ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1201 หลี่ หนิง

กาวชีวภาพเป็นเทคโนโลยีใหม่ทางการแพทย์ของยุโรปและอเมริกาหลังจากเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ชื่อเต็มคือกาวชีวภาพสำหรับรักษาบาดแผล ซึ่งสามารถใช้ห้ามเลือด ลดความเจ็บปวดและลดการติดเชื้อในระหว่างการรักษาบาดแผล
พูดง่ายๆ คือกาวชนิดนี้สามารถใช้ในการติดหลอดเลือดและเมื่อใช้ร่วมกันจะสามารถแก้ปัญหาเลือดออกระหว่างการผ่าตัดรวมถึงยังช่วยในปัญหาการยึดติดของอวัยวะภายในขนาดเล็ก
วัสดุหลักของกาวชีวภาพประเภทนี้คือไคทินดัดแปลง ตอนนี้แซนเดอร์สได้ตรวจสอบเจอสิ่งนี้จากยางสกัดเพรียงตีนเต่า แต่เขาบอกว่าเขามีหัวข้อที่สำคัญกว่าที่กำลังศึกษาอยู่และเขาไม่มีเวลาทำการทดลอง ดังนั้นจึงไม่แน่ใจเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกาวชีวภาพที่สกัดออกมาว่าเป็นอย่างไร
ไคทินเป็นสารชนิดหนึ่งที่มีความสามารถในการควบคุมสองทางที่ไม่เหมือนใคร นอกจากจะใช้ในทางการแพทย์แล้ว ยังสามารถใช้ในเรื่องความงามได้อีกด้วย เนื่องจากมันสามารถปรับสมดุลและรักษาบาดแผล สร้างสภาพแวดล้อมการรักษาที่ชุ่มชื้น ปราศจากเชื้อ ปราศจากรอยแผลเป็น ทำให้ผิวที่เสียหายได้รับการรักษาให้เรียบเนียนและหนาแน่น ยับยั้งการเกิดแผลเป็นในแง่มุมทางเซลล์วิทยา ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องสำอางและศัลยกรรมได้พิจารณาว่าเป็นวิธีเดียวในการรักษาแบบไร้แผลเป็น
ขณะนี้สถาบันทางการแพทย์หลายแห่งในเกาหลีใต้กำลังศึกษาการสังเคราะห์ไคทินเทียม เมื่อประสบความสำเร็จแล้ว สิ่งนี้จะกลายเป็นการปฏิวัติทางประวัติศาสตร์ในวงการศัลยกรรม
แต่การสังเคราะห์ไคทินไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่อย่างนั้นปัญหาการรักษาเลือดออกทางการแพทย์ก็จะไม่เป็นปัญหาที่แก้ยาก และนี่คือคุณค่าของกาวชีวภาพเพรียงตีนเต่า ซึ่งบางทีมันอาจจะให้แนวคิดใหม่ๆ กับการวิจัยได้
มารอนถามฉินสือโอวว่าเขาต้องการขายเท่าไร ฉินสือโอวจึงใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมมาตั้งแต่ตั้งแผงขายของริมถนนกับพ่อแม่ แล้วพูดว่า “ราคาของคุณไม่เหมาะสม เอาอย่างนี้ ผมจะให้โอกาสคุณเสนอราคาอีกครั้ง”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น มารอนก็แทบจะกระโดดขึ้นมาและยกกำปั้นใส่เขา! ใครเอาความกล้าให้คุณมาทำแบบนี้? การเจรจาเป็นไปตามระเบียบ เมื่อผู้ซื้อเสนอราคาแล้ว ผู้ขายก็จะต้องเสนอราคาด้วย ทั้งสองฝ่ายต้องซื่อสัตย์ จริงใจและตรงไปตรงมา!
ฉินสือโอวเป็นคนหน้าไม่อาย เขาทำท่าทางไม่รู้และไม่กลัวอะไรทั้งนั้น อย่างไรก็ตามนี่คืออาณาเขตของเขา เขาสามารถนำการเจรจาต่อรองนี้ได้ ถ้ามารอนไม่ยอมก็ออกไป
หลังจากเข้าใจคุณค่าของกาวชีวภาพแล้ว ฉินสือโอวเชื่อว่าต้องมีบริษัทยาระหว่างประเทศบางแห่งสนใจกาวของเขา
มารอนไม่สามารถไปได้จริงๆ เพราะงานที่สำนักงานใหญ่มอบหน้าที่นี้ให้เขา ซึ่งก็คือการพยายามหารือเกี่ยวกับสิทธิบัตรฉบับนี้อย่างเต็มที่
ดังนั้นเขาทำได้เพียงแค่กล้ำกลืนความเจ็บช้ำน้ำใจและพูดอย่างนิ่มนวลว่า “คุณฉิน เราต้องปฏิบัติตามกฎของการเจรจาธุรกิจระหว่างประเทศไม่ใช่เหรอครับ?”
ฉินสือโอวพยักหน้าอย่างจริงจังและพูดว่า “ใช่ เราต้องปฏิบัติตามกฎ ไม่มีกฎไม่สามารถมีอาณาเขตได้ใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้น คุณมารอน ขอถามหน่อยสิว่าพวกคุณจะยอมจ่ายสิทธิบัตรของผมเท่าไหร่กันแน่?”
หลังจากได้ยินประโยคครึ่งแรกของเขา มารอนก็ยังอยากจะหัวเราะ แต่พอได้ยินทั้งประโยค มารอนก็แทบจะร้องไห้ออกมา เขาไม่รู้ว่าชายตรงหน้าคนนี้ตั้งใจจะล้อเขาเล่นหรือว่าโง่จริงๆ กฎจากที่ไหนกัน? มันตรงไปตรงมาที่ไหน?
เมื่อหมดหนทางแล้ว มารอนจึงยิ้มเจื่อนและทำการเสนอราคาต่อ แล้วพูดว่า “เอาล่ะ คุณฉิน ผมจะบอกราคาต่ำสุดของเรา ถ้าร่วมมือกันได้ งั้นเราก็ร่วมมือกัน ถ้าร่วมมือกันไม่ได้ก็ช่างมันเถอะ”
“เท่าไหร่?”
“สองจุดหกล้านดอลลาร์!” มารอนกล่าว
สองจุดหกล้านดอลลาร์เป็นเงินประมาณสามล้านดอลลาร์แคนาดา ราคานี้นับว่าเป็นราคาที่สูงมากสำหรับสิทธิบัตรกาวฉบับนี้ แต่สำหรับกาวชีวภาพแล้ว ราคานั้นยังห่างไกลอยู่พอสมควร
แต่มารอนแสดงความจริงใจของเขาด้วยการทำแบบนี้แล้ว ฉินสือโอวก็ไม่ได้รู้สึกลำบากใจจึงพูดว่า “ผมยินดีที่จะขายสิทธิบัตรนี้ให้คุณในราคาเดิมหนึ่งจุดแปดล้านดอลลาร์แคนาดา…”
มารอนและลูกน้องทั้งสี่คนก็มีท่าทางไม่อยากจะเชื่อและสายตาของฉินสือโอวก็มองเหมือนกับคนโง่
แต่มารอนกลับรออย่างเงียบๆ และเขาเชื่อว่าฉินสือโอวยังมีบางอย่างที่จะพูด
และฉินสือโอก็พูดต่อจริงๆ ว่า “หนึ่งจุดแปดล้านดอลลาร์แคนาดา สิบเท่าของราคานี้!”
“วู้!” เสียงถอนหายใจดังขึ้น มารอนและลูกน้องทั้งสี่คนก็มองไปที่ดวงตาของฉินสือโอวไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงมองเขาด้วยสายตาที่โง่เขลา
แต่ฉินสือโอวไม่สนใจ เขาพามารอนไปที่ลานบ้านและชี้ไปที่อาคารโรงงานเคมีที่อยู่ทางมุมตะวันตกเฉียงเหนือ แล้วพูดว่า “เราทุกคนรู้ถึงคุณค่าของกาวชีวภาพใช่ไหม? ดูที่สถานที่นั้น นั่นคือโรงงานที่ผมซื้อมาและปรับเปลี่ยนสักหน่อยก็สามารถทำเป็นโรงงานผลิตกาวชีวภาพได้”
มารอนหัวเราะขึ้นมา นี่มันโอ้อวดจริงๆ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ ไม่อย่างนั้นสำนักงานใหญ่คงไม่ส่งหัวหน้าผู้ตรวจสอบอย่างเขามาคุยธุรกิจสำคัญแบบนี้
เขาเข้าใจถึงความเข้มงวดและความยากลำบากของการผลิตยาเป็นอย่างมาก โรงงานขนาดเล็กแบบนี้ยังต้องการผลิตกาวชีวภาพอีกเหรอ? มันเรียบง่ายมาก สิ่งนี้มีค่าได้มากขนาดนี้เลยเหรอ?
ฉินสือโอวก็หัวเราะขึ้นมาเช่นกันและพูดว่า “ผมอาจจะพูดไม่ชัดเจนพอ ผมไม่ได้ผลิตด้วยตัวเอง แต่ร่วมมือกับบริษัทอื่น นั่นคือบริษัท ดาว เคมิคอล! ถ้าคุณอาจจะคิดว่าผมพูดเรื่องไร้สาระ คุณสามารถตรวจสอบข่าวของปีที่แล้วได้ บริษัท ดาว เคมิคอลเคยเกือบจะมาสำรวจที่เกาะของผม แต่ผมไม่พอใจกับราคาที่พวกเขาเสนอ จากนั้นเราก็เลยจบกัน”
“แต่คุณมารอน โปรดเชื่อเถอะว่า แค่คุณยอม บริษัท ดาว เคมิคอลก็จะสามารถกลับมาที่เกาะเราได้ทุกเมื่อที่ผมต้องการ”
แม้ว่าชื่อของบริษัท ดาว เคมิคอลจะมีคำว่า ‘เคมี’  แต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่บริษัทที่ผลิตสารเคมีเพียงอย่างเดียว มันเป็นเหมือนกับบริษัททีเอ็ม เป็นบริษัทที่มีความหลากหลาย ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับน้ำบริสุทธิ์ อาหาร สี บรรจุภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล อาคาร บ้าน รถและอีกหลากหลายสาขา
แน่นอนว่าพวกเขายังมีส่วนร่วมในการขาย บุกเบิก ศึกษาและผลิตยาและเครื่องใช้ทางการแพทย์ด้วย อีกทั้งจุดแข็งของพวกเขาในด้านนี้ค่อนข้างแข็งแกร่ง อย่างน้อยก็ดีกว่าบริษัททรีเอ็ม แต่ถึงอย่างไรเคมีและการแพทย์ก็ทับซ้อนกันในหลายๆ ที่มาก
หลังจากได้ยินแบบนี้แล้ว ท่าทางของมารอนก็จริงจังขึ้นมาทันที แต่กลับเขาส่ายหัวและพูดว่า “ผมเชื่อที่คุณพูด คุณฉิน แต่ราคาของคุณมันไม่สมเหตุสมผลเกินไป หนึ่งจุดแปดล้าน? ไม่ มันเป็นไปไม่ได้หรอก ไม่มีใครยอมซื้อในราคานี้ได้หรอก”
ฉินสือโอวยิ้มและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นคุณก็น่าจะกลับไปสอบถามผู้บริหารของบริษัท ดาว เคมิคอลดูนะ พวกเขายอมเสนอได้น่าดึงดูดกว่าของคุณมาก”
งั้นเป็นอันว่าการเจรจานี้จบกัน มารอนก็ไม่ยอมและถามว่า “พูดตามตรงราคานี้ยากเกินไปสำหรับเรา หรือว่าเราจะไม่มีทางได้ร่วมมือกันได้จริงๆ เหรอครับ?”
ฉินสือโอวพิจารณาอยู่สักพักและพูดว่า “ไม่สิ ร่วมมือกันได้ ถ้าพวกคุณอนุญาตให้เราลงทุนในสิทธิบัตรและเทคโนโลยีซึ่งจะยังคงอยู่ในราคาหนึ่งจุดแปดล้าน จากนั้นค่อยเพิ่มเงินปันผล ผมถึงจะยอมร่วมมือกับพวกคุณ”
“นี่เป็นไปไม่ได้แน่นอน!” มารอนพูดอย่างหนักแน่น
ฉินสือโอวตบไหล่เขาเบาๆ พร้อมกับยิ้มแล้วพูดว่า “ก้มมองดูรองเท้าผมสิ”
“อะไร?” มารอนถามอย่างไม่เข้าใจ “นี่เป็นยี่ห้ออะไร? ผมไม่ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยหรอกนะ”
ฉินสือโอวชี้ไปที่สัญลักษณ์ ‘หลี่ หนิง’ บนรองเท้าและพูดว่า “นี่เป็นแบรนด์ประจำชาติของเราและสโลแกนของเขาคือทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างเป็นไปได้!”
………………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset