ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1208 ติดกับดักแล้ว

หลังจากทำความสะอาดแล้ว เฟอเรททั้งสองตัวก็ขาวสะอาด จึงทำให้เห็นสีขนที่แตกต่างจากก่อนหน้านี้
ฉินสือโอวใช้ไดร์เป่าผมเป่าขนของเจ้าสองตัวน้อยให้แห้ง ทันใดนั้นเฟอเรทตัวน้อยไร้เดียงสาทั้งสองตัวก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขา
หลังจากล้างสีย้อมออกจากขนแล้ว ขนที่หัวและหลังของเฟอเรทตัวน้อยทั้งสองตัวนี้เป็นสีเหลืองอ่อน ส่วนท้องมีสีคล้ายกันแต่จะอ่อนกว่าเล็กน้อยและขอบตาเป็นสีน้ำตาลเข้มเหมือนกับหมีแพนด้ายักษ์
นอกจากนี้ ปากของพวกมันยังมีสีขาวราวกับหิมะ แขนขาทั้งสี่และส่วนตรงกลางหางเป็นสีดำ เหมือนกับว่ากำลังสวมรองเท้าบูตสีดำอยู่
ฉินสือโอวเป่าขนให้พวกมันจนแห้ง เจ้าตัวเล็กทั้งสองนอนอยู่บนฝ่ามือของเขาอย่างเชื่อฟัง ดวงตากลมโตกลอกตาไปมา เผยให้เห็นความฉลาดและเสียง ‘ยะ’ ที่ไม่ชัดเจนในลำคอก็ดังขึ้น ราวกับเด็กงอแงที่กำลังใช้หัวสีกับนิ้วหัวแม่มือของเขา
เมื่อเห็นสภาพที่แท้จริงของเจ้าตัวเล็กทั้งสองตัวนี้ แบล็คไนฟ์ก็ร้องอุทานว่า “พระเจ้า มันคือเฟอเรทแบลคฟุตจริงๆ ด้วย! เจ้าพวกนี้เป็นของหายากแล้วพวกเขาไปเอามาจากไหนกันนะ? จริงๆ แล้วพวกมันอาจจะเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ ดังนั้นคู่นี้คงจะมีมูลค่าอย่างน้อยหนึ่งล้านดอลลาร์!”
ฉินสือโอวค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับสัตว์ชนิดนี้ ปรากฏว่าเดิมทีเฟอเรทที่เลี้ยงกันในครอบครัวในยุคปัจจุบันที่ได้รับความนิยมมากในอเมริกาเหนือ จริงๆ แล้วเฟอเรทแบลคฟุตเป็นเฟอเรทชนิดเดียวที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปผืนนี้อย่างแท้จริง
เมื่อเทียบกับสปีชี่ส์เดียวกันของพวกมันแล้ว เฟอเรทแบลคฟุตจะมีขนเรียบกว่า มีความรู้สึกไวกว่า รูปลักษณ์ภายนอกน่ารักกว่าและความสามารถในการล่าสัตว์ที่รวดเร็วกว่าด้วย
แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กลับไม่ใช่เพราะขนหรือรูปลักษณ์ภายนอกของพวกมัน แต่กลับเป็นอาหาร
ในยุคที่เจริญรุ่งเรืองจนถึงขีดสุด มีเฟอเรทแบลคฟุตจำนวนมากกระจายอยู่ทั่วตอนใต้ของแคนาดาและตามเทือกเขาร็อกกีตรงไปทางตะวันออกไปยังพื้นที่กว้างของโอคลาโฮมา แคนซัสและเนแบรสกาในสหรัฐอเมริกา ทุกที่ล้วนสามารถพบเห็นร่องรอยของพวกมัน
พื้นที่บริเวณนั้นยังเป็นเขตทุ่งหญ้าที่มีชื่อเสียงของทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งมีหนูและแพรี่ด็อกจำนวนมากและสัตว์ตัวเล็กๆ ทั้งสองชนิดนี้ก็บังเอิญเป็นที่โปรดปรานของเฟอเรทแบลคฟุต
แต่สัตว์ทั้งสองชนิดนี้ก็บังเอิญเป็นศัตรูตัวฉกาจของเหล่าเจ้าของฟาร์ม โดยเฉพาะแพรี่ด็อก พวกมันชอบแทะรากของทุ่งหญ้าและอาศัยอยู่กันเป็นกลุ่ม ซึ่งในกลุ่มหนึ่งมักจะมีแพรี่ด็อกหลายพันตัวและพวกมันสามารถทำลายทุ่งหญ้าได้หลายสิบเฮกตาร์
ในศตวรรษที่ผ่านมา เพื่อที่จะกำจัดสัตว์ฟันแทะที่ทำลายทุ่งหญ้าชนิดนี้ เจ้าของฟาร์มจึงใส่เหยื่อผสมยาพิษจำนวนมากเพื่อกำจัดแพรี่ด็อก
วิธีนี้ได้ประโยชน์มาก แพรี่ด็อกประสบกับภัยพิบัติร้ายแรง ในขณะเดียวกันเฟอเรทแบลคฟุตที่กินพวกมันเป็นแหล่งอาหารหลัก ก็ต้องประสบภัยพิบัตินี้เช่นกัน จำนวนของพวกมันลดลงอย่างรวดเร็ว จนถึงช่วงปี 1970 ทุ่งหญ้าแคนาดาจึงประกาศการทำลายเผ่าพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตตัวน้อยที่น่ารักชนิดนี้
โชคดีที่เผ่าพันธุ์เฟอเรทแบลคฟุตยังอยู่รอดต่อไปได้ ในช่วงกลางทศวรรษที่ 1980 นักชีววิทยาชาวอเมริกันบังเอิญค้นพบเผ่าพันธุ์ขนาดเล็กของเฟอเรทแบลคฟุตประมาณหนึ่งร้อยยี่สิบตัวที่รัฐไวโอมิง
แต่เดิมสำหรับเผ่าพันธุ์สิ่งมีชีวิตชนิดนี้ หนึ่งร้อยยี่สิบตัวนั้นนับว่าไม่น้อยเกินไป เพียงแค่ได้รับการป้องกันที่ดี แค่ไม่กี่ปี มันก็สามารถแพร่พันธุ์ได้ถึงหลายพันตัว จากนั้นก็เป็นหมื่นตัว จากนั้นอีกก็จะสามารถหลุดออกจากสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ได้
โชคไม่ดีที่ในปี 1985 เผ่าพันธุ์เฟอเรทแบลคฟุตเกิดการระบาดของโรคติดต่อกันถึงสองครั้งและสุดท้ายพวกมันก็มีชีวิตรอดเหลือเพียงแค่สิบแปดตัว นักชีววิทยาควรลงมือตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่อย่างนั้นทั้งสิบแปดตัวนี้ก็จะไม่รอดเช่นกันและสุดท้ายมาตรการป้องกันของมนุษย์ก็จะไร้ประโยชน์
จากนั้นพวกเขาจึงเอาเฟอเรททั้งสิบแปดตัวนี้มาเป็นแม่พันธุ์และเพิ่มเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างทารกในหลอดทดลองและไข่ที่ผ่านการแช่แข็ง ในที่สุดนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันก็ได้ช่วยชีวิตสัตว์ชนิดนี้ไว้ได้ แต่เนื่องจากมันไม่ได้อาศัยอยู่ตามทุ่งหญ้า ความสามารถในการมีชีวิตรอดและการสืบพันธุ์ของเฟอเรทเหล่านี้แย่มาก จนปัจจุบันนี้จำนวนของพวกมันก็มีแค่ประมาณห้าร้อยตัวเท่านั้น
ไม่รู้ว่าเบนสันและคนพวกนี้เอาเฟอเรทแบลคฟุตตัวน้อยมาจากที่ไหน ราคาที่เพิ่งเสนอของแบล็คไนฟ์จริงๆ แล้วก็ค่อนข้างหัวโบราณเล็กน้อย สัตว์ตัวน้อยชนิดนี้ควรมีราคาต่อหนึ่งตัวมากกว่าหนึ่งล้านดอลลาร์ด้วยซ้ำ
ซึ่งเฟอเรทแบลคฟุตเป็นสัตว์ที่หายากกว่าแพนด้ายักษ์ ตอนนี้ประเทศจีนสามารถส่งแพนด้ายักษ์ไปเป็นนักการทูตในประเทศอื่นๆ ได้แล้ว แต่ชาวอเมริกันไม่เต็มใจที่จะใช้เฟอเรทแบลคฟุตเป็นสัญลักษณ์ทางการทูต
ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้แพนด้ายักษ์ในตลาดมืดมีราคาเท่าไร? เพราะเฟอเรทแบลคฟุตมีแต่จะแพงขึ้น!
รูปลักษณ์ภายนอกของสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ชนิดนี้ก็ไม่ได้แย่ไปกว่าแพนด้ายักษ์เท่าไร โดยเฉพาะตอนนี้เจ้าตัวนุ่มๆ ขนาดเล็ก ตัวอวบอ้วนที่เต็มไปด้วยขนที่หนานุ่ม ฉินสือโอวที่เพิ่งเข้ามาได้เพียงครู่หนึ่งก็โดนรูปลักษณ์ภายนอกของพวกมันพิชิตใจได้ซะแล้ว
มันน่ารักมากจริงๆ!
น่าเสียดายที่เจ้าตัวเล็กทั้งสองตัวนี้เป็นอาวุธนิวเคลียร์สองลูกที่สามารถวิ่งได้ ชาวอเมริกันจึงจัดทำข้อมูลของเฟอเรทแบลคฟุตแต่ละตัวที่เพิ่งเกิดรวมทั้งบันทึกสีขน ยีนและลักษณะทางกายภาพของพวกมัน ซึ่งมันจะไม่สูญหายไปได้แม้แต่ตัวเดียวแน่นอน
คาดว่าตอนนี้ชาวอเมริกันคงรู้แล้วว่าพวกเขาได้เสียเฟอเรทแบลคฟุตไปแล้วสองตัว ไม่แปลกใจเลยที่ตอนที่พวกเขาเรียกตัวเองว่าเรนเจอร์เบนสันและคนอื่นๆ ก็กลัวขึ้นมาทันที เพื่อที่จะค้นหาเฟอเรทแบลคฟุตคู่หนึ่งชาวอเมริกันอาจจะส่งกองกำลังทหารเรนเจอร์ออกไปก็ได้!
ถ้าฉินสือโอวแอบเก็บเฟอเรทแบลคฟุตตัวน้อยไว้อย่างเงียบๆ และรอให้ชาวอเมริกันมาจับเบนสันและคนอื่นๆ ไปและจัดการสถานการณ์ให้เรียบร้อย เดาว่าคงจะส่งเขาไปที่ศาลโดยตรง พอถึงตอนนั้นสถานะทหารอาสาสมัครของเขาก็จะไม่สามารถรักษาเอาไว้ได้
ในสหรัฐอเมริกา เฟอเรทแบลคฟุตเป็นสัตว์คุ้มครองที่ไม่ได้รับการอนุญาตให้ขนส่ง ซื้อขายและการเพาะพันธุ์ส่วนตัว ดังนั้นระดับการป้องกันจึงมีมากกว่านกอินทรีหัวขาว เนื่องจากพวกมันมีจำนวนน้อยเกินไป
ฉินสือโอวรักและทะนุถนอมเฟอเรทแบลคฟุตตัวน้อยทั้งสองมาก เมื่อกี้ตอนที่ใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนควบคุมพวกมัน เขาได้ป้อนพลังโพไซดอนส่วนหนึ่งเข้าไปอย่างราบรื่นและตอนนี้เจ้าตัวเล็กทั้งสองตัวก็เต็มไปด้วยความผูกพันกับเขา พวกมันจึงนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างไร้เดียงสา
ฉินสือโอวพาเฟอเรทขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือ เขามองไปที่เบนสันและลูกน้อง จากนั้นก็ยิ้มและพูดว่า “เมื่อกี้ผมพูดอะไรนะ? พวกคุณอวดดีต่อสิ หึหึ? ทำไมไม่อวดดีแล้วล่ะ?”
เห็นได้ชัดว่าชาวประมงก็รู้จักเฟอเรทแบลคฟุตเช่นกัน พวกเขารวมตัวกันและล้อมรอบมองดูด้วยความประหลาดใจสักพัก จากนั้นก็ถึงคราวที่พวกเขาจะอวดดีบ้าง
“ให้ตายเถอะ ฉันเรียนมาน้อยเลยไม่เข้าใจกฎหมาย ใครบอกฉันได้บ้างว่าโทษทางกฎหมายในการลักลอบค้าเฟอเรทแบลคคืออะไร?”
“ฮ่าฮ่า ถ้าคุณถูกชาวอเมริกันจับได้ ระดับยิงเป้าก็สามารถทำได้เป็นการส่วนตัวนะ”
“เยี่ยมไปเลย ให้ตายเถอะ พวกคุณเอาเฟอเรทแบลคมาได้อย่างไร? ผมคิดว่าการขโมยสิ่งนี้จากชาวอเมริกันนั้นยากกว่าการขโมยทองคำจากซิตี้แบงก์อีกใช่ไหม?”
เมื่อเห็นเฟอเรทตัวน้อย สีหน้าของเบนสันและคนอื่นๆ ก็หน้าซีดทันที ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลจึงพูดปากสั่นว่า “กัปตัน พวกเขาเจอแล้ว! ทำอย่างไรดี? พวกเขาเจอเฟอเรทแบลคแล้ว! เราจบเห่แน่ เราจะถูกฆ่าตายไหม?”
เบนสันไม่สนใจเพื่อนร่วมทางที่กำลังหวาดกลัวอยู่ข้างๆ และตะโกนใส่ฉินสือโอวด้วยสีหน้าที่ดูกังวลของเขาว่า “ใครให้คุณอาบน้ำให้มัน? คุณใช้น้ำเปล่าล้างสีย้อมใช่ไหม?”
ฉินสือโอวพูดอย่างงงงวยว่า “ใช้น้ำอาบให้มันแล้วจะเป็นอย่างไร?”
เบนสันลุกขึ้นยืนต่อหน้าเขาและอุทานด้วยความโกรธว่า “คุณไม่รู้เหรอว่าสีย้อมที่อยู่บนตัวพวกมันคืออะไร? พระเจ้า! พระเจ้า! เจ้าตัวเล็กทั้งสองจบเห่แล้ว…เร็วเข้า ไปเอาพวกมันมา! รีบไปเอามา ไม่อย่างนั้นจะสายเกินไป!”
ฉินสือโอวไม่เข้าใจว่าเบนสันหมายถึงอะไร แต่เขารู้สึกว่าตัวเองทำผิดพลาดโดยไม่รู้ตัว เขาจึงไปเอาเฟอเรทแบลคมาให้เขา
แต่เมื่อเบนสันได้ตัวเฟอเรทตัวน้อยแล้วกลับหันหลังวิ่งหนีไป เขาวิ่งอย่างรวดเร็วเข้าไปในเรือแล้วโยนเฟอเรทตัวน้อยลงทะเล
…………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset