ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1206 จับเชลย

เบนสันและคนอื่นๆ ก้าวถอยหลังและเหล่าทหารที่นำโดยแบล็คไนฟ์เอามือทั้งสองไขว้ไปข้างหลังและยกปืนขึ้นพร้อมกับพูดว่า “อย่าขยับ! หมอบลง! หมอบลงทั้งหมด! เร็วสิ!”
ปากกระบอกชี้ไปที่ปืนพกห้ากระบอก สีหน้าเบนสันและทั้งสามคนก็ตื่นตระหนกตกใจออกมาและหมอบลงกับพื้นทันที
แอร์แบ็คเดินรอบๆ อยู่ข้างหลังและตะโกนว่า “ชูมือทั้งสองข้างขึ้นบนหัวและวางให้เรามองเห็นด้วย! เร็ว! ให้ตายสิ ยกมือขึ้น!”
ชายหนุ่มคนหนึ่งตะโกนว่า “โอ้พระเจ้า โอ้พระเจ้า! คือเรนเจอร์จริงๆ! เรนเจอร์มาแล้ว! เบนสัน ผมว่าถ้าเราทำแบบนี้จะมีเรื่องนะ! ดูสิ มีเรื่องแล้ว มีเรื่องจริงๆ ด้วย พระเจ้า!”
เบนสันจ้องมองชายหนุ่มคนนั้นอย่างโมโหและตะโกนว่า “หุบปาก ไอ้โง่แครี่! หุบปากหมาๆ ของนายซะ!”
เมื่อพวกเขาพูดแบบนี้ ไอ้โง่ก็รู้ว่าเรือลำนี้มีปัญหาแล้ว แต่ฉินสือโอวยังคงรู้สึกว่าแบล็คไนฟ์และคนอื่นๆ ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ในสถาการณ์แบบนี้พวกเขามีข้อได้เปรียบที่จำนวนคน แล้วทำไมพวกเขาถึงยังเอาปืนพกออกมา?
ฉินสือโอวช่วยแบล็คไนฟ์และคนอื่นๆ ทำเรื่องใบอนุญาตปืน แต่เป็นแค่ใบอนุญาตปืนยาวธรรมดาเท่านั้น ใบอนุญาตปืนพกนั้นทำเรื่องยากมาก ถ้าเรือลำนี้ไม่มีปัญหา เบนสันและคนอื่นๆ ก็สามารถฟ้องพวกเขาในข้อหาครอบครองปืนพกอย่างผิดกฎหมายได้
“ดูพวกเขาให้ดีแล้วเก็บปืนไปก่อนเถอะ” ฉินสือโอวพูดพร้อมกับมองไปที่แบล็คไนฟ์
แบล็คไนฟ์ยืนกรานว่า “บอส เราต้องเตรียมตัวป้องกันอันตราย ปืนเป็นคู่หูที่น่าเชื่อถือที่สุดในตอนนี้ เราต้องแน่ใจว่าเรือลำนี้ไม่อันตรายก่อนแล้วถึงจะเก็บปืนได้!”
แอร์แบ็คมองดูสองคนจากด้านหลัง แบล็คไนฟ์พาทริกเกอร์มาและบีบีซวงพาออสเปรมา พวกเขากลุ่มหนึ่งก็เข้าไปในห้องโดยสารของเรือบรรทุกสินค้าอย่างกังวลใจ
ไม่นานก็มีคนยกมือขึ้นและเดินออกมาจากห้องโดยสารเรือ ทั้งสี่คนที่เดินออกมาทั้งหน้าและหลัง พวกเขาก็มองไปที่เบนสันด้วยใบหน้าที่เศร้าโศกและถามว่า “กัปตัน นี่มันเกิดอะไรขึ้น เราถูกปล้นแล้วเหรอ?”
แบล็คไนฟ์ให้พวกเขาหมอบลงบนดาดฟ้าเรือ บีบีซวงและทั้งสามคนก็ค้นในห้องโดยสารขับเรือและลูกเรือ จากนั้นก็ออกมาพร้อมกับปืน AR-15 สองกระบอกและเรมิงตันสองกระบอก โยนพวกมันลงบนเรือและพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “อย่าบอกนะว่าพวกคุณเป็นแค่เรือบรรทุกสินค้าธรรมดาทั่วไป!”
“ในการออกเดินทะเล ใครจะไม่พกไว้บนเรือบ้างล่ะเพื่อน?” เบนสันเถียง
ฉินสือโอวขมวดคิ้วและพูดว่า “ดีล่ะคุณกัปตัน เรือบรรทุกสินค้าธรรมดาจะไม่นำอาวุธออกทะเล นี่คือมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ไม่ใช่อ่าวเอเดน เว้นแต่ว่าคุณจะเป็นพ่อค้าอาวุธ แต่พวกคุณเป็นไหมล่ะ? ถ้าอย่างนั้นบอกผมหน่อยสิว่าพวกคุณทำธุรกิจผิดกฎหมายอะไร?”
ทันทีที่เขาพูดเช่นนี้ ชายหนุ่มสองคนที่ตามเบนสันมาก่อนหน้านี้ก็ถึงกับผงะไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็มีคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “โอ้ ให้ตาย พวกคุณไม่ใช่เรนเจอร์!”
ฉินสือโอวเข้าใจว่าปัญหาอยู่ตรงไหนได้อย่างรวดเร็ว เริ่มแรกเขาเรียกตัวเองว่าเรนเจอร์ ส่วนแบล็คไนฟ์และคนอื่นๆ ก็หยิบปืนออกมา ตอนนั้นคนพวกนี้ตกใจกลัวมาก จึงคิดว่าการกระทำที่ผิดกฎหมายของพวกเขาเป็นที่รู้ของทหารสหรัฐฯ จึงส่งกองกำลังพิเศษมาจับพวกเขา
แต่ในเมื่อตอนนี้เขาถามแบบนี้แล้ว คนพวกนี้ก็เข้าใจทันทีว่าฝ่ายตรงข้ามไม่รู้การกระทำที่ผิดกฎหมายของพวกเขา ซึ่งหมายความว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย
เมื่อรู้เรื่องนี้แล้ว เบนสันก็ตะโกนอย่างตื่นเต้นทันทีว่า “พวกคุณไม่มีสิทธิ์กักตัวเรา! เราเป็นพลเมืองเดนมาร์ก พวกเราต้องการพบท่านทูต!”
เมื่อก่อนกรีนแลนด์เคยเป็นดินแดนของเดนมาร์ก แม้ว่าจะสิ้นสุดการปกครองตนเองในปี 2552 แต่ก็ยังมีชาวเดนมาร์กจำนวนมากอาศัยและทำงานอยู่บนเกาะ
คนอื่นๆ ก็ร้องตะโกนด้วยกันกับเบนสัน แบล็คไนฟ์จ้องไปที่พวกเขาและต้องการลงมือจัดการคนพวกนั้น แต่ฉินสือโอวรีบคว้าตัวเขาไว้ ครั้งนี้สถานการณ์จะแตกต่างจากเมื่อก่อน เบนสันและลูกน้องไม่ได้จะทำอันตรายอะไรกับฟาร์มปลา พวกเขาต้องการจะวางแผนใส่ร้ายยัดของกลางแต่ทำไม่สำเร็จ เพราะนี่เป็นเรือบรรทุกสินค้ามาตรฐานที่จดทะเบียนในหนังสือ
ถ้าเป็นแค่การค้นเรือก็แล้วไป แต่พวกเขาพบอาวุธบางอย่าง ซึ่งสามารถกล่าวหาว่าพวกเขานำอาวุธบุกเข้ามาในฟาร์มปลาส่วนตัวได้ แต่อีกฝ่ายไม่ได้โจมตี ฉินสือโอวและคนอื่นๆ จึงไม่มีเหตุผลที่จะโจมตีพวกเขา
เบนสันก็เข้าใจเหตุผลนี้เช่นกัน พวกเขาตะโกนเพื่อต้องการไปที่สถานทูต โดยบอกว่าพวกเขาถูกฉินสือโอวและคนอื่นๆ ล่วงละเมิด พวกเขาไม่ได้ก่ออาชญากรรมใดๆ เพียงแค่เข้ามาจอดเทียบท่าเรือเท่านั้น
อาวุธที่ค้นเจอก็สามารถฟ้องร้องเบนสันและลูกน้องได้ แต่พวกเขาจะไม่ได้รับความผิด ส่วนใหญ่รัฐบาลแคนาดาจะส่งตัวพวกเขาให้กับรัฐบาลเดนมาร์ก เหมือนกับที่เบนสันว่า มีเรือลำไหนที่ออกทะเลแล้วไม่มีอาวุธต้องห้ามบ้าง?
บางทีเรือหลายลำอาจจะไม่ได้นำปืนออกทะเล แต่เรือทุกลำต้องมีสิ่งหนึ่ง นั่นคือมีดแหลมคม ซึ่งเป็นอาวุธพิเศษในการออกทะเล เมื่อเจอกับการปะทะก็สามารถใช้สิ่งนี้เพื่อป้องกันตัวเองได้และเมื่อจับปลาตัวใหญ่ได้ก็สามารถใช้แยกชิ้นส่วนของเนื้อปลาได้
ฉินสือโอวรู้ว่าเรือลำนี้ต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน จากปฏิกิริยาแปลกๆ เมื่อกี้ของคนพวกนี้ก็มองออกแล้ว ขอแค่พบปัญหาว่าอยู่ตรงไหน พวกเขาก็จะไม่กล้าที่จะอวดดีแบบนี้อีก
ดังนั้น เขาจึงพยักหน้าให้กับแบล็คไนฟ์และพูดว่า “เรียกทุกคนขึ้นมาและค้นเรือลำนี้ให้ฉันอย่างละเอียด!”
“เราจะประท้วง!” เบนสันตะโกนขึ้นมาทันที “คุณไม่มีสิทธิ์มาค้นเรือของเรา! ผมจะไปสถานทูตเพื่อประท้วงการใช้ความรุนแรงของชาวแคนาดาที่ล่วงละเมิดสิทธิของเรา!”
ฉินสือโอวหัวเราะเยาะและพูดว่า “คุณสามารถประท้วงได้เต็มที่ หวังว่าหลังจากเจอหลักฐานทางอาญาของพวกคุณแล้วจะยังอวดดีแบบนี้ได้อยู่นะ”
แบล็คไนฟ์ตะโกนใส่เครื่องรับส่งวิทยุ ชาวประมงจึงทยอยขึ้นเรือและค้นเรืออย่างระมัดระวัง
เมื่อเห็นชาวประมงร่างกายกำยำจำนวนมากปรากฏตัวขึ้น ความหยิ่งยโสของเบนสันคนอวดดีก็อ่อนลงทันที เขาจึงพูดกับฉินสือโอวว่า “นี่คุณ จริงๆ แล้ว เราไม่ได้มีความขัดแย้งกันอะไรกันเลยไม่ใช่เหรอ? เราแค่ต้องการเติมเชื้อเพลิงในเมืองของคุณก็เท่านั้น แล้วทำไมเราถึงอยู่ร่วมกันอย่างสันติไม่ได้ล่ะ?”
ชายหนุ่มที่มีผมสีน้ำตาลยังพูดเสริมอีกว่า “คุณเป็นพ่อค้าคนเอเชียใช่ไหม? หลักการห้าประการของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของนายกรัฐมนตรีโจว เป็นนโยบายต่างประเทศของพวกคุณ ทำไมคุณถึงไม่ปฏิบัติตามล่ะ?”
ฉินสือโอวหัวเราะออกมา คิดไม่ถึงว่าคนพวกนี้จะเข้าใจหลักการห้าประการของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เขาประเมินวีรบุรุษของโลกต่ำเกินไปจริงๆ
ในเมื่อมีคนที่เข้าใจวัฒนธรรมทางการทูตของจีนแล้ว ฉินสือโอวจึงเดินเข้าไปและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “คุณรู้จักหลักการห้าประการของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติแล้ว ถ้าอย่างนั้นคุณรู้สุภาษิตของพวกเราคนจีนไหม? คุณเดินไปบนทางหลักของคุณ…”
“รู้สิๆ รู้ คุณเดินไปบนทางหลักของคุณ ส่วนผมจะเดินไปตามทางของผมใช่ไหม?” ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลพูดอย่างตื่นเต้น
คนรอบข้างมองเขาอย่างอิจฉาและมีคนกระซิบว่า “โอ้ ให้ตายเถอะ ปกติผมก็รู้เรื่องวัฒนธรรมต่างชาติมามาก เพราะดูลิตเติ้ลคาร์เชอร์ เลยอยากจะอวด!”
อวดเหรอ? แทบจะบ้า ฉินสือโอวถูกคำพูดของชายหนุ่มผมสีน้ำตาลชายแทงใจดำแล้ว คนที่มีไหวพริบคนนี้ก็มีคุณภาพเช่นกัน สุภาษิตจีนประโยคนี้เขาจะแก้ไขมันให้เป็นอะไรดีนะ?
ฉินสือโอวให้เขาหุบปาก จากนั้นก็พูดจบประโยคนี้ว่า “คุณเดินบนถนนหลักของคุณ ผมจะข้ามสะพานไม้ต้นเดี่ยวของผม มันพูดแบบนี้ต่างหาก! ความหมายคืออะไรน่ะเหรอ? ขอแค่คุณจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผม ผมก็จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้คุณเช่นกัน!”
“เราไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้คุณ” เบนสันพูดด้วยรู้สึกไม่เป็นธรรม
ฉินสือโอวหัวเราะเยาะและพูดว่า “ในเมื่อพวกคุณทำธุรกิจผิดกฎหมาย งั้นก็ไม่ควรอยู่ในพื้นที่ของผม ต่อไปถ้าพวกคุณทำเรื่องไม่ดีขึ้น แล้วองค์การตำรวจสากลพบว่าพวกคุณอยู่ที่ท่าเรือของผม ผมจะจัดการกับเรื่องนี้ได้ใช่ไหม?”
……………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset