ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1209 วิ่งหนีไป วิ่งหนีไป

เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนช็อก!
ฉินสือโอวสบถ บ้าเอ๊ย นายเกิดมาฉลาดแบบนี้ได้อย่างไร? ไม่เพียงแค่ฉลาดเท่านั้น แต่ยังจู่โจมได้อีกด้วย สีหน้าที่ตกใจของเบนสันเมื่อครู่นี้หลอกเขาได้จริงๆ จนทำให้เขาคิดว่าตัวเองทำเรื่องอะไรที่ไม่ดีลงไป
ไม่อย่างนั้น เขาจะเอาเฟอเรทตัวน้อยให้เบนสันอย่างโง่เขลาได้อย่างไร? ในขณะเดียวกันเขาก็ประเมินความชั่วร้ายของคนคนนี้ต่ำเกินไป!
คิดไม่ถึงว่าเพื่อที่จะลดโทษทางกฎหมาย ผู้ชายคนนี้จะโยนเฟอเรทตัวน้อยลงไปในน้ำให้จมน้ำตาย?! ฉินสือโอวนึกถึงข่าวหนึ่งก่อนหน้านี้ ที่มีคนขโมยทารกและพ่อแม่ของเขาก็โทรแจ้งตำรวจ เพื่อหลบหนีและตามหาเบาะแสของคนคนนี้ คิดไม่ถึงว่าจะบีบคอทารกและฝังน้ำแข็งในอากาศที่หนาวเย็นจัด!
แบล็คไนฟ์และคนอื่นๆ ก็รู้สึกโมโหกับการกระทำของเบนสัน จากนั้นปืนพกของเขาก็มีเสียง ‘แครก’ ดังขึ้นและเขาก็ร้องตะโกนว่า “ไอ้บ้านี่ แกต้องตายแน่! แกตายแน่!”
สีหน้าของเบนสันซีดขึ้นมาทันที เขายกมือทั้งสองข้างขึ้นอย่างรวดเร็วและตะโกนว่า “ไม่ๆๆ! อย่ายิง! ฉันไม่ได้ต้องการฆ่าพวกมัน! พวกมันว่ายน้ำเก่ง ไม่มีทางจมน้ำทะเลตายหรอก! และอีกอย่างตรงนี้ก็อยู่ใกล้กับชายฝั่งมาก พวกมันเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว!”
ฉินสือโอวโบกมือห้ามแบล็คไนฟ์และตะโกนว่า “อย่ายิง สิ่งที่สำคัญตอนนี้คือจะจับเฟอเรทคู่นี้ได้อย่างไร แอร์แบ็คนายคอยดูพวกบ้านี่ไว้ ส่วนคนอื่นๆ ที่เหลือตามฉันมา!”
การจับเฟอเรทตัวน้อยนั้นจริงๆ แล้วง่ายมาก เบนสันโยนพวกมันลงไปในน้ำและจิตสำนึกแห่งโพไซดอนก็ได้ตามมันไป เพียงแค่ฉินสือโอวยินยอม พวกมันก็สามารถอยู่ในทะเลอย่างคงที่ได้ตลอดเวลา
แต่ทำไมเขาถึงต้องการให้อยู่อย่างคงที่ด้วยล่ะ? ก่อนหน้านี้เขาเห็นว่าเจ้าตัวเล็กน่ารัก ต้องดีมากแน่ๆ ถ้าเก็บพวกมันไว้ให้ลูกสาว เหตุผลหลักคือตอนนั้นเขากังวลว่าจะเก็บพวกมันไม่ได้และชาวอเมริกันต้องมาคุกคามเขาแน่นอน
ตอนนี้สถานการณ์เริ่มเข้าที่แล้ว เบนสันโยนเฟอเรทตัวน้อยทั้งคู่ลงทะเลท่ามกลางคนจำนวนมาก แล้วทำไมฉินสือโอวจึงไม่ปกป้องพวกมัน จากนั้นยังจะแอบพาพวกมันกลับไปอีก?
ด้วยความคิดนี้ ฉินสือโอวจึงใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนสร้างคลื่นให้ขนานกับชายฝั่งและดันเฟอเรทตัวน้อยให้ลอยกลิ้งไปในระยะทางไกลอย่างรวดเร็ว เจ้าตัวเล็กทั้งสองตกใจกลัวอยู่ในน้ำนี่ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกมันลงน้ำ แต่กระแสน้ำทำไมถึงเร็วขนาดนี้ล่ะ?
แม่เจ้า ช่วยด้วย!
ตัวของเฟอเรทแบลคฟุตมีสีเหลืองอ่อนผสมกับสีดำและสีน้ำตาล หลังจากลงน้ำแล้วจึงทำให้สังเกตได้ยาก นอกจากนี้ยังมีหัวขนาดเล็กและหลังจากที่เปียกน้ำขนก็ยังติดไปกับตัว จึงยิ่งทำให้มีขนาดเล็กเหมือนกับหนูน้ำ หลังจากคลื่นสองสามลูกซัดมาก็หาพวกมันไม่เจอแล้ว
ทหารและชาวประมงมองหาพวกเขาอย่างกระตือรือร้นเป็นเวลานาน แต่ก็ยังไม่เจอแม้แต่ร่องรอยของพวกมัน พวกเขาจึงกังวลมากและถามฉินสือโอวว่า “บอส เราจะทำอย่างไรดี?”
ฉินสือโอวจะรู้ได้อย่างไรว่าจะต้องทำอย่างไร? เพราะตอนนี้เขาก็สับสนอยู่เหมือนกัน คลื่นที่ซัดเมื่อสักครู่นี้ได้พัดพาเจ้าตัวเล็กทั้งสองไปไกลจากท่าเรือ จากนั้นจึงไปดูบนชายหาด พวกมันก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย มันจะฉลาดเกินไปแล้วนะ!
พื้นดินไม่ใช่อาณาเขตของโพไซดอน ตอนนี้ฉินสือโอวจึงรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก
เมื่อมองหากันไปรอบหนึ่งแล้วก็ยังไม่เจอเฟอเรทแบลคฟุต แบล็คไนฟ์จึงดึงคอเสื้อของเบนสันขึ้นด้วยความโกรธพร้อมกับกัดฟันแล้วพูดว่า “บ้าเอ๊ย แกตายแน่! แกพยายามฆ่าสัตว์ที่กฎหมายคุ้มครอง แกตายแน่!”
เบนสันตกใจกลัวแบล็คไนฟ์จนขาสั่น แต่เขามีปฏิกิริยาตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและตะโกนว่า “ใครฆ่าสัตว์ที่กฎหมายคุ้มครองกัน? ฉันไม่ได้ทำแบบนี้สักหน่อย ใครทำกัน? ที่นี่มีกฎหมายคุ้มครองสัตว์ที่ไหนกัน?”
ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลตัวสั่นพร้อมกับตอบสนองกลับและร้องตะโกนข่มว่า “เราไม่มีกฎหมายลักลอบเพื่อคุ้มครองสัตว์! เราเป็นลูกเรือที่ซื่อสัตย์ พวกเราพกปืนมาอย่างมากก็แค่สองสามกระบอกเท่านั้น แต่ที่พกก็เพื่อป้องกันตัวเอง…”
คนอื่นๆ ก็ต่างพากันตะโกนขึ้นและพยายามแยกตัวออก
ใบหน้าตื่นตระหนกของเบนสันก็แอบดีใจในใจ โชคดีที่ตัวเองฉลาดอยู่ชั่วขณะหนึ่ง ดังนั้นจึงไม่ต้องถูกหน่วยรบพิเศษของอเมริกายิงเป้า
เดิมทีเขาวางแผนที่จะโยนเฟอเรทคู่นี้ลงไปในน้ำแล้วให้พวกมันปีนขึ้นไปซ่อนบนฝั่ง แต่ตอนนี้กลับไม่ใช่อย่างที่คิด ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง ขอแค่พวกเขาแสร้งบอกว่าไม่ได้ลักลอบค้าเฟอเรทแบลคฟุตและอีกอย่างก็ไม่มีหลักฐาน ดังนั้นจะไม่สามารถฟ้องร้องได้อย่างแน่นอน
แต่เมื่อนึกถึงเจ้าของที่อยู่เบื้องหลัง เหงื่อของเขาก็ไหลออกมาอีกครั้ง นั่นคือเฟอเรทแบลคฟุตหนึ่งคู่ที่มีมูลค่าถึงสองล้านดอลลาร์ ว่ากันว่าเศรษฐีคนหนึ่งในตะวันออกกลางมีคอนเนคชั่นที่หลากหลาย ถ้ากลับไปแล้วสุดท้ายตัวเองถูกโยนลงทะเลจนไม่เหลือแม้แต่ซากกระดูกจะทำอย่างไร?
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เขาก็หมดหวังอีกครั้งและร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวดในขณะที่กอดขาแบล็คไนฟ์อยู่
เรือสปีดโบ๊ทสีขาวของตำรวจทางทะเลขับเข้ามา แบล็คไนฟ์จึงมองไปที่ฉินสือโอวด้วยความลำบากใจและถามว่า “ทำอย่างไรดี เรื่องเฟอเรทแบลคฟุตเราจะพูดออกไปดีไหม?”
ฉินสือโอวส่ายหัวแล้วเตะเบนสันอย่างรุนแรงและพูดว่า “แม่เจ้า ไอ้พวกบ้านี่โชคดีชะมัด ไม่ต้องพูดแล้ว ว่าแล้วเราก็ต้องรับผิดร่วมกัน ถ้าชาวอเมริกันตั้งข้อกล้าวหาว่าเราไม่พยายามปกป้องก็จะลำบาก”
ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลถอนหายใจด้วยความโล่งอกและทำท่าทางขอบคุณพระเจ้าที่คุ้มครองบนหน้าอก
ฉินสือโอวมองดูด้วยความโกรธและขึ้นไปชกเขาอีกครั้ง
เมื่อครู่นี้เบนสันใจดำอำมหิตมากจริงๆ อย่างที่เขาว่าเฟอเรทแบลคฟุตว่ายน้ำได้และมันจะไม่จมน้ำตายในทะเลแน่นอน ใช่ เฟอเรทแบลคฟุตว่ายน้ำได้เป็นอย่างดี แต่เฟอเรทสองตัวนั้นยังคงเป็นลูกเฟอเรทตัวน้อย ความสามารถในการว่ายน้ำของพวกมันยังอ่อนแอมาก
นอกจากนี้ ยังมีปลาและกุ้งจำนวนมากในฟาร์มปลา เฟอเรทแบลคฟุตตัวน้อยขนาดเท่าฝ่ามือสองตัวว่ายน้ำอยู่น่านน้ำ จะต้องถูกปลาค็อดและปลาอีโต้มอญคอยจ้องมองแน่นอน นั่นเป็นสิ่งที่อันตรายมาก!
ตอนนี้ยิ่งอันตรายมากยิ่งขึ้น ถ้าหลังจากเจ้าตัวเล็กทั้งสองขึ้นฝั่งก็ไม่รู้ว่าจะวิ่งไปที่ไหน ฉินสือโอวจึงรู้สึกจนปัญญา
ตำรวจทางทะเลขึ้นไปบนเรือและถามว่าเกิดอะไรขึ้น ฉินสือโอวจึงอธิบายสิ่งที่เกิดอย่างเซื่องซึม แน่นอนว่าเกี่ยวกับเรื่องที่เฟอเรทแบลคฟุตถูกจับไป
ตำรวจทางทะเลคนนั้นจึงเกาหัวและพูดว่า “เพียงเพราะพวกเขาต้องการจอดเทียบท่าของคุณ คุณจึงคิดว่าพวกเขามีปัญหาใช่ไหม?”
ฉินสือโอวพูดด้วยความโมโหว่า “นี่คุณ คุณจัดการได้ดีนะ แต่ทะเลผืนนี้เป็นอาณาเขตของผม! ผมมีสิทธิ์ที่จะตรวจสอบสภาพของเรือที่เข้ามาในบริเวณของผม! นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นฐานอนุรักษ์เต่ามะเฟืองอีกด้วย ใครจะรู้ว่าเรือลำนี้ไม่ได้เข้ามาลักลอบจับเต่ามะเฟืองกันล่ะ?”
ตำรวจทางทะเลลูบจมูกไปมาและพึมพำว่า “อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ไปหน่อยเลย? มีคนจำนวนมากมาขโมยเต่ามะเฟืองงั้นเหรอ?”
ฉินสือโอวหัวเราะเยาะและชี้ไปที่คนพวกนั้นแล้วพูดว่า “คุณดูพวกเขาสิ ผมรู้สึกว่าพวกเขามีเจตนาที่ไม่ดี ถ้าพวกเขาไม่ได้ต้องการทำเรื่องผิดกฎหมาย แล้วพวกเขาจะพกอาวุธเหล่านี้มาทำไม?”
ตำรวจทางทะเลยักไหล่ใส่และเริ่มจัดการตามระเบียบ
แบล็คไนฟ์และคนอื่นๆ ถือปืนไรเฟิลเอนฟิลด์และจ้องไปที่เบนสันและคนอื่นที่อยู่ข้างๆ อย่างดุร้าย ถ้าพวกเขายังพูดเรื่องไร้สาระอยู่จะจัดการอย่างไม่เหลือความปรานีแม้แต่น้อย
หลังจากตำรวจทางทะเลตรวจสอบปืน คันธนูและลูกศรแล้ว พวกเขาจึงจับกุมเบนสันและคนอื่นๆ ไป และการนำอาวุธลักลอบเข้ามาในประเทศอื่น ก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
สุดท้ายเบนสันก็ยังต้องการที่จะตอบโต้กลับ จึงชี้ไปที่แบล็คไนฟ์และคนอื่นๆ แล้วร้องตะโกนว่า “พวกเขามีปืนพกซ่อนอยู่ พวกคุณต้องตรวจสอบพวกเขาด้วย…โอ้ ให้ตายเถอะ หยุดตีผมได้แล้ว! ช่วยด้วย พวกคุณไม่ยุติธรรม…”
ทันทีที่เขาพูดจบ ทหารก็รุมซ้อมเขา
ตำรวจทางทะเลเมินพวกเขา มีบางคนที่ยังถือว่าใจดีพอที่จะอธิบายให้กับชายหนุ่มผมสีน้ำตาลและคนอื่นๆ ให้เข้าใจว่า “ทางที่ดีพวกคุณควรจะทำตัวให้ดี คนพวกนี้อยู่เหนือการควบคุมของเรา พวกเขาเป็นคนของระบบกองทัพ ดังนั้นถ้าพวกคุณยั่วยุพวกเขา การถูกทำร้ายหรือทุบตีนั้นก็จะเอาเรื่องอะไรไม่ได้”
ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลและคนอื่นๆ พยักหน้าอย่างแรง ในขณะที่เบนสันถูกทุบตีอย่างหนัก
………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset