะไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน ดังนั้นในมหาสมุทรนี้จึงเป็นที่ที่อันตรายมาก
ฝูงปลาไส้ตันที่เร่งรีบหาแม่น้ำจนเจอ ฉินสือโอวจึงใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนปกคลุมและควบคุมพวกมันไว้ จากนั้นก็พาพวกมันไปที่ปากแม่น้ำด้วยกัน
ในเวลานี้ ฉินสือโอวไม่สามารถใจร้อนได้ เขาต้องรอสักช่วงเวลาหนึ่ง เพื่อให้ปลาไส้ตันปรับตัวได้
สำหรับปลาทะเลแล้ว การสัมผัสกับน้ำจืดอย่างกะทันหันเป็นการทดสอบความเป็นความตายของชีวิต ไตและอวัยวะอื่นๆ ของพวกมันต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่ขาดแคลนเกลืออย่างกะทันหัน
เช่นเดียวกับปลาแซลมอน เมื่อลงสู่แม่น้ำพวกมันจะหยุดกินอาหารหรือแม้แต่น้ำก็หยุดกิน การอยู่รอดของพวกมันในน้ำจืดทั้งหมดขึ้นอยู่กับพลังงานที่เก็บไว้ในร่างกาย ดังนั้นเมื่อปลาแซลมอนวางไข่แล้วมันจะไม่อร่อย เพราะขณะนั้นไขมันในร่างกายของพวกมันถูกใช้ไปเกือบหมดแล้ว จึงทำให้รสชาติไม่อร่อย
ปลาไส้ตันมีขนาดเล็กมาก จึงเก็บสะสมไขมันได้ไม่มาก พลังงานในร่างกายไม่เพียงพอที่จะประคับประคองพวกมันตลอดขั้นตอนการวางไข่ ดังนั้นพวกมันจึงจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม
ก็เหมือนกับมนุษย์ เด็กจากสังคมชั้นล่างมักมีความสามารถในการปรับตัวทางสังคมได้ดีกว่าและสิ่งมีชีวิตในทะเลก็เช่นกัน
ในขั้นตอนทั่วไป ปลาไส้ตันจะอาศัยอยู่ที่ปากทางเข้าของทะเลเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ถึงสิบวัน พลังโพไซดอนจะเปลี่ยนขั้นตอนนี้ ฉินสือโอวช่วยพวกมันป้อนพลังโพไซดอน เพียงชั่วโมงกว่าๆ ปลาก็จะว่ายตามน้ำจืดได้โดยอัตโนมัติ
เมื่อถึงขั้นนี้ พวกมันจะสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมน้ำจืดได้
แต่ส่วนใหญ่พวกมันว่ายน้ำไปแอ่งน้ำที่ด้านบนสุดของป่าเล็กๆ และที่นั่นจะเป็นน้ำตกเล็กๆ ฝูงปลาไส้ตันมีความบอบบางเกินไป จึงยากที่จะข้ามน้ำตกแบบนี้ได้และพวกมันก็ไม่ใช่ปลาแซลมอน ปลาแซลมอนสามารถกระโดดข้ามน้ำตกที่สูงสิบถึงยี่สิบเมตรได้!
แค่ลงสู่แอ่งน้ำและแม่น้ำได้แล้ว ฝูงปลาไส้ตันก็พอใจแล้ว พวกมันว่ายน้ำอย่างระมัดระวังไปที่ก้นแม่น้ำและเมื่อเจอกับเหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ ก็จะสามารถหลบหนีได้อย่างรวดเร็ว นี่เป็นนิสัยที่พวกมันฝึกฝนในมหาสมุทร
จริงๆ แล้วปลาไส้ตันอยู่ในห่วงโซ่อาหารระดับที่ต่ำมาก แค่พวกปลาและกุ้งกินเนื้อก็สามารถรังแกปลาไส้ตันได้
ในแม่น้ำและแอ่งน้ำมีร่องรอยของปลาแซลมอนแอตแลนติก โดยทั่วไปปลาแซลมอนแปซิฟิกจะตายหลังจากอพยพและวางไข่ แต่ปลาแซลมอนแอตแลนติกจะไม่เป็นอย่างนั้น พวกมันสามารถอพยพและวางไข่ได้ปีแล้วปีเล่าและบางชนิดก็อยู่รอดในแม่น้ำได้ในระยะยาว
ฉินสือโอวใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนจัดการอีกรอบ เขาไล่ปลาแซลมอนแอตแลนติกพวกนี้ไปที่ฟาร์มปลา
เรื่องนี้ ฝูงปลาแซลมอนแอตแลนติกแสดงให้ว่าฉินสือโอวทำเกินไป นี่เป็นการบุกรุกครอบครองที่ดินของผู้อื่นใช่ไหม? นี่คือแม่เลี้ยงตีลูกใช่ไหม? ดังนั้นฝูงปลาแซลมอนที่กำลังโมโหจึงเริ่มปลดปล่อยอารมณ์และค่อยๆ ลงทะเลไปและเริ่มกินปลาคาพีลินทันที
ในแม่น้ำมีอาหารไม่มากนัก ปลาแซลมอนแอตแลนติกมักจะหิวบ่อย ดังนั้นเมื่อมีโอกาสได้กินอาหาร พวกมันจะปล่อยไปได้อย่างไร?
พวกปลาคาพีลินรู้สึกเจ็บปวด พวกมันต้องการถามปลาแซลมอนอันธพาลกลุ่มนี้มาก ในเมื่อไม่มีความคับแค้นระหว่างเรา ทำไมพวกนายถึงโหดร้ายกับพวกเราขนาดนี้?
ทุกอย่างยังคงหมุนเวียนไป ปลาแซลมอนตัวอ้วนจึงทำการจับเหยื่อของปลาอื่นๆ มา ฝูงปลาที่เจอเหตุการณ์นี้คือปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ฝูงปลาขนาดใหญ่หลายสิบตัวส่งเสียงร้องออกมาและเอาปลาแซลมอนที่ลงสู่ทะเลกินจนเกลี้ยงเหมือนกับไถดิน
ปลาคาพีลินรู้สึกขอบคุณความช่วยเหลือของปลาทูน่าครีบน้ำเงินมาก พวกมันจึงได้รับการสนับสนุนให้เป็นกองทัพหลัก แต่หลังจากที่กองทัพหลักจัดการปลาแซลมอนแล้วก็ยังหิวอยู่ จึงหันกลับมาลงมือกับพวกเดียวกันเองและยังกินอย่างมีความสุข
หลังจากลงสู่แม่น้ำแล้ว ปลาคาพีลินที่ดูเก้งก้างก็แสดงให้เห็นถึงความฉลาดของเผ่าพันธุ์ พวกมันไม่ได้กระจัดกระจายตามใจชอบ และปลาตัวเมียที่ยิ่งอ้วนก็จะได้รับตำแหน่งที่ปลอดภัยกว่าและปลาตัวผู้จะเฝ้าดูแลอยู่ที่ปากทางเข้าของแม่น้ำสายเล็กๆ
พวกมันจะอยู่ที่นั่น ไม่ใช่เพื่อต่อสู้กับปลาตัวใหญ่ที่มาจู่โจม หลังจากได้พบกับปลากินเนื้อตัวใหญ่แล้ว จะเสียสละตัวเองให้ปลาใหญ่จนอิ่มท้อง เมื่อเป็นเช่นนี้ปลาตัวใหญ่ก็จะปล่อยตัวเมียที่กำลังจะวางไข่เหล่านั้นไป
นี่เป็นน้ำใจอันยิ่งใหญ่ น่าเสียดายที่พวกมันมีรสชาติที่เอร็ดอร่อย โดยทั่วไปกลุ่มสายพันธุ์จะมีขนาดค่อนข้างเล็ก หลังจากปลาตัวใหญ่กินพวกมันลงไปก็จะรู้รสชาติทันที จึงถือโอกาสกินปลาตัวเมียเข้าไปด้วย…
แต่ในฟาร์มปลาไม่มีความอันตรายนี้ ฉินสือโอวได้จัดการเอางูเหลือมทะเลสองตัวมาอยู่ที่ปากทางเข้าของทะเล เพียงแค่มีปลาตัวใหญ่เข้ามาใกล้ พวกมันจะถูกไล่ออกไปทันที
งูเหลือมทะเลสองตัวเทียบเท่ากับเทพเจ้าเฝ้าประตูสององค์ แค่มีพวกมันอยู่ ปลาไส้ตันก็จะสามารถวางไข่ได้อย่างปลอดภัย
เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ฉินสือโอวถึงกับเอาเต่าด่างออกไป เต่าหายากชนิดนี้ชอบกินไข่ปลา แต่เต่ามะเฟืองกลับไม่เป็นอะไร พวกมันชอบกินแค่แมงกะพรุนเท่านั้นและไข่ปลาก็ไม่ใช่อาหารของพวกมัน
ตั้งแต่ฉินสือโอวได้ดูแลฟาร์มปลาในระยะเวลาสองปีครึ่ง สิ่งมีชีวิตในฟาร์มปลาล้วนได้รับการคุ้มครอง จำนวนเต่าด่างก็เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ตอนที่พวกมันเข้ามาครั้งแรกมีเพียงสิบกว่าตัวเท่านั้น แต่ตอนนี้พวกมันขยายออกเป็นหลายร้อยตัวแล้ว
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะคำนวณหาจำนวนเต่าเหล่านี้ เนื่องจากพวกมันมีขนาดเล็กมาก บางตัวจะหาโพรงซ่อน การซ่อนตัวของพวกมันจะใช้เวลาหนึ่งเดือนและไม่สามารถหาเจอได้ง่ายๆ…
………………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset