ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1213 สายพันธุ์ใหม่

ในท้องทะเลลึกอันมืดมิด ทั้งเหน็บหนาว เดียวดายและสิ้นหวังมาก เดาว่าปลาและกุ้งทุกตัวคงรู้สึกแบบนี้ พวกมันจึงต้องการอ้อมกอดที่อบอุ่น การนำทางที่มีความหวังและการปลอบโยน
ดังนั้น เมื่อมีแสงปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกมันในเวลานี้ พวกมันจะทำอย่างไร?
ไม่ต้องลังเลเลยสักนิด พวกมันเข้าไปใกล้ๆ ทันที ขณะนี้ฉินสือโอวจึงเห็นปลาตัวใสยาวสี่ห้านิ้วว่ายน้ำเข้าหาปลาตกเบ็ดที่มีความยาวประมาณสามสิบเซนติเมตร
แสงสว่างจากโคมไฟที่ห้อยอยู่บนหัวของปลาตกเบ็ดนั้นอ่อนมาก จนไม่สามารถส่องสว่างใบหน้าของพวกมันได้ ไม่อย่างนั้นเดาว่าปลาเหล่านี้คงจะโดดเดี่ยว เหน็บหนาว ต้องการการปลอบโยนและไม่สามารถพึ่งพาได้ต่อไป
ฉินสือโอวสามารถมองเห็นลักษณะของปลาตกเบ็ดชนิดนี้ได้อย่างชัดเจน มันน่าเกลียดมากจริงๆ! พระเจ้า นี่มันฝันร้ายชัดๆ ไม่คิดอย่างนั้นเหรอ? เขาเฝ้าดูปลาตัวน้อยเหล่านี้ที่ถูกแสงไฟล่อเข้าไปและอดไม่ได้ที่จะนึกถึงตอนเด็กๆ ที่เคยดูหนังสยองขวัญ ฉากที่ศีรษะของมนุษย์โผล่ออกมาบ้างล่ะ วิญญาณชั่วร้ายโผล่ออกมาบ้างล่ะ มันน่ากลัวจนฉี่แทบราดจริงๆ!
ปลาตกเบ็ดอ้าปากกว้าง เผยให้เห็นฟันแหลมคมที่ไม่เท่ากันและเขี้ยวสลับกัน จากนั้นครีบที่อยู่ด้านบนของหัวยังสามารถหดกลับได้ ปลาตัวเล็กเหล่านี้จึงตกเข้าไปในปากของพวกมันแบบนี้…
ในขณะที่ปลาตกเบ็ดกำลังจะหุบปากลง จู่ๆ งูเหลือมยักษ์ตัวแบนตัวหนึ่งก็ลอยตัวขึ้นมาจากทรายที่ก้นทะเล ร่างใหญ่ของมันทับตัวปลาตกเบ็ดและร่างของมันลอยคดเคี้ยวไปข้างหน้า หลังจากพวกมันจากไป ที่ที่ปลาตกเบ็ดเคยอยู่ก่อนหน้านี้ก็ไม่หลงเหลืออะไรไว้เลย!
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่งูเหลือมยักษ์ แต่เป็นแมลงยักษ์คล้ายตะขาบที่เชื่อมต่อกันไปมา
หลังจากแมลงยักษ์คล้ายตะขาบปรากฏตัวขึ้น ปลาตกเบ็ดตัวอื่นๆ ก็ว่ายน้ำเร่งความเร็วทันทีและแสงของโคมไฟดวงเล็กที่อยู่บนหัวของพวกมันก็ค่อยๆ มืดสลัวลง สุดท้ายแสงสว่างก็อ่อนลงจนแทบมองไม่เห็นอะไรเลย ซึ่งนี่เป็นการปกป้องตัวเองที่จำกัดมากที่สุด
หลังจากแมลงยักษ์คล้ายตะขาบกินปลาตกเบ็ดไปตัวหนึ่งแล้วมันก็วนอยู่รอบๆ อีกครั้งและรวบรวมร่างอย่างรวดเร็วแล้วกลับไปที่รังหลุมดำ
จากนั้นไม่นาน โคมไฟเล็กๆ ของปลาตกเบ็ดก็สว่างขึ้นอีกครั้ง ราวกับว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พวกมันยังคงจับปลาและกุ้งตัวเล็กมาเป็นอาหารต่อไปเรื่อยๆ
อย่ามองว่าปลาตกเบ็ดมีขนาดเล็ก นิสัยการกินของพวกมันรุนแรงเหมือนกับฉลามวัว พวกมันกินได้ทุกอย่าง เพราะมีฟันที่แหลมคม พวกมันจะแทะปลาที่บังเอิญได้รับบาดเจ็บหรือเพิ่งตาย แม้ว่ามันต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม
ฉินสือโอวเข้าไปดูอย่างละเอียดและพบว่าปลาตกเบ็ดเหล่านี้ไม่เหมือนกับที่เขารู้จักในอินเทอร์เน็ตและในหนังสือมาก่อนหน้านี้ นอกจากครีบที่ส่องแสงบนหัวของพวกมันแล้ว ยังมีส่วนเล็กๆ ที่เหมือนกับขาแมลงยื่นออกมาสองข้างและยังมีหนวดอยู่รอบๆ ปากอีกด้วย
ดังนั้น หนวดของพวกมันจึงสามารถแกว่งไปมาได้อย่างช้าๆ ซึ่งดูเหมือนกับสาหร่ายทะเล อีกทั้งหนังปลาอันมันวาวและเรียบเนียนของพวกมันยังมีจุดสีแดง เหมือนจะกระจายอยู่บนสาหร่ายสีแดง ดังนั้นต่อให้ปลาและกุ้งที่มีสายตาดี ก็ไม่สามารถมองเห็นการมีอยู่ของพวกมันได้ง่ายๆ
ฉินสือโอวจำได้ว่าเขาไม่เคยเห็นปลาตกเบ็ดที่มีหนวดบนปากมาก่อน เขารู้สึกว่านี่คงจะเป็นปลาตกเบ็ดสายพันธุ์ใหม่ที่มนุษย์ยังไม่ได้ค้นพบ
แน่นอนว่าสิ่งนี้ไม่น่าแปลกอะไร ความลึกที่สุดของมหาสมุทรที่ได้รับการยอมรับในปัจจุบันคือหนึ่งหมื่นหนึ่งพันเมตร และอุปกรณ์ดำน้ำที่ก้าวหน้าที่สุดสามารถดำน้ำได้ลึกถึงเจ็ดพันหกร้อยเมตร ทะเลลึกเกือบสี่กิโลเมตรเป็นเขตหวงห้ามที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าไปได้
แม้ว่าสถานที่เหล่านี้จะหนาวเย็น ออกซิเจนต่ำและมืดสลัว แต่ก็ยังมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ อย่างเช่นหมึกยักษ์สามารถอยู่รอดได้ในน้ำที่ลึกขนาดนี้ได้และอาหารหมึกยักษ์ก็มีมากมาย พวกมันสามารถอยู่รอดได้ในที่แบบนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าที่แห่งนี้มีอาหารมากเพียงพอ
และยังแสดงให้เห็นว่ายังมีความลึกลับอีกมากมายที่มนุษย์ไม่สามารถอธิบายได้ในโลกใต้ทะเลลึก ถ้าฉินสือโอวสนใจก็สามารถเข้าไปดูได้
แต่ปริศนาความลึกลับที่เขายิ่งสืบหาได้มากเท่าไร ฉินสือโอวจึงยิ่งรู้สึกว่าตัวเองยิ่งไม่ปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น ธรรมชาติของมนุษย์นั้นจะแสดงออกอย่างเห็นได้ชัด ตัวเขาเองก็เป็นแบบนี้ เช่นตอนนี้เขาได้ค้นพบปลาตกเบ็ดสายพันธุ์ใหม่จึงต้องการแสดงให้โลกเห็น
แต่ถ้าผ่านมือของเขา ความลับของมหาสมุทรก็ถูกกระตุ้นมากขึ้นเรื่อยๆ และยังมีสิ่งมีชีวิตอีกชนิดหนึ่งคล้ายกับแมลงยักษ์คล้ายตะขาบปรากฏตัวออกมาซึ่งมันสามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ปัจจุบันของมนุษยชาติได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาจะดึงดูดความสนใจของผู้คนได้มากแค่ไหน?
ดังนั้นถ้าลองคิดดูให้ดีแล้ว เขาจึงควบคุมการเดินทางของเขาไว้และจัดการดูแลฟาร์มปลาของเขาให้ดีก่อน ส่วนที่เหลือค่อยว่ากันทีหลัง
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนมุดเข้าไปในกระดองของแมลงยักษ์คล้ายตะขาบ จากนั้นก็พบหมึกยักษ์ที่มีหนวดยาวกว่าหนึ่งเมตรในกลุ่มกรรมกรไร้กระดูกลอยเข้ามาและเอากระดองนี้ไปด้วย คาดว่ามันจะเข้าใกล้กับชายหาดในวันพรุ่งนี้
จากนั้นจึงเอาจิตสำนึกแห่งโพไซดอนกลับคืน ฉินสือโอวลุกขึ้นเล่นโทรศัพท์มือถือและค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับปลาตกเบ็ดในอินเทอร์เน็ต มันเป็นอย่างที่เขาว่าไว้จริงๆ ในอินเทอร์เน็ตไม่มีการบันทึกเกี่ยวกับปลาตกเบ็ดที่เขาเพิ่งเห็นเลย
วินนี่อุ้มเถียนกวาเดินเข้ามาและจัดหมอนให้ลูกสาวพิงแล้วพูดว่า “เอาล่ะๆ รีบวางโทรศัพท์ลงได้แล้ว มาเล่นเป็นเพื่อนลูกแล้วก็เล่านิทานให้เธอฟังจนหลับด้วยนะคะ”
ฉินสือโอวยิ้มและกำลังจะวางโทรศัพท์ลง ก็มีสายโทรศัพท์เข้ามา เมื่อเห็นแบบนี้เขาจึงทำท่าไม่มีทางเลือกใส่วินนี่และพูดว่า “ให้ผมทำอย่างไรได้ งานผมยุ่งมาก”
หลังจากพูดจบ เขาก็รับโทรศัพท์และถามอย่างสุภาพว่า “สวัสดีครับ นี่คือฟาร์มปลาต้าฉิน คุณคือใครครับ?”
“พระเจ้า ฉินนี่นายสุภาพขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน? ฉันเองหวงเหล่ย เพื่อนร่วมชั้นสมัยมัธยมปลาย ยังจำได้ไหม?” เสียงที่คุ้นเคยของฝั่งตรงข้ามดังขึ้น
ในใจฉินสือโอวเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็หัวเราะแล้วพูดว่า “โอ้พระเจ้า พี่เหล่ยเองหรอกเหรอ? ล้อเล่นอะไรกันเนี่ย แน่นอนฉันจำนายได้ ฉันยังคุยกับเพื่อนร่วมชั้นเก่าว่านายจะมาเมื่อไม่นานมานี้เอง มันเป็นแบบนี้นะ ฉันกำลังจะแต่งงานในเดือนกันยายนไม่ก็ตุลาคม ถ้าเตรียมงานเรียบร้อยแล้วฉันจะแจ้งให้พวกนายรู้ทีละคน อย่าลืมมางานแต่งงานของฉันนะ”
เพื่อนร่วมชั้นเก่าคนนั้นจึงหัวเราะทันที ฉินสือโอวยักไหล่ใส่วินนี่ จากนั้นก็ตั้งใจถามว่า “แล้วนายล่ะ นายไม่สะดวกหรือมีปัญหาอะไรไหม? โทรมาหาฉันมีเรื่องอะไรงั้นเหรอ?”
หวงเหล่ยยิ้มอย่างเขินอายแล้วพูดว่า “จริงๆ ก็ไม่สะดวกหรอกเพื่อน ฉันก็กำลังจะแต่งงานในเดือนตุลาคมนี้เหมือนกัน เดาว่าคงจะไปถึงไม่ทัน เดิมที่ฉันอยากจะมาเชิญนายกลับมา”
ฉินสือโอวพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเสียใจ จากนั้นเมื่อไม่มีอะไรจะพูดแล้ว อีกฝ่ายก็พูดไม่กี่ประโยคแล้วก็วางสายโทรศัพท์ไป
ห้องนอนอันเงียบสงบ จึงทำให้วินนี่ได้ยินการสนทนาระหว่างทั้งสองคน เธอมองไปที่ฉินสือโอวอย่างแปลกใจและพูดว่า “ทำไมคุณไม่ถามเขาเกี่ยวกับวันแต่งงานของเขาล่ะ? บางทีเราอาจจะคลาดกัน เขาน่าจะเร่งให้ตรงกับวันชาติของประเทศคุณนะ? ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณก็สามารถไปงานแต่งงานของเขาได้”
ฉินสือโอวถอนหายใจและพูดว่า “อะไรเนี่ย เพื่อนคนนี้ไม่ได้ติดต่อผมเลยหลังจากเรียนจบมัธยมปลาย สิบกว่าปีแล้ว บอกตามตรงผมจำไม่ได้จริงๆ ว่าจะมีคนแบบเขาโทรมา เขาโทรมาก็แค่ต้องการเงินสมทบเท่านั้น ดังนั้นผมก็เลยใช้งานแต่งงานของเราขัดเขาไปก่อน ถ้าเขามาร่วมงานแต่งงานของเรา ผมจะไปงานเขาแน่นอน อย่างน้อยก็ให้อั่งเปาชิ้นโตกับเขา”
วินนี่วิเคราะห์อย่างมีเหตุผลว่า “นี่มันไม่เหมือนกันนะ ฉิน เราอยู่ที่แคนาดา สำหรับเขาแล้ว กว่าจะมาได้แต่ละรอบมันไม่ใช่ง่ายๆ เลย เราจะบินกลับไปโดยไม่ได้อะไรเลยหรือไง”
……………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset